“เฉินเอ๋อ เจ้าไปเตรียมตัวเถอะ ประเดี๋ยวท่านแม่จะพาเจ้าไปที่บ้านสกุลหลาน“
เขาปล่อยร่างของเด็กน้อย พร้อมกับเผยรอยยิ้มบนใบหน้าหล่อเหลา
ไป๋เสี่ยวเฉินกัดนิ้วพลางกล่าวว่า “ท่านน้า ท่านรู้มั้ยว่าท่านตาทวด และท่านยายทวดของข้าชอบอะไร ? แล้วลูกพี่ลูกน้องของหม่ามี้อีกล่ะ เฉินเอ๋อรู้มาว่าหม่ามี้มีลูกพี่ลูกน้องอีกสามคน เฉินเอ๋อจะได้เตรียมของขวัญแรกพบให้กับพวกเขา“
“เฉินเอ๋อ เจ้ายังเด็ก เช่นนั้นเจ้าไม่จำเป็นต้องตระเตรียมของขวัญแรกพบ” ไป๋เซียวลูบศีรษะเด็กน้อยด้วยความเอ็นดู พร้อมกับกล่าวอย่างอ่อนโยน
“ไม่ เฉินเอ๋อต้องเตรียมของขวัญ ! หากหาไม่ได้ เฉินเอ๋อก็จะมอบขนมถั่วเคลือบน้ำตาลของเฉินเอ๋อให้แทน“
พวกเขาล้วนเป็นญาติสนิทของหม่ามี้ พวกเขารักหม่ามี้ก็ต้องรักเฉินเอ๋อด้วย เช่นนั้นมอบขนมถั่วเคลือบน้ำตาลให้แก่พวกเขาก็ไม่น่าจะเป็นอะไร
หลังจากไป๋เสี่ยวเฉินตัดสินใจได้แล้ว เขาก็รีบวิ่งกลับไปที่คฤหาสน์โบราณเพื่อเตรียมตัว …
*****
ตั้งแต่คืนก่อน ที่ไป๋เสี่ยวเฉินสร้างวีรกรรมใหญ่โต ย่อมเป็นธรรมดาที่ทุกคนในตระกูลหลานจะตระหนักถึงการมีตัวตนของไป๋เสี่ยวเฉิน
หลานฮูหยินผู้เฒ่าไม่รู้ว่าไป๋หยานหายไปที่ใด ทั้งไป๋หยานก็ไม่ได้พาเด็กน้อยกลับบ้านสกุลหลาน เช่นนั้นนางจึงนอนไม่หลับตลอดคืน เพราะมัวคิดถึงเหลนชายที่น่ารักของนาง
โชคดีที่ไป๋หยานไม่ปล่อยให้ท่านยายของนางต้องรอนานนัก บัดนี้นางพาไป๋เซียว และไป๋เสี่ยวเฉินมาที่บ้านสกุลหลานแล้ว
ครั้นเห็นไป๋เสี่ยวเฉิน หญิงชราก็อดใจไม่ไหว นางกอดเด็กน้อยที่น่ารัก พร้อมกับเริ่มร้องไห้
“ท่านแม่” ตงรั่วหลานยิ้มอย่างอบอุ่น “ท่านไม่เห็นหรือไรว่า ท่านพ่อกำลังมองเหลนอยู่ ? ท่านพ่อพูดถึงเหลนตลอดทั้งคืน ท่านแม่ควรให้ท่านพ่อมองเหลนให้เต็มตาก่อนแล้วค่อยร้องไห้ต่อนะ“
แน่นอนว่า ท่านผู้เฒ่าเจ้าบ้านหลานกำลังนั่งลูบเครา ขณะมองภาพดังกล่าวอยู่ด้านหลัง ทันทีที่ได้ยินถ้อยคำของตงรั่วหลาน เขาก็ปั้นหน้าเคร่งขรึม
“เจ้าเอาอะไรมาพูด ? ข้าพูดถึงเขาทั้งคืนเมื่อไหร่กัน ?”
หัวเด็ดตีนขาดเขาก็ไม่มีวันยอมรับ
ไป๋เสี่ยวเฉินผละจากอ้อมกอดของท่านยายทวด จากนั้นก็วิ่งเข้าไปหาท่านตาทวด พร้อมกับร้องว่า “ท่านตาทวด กอดเฉินเอ๋อหน่อย“
ท่านผู้เฒ่าเจ้าบ้านหลานยิ้ม แต่ครั้นคิดขึ้นได้ว่ามีผู้คนมากมายอยู่ที่นี่ เขาก็หุบยิ้ม แสร้งตีหน้าเคร่งขรึม
“เจ้าโตแล้ว ยังร้องขอให้กอดอีกกระนั้นรึ ?”
แม้จะกล่าวออกไปเช่นนั้น ทว่าท่านผู้เฒ่าเจ้าบ้านหลานก็อุ้มเหลนชายของตนขึ้นมานั่งบนตักอย่างไม่รู้ตัว
ไป๋เสี่ยวเฉินดึงเคราของตาทวดพร้อมกับส่งยิ้มอย่างไร้เดียงสา “ท่านตาทวด เฉินเอ๋อชอบท่านตาทวด หลายปีที่ผ่านมานี้ หม่ามี้พูดถึงท่านตาทวดให้เฉินเอ๋อฟังทุกวันเลย“
“โอ้ ?” ท่านผู้เฒ่าเจ้าบ้านหลานหันไปมองไป๋หยาน จากนั้นก็หันกลับมามองไป๋เสี่ยวเฉิน “มารดาของเจ้าพูดถึงตาทวดอย่างไรบ้าง ? นางคงจะบ่นว่าตลอดหลายปีที่ผ่านมาตาทวดละเลยนางใช่หรือไม่ ?”
“ไม่เลย ! หม่ามี้บอกว่าท่านตาทวดเป็นคนยิ่งใหญ่ หม่ามี้ชื่นชมท่านเสมอ แต่เพราะก่อนหน้านี้หม่ามี้รู้สึกละอายใจมาก หม่ามี้ก็เลยไม่กล้ามาบ้านสกุลหลาน เฉินเอ๋อหวังว่าท่านตาทวดจะไม่ตำหนิหม่ามี้ เพราะหม่ามี้บอกว่าจากนี้ไปหม่ามี้จะไม่จากบ้านสกุลหลานไปไหนอีก ! “
นี่ข้าเคยพูดแบบนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่ ?
นับตั้งแต่นางมาเกิดใหม่ในโลกใบนี้ ความประทับใจที่น่าจดจำเพียงอย่างเดียวก็คือไป๋เซียว น้องชายของนาง ส่วนคนตระกูลหลานนั้น นางเพิ่งจะได้ทำความคุ้นเคยกับพวกเขาเมื่อไม่นานมานี้
หากแต่เห็นได้ชัดว่า ถ้อยคำของไป๋เสี่ยวเฉินทำให้ท่านผู้เฒ่าหลานทั้งสองหน้าบานเปี่ยมด้วยความสุข มิได้มีสีหน้าบึ้งตึงดั่งเช่นเคย
“แล้วมารดาของเจ้ายังพูดอะไรถึงข้าอีกหรือไม่ ? รีบบอกตาทวดมาไว ๆ ว่ามารดาของเจ้าพูดอะไรอีก ?”
ครั้นเห็นสีหน้าท่าทางที่ยิ้มแย้มมีความสุขของท่านตาแล้ว หัวใจของไป๋หยานก็อ่อนระทวย นี่แหละความรักของครอบครัว เพียงถ้อยคำเพราะ ๆ ไม่กี่คำ ก็สามารถทำให้คนมีความสุขได้ …
ไป๋เสี่ยวเฉินเกาหัวเล็ก ๆ ของตน “ท่านแม่ก็พูดหลายเรื่อง แต่เฉินเอ๋อจำไม่ได้ ทว่าก่อนอื่น นี่เป็นครั้งแรกที่เฉินเอ๋อมายังบ้านสกุลหลาน หม่ามี้จึงให้เฉินเอ๋อนำของขวัญมาให้ท่านตาทวด และทุกคน !“
***จบบท รักแท้ (2)***