จักรพรรดิเซียนหวนคืน (仙帝归来) – ตอนที่ 324 เสแสร้งแกล้งตบตา

บทที่ 324 เสแสร้งแกล้งตบตา

เมื่อได้ยินดังนั้น ถางโร้วก็รีบเดินมายืนดูข้างจิ่วโยว สีหน้าของเธอเปลี่ยนไป หญิงสาวเคยเป็นดารามาก่อนย่อมรู้ดีอยู่แล้วว่ามันคืออะไร

ถางโร้วเข้าใจในทันทีว่าพวกตนถูกถ้ำมองเข้าให้แล้ว

“นี่มันคือกล้องแอบถ่าย” ถางโร้วพูดด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล

จิ่วโยวมีสีหน้าเย็นชา พูดด้วยน้ำเสียงฉุนเฉียว “เราไปจัดการพวกมันกันเลยดีกว่า ฉันอยากเด็ดหัวคนอยู่พอดี”

“ดูเหมือนพวกเธอจะเจอกล้องแล้วครับ” ชายคนหนึ่งในห้องควบคุมกล้องวงจรปิดเอ่ย

สีหน้าของเฟิงเหิงแปรเปลี่ยนไป พูดว่า “รมยาสลบเดี๋ยวนี้”

ลูกน้องอีกคนหนึ่งรีบกดปุ่มสีแดงทันที

ฟึบ!

ถางโร้วและจิ่วโยวเดินมาไม่ถึงประตูด้วยซ้ำ ภายในห้องน้ำก็คละคลุ้งไปด้วยกลุ่มควันสีชมพู

หญิงสาวทั้งสองคนไม่ทันตั้งตัว รู้ตัวอีกทีก็สูดหายใจเข้าไปแล้ว พวกเธอล้มลงคุกเข่ากับพื้นห้องด้วยความอ่อนแรง

ภายในห้องควบคุม เฟิงเหิงเห็นภาพนี้เข้าก็หัวเราะด้วยความชอบใจ

“พวกนายสองคนพาเธอไปส่งให้นายน้อยเดี๋ยวนี้ ระวังด้วยนะ อย่าให้พวกเธอมีตำหนิเด็ดขาด”

“รับทราบครับ!”

ชายทั้งสองคนลุกขึ้นและเดินออกไปทำตามคำสั่ง

เมื่อจิ่วโยวฟื้นขึ้นมา เธอก็พบว่าตนเองนอนอยู่บนเตียงอ่อนนุ่มขนาดใหญ่ภายในห้องพักที่หรูหราห้องหนึ่ง

“นี่มัน…” หญิงสาวพยายามลุกขึ้นนั่ง แต่พบว่าแขนขาไม่มีแรงเลยแม้แต่นิดเดียว

“ถางโร้ว ถางโร้ว…” จิ่วโยวเรียกหาอยู่หลายครั้ง แต่ก็ไม่ได้ยินเสียงตอบรับ ถางโร้วไม่ได้อยู่ในห้องนี้

จิ่วโยวเริ่มเป็นกังวลขึ้นมาแล้ว เธอมีร่างกายเป็นปีศาจ ไม่ว่าเกิดอะไรขึ้นร่างกายก็รับไหว ถ้าเธออยู่ด้วยก็จะสามารถคุ้มครองถางโร้วได้อย่างไม่มีปัญหา แต่ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับถางโร้ว ฉู่ชวิ๋นคงเป็นบ้าไปแน่ ๆ

ในห้องนอนอีกห้องหนึ่ง ถางโร้วตื่นขึ้นมาแล้ว เธอพบว่าตนเองไร้เรี่ยวแรง จิ่วโยวไม่อยู่ข้างกาย หญิงสาวเริ่มตื่นกลัวขึ้นมา

“กริ๊ก”

เสียงประตูห้องนอนของจิ่วโยวและถางโร้วถูกเปิดออกในเวลาเดียวกัน

ผู้ที่เดินเข้ามาในห้องเป็นหญิงชราคนหนึ่ง ใบหน้าเต็มไปด้วยริ้วรอยตีนกาผิวหนังยับย่น พูดได้เต็มปากว่ามีหน้าตาอัปลักษณ์เป็นอย่างยิ่ง

“แกเป็นใคร?” จิ่วโยวผงกหัวขึ้นมาพูดด้วยความโกรธแค้น แต่น่าเสียดายที่เสียงของเธอยังไม่โตเป็นผู้ใหญ่จึงไม่น่าเกรงขามเลยแม้แต่นิดเดียว

“ฉันเป็นคนรับใช้ของนายน้อย ฉันมีหน้าที่มาแต่งตัวให้นายหญิงเจ้าค่ะ” หญิงชราตอบด้วยน้ำเสียงยานคาง

“คนสารเลว ปล่อยฉันไปเดี๋ยวนี้นะ ไม่งั้นฉันฆ่าพวกแกแน่” จิ่วโยวคำราม

หญิงชรายิ้มอย่างแปลกประหลาดและพูดว่า “ไม่เคยมีใครหลบหนีออกไปจากที่นี่ได้มาก่อน ถึงแม้ว่านายหญิงยังอายุน้อย แต่นายน้อยก็ชอบสาวๆ อายุน้อยอย่างนี้ที่สุด”

“หมายความว่าไง” จิ่วโยวกัดฟันกรอด

“ไม่สำคัญหรอกเจ้าค่ะ นายหญิงไม่จำเป็นต้องเข้าใจหรอก รีบลุกขึ้นมาเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วไปหานายน้อยกันดีกว่า” หญิงชราพูดจบ ก็หยิบขวดสีขาวออกมายื่นจ่อไว้ปลายจมูกของจิ่วโยว

จิ่วโยวรู้สึกได้ว่าเรี่ยวแรงของตัวเองเริ่มฟื้นคืนมาแล้ว เมื่อเธอสามารถขยับแขนขาได้ หญิงสาวก็ต่อยหญิงชราทันที

หมับ!

แต่แขนเล็กๆ ของเธอก็ถูกหญิงชราคว้าจับเอาไว้

ไม่ใช่ว่าหญิงชรามีพละกำลังมหาศาล แต่เป็นเพราะว่าในขณะนี้ จิ่วโยวไม่สามารถใช้พลังลมปราณได้ต่างหาก เรี่ยวแรงของเธอจึงเหมือนกับคนธรรมดาคนหนึ่ง

“ฉันขอแนะนำว่านายหญิงอย่าเสียเวลาเปล่าเลย เจ้าคะ ควันสีชมพูพวกนั้นมาจากผงวิเศษที่นายน้อยผลิตขึ้นมาเอง ถ้าไม่ได้รับยาแก้พิษ นายหญิงก็ใช้ลมปราณไม่ได้อีกสักระยะ” หญิงชราพูดอย่างเชื่องช้า

จิ่วโยวในตอนนี้กลายเป็นเพียงแค่หญิงสาวธรรมดาคนหนึ่ง เธอได้แต่ปล่อยให้หญิงชราแต่งตัวให้โดยไม่สามารถทำอะไรได้เลย

สิ่งเดียวกันนี้ก็เกิดขึ้นกับถางโร้ว เธอยอมให้หญิงชราอีกคนหนึ่งเปลี่ยนเสื้อผ้าให้อย่างไม่ขัดขืน

“ดูสิ นายหญิงงดงามที่สุดเลย” หญิงชราพูดกับเงาสะท้อนของถางโร้วในกระจก

“ไปหานายน้อยกันดีกว่านะเจ้าคะ”

ตอนที่ถางโร้วถูกนำตัวออกมาจากห้อง จิ่วโยวก็ถูกพาออกมาจากอีกห้องหนึ่งเช่นกัน

“ถางโร้ว” จิ่วโยวเห็นถางโร้วเข้าก็ตะโกนเสียงดังว่า “เธอไม่เป็นไรใช่ไหม?”

ถางโร้วก็มองเห็นจิ่วโยวเช่นกัน เธอพยายามจะวิ่งเข้าไปหา แต่ก็ถูกหญิงชราจับตัวไว้

“จิ่วโยว ฉันไม่เป็นไร เธอเป็นอะไรหรือเปล่า?”

“ฉันไม่เป็นไร“ จิ่วโยวตอบกลับมา

พวกเธอถูกนำตัวออกมาเดินผ่านสวนขนาดใหญ่และระเบียงทางเดินที่ยาวเหยียด ก่อนที่จะมาถึงหน้าคฤหาสน์หลังงามแห่งหนึ่ง

เมื่อประตูคฤหาสน์เปิดออกก็สามารถมองเห็นภายในได้ทันที ไม่จำเป็นต้องอธิบายเลยว่าภายในคฤหาสน์ตกแต่งไว้อย่างสวยงามอลังการมากแค่ไหน แต่สิ่งที่น่าสนใจก็คือ ภายในคฤหาสน์กลับเต็มไปด้วยหญิงสาวหน้าตางดงามจำนวนมาก

คฤหาสน์หลังนี้เป็นเสมือนพระราชวังขนาดย่อม ๆ มีพื้นที่ด้วยกันทั้งสิ้นหลายร้อยตารางเมตร เมื่อเดินเข้าไปก็จะได้ยินเสียงพิณโบราณพร้อมด้วยเสียงขลุ่ยบรรเลงบทเพลงไพเราะตลอดเวลา หญิงสาวหน้าตาดีจำนวนนับไม่ถ้วนสวมใส่เสื้อผ้าแบบวาบหวิว ชนิดที่พร้อมจะขึ้นเตียงได้ทุกเมื่อ

หลังจากเดินผ่านห้องโถงใหญ่ตรงส่วนนี้ไปแล้ว พวกเธอก็เจอกับห้องอีกห้องหนึ่งที่มีเตียงตั้งอยู่ตรงกลาง บนโต๊ะหัวเตียงวางเรียงรายเต็มไปด้วยผลไม้นานาชนิด

ส่วนบนเตียงนั้น ชายหนุ่มใบหน้าซีดขาวคนหนึ่งกำลังนอนเอกเขนกด้วยท่าทางสบายใจ มีหญิงสาวสี่คนคอยนวดแขนนวดขา และมีหญิงสาวอีกคนหนึ่งทำหน้าที่คอยป้อนผลไม้ใส่ปากอยู่ตลอดเวลา

“นายน้อย นายหญิงคนใหม่มาหาแล้วค่ะ” หญิงชราพูด

เมื่อได้ยินดังนั้น ชายหนุ่มบนเตียงนอนก็ลุกขึ้นมานั่ง เมื่อเขาเห็นถางโร้วและจิ่วโยว ดวงตาก็เป็นประกายขึ้นมาทันที ถึงแม้ว่าชายหนุ่มจะมีหญิงสาวหน้าตาดีรายล้อมรอบกายอยู่ทุกวัน แต่เขาก็ไม่เคยเจอใครหน้าตางดงามขนาดนี้มาก่อน

“พวกแกออกไปได้แล้ว” เขาออกคำสั่งกับหญิงชราทั้งสองคนด้วยสีหน้าเบื่อหน่าย

นายน้อยกระโดดลงมาจากเตียงและเดินวนรอบๆ ถางโร้วกับจิ่วโยว แววตาของเขาเป็นประกายเร่าร้อน

“เฟิงเหิง ตาแก่คนนี้ ทำให้ฉันพอใจได้จริงๆ แล้วแฮะ”

“คนสวย ขอมือหน่อยสิ” นายน้อยยื่นมือออกไปหมายจะจับมือถางโร้ว

ถางโร้วถอยหลังหนี นายน้อยจึงคว้าจับได้แต่เพียงความว่างเปล่า

ชายหนุ่มดูจะตกตะลึงไปเล็กน้อย ก่อนที่จะเริ่มพูดออกมาอย่างมีอารมณ์หงุดหงิดว่า “ไม่มีใครสอนมารยาทมาหรือไง?” แต่ก่อนที่จะมีใครพูดอะไรออกมา เขาก็หัวเราะในลำคอและพูดต่อว่า “ก็แค่ผู้หญิงสวยอีกคนที่ต้องถูกสั่งสอนให้เชื่อฟังกันบ้าง น่าเบื่อจริงๆ”

“แต่คนนี้สิทำไมสวยแบบนี้” นายน้อยมองหน้าจิ่วโยว แล้วก็ยิ้มกริ่ม “ไม่เสียทีที่ฉันกินคนสวยเป็นอาหารมาตั้งแต่เด็กแล้ว”

“นายมันอัปลักษณ์” จิ่วโยวสวนกลับไป

“เธอว่าอะไรนะ?” นายน้อยถาม

“ฉันพูดว่านายมันอัปลักษณ์จะตาย” น้ำเสียงของจิ่วโยวเต็มไปด้วยความดูถูกดูแคลน ก่อนที่จะต่อยหมัดเข้าใส่ท้องน้อยของชายหนุ่มอย่างแรง

นายน้อยส่งเสียงร้องโหยหวนขณะที่ร่างลอยกระเด็นไปกระแทกเข้ากับเตียงโครมใหญ่

นายน้อยเป็นแค่เพียงเจ้าของคฤหาสน์ธรรมดา เมื่อเขาอ้าปากก็ต้องกระอักเลือดออกมาคำใหญ่ หญิงสาวที่อยู่รายล้อมรอบกายเขาส่งเสียงกรีดร้องด้วยความหวาดกลัวออกมาแล้ว

“เป็นไปได้ยังไง? เธอสูดดมผงสลายลมปราณของฉันเข้าไปแล้วไม่ใช่เหรอ” นายน้อยไม่อยากจะเชื่อ

จิ่วโยวมีสีหน้าเหยียดหยาม เธอมีร่างกายเป็นปีศาจ ผงสลายลมปราณจะมีผลแค่กับลมปราณทั่วไปเท่านั้น แต่หญิงสาวใช้ลมปราณปีศาจ มันจึงไม่ส่งผลกระทบใด ๆ ต่อเธอ

“ถางโร้ว เธอไม่เป็นไรใช่ไหม?” จิ่วโยวหันไปถามถางโร้ว

ถางโร้วพยักหน้าและเริ่มโคจรพลังลมปราณอีกครั้ง ผงสลายลมปราณก็ทำอะไรเธอไม่ได้เช่นกันเพราะเธอฝึกตนเป็นเซียน ไม่ได้ฝึกสายจอมยุทธ์ทั่วไป

ตอนอยู่ที่โรงแรม พวกเธอไม่ได้สลบไปทันทีตามที่อีกฝ่ายหนึ่งเข้าใจ เมื่อกลุ่มควันสีชมพูพวยพุ่งออกมา หญิงสาวทั้งสองคนก็กลั้นหายใจและปิดรูขุมขนทุกจุดบนร่างกายเรียบร้อยแล้ว

พอคิดดูให้ดี พวกเธอก็คิดว่าโรงแรมแห่งนี้น่าจะเคยทำร้ายผู้คนเป็นจำนวนมาก จึงตัดสินใจว่าจะทำลายต้นตอของวงจรอุบาทว์นี้

ดังนั้น หญิงสาวทั้งสองคนจึงแกล้งสลบและตบตาว่าใช้ลมปราณไม่ได้ จนกระทั่งได้มาพบนายน้อยคนนี้

“ฉันว่าผู้หญิงพวกนี้ก็คงถูกจับตัวมาเหมือนกัน” จิ่วโยวกวาดตามองผู้หญิงที่ยืนอยู่โดยรอบ ซึ่งกำลังแสดงสีหน้าหวาดกลัว

ถางโร้วพยักหน้า เธอก็คิดเช่นนั้นเหมือนกัน

“พวกคุณถูกจับตัวมาใช่ไหม รีบหนีเถอะ พวกเรามาช่วยคุณแล้ว” จิ่วโยวพูด

หญิงสาวเหล่านั้นขยับตัวเดินออกมา แต่กลับไม่มีใครกล้าหลบหนีไป

“ไม่ต้องกลัว วันนี้ไอ้หมอนี่มันได้ตายแน่นอน พวกคุณหนีไปเถอะ รับรองว่าจะไม่มีใครกล้าขวางคุณอีก” จิ่วโยวพูดด้วยน้ำเสียงแข็งขัน

“จุ๊ๆ เก่งจังเลยนะ” เมื่อหญิงสาวหันไปมองก็เห็นว่านายน้อยกำลังส่งเสียงหัวเราะอย่างชอบใจ

พรึบ!

พลัน เงาร่างของชายฉกรรจ์หลายสิบคนก็ปรากฏตัวขึ้น สองคนยืนขวางที่หน้าประตู สี่คนตรงเข้ามาคุ้มกันนายน้อย ส่วนพวกที่เหลือชักดาบยาวออกมาชี้ใส่หน้าถางโร้วและจิ่วโยว

“เศษสวะทั้งนั้นเลยนี่นา” จิ่วโยวกวาดตามองชายฉกรรจ์เหล่านั้นด้วยสายตาดูถูก ทุกคนเป็นเพียงจอมยุทธ์ขั้นปรมาจารย์ ไม่มีใครมีพลังถึงขั้นจักรพรรดิเลยสักคน

วูบ!

จิ่วโยวพลันกระโดดเข้าใส่ เส้นผมของเธอเป็นประกายระยิบระยับ ต่อยกำปั้นใส่ชายฉกรรจ์เหล่านั้นอย่างดุเดือด

ควับ!

แล้วปืนยาวสีเงินก็ปรากฏขึ้นในมือของเธอ ตัวปืนเป็นประกายสว่างไสว

ฟู่!

หัวคนกลิ้งกระเด็น เลือดเป็นสายพุ่งฉีดขึ้นไปสูงกว่าหนึ่งเมตร

ขลุกๆๆ

หัวคนกลิ้งกระเด็นไปบนพื้นที่เจิ่งนองไปด้วยเลือด คู่ต่อสู้ของจิ่วโยวไม่มีโอกาสได้เคลื่อนไหว ร่างของพวกเขาก็ขาดกระเด็นไปเหมือนกับขนมปังที่ถูกตัดทิ้ง

แต่อีกด้านหนึ่งมีชายฉกรรจ์สองคนพยายามจะฆ่าถางโร้ว

นี่คือครั้งแรกที่ถางโร้วได้เผชิญหน้ากับศัตรูอย่างแท้จริง ตอนนี้ พลังเธอแกร่งกล้าจนสามารถสู้กับจอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิได้สบาย ๆ แต่กลับถูกจอมยุทธ์ขั้นปรมาจารย์คุกคามจนแทบตายแล้ว

“อย่าใจอ่อนสิ ถางโร้ว ฆ่าพวกมันเลย” จิ่วโยวร้องตะโกน

ถางโร้วแม้แต่ฆ่าไก่ก็ยังไม่เคย นับประสาอะไรกับการฆ่าคน? หญิงสาวได้แต่กระโดดหลบหนีไปมาเท่านั้น

ควับ! ควับ!

เมื่อเสียงของการโจมตีดังขึ้น ร่างของชายฉกรรจ์ทั้งสองคนนั้นก็ลอยกระเด็นออกไปจากฝีมือของจิ่วโยวที่เข้ามาช่วยเหลือ

“ถ้าเธอเป็นแบบนี้ แล้วเราจะช่วยคนอื่นได้ยังไง?” จิ่วโยวว่า

ถางโร้วมีใบหน้าขาวซีด กลิ่นเลือดที่คาวคลุ้งทำให้เธอรู้สึกอึดอัด เสียงของเธอสั่นเครือในขณะที่พูดว่า “ฉันจะค่อย ๆ เรียนรู้ไปก็แล้วกัน” เธอบอก

เฮ้อ! จิ่วโยวได้แต่ส่ายศีรษะด้วยความเหนื่อยใจ

ปืนเงินในมือของเธอชี้หน้านายน้อย ใบหน้าของจิ่วโยวเต็มไปด้วยรังสีอำมหิต

“แกก่อกรรมทำเข็ญกับผู้หญิงไว้มากมาย วันนี้ล่ะฉันจะส่งแกลงนรก”

นายน้อยตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว ไม่คิดเลยว่าจิ่วโยวจะมีความแข็งแกร่งจนสามารถฆ่าบอดี้การ์ดของเขาไปได้เกือบหมดในพริบตาเดียว

“พวกแกยืนทำอะไรอยู่ รีบไปฆ่ามันสิ” เขาออกคำสั่งกับชายฉกรรจ์ทั้ง 4 คนที่ยืนคุ้มกันตนเองอยู่

แต่ชายฉกรรจ์ทั้ง 4 คนรู้สึกหวาดกลัวมาก อีกฝ่ายหนึ่งเป็นจอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิ พวกเขายังไม่อยากตายสักหน่อย

“เคล้ง!”

ชายฉกรรจ์ทั้ง 4 คนทิ้งดาบและทรุดตัวลงนั่งคุกเข่า

“ได้โปรดไว้ชีวิตข้าน้อยด้วย ข้าน้อยไม่กล้าทำเรื่องราวพวกนี้อีกแล้ว” สำหรับคนธรรมดา พวกเขาอาจเป็นเหมือนเทพเจ้า แต่สำหรับจอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิ พวกเขาไม่ต่างไปจากมดตัวหนึ่ง

จิ่วโยวแผ่รังสีอำมหิตออกมา ปืนในมือของเธอเปล่งประกายสว่างไสว เมื่อเธอตวัดปืนในมือเพียงเพียงครั้งเดียว ศีรษะของชายฉกรรจ์ทั้ง 4 คนก็ถูกตัดขาดกระเด็นออกจากบ่า

“คนเลวอย่างพวกแกตายไปได้ก็ดีแล้ว” จิ่วโยวพูดด้วยน้ำเสียงที่ปราศจากความสงสาร

ใบหน้าของนายน้อยขาวซีดเหมือนกระดาษ ร่างกายของเขาสั่นเทาตั้งแต่หัวจรดเท้า ชายหนุ่มพูดออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า “อย่านะ อย่าฆ่าฉันเลย ฉันมีเงินอยู่เท่าไหร่ ฉันจะให้พวกเธอทั้งหมดเลย”

คุณชายผู้นี้มาจากตระกูลร่ำรวยในโลกมนุษย์ เขาใช้เงินซื้อจอมยุทธ์มาเป็นข้าทาสบริวารจำนวนมาก ชายหนุ่มจึงเข้าใจว่าตนเองเป็นเทพเจ้าที่ไม่มีใครกล้าต่อกรด้วยมาตลอด เขาฉวยโอกาสที่โลกเกิดความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ประกอบกับกฎหมายกำลังอ่อนแอ จึงกล้าทำทุกอย่างตามความต้องการของตัวเอง รวมถึงการสร้างคฤหาสน์หลังนี้ขึ้นมาเพื่อจับตัวผู้หญิงหน้าตาดีมาเล่นสนุกตามใจชอบ ไหนเลยจะคิดได้ว่าวันอัปยศอย่างนี้จะมาถึงได้?

“คนอย่างแกมันไม่สมควรมีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้ว” จิ่วโยวตวัดปืนเข้าไปหมายจะแทงใส่ลำคอของชายหนุ่ม

เปรี้ยง!

ปรากฏพลังลมปราณสายหนึ่งพุ่งออกมากลางอากาศ

เกิดเสียงดังโครม ปืนในมือของจิ่วโยวเกือบจะหลุดลอยกระเด็นไป

“อายุแค่นี้ ดุร้ายจังเลยนะเรา” เสียงทุ้มต่ำของใครบางคนดังขึ้น

แล้วร่างของชายคนนึงก็ปรากฏตัวอยู่ข้างนายน้อย ใบหน้าของเขาแผ่รังสีอำมหิต ไอลมปราณที่กล้าแข็งลอยออกมาจากร่างกาย

จิ่วโยวตื่นตัวขึ้นมา ถอยหลังกลับไปยืนอยู่ข้างกายถางโร้ว

“ผู้อาวุโสค่ง ช่วยผมด้วย ช่วยผมด้วย” นายน้อยร่ำร้องด้วยความตื่นเต้นยิ่งกว่าได้เจอพ่อของตัวเองเสียอีก

“ไม่ต้องห่วง คุณชายหวัง ผมอยู่ที่นี่แล้วไม่มีใครจะทำอันตรายคุณได้” ค่งจวิ้นเต๋อพูด แต่ดวงตาเต็มไปด้วยความดูถูก

ถ้าตระกูลหวังไม่มีเงินทองร่ำรวยมหาศาลและคอยช่วยเหลือสำนักของเขาอยู่ ค่งจวิ้นเต๋อ จะไม่เสียเวลาชายตามองคุณชายโรคจิตคนนี้เลยด้วยซ้ำ

จักรพรรดิเซียนหวนคืน (仙帝归来)

จักรพรรดิเซียนหวนคืน (仙帝归来)

จักรพรรดิเซียนหวนคืน (仙帝归来)
Status: Ongoing
อ่านจักรพรรดิเซียนหวนคืน (仙帝归来) เรื่องย่อ จักรพรรดิ์เซียนหวนคืน เมื่อความแค้นทำให้เขาต้องกลับมา.. ฉู่ชวิ๋น เด็กหนุ่มผู้ใสซื่อถูกจับเข้าคุกในข้อหาที่เขาเองก็ยังสงสัยมามันคืออะไร อีกทั้งชีวิตในคุกของเขาเต็มไปด้วยความเจ็บปวด จนกระทั้งเขาถูกกระทืบตาย หลังจากที่เขาตายแล้ววิญญาญได้ข้ามไปยังโลกแห่งผู้ฝึกตน คนอื่นใช้เวลาหมื่นปีเป็นจักรพรรดิ์เซียน แต่สำหรับเขานั้น ใช่เวลาเพียง 3000 ปีก็อยู่บนจุดสูงสุดของจักพรรดิ์เซียน แต่ในเวลานั้นจิตใจของเขายังคงสับสนเพราะต้องการรู้ความจริงที่เกิดขึ้นในภพชาติก่อน เขาจึงใช้พลังเซียนทั้งหมดเพื่อเปิดประตูมิติ ส่งวิญญาณของเขากลับมาที่ร่างเก่าที่อยู่ในคุก ก่อนวันที่เขาจะตายเพียงหนึ่งวัน……….. นี้คือการกลับมาล้างแค้นและค้นหาความจริงแต่เขานั้นไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไปเขาคือ จักรพรรดิเซียน!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset