EP 14: จอมใจ จอมอหังการ
สายตาทั้งคมทั้งหวานฉ่ำของเขาเลื่อนต่ำมาหยุดที่เนินอกอวบอิ่มที่มันทะลักออกมาจากขอบชุดราตรีนิ่ง วูบหนึ่งเหมือนกับราฟาลกำลังพึงพอใจกับสิ่งที่ได้เห็น แต่เพียงแค่กระพริบตาครั้งเดียวไอ้ความพึงพอใจนั้นมันก็หายไปจนหมดสิ้น เสมือนมันไม่เคยเกิดขึ้นเลย
“ไปเปลี่ยนชุดซะ”
หลังจากเงียบงันอยู่นานพ่อตัวโตก็ระเบิดคำสั่งออกมาเสียงดังกึกก้อง และนั่นก็ทำให้ร่างอรชรที่สั่นเทาอยู่แล้วยิ่งสะท้านมากขึ้นอีกหลายเท่า สาวน้อยทำใจกล้าช้อนตาขึ้นมองใบหน้าหล่อลากไส้นั้น แล้วก็ได้เห็นความเถื่อนกระด้างจำนวนมหาศาลอยู่เต็มสองตาคมเลยทีเดียว
“ว่าไงนะคะ?”
“หูแตกหรือไงฉันให้เธอไปเปลี่ยนชุดไง อยากจะอวดนมให้คนทั้งโลกมันเห็นหรือไง แล้วยังจะไอ้รอยผ่าบ้าๆ นี้อีก ถ้าอยากจะใส่ชุดนี้ แก้ผ้าไปเลยไม่ดีกว่าหรือไง!”
มือใหญ่ตวัดเพียงครั้งเดียวก็สามารถรวบเอวคอดของหล่อนเอาไว้ได้ แล้วก็เพียงแค่เขาออกแรงเพียงเล็กน้อยเท่านั้นร่างของหล่อนก็เซถลาเข้ามาสู่อ้อมแขนกำยำอย่างง่ายดายไม่ต่างจากนกปีกหักเลยแม้แต่น้อย
“ปล่อยรดานะ”
สาวน้อยพยายามขัดขืนแต่มันก็ทำได้ไม่ดีเลย เพราะแค่ได้กลิ่นกายแบบบุรุษเพศแท้ๆ จากร่างของราฟาลเท่านั้น สมองของหล่อนก็หยุดทำงานในทันที หัวใจเต้นระรัวแทบจะทะลุออกมานอกอก ยิ่งแนบชิดจนหน้าอกแทบแหลกเหลวแบบนี้ ภาพจูบร้อนๆ เมื่อตอนเช้าก็ยิ่งชัดเจนขึ้นอย่างน่าละอาย
“คิดว่าฉันอยากแตะต้องขยะอย่างเธอหรือไงกัน…”
“งั้นก็ปล่อยสิคะ ปล่อยรดาเถอะ… รดาสัญญาว่าจะไม่มาให้เห็นหน้าอีก”
หญิงสาวปล่อยน้ำตาไหลพรากออกมา อาบแก้ม กระแสความเกลียดชังที่ราฟาลทุ่มใส่หน้ามันช่างสร้างรอยแผลในหัวใจสาวได้มากมายนัก หล่อนเจ็บจนแทบจะหายใจไม่ออก
“งั้นก็ไปเปลี่ยนชุดซะ”
“แต่คุณแดนให้รดาใส่ชุดนี้…”
“ฉันไม่สนหรอกนะว่าเจ้าแดนมันจะสั่งเธอว่ายังไง แต่คำสั่งของฉันศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในการ์รัสโซ่ พาราไดส์ ดังนั้นไปเปลี่ยนชุดซะ” ชายหนุ่มคลายอ้อมแขนออก ก่อนจะถอยหลังออกมาหลายก้าว
หล่อนไม่เข้าใจเลยว่าทำไมราฟาลจะต้องมาวุ่นวายกับการแต่งตัวของหล่อนด้วย ปกติเวลาของเขาจะหมดไปกับงานและก็งานจำนวนมโหฬารไม่ใช่หรือ
“ยังยืนนิ่งอยู่อีก ไปเปลี่ยนชุดซะ ก่อนที่ฉันจะเป็นคนเปลี่ยนให้เธอเอง”
เขาออกคำสั่งอีกครั้งด้วยน้ำเสียงกระด้างดุดัน และเมื่อเห็นสาวน้อยยังคงยืนสะอื้นไห้ ไม่ยอมทำตามคำสั่งของตัวเองสักที ราฟาลจึงเดินเข้ามาหาอีกครั้ง เขาย่อตัวลงแล้วจับร่างอรชรของรดารักษ์ขึ้นพาดบ่าทรงพละกำลังของตัวเองทันที จากนั้นก็ก้าวยาวๆ มุ่งหน้ากลับไปยังเรือนพักของสาวน้อย ตลอดทางหญิงสาวดิ้นรนไม่หยุด แต่ก็ไม่มีผลอะไรเลยต่อผู้ชายแข็งแรงและทรงพลังคนนี้
“ปล่อยรดานะ คุณราฟปล่อย…”
“ถ้าไม่หุบปาก ฉันจะขยี้ปากเธอเหมือนเมื่อเช้านี้…”
ได้ผลชะงักนัก เมื่อร่างอรชรหยุดเคลื่อนไหวในทันที ชายหนุ่มก้าวยาวๆ ผ่านทางเดินแคบๆ ที่ลัดไปยังเรือนของสาวใช้ด้วยความชำนาญจนรดารักษ์ยังอดแปลกใจไม่ได้ จากนั้นเขาก็มาหยุดที่หน้าห้องพักของหล่อนได้อย่างแม่นยำ ทำราวกับว่าเคยมาบ่อยครั้งยังงั้น
“คุณราฟรู้ได้ยังไงคะว่ารดาอยู่ห้องนี้…”
คนตัวโตไหวไหล่กว้างของด้วยอย่างไม่ยี่หระ “ฉันรู้จักทุกซอกทุกมุมของบ้านตัวเองดี” พูดจบพ่อเจ้าประคุณก็ใช้มือหมุนลูกบิดประตูห้อง แต่มันล็อค
“กุญแจ…”
“รดาทำหาย…”
หล่อนโกหกออกไปเพราะอยากจะรู้ว่าราฟาลจะทำยังไง หากไม่มีกุญแจห้อง แต่หล่อนประเมินอารมณ์ของเขาต่ำเกินไป เพราะทั้งๆ ที่แบกหล่อนอยู่เขาก็ยังใช้ตัวกระแทกกับบานประตูได้อย่างเหลือเชื่อ และแค่ไม่กี่ครั้งเจ้าประตูไม้ที่ว่าแข็งแรงนักก็พังพินาศไม่เหลือชิ้นดี
“โธ่…” หญิงสาวคร่ำครวญด้วยความเสียใจ
“ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวฉันให้คนเอาประตูใหม่มาซ่อมใหม่ และมั่นใจเลยว่ามันจะแข็งแรงกว่านี้อีกร้อยเท่า”
คนตัวโตแบกหล่อนข้ามธรณีประตูเข้าไปภายในห้อง เขาจับหล่อนโยนลงกับที่นอนอย่างแรง รอยผ่าที่มันสูงลิบอยู่แล้วเลิกขึ้นมาจนเห็นกางเกงในลูกไม้สีขาว หญิงสาวรีบตลบมันลง ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองคนตัวโต และก็ได้เห็นว่าเขามองอยู่ก่อนแล้ว ตอนนี้ใบหน้าของราฟาลแดงจัดแต่ไม่รู้ว่าแดงเพราะอารมณ์อะไรกันแน่
“คุณราฟกำลังทำให้คนอื่นตกใจนะคะ เขาอาจจะคิดไม่ดี…”
“เธอก็รู้ว่าไม่มีใครกล้ายุ่ง…”
พ่อเจ้าประคุณคำรามออกมาเสียงดุดัน ก่อนจะหันไปกระชากประตูตู้เสื้อผ้าของหล่อนให้เปิดออก ไม้ประตูแทบพังกับความรุนแรงของราฟาล เขาแหวกเสื้อผ้าจำนวนไม่กี่ชุดของหล่อนไปมาสองสามครั้งก็ดึงเสื้อผ้าชุดหนึ่งออกมา จากนั้นก็โยนใส่หน้าหล่อน
“ใส่ซะ”
รดารักษ์เห็นชุดที่ราฟาลหยิบออกมาจากตู้แล้วก็อดคัดค้านไม่ได้ นี่หล่อนไปงานบอลล์นะไม่ใช่ไปนั่งฟังธรรมะ ชุดยังกับแม่ชีปิดตั้งแต่ลำคอจรดข้อเท้า
“แต่คุณแดนคงไม่พอใจกับชุดนี้…”
“ก็ช่างหัวมันสิ! อย่าทำให้ฉันต้องลงมือเปลี่ยนให้เธอเองเชียวนะ”
เขาขู่ แต่หล่อนไม่ได้หวาดกลัวหรอก เพราะคิดว่าราฟาลคงไม่กล้าทำจริงๆ แต่หล่อนประเมินพ่อเสือร้ายราฟาลผิดซ้ำอีกครั้งหนึ่งแล้ว เพราะเพียงไม่กี่อึดใจชุดราตรีสวยราคาแพงระยับก็ฉีกขาดคามือของเขานั่นเอง พร้อมๆ กับความเปลือยเปล่าของกายสาวของหล่อน
“ว๊าย! อย่านะคุณราฟ”
“ถ้ายังดิ้นไม่เลิก บางทีฉันอาจจะทำมากกว่าเปลี่ยนเสื้อผ้าก็ได้…”
คำเตือนแสนดุดันของเขาสร้างทั้งความหวาดกลัวและความตื่นเร้าในกายสาวให้พุ่งพล่านขึ้นได้อย่างน่าอัศจรรย์ ช่องท้องบีบเกร็งราวกับถูกขยุ้มด้วยอุ้งมือมัจจุราชตัวร้าย ขณะที่ปทุมถันอวบสล้างเบ่งบานขึ้นอย่างน่าประหลาดใจ นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของหล่อนกัน ทำไมร้อนวูบร้อนวาบไปทั้งเนื้อทั้งตัวแบบนี้
“ยืนเฉยๆ อย่าขยับ…”
น้ำเสียงของคนตัวโตอ่อนลงอย่างประหลาดใจเมื่อเขากระชากให้หล่อนลุกขึ้นยืนโชว์กายสาวเกือบเปลือยต่อหน้าเขา รดารักษ์อายแทบมุดดินหนี อายจนเนื้อตัวแดงก่ำ แต่ก็ไม่สามารถช่วยตัวเองได้ ร่างกายยิ่งกว่าเป็นอัมพาตเสียอีก มันขยับไม่ได้ แม้แต่จะหายใจยังทำได้ลำบากนัก ยิ่งตอนที่เห็นสายตาคมกริบแต่หวานหยดย้อยของราฟาลกวาดมองกายสาวทุกซอกทุกมุมด้วยแล้ว สาวน้อยก็แทบจะขาดใจตายเพราะความอึดอัดในช่องท้อง
“เอ่อ… รดาใส่เองได้…”
สาวน้อยพยายามอ้อนวอนอีกครั้งเมื่อพ่อตัวโตกำลังติดกระดุมเสื้อตัวสวยที่มันมีกระดุมเป็นสิบเม็ดเรียงตับกันอยู่ด้านหน้า นิ้วแกร่งเฉียดปลายถันอ่อนไหวครั้งแล้วครั้งเล่า ความเสียวสยิวแผ่ซ่านไปทั่วทั้งร่าง และมันก็หญิงสาวหลุดเสียงครวญครางออกมาจนได้
ราฟาลหรี่ตาจ้องใบหน้างามที่แดงก่ำนิ่ง รอยยิ้มบางอย่างที่ไม่ใช่หยันเยาะแต้มมุมปาก “ครางทำไม…”
คำถามตรงประเด็นสุดๆ ของราฟาลทำเอารดารักษ์ยิ่งหน้าร้อนผ่าวยังกับถูกน้ำเดือดสาดใส่ พยายามก้มหน้าหลบ แต่พ่อตัวดีก็ใช้นิ้วแกร่งตรึงปลายคางของหล่อนเอาไว้ บังคับให้เงยขึ้นประสานสายตากับดวงตาคมกริบดุจเสือร้ายของเขาจนได้
“กำลังอยากให้ฉันทำอะไรสักอย่างกับร่างกายของเธอใช่ไหมล่ะ…” ดวงตาของเขาเปรียบเสมือนดวงไฟดวงใหญ่ที่กำลังแผดเผากายสาวของหล่อนอย่างอำมหิต คลื่นความปรารถนาจำนวนมหาศาลกำลังเดือดพล่านอยู่ในช่องท้องอย่างบ้าคลั่ง
“รดาไม่ได้…” ปากสั่น คอสั่น กายสาวก็สั่นระริก เขาคงจะรู้สึกได้เลยหัวเราะลั่นออกมา
“เวลาผู้หญิงหิวน่ะ ดูง่ายจะตายไป…”