จอมใจ จอมอหังการ ชุด เทพบุตรการ์รัสโซ่ – ตอนที่ 34

EP 34: จอมใจ จอมอหังการ

เมื่อมองไม่เห็นหนทางรอด รดารักษ์จึงเลือกที่จะร้องขอความช่วยเหลือ แต่ก็ถูกผู้ชายหยาบคายตรงหน้ายกมือขึ้นปิดปากเอาไว้ซะก่อน รอยยิ้มของเขาช่างน่าชิงชังยิ่งนัก

“ร้องจนคอแตกตายก็ไม่มีใครได้ยินหรอก ก็รู้นี่ว่าที่ตรงนี้มันเปลี่ยวแค่ไหน…”

รดารักษ์หน้าซีดเผือด ใช่ ตรงนี้มันเปลี่ยวมาก ทั้งเปลี่ยวทั้งสงบ นานๆ จะมีคนเดินผ่านมาสักครั้ง แถมตอนนี้ยังเป็นเวลาทานมื้อค่ำอีก ทุกคนคงกำลังสนุกสนานกันอยู่ภายในห้องรับรอง ไม่เว้นแม้กระทั่งราฟาล นี่เขาจะรู้ไหมว่าตอนนี้หล่อนกำลังต้องการความช่วยเหลือมากแค่ไหน

“แต่บังเอิญกูได้ยินว่ะ!”

เสียงคุ้นหูดังขึ้นไม่ไกลจากจุดที่หล่อนถูกพันธนาการนัก รดารักษ์แทบอยากจะร้องไห้ออกมาให้สมกับความดีใจเมื่อเห็นราฟาลยืนอยู่ตรงหน้า แม้ว่าตอนนี้กระแสความเกรี้ยวกราด อำมหิตจะโอบล้อมรอบกายใหญ่โตของเขาเอาไว้อย่างมหาศาลก็ตาม

“คุณราฟ…”

“มึงเป็นใครวะ!”

ราฟาลแสยะยิ้มเลือดเย็นขณะเดินใกล้ และไม่กี่วินาทีร่างของหล่อนก็ถูกเขากระชากออกมาจากพันธนาการของไอ้ผู้ชายเถื่อนถ่อยคนนั้น เขาดันร่างของหล่อนให้ไปยืนอยู่ด้านหลัง ขณะที่ตัวเองยืนประจันหน้ากับผู้ชายที่ไซส์ใกล้เคียงกันอย่างไม่เกรงกลัว

“คุณราฟระวังนะคะ”

“หุบปากซะ เดี๋ยวเธอจะเป็นรายต่อไป”

หนุ่มหล่อเจ้าของเรือสำราญเค้นเสียงลอดไรฟันใส่หน้าหล่อน ก่อนจะหันไปกระแทกหมัดหนักๆ ใส่หน้าของผู้ชายนิรนามที่ลวนลามหล่อนติดต่อกันหลายต่อหลายครั้งจนผู้ชายคนนั้นร่วงลงไปกองกับพื้น ทั้งๆ ที่ยังไม่มีโอกาสแม้แต่จะกำหมัดต่อสู้เลยแม้แต่นิดเดียว

“คุณราฟพอเถอะค่ะ เดี๋ยวเขาจะตาย…”

รดารักษ์รั้งท่อนแขนกำยำเอาไว้ แต่ก็ถูกคนตัวโตหันมาเอ็ดตะโรใส่เสียงดังลั่น ใบหน้าหล่อเหลาเต็มไปด้วยความเกรี้ยวกราดที่ไม่ยอมลดระดับลงเลย

“ห่วงมันนักหรือไงแม่คุณ!?”

“เอ่อ… ไม่ใช่นะคะ แต่รดากลัวคุณราฟจะติดคุก…” หญิงสาวปฏิเสธเสียงอ่อย

ราฟาลแค่นยิ้มหยัน “จะให้ฉันคิดว่าเธอห่วงฉันอย่างนั้นหรือ?”

หญิงสาวอยากจะตอบว่าใช่นัก แต่พอกำลังจะอ้าปากไอ้ภาพที่เห็นเขาปล่อยให้ผู้หญิงคนอื่นนั่งตักก็ผุดขึ้นมาในสมอง และมันก็มีผลทำให้ความน้อยใจทะลักขึ้นมาท่วมท้นหัวอก สาวน้อยกัดปากที่สั่นระริกเอาไว้แน่น ขณะเชิดหน้าขึ้นสูงแสดงความอวดดีออกไป

“รดาไม่ได้ห่วงคุณราฟ… ไม่เคยคิดจะห่วง…”

เห็นได้ชัดว่าเขานิ่งงันไปกับคำตอบของหล่อน ราฟาลขบกรามจนขึ้นสัน ดวงตาก้าวร้าวแสนกระด้างขณะจ้องมองดวงหน้าสวยหวานของรดารักษ์ด้วยความชิงชัง

“ดีแล้วล่ะ เพราะฉันไม่เคยต้องการความห่วงใยของใครเหมือนกัน”

คนตัวโตผลักหล่อนออกจากตัวเต็มแรงจนร่างของหล่อนแทบจะกระเด็นลงไปกองกับพื้น ดวงตาสีดำสนิทที่จ้องมองมนั้นลุกโชนไปด้วยเปลวไฟกองมหึมา

“โดยเฉพาะนางบำเรอไร้ค่าแบบเธอ รดารักษ์” แล้วเขาก็หันกลับไปหาผู้ชายที่กำลังนอนร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวดอยู่กับพื้นอีกครั้ง ชายหนุ่มยกเท้าขึ้นเหยียบยอดอกของผู้ชายคนนั้น จากนั้นก็ออกแรงขยี้หนักหน่วง จนคู่ต่อสู้ร้องอ้อนวอนออกมา

“อย่าทำผมเลยครับ… ผมกลัวแล้ว…”

“จำเอาไว้ให้ขึ้นใจนะไอ้หน้าอ่อน… ผู้หญิงคนนี้มีเจ้าของแล้ว และก็มีแค่กูเท่านั้นที่มีสิทธิ์กอดเธอ ดังนั้นหากไม่อยากตายก่อนอายุเหยียบเลขสาม รีบหาทางลงจากเรือซะ”

“ผมขอโทษครับ ผมไม่รู้ว่าเธอเป็นผู้หญิงของคุณ… ผมผิดไปแล้ว ผมสัญญาว่าเมื่อเรือจอดเทียบท่าเมื่อไหร่ผมจะรีบไปทันทีครับ จะไม่อยู่ให้รกหูรกตาคุณอีก ผมสัญญา… ไว้ชีวิตผมเถอะนะครับ…” ผู้ชายคนนั้นพยายามยกมือไหว้ พยายามอ้อนวอนจนหญิงสาวอดสงสารไม่ได้

“คุณราฟคะ ปล่อยเขาไปเถอะค่ะ เขาคงเมาถึงได้ทำแบบนี้ และอีกอย่างรดาก็ไม่ได้เป็นอะไร…”

ชายหนุ่มตวัดตาหันกลับมามองหล่อนด้วยสายตากระด้างดุดัน “บอกให้หุบปากให้สนิทไง”

“แต่ว่า…”

“ถ้าเธอไม่หุบปาก ฉันจะฆ่ามันเสียตรงนี้แหละ”

ตอนนี้ราฟาลกำลังเกรี้ยวกราดสุดๆ ดังนั้นหล่อนจึงควรที่จะเงียบ ควรที่จะเฉยเอาไว้ให้มากที่สุด เพื่อทำให้สถานการณ์ตรงหน้ามันดีขึ้น แม้ใจจริงแล้วจะไม่ทราบเหตุผลเลยสักนิดว่าทำไมราฟาลจะต้องโมโหโทโสมากมายแบบนี้ด้วย ทำไมเขาถึงได้โกรธจนหน้าดำหน้าแดง กับอีแค่นางบำเรออย่างหล่อนถูกผู้ชายอื่นลวนลาม

“ค่ะ รดาจะไม่พูดอีก…”

“นั่นแหละคือสิ่งที่เธอควรจะทำมาตั้งนานแล้ว”

เขาเค้นเสียงใส่หล่อนอย่างดุเดือด ก่อนจะหันไปก้มลงกระชากคอเสื้อของผู้ชายนิรนามให้ลุกขึ้นมาเผชิญหน้าอีกครั้ง หล่อนเห็นเขาก้มหน้าลงไปหา และคำรามใส่ด้วยน้ำเสียงไม่ผิดจากเพชฌฆาตจากแดนประหารแม้แต่นิดเดียว

“อย่ามาให้กูเห็นหน้ามึงอีก… จำเอาไว้”

และพอสิ้นสุดประโยคของราฟาล ร่างของผู้ชายคนนั้นก็กระเด็นลงไปกระแทกพื้นอีกครั้ง ราวนี้รุนแรงมากกว่าเดิมหลายเท่า เสียงร้องครวญครางน่าสงสารหลุดออกมาจากปากของชายนิรนาม แต่รดารักษ์ยังไม่ทันได้แสดงความสงสารอะไรออกไป ข้อมือของหล่อนก็ถูกฝ่ามือแข็งแกร่งประดุจคีมเหล็กของราฟาลบีบรัดเอาไว้ซะก่อน

“รดาเจ็บ…”

สาวน้อยหน้าเย้ด้วยความเจ็บพยายามขอความเมตตาจากมัจจุราชผู้หล่อเลิศ แต่ดูเหมือนว่าเขาจะให้หล่อนไม่ได้เลยแม้แต่เศษเสี้ยวเดียว

“เดี๋ยวฉันจะทำให้เธอเจ็บยิ่งกว่านี้อีก รดารักษ์”

ราฟาลขู่เสียงกร้าว ขณะลากร่างอรชรของหล่อนให้เดินตามไปยังทางส่วนตัวของแขกวีไอพีที่มีลิฟต์แก้วจอดรออยู่อย่างรวดเร็ว

“โทษฐานที่บังอาจให้ผู้ชายคนอื่นมาแตะเนื้อต้องตัว”

เขายังขู่ไม่หยุด แม้ว่าตอนนี้จะเข้ามาอยู่ในลิฟต์แก้วกันตามลำพังสองคนแล้วก็ตาม หญิงสาวพยายามดิ้นรน แต่ก็ไม่สามารถสู้แรงช้างสารของราฟาลได้ แถมดิ้นมากๆ เขาก็ยิ่งเพิ่มแรงกดที่ข้อมือของหล่อนให้มากขึ้นไปอีกหลายเท่าจนกระดูกบริเวณแทบจะแตกละเอียด

“แต่มันเป็นเรื่องที่รดาควบคุมไม่ได้นี่คะ คุณราฟอย่ามาพาลแบบนี้นะ…”

“ฉันนี่เหรอพาล…” เขาจับหน้าหล่อนให้มาประสานสายตากัน จ้องมองด้วยสายตาที่เดือดพล่านด้วยไฟโทสะร้อนแรง

“ใช่ค่ะ คุณราฟกำลังพาล… รดาไม่เข้าใจว่าทำไมคุณราฟจะต้องแสดงท่าทางแบบนี้ด้วย รดาก็แค่อีตัว ก็แค่นางบำเรอ หรืออาจจะเป็นแค่ของเล่นชั่วคราวของคุณราฟเท่านั้นเอง หรือว่าคุณราฟยังใช้รดาไม่เบื่อใช่ไหมคะถึงได้แสดงท่าทางแบบนี้ออกมา”

เขาเงียบไปชั่วอึดใจก่อนจะตอบออกมาด้วยน้ำเสียงเหยียดหยัน “เพราะฉันเป็นคนหวงของต่างหากล่ะ ในเมื่อฉันยังไม่เบื่อ ฉันยังไม่เขี่ยเธอทิ้ง ใครก็มาแตะต้องไม่ได้ หรือแค่มอง… ฉันก็จะพร้อมที่จะจัดการควักลูกตาของพวกมัน”

“คุณราฟไม่มีเหตุผล… คุณราฟเผด็จการณ์…”

ราฟาลหัวเราะกระด้าง “เคยบอกแล้วไงว่าฉันไม่ใช่เจ้าชาย แต่ฉันคือจอมมาร ดังนั้นอย่าหวังว่าจะได้รับความปรานีจากผู้ชายที่ชื่อราฟาล การ์รัสโซ่ เพราะมันไม่มีทางเป็นไปได้”

ถึงเขาไม่บอกหล่อนก็รู้อยู่เต็มอกแล้วล่ะน่าว่าผู้ชายเหี้ยมโหดคนนี้ไม่มีทางปรานีใครหน้าไหนทั้งนั้น โดยเฉพาะผู้หญิงที่ไร้ค่าไร้ราคาในสายตาของเขาแบบหล่อน น้ำตาเริ่มจะไหลออกมาอีกครั้ง ดีที่รดารักษ์สามารถกระพริบผลักดันให้มันไหลกลับเข้าไปในอกได้ทันเวลา

“รดาไม่เคยหวังอยู่แล้วค่ะ…”

หญิงสาวตอบเสียงแผ่วเบา ขณะพยายามขืนตัวไม่ให้เดินตามชายหนุ่มออกจากลิฟต์ แต่แรงหญิงหรือจะสู้แรงชายร่างยักษ์อย่างราฟาล เพราะในที่สุดหล่อนก็ถูกเขาจับเหวี่ยงมานอนแอ่งแม่งอยู่บนเตียงนอนจนได้ สาวน้อยลนลานผุดลุกขึ้นนั่งอย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นคนตัวโตเริ่มต้นกระชากเสื้อเชิ้ตที่สวมใส่อยู่ออกจากกายใหญ่โต

“คุณราฟจะทำอะไร อย่านะคะ…”

เขาไม่ฟังหล่อนแม้แต่นิดเดียว เพราะพอเสื้อเชิ้ตสีน้ำตาลไหม้ร่วงหล่นลงไปกองกับพื้นเปิดเปลือยหน้าอกกว้างแน่นหนั่นอุดมไปด้วยซิกแพคแล้ว มือใหญ่ก็เลื่อนต่ำลงไปจัดการปลดตะขอกางเกง รูดซิป และปลดปล่อยความอลังการที่ตื่นตัวสุดขีดตามออกมาติดๆ

รดารักษ์อ้าปากค้าง จ้องท่อนเนื้ออวบใหญ่ที่ตอนนี้แข็งชันด้วยความตื่นตะลึง หล่อนเคยเห็นมันมาแล้ว แต่ครั้งนี้ดูมันจะอันตรายว่าทุกครั้งที่เคยได้มอง

“ฉันจะทำให้เธอไม่เหลือแรงออกไปเดินอวดโฉมโชว์ผู้ชายคนไหนอีก…”

เขาเดินเข้ามาใกล้ ใกล้จนหล่อนแทบจะขาดใจตายกับกลิ่นชายชาตรีที่ตลบอบอวลอยู่ภายในจมูก ร่างกายเปลือยเปล่าของราฟาลนั้นงดงามยิ่งกว่ารูปปั้นของเทพบุตรนักรบเสียอีก และมันก็มีผลทำให้น้ำลายในลำคอแห้งผาก ช่องท้องร้อนผ่าวอึดอัดจนน่าตื่นตกใจ

“เธอจะต้องนอนหมดแรงอยู่บนเตียงนี่แหละ อยู่ใต้ร่างของฉัน… หรืออาจจะบนร่างของฉัน…”

“ไม่นะ… อย่าทำกับรดาแบบนี้… รดาไม่ผิด”

“ไม่ผิดหรือ?”

จอมใจ จอมอหังการ ชุด เทพบุตรการ์รัสโซ่

จอมใจ จอมอหังการ ชุด เทพบุตรการ์รัสโซ่

Status: Ongoing
อ่านนิยาย จอมใจ จอมอหังการ ชุด เทพบุตรการ์รัสโซ่กัน ในเมื่อทุกอย่างมันจบลงไปแล้ว จบลงไปพร้อมๆ กับความใจร้ายของเขานั่นแหละ หญิงสาวหันขวับไปมองคนตัวโตที่มองยังไง๊ยังไงก็ยังหล่อระเบิด หล่อไม่บันยะบันยังไม่เปลี่ยนแปลงตาขุ่น แม้หัวใจจะเต้นแรงยิ่งกว่ากลองที่ถูกกระหน่ำตีเป็นจังหวะแซมบ้าซะอีก แต่หล่อนก็พยายามสะกดกลั้นความอ่อนแอที่เต็มไปด้วยความโหยหานั้นเอาไว้สุดความสามารถ “คุณราฟใช้วิธีสกปรก…!” ราฟาลแสยะยิ้มหยัน ขณะเดินเข้ามาหยุดตรงหน้าสาวน้อยที่ตัวเองโหยหามาตลอดหนึ่งเดือนเต็มๆ ผู้หญิงที่ฝังอยู่ในทุกลมหายใจของเขา “ป้ามูนาออกไปข้างนอกก่อน เอ่อ ไม่สิ ขึ้นรถไปสนามบินได้เลย ตั๋วเครื่องบินอยู่ที่คนขับรถ…” “คุณราฟหมายความว่ายังไงคะ” ป้ามูนาลุกขึ้นยืน ใบหน้าที่เหี่ยวย่นตามกาลเวลาเต็มไปด้วยความเคลือบแคลงไม่เข้าใจ “ผมไม่ไล่ป้าออกแล้วไง กลับไปทำงานที่การ์รัสโซ่ พาราไดส์ได้เหมือนเดิม แล้วผมจะขึ้นเงินเดือนให้ป้าอีกสามสิบเปอร์เซ็นต์ กลับไปได้แล้วครับ…” สิ่งที่ราฟาลพูดออกมาทำให้ป้ามูนาเบิกตาโตด้วยความตกใจระคนเหลือเชื่อ หญิงสูงวัยหันไปมองหลานสาวที่ยืนหน้าบูดบึ้งอยู่ข้างๆ นิดหนึ่งคล้ายกับขอคำแนะนำ “รดา…ป้า… ควรทำยังไงดี” “ป้ากลับไปทำงานที่การ์รัสโซ่ พาราไดส์เถอะค่ะ ไม่ต้องห่วงรดา…”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset