คางเหวินซิงรออยู่สามวินาที แต่ละวินาทีช่างยาวนานเหลือกำลัง รออยู่นานฝ่ามือของศิษย์พี่เกิ่งก็ยังไม่ลงมาเสียทีคางเหวินซิงจึงกล้าลืมตาขึ้น เอียงคอหันไปเห็นฝ่ามือของศิษย์พี่เกิ่งห่างใบหน้าตัวเองเพียงคืบ หัวใจของคางเหวินซิงแทบจะทะลักออกมา
เมื่อเห็นข้อมือของศิษย์พี่เกิ่งโดนหลี่โม่คว้าเอาไว้ คางเหวินซิงจึงรู้สึกว่าตัวเองได้มีการคะเนในใจ
คางเหวินซิงที่สงบใจลงมาลุกลี้ลุกลนไปหาหลี่โม่ ตะโกนออกมาอย่างขอบพระคุณ“ท่านอาจารย์!”
“อย่าร้องไห้ออกมาให้ขายหน้านะเอ็ง ทำให้ข้าขายหน้าหมด”
หลี่โม่ยิ้มพลางพูด
คางเหวินซิงออกแรงเช็ดน้ำตา ไม่ปล่อยให้ตนร้องไห้ออกมา
ศิษย์พี่เกิ่งจ้องมองหลี่โม่อย่างโกรธเคือง ออกแรงง้างข้อมือตนเองกลับมา แต่ไม่ว่าศิษย์พี่เกิ่งจะออกแรงอย่างไร มือของหลี่โม่ก็มีแรงราวกับเสือตัวหนึ่งไม่ปาน คว้าข้อมือศิษย์พี่เกิ่งไว้อย่างแรง ทำให้ศิษย์พี่เกิ่งไม่มีแรงดิ้นหลุด
“ปล่อยมือนะ!”
ศิษย์พี่เกิ่งคำรามเดือดดาล
“คุณบอกปล่อยก็ปล่อยงั้นหรือ เรื่องที่จะลงมือกับลูกศิษย์ผมเมื่อกี้ จะต้องคุยกันหน่อยมั้ย”
หลี่โม่พูดเสียงเย็น
คางเหวินซิงให้ราคาต้นทุนคฤหาสน์หลังงามขนาดนี้ หลี่โม่รู้สึกติดค้างในน้ำใจ อย่างไรก็ต้องช่วยออกหน้าให้คางเหวินซิง
“พับผ่าสิ!จะบ้าไปแล้วหรือไง กล้ามาต่อรองแบบนี้!กูเป็นอาของคางเหวินซิง!จะวานเพื่อนให้อบรมคางเหวินซิงหน่อยเป็นไรไป แล้วมึงอ่ะเป็นใคร แล้วมาเห่าหอน!”
คางหย่งเฉียนแหกปากโวยวาย ราวกับหมาบ้าตัวหนึ่งก็ไม่ปาน
หลี่โม่คิ้วกระตุก มือซ้ายไวปานสายฟ้า มือหนึ่งโต้กลับไป ตบฉาดเข้าให้ลงบนหน้าคางหย่งเฉียน
ฉับพลันคางหย่งเฉียนแทบกระเด็น ปากร้องโอดครวญ
“อ๊าก!”
โครม!
คางหย่งเฉียนคลุกคลานอยู่บนพื้น รู้สึกว่าเห็นดาวตรงหน้า ให้หัวส่งเสียงร้องหึ่งๆ ราวกับหัวจะระเบิดออกเป็นเสี่ยงๆ
“พยุง พยุงหน่อย”
คางเหวินซิงพูดอย่างลำบาก
พวกศิษย์พี่เกิ่งกำลังตะลึง มือที่ไวปานสายฟ้าของหลี่โม่ ทำให้พวกเขาตกตะลึง
ความเร็วขนาดนั้น แรงแกร่งขนาดนั้น คนธรรมดาทำไม่ได้หรอก
แววตาของศิษย์พี่เกิ่งทอดออกจากคางหย่งเฉียน สุดท้ายตกอยู่ที่ข้อมือของหลี่โม่
ฉับพลันศิษย์พี่เกิ่งรู้สึกตัวเย็นวาบ สงสัยว่าตัวเองจะตกที่นั่งเดียวแบบคางหย่งเฉียนหรือไม่
ไม่ได้!แบบนั้นมันขายหน้าไป จะต้องลงมือก่อน!
ศิษย์พี่เกิ่งตัดสินใจฉับพลัน ยกขาขวาขึ้นทันที ถีบไปที่ท้องน้อยหลี่โม่ คิดว่าแล้วค่อยคุยกับหลี่โม่ใหม่
หลี่โม่ยิ้มบาง ส่ายหน้าเล็กน้อย“แก ไม่ไหวหรอก”
ปากว่าไปงั้น หลี่โม่คลายมือออกจากศิษย์พี่เกิ่ง จากนั้นก็จับไปที่ท่อนแขนบีบให้หนัก แล้วใช้มือชกไปที่ขาขวาที่ยกขึ้นของศิษย์พี่เกิ่ง
แกร๊ก!
เสียงเข่าแตกดังก้อง จากนั้นก็เห็นขาขวาของศิษย์พี่เกิ่งหักเป็นรูปตัวV ดูแล้วแปลกพิกล
“อ๊าก!ขากู ขากูหัก!”
ศิษย์พี่เกิ่งส่งเสียงโหยหวน รู้สึกเหมือนขาพับเข้าไป ร่างกายโซซัดโซเซเสียหลัก คนทั้งคนล้มลง
กร๊อบ
ศิษย์พี่เกิ่งหงายหลัง ปากร้องโหยหวน
คางหย่งเฉียนฟังเสียงศิษย์พี่เกิ่งจนตัวสั่นเทา ทำให้เสียงหึ่งๆในหูก้องกังวานชัดขึ้น
ศิษย์พี่เกิ่งผู้ที่กุมใบหน้าที่บวมแดง น้ำตาคางหย่งเฉียนแทบเล็ด
ศิษย์พี่เกิ่งผู้ที่คางหย่งเฉียนคิดว่าไม่มีอะไรจะทำร้ายได้ ตอนนี้ราวกับสัตว์ร้ายบาดเจ็บที่ครวญคราง เมื่อเห็นขาขวาที่บิดเบี้ยวของศิษย์พี่เกิ่ง คางหย่งเฉียนสะท้านไปทั้งตัว
นี่เป็นเรื่องที่คนทำได้ด้วยหรือวะเนี่ย หมัดสามารถทำได้ขนาดนี้เชียวหรือ คิดว่าน่าจะมีแต่เซ็นเซย่าในตำนานเท่านั้นแหละที่ทำได้!
ลูกศิษย์สองสามคนของศิษย์พี่เกิ่งก็ตกใจจากหลี่โม่ คนกลุ่มนั้นไม่กล้าลองดี จึงได้แต่ลากศิษย์พี่เกิ่งที่อยู่บนพื้นไป โดยไม่กล้าต่อปากอะไรสักคำ
คนที่เก่งที่สุดในนี้คือศิษย์พี่เกิ่ง ศิษย์พี่เกิ่งยังโดนหลี่โม่อัดซะน่วมขนาดนี้ คนอื่นก็ไม่ต้องไปเผชิญหน้าหลี่โม่หรอก
“อย่าไปสิ รอก่อน พากูไปด้วย!”
คางหย่งเฉียนกุลีกุจอคลานขึ้นมาจากพื้น กระเสือกกระสนเข้าหาพวก
“ฮ่าๆๆ”
คางเหวินซิงหัวเราะเสียงดัง รู้สึกปลอดโปร่ง“อาจารย์เท่ห์ระเบิดไปเลย ต้องจัดการกับคุณอาแบบนี้แหละครับ บ้านเรามีคนเก่งแบบอาจารย์ก็ดีสิ”
“เหอะๆ มาว่ากันด้วยเรื่องการงานเถอะ ผู้จัดการหวัง เรามาเซ็นสัญญากัน”
หลี่โม่พูดพลางยิ้ม
ผู้จัดการหวังจึงได้สติคืน พูดด้วยใจหวั่นเกรง“ครับๆ เชิญคุณหลี่ เราไปเซ็นสัญญากัน”
ฉากเมื่อครู่ทำให้ผู้จัดการหวังตกใจไม่น้อย ตอนนี้ผู้จัดการหวังถึงได้รู้ฤทธิ์หลี่โม่ ถึงได้เข้าใจว่าทำไมสาวสวยถึงล้อมรอบตัวหลี่โม่ แล้วทำให้คุณชายคางคุยได้ง่ายขึ้น คนเขาแน่จริงๆ!
หลี่โม่เดินตามผู้จัดการหวังไปที่แผนกการขาย ถือตราประทับสัญญา หยิบบัตรออกมาจ่ายเงิน สองล้านสองแสนเจ็ดจ่ายทีเดียวจบ
กู้หยุนหลันมองดูบัตรธนาคารของหลี่โม่ เธอทำแก้มป่อง เตรียมกลับไปคุยดีๆกับหลี่โม่
หลี่โม่ส่งสัญญาที่เซ็นเสร็จให้กู้หยุนหลัน มองกู้หยุนหลันด้วยแววตานุ่มนวล
“เมียจ๋า ต่อไปก็มีบ้านใหญ่แล้ว ให้เฉินเสี่ยงถงพักห้องแขกก็ได้ พวกเราก็จะได้นอนสบายๆกันเสียที”
หลี่โม่กระซิบข้างหูกู้หยุนหลัน
กู้หยุนหลันหน้าแดงก่ำ ทุบหลี่โม่เบาๆสองที“อย่าพูดมั่ว คนเยอะแยะ”
“กระซิบเมียตัวเองไม่ผิดกฎหมายสักหน่อย”
หลี่โม่บ่นคำหนึ่ง
กู้หยุนหลันกรอกตาขาวให้หลี่โม่ บีบแก้มหลี่โม่เบาๆ“เด็กดี เชื่อฟังนะ กลับไปให้กินลูกอม”
เมื่อเห็นความหวานของกู้หยุนหลันกับหลี่โม่ เฉินเสี่ยงถงรู้สึกตัวเองช่างเป็นก้างขวางคอ ความกระอักกระอ่วนทะลักออกมาล้นใจ
คางเหวินซิงพูดออกมาอย่างเซ่อๆ“อาจารย์ครับ ตอนย้ายบ้านบอกนะครับ ผมจะจัดคนไปช่วย สะดวกแน่นอน”
“ได้สิ ย้ายบ้านบอกแน่นอน พวกเรากลับกัน”
หลี่โม่จูงมือกู้หยุนหลันเดินออกไป เฉินเสี่ยวถงจือปาก ค่อยๆเดินตามสองคน
หลังจากที่คางเหวินซิงกำชับผู้จัดการหวัง จึงรีบสาวเท้าเข้าไป
ขับรถกลับเข้าเมือง กู้หยุนหลันดึงแขนหลี่โม่ไปมาพลางพูด“เรื่องที่เราซื้อบ้าน จะบอกพ่อแม่ยังไงดี ฉันกลัวว่าพวกท่านรับไม่ได้”
“มีอะไรที่รับไม่ได้เล่า ผมบอกพวกท่านเอง พอดูบ้านแล้ว พวกท่านต้องประหลาดใจ ”หลี่โม่หัวเราะเหอะๆ