ตอนที่307 หนุ่มสาวน่าจะเข้ากันดี
พอไปถึงจ้าวเฉียนรู้เรื่องในทันที ปรากฏว่านี่ไม่ใช่แค่ออกมาตีกอล์ฟเล่นกับโจวเหว่ยซูธรรมดา แต่โจวเจียงเฉินเองก็อยู่ที่นั่นด้วย มิหนำซ้ำยังมีชายวัยกลางคนอยู่คู่กับสองพี่น้องชายหนึ่งหญิงหนึ่งที่ไม่คุ้นหน้ามาก่อน
ไม่ว่าจะคุ้นหน้าหรือไม่ก็ตาม แต่การที่สามารถเดินทางมาตีกอล์ฟกับโจวเจียงเฉินได้ นี่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า สถานะศักดิ์ของพวกเขาทั้งสามย่อมไม่ธรรมดาเช่นกัน
“ประธานโจว คุณโจว สวัสดีครับ ไม่ทราบว่าทั้งสามท่านคือ…”
โจวเจียงเฉินคลี่ยิ้มกว้างรีบแนะนำให้จ้าวเฉียนรู้จักทันที
“จ้าวเฉียนมานี่มา เขาคนนี้คือประธานจ้านแห่งบริษัทไชน่าปิโตรเคมี ส่วนหนุ่มสาวสองคนนี้เป็นลูกๆของเขา จ้านซูวอู่ กับจ้านซูวเหวิน”
โจวเจียงเฉินคนนี้สุดยอดจริงๆ เมื่อวานเพิ่งจะตกลงกันไปหมาดๆ วันนี้ก็สามารถพาหัวเรือใหญ่แห่งไชน่าปิโตรเคมี จ้านชุนเล่อออกมาตีกอล์ฟด้วยกันได้แล้ว
จ้าวเฉียนรีบก้าวย่างออกไปจับมือกับจ้านชุนเล่อและอีกสองคนทันทีเพื่อทักทายและกล่าวแนะนำตัวเอง
ทั้งจ้านชุนเล่อและลูกๆของเขาต่างประหลาดใจอย่างมาก ชายหนุ่มคนนี้น่ะเหรอเป็นผู้อยู่เบื้องหลังท่าเรือเฉียนตงซึ่งมีประวัติอันยาวนานเกือบร้อยปี? เขายังดูเด็กเกินกว่าจะมารับตำแหน่งนี้จริงๆ ดูท่าภูมิหลังของเขาจะไม่ธรรมดาจริงๆ
“ยินดีที่ได้รู้จักครับ คุณจ้าวยังเด็กแต่สามารถเข้ามาควบคุมบริหารธุรกิจใหญ่โตขนาดนี้ได้ นี่สุดยอดจริงๆครับ ตอนผมอายุคุณยังเที่ยวจีบสาวไปเรื่อยอยู่เลย ฮ่าฮ่า…”
จ้านชุนเล่อเอ่ยทักทายอย่างเป็นมิตร
จ้าวเฉียนยิ้มตอบอย่างสุภาพกลับไปว่า
“ประธานจ้านต้องเข้าใจนะครับ ผมกำลังทำเพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์เพื่อรับสืบทอดมรดกท่าเรือนี้เต็มตัวในอนาคต”
“สุดยอดจริงๆนั้นแหละ มีคนมากความสามารถอย่างคุณจ้าวมาบริการเครือธุรกิจใหญ่โตแบบนี้ อนาคตของประเทศเราคงจะสดใสขึ้นไม่น้อย อ่อ…นี่ลูกชายของฉันเอง จ้านซูวอู่ ส่วนนี้ลูกสาว จ้านซูวเหวิน พวกเขาก็รุ่นราวคราวเดียวกับคุณจ้าวเหมือนกัน น่าจะเข้ากันง่ายกว่า บางทีถ้าคุณจ้าววางแผนจะขยายธุรกิจอะไร ก็มาปรึกษาขอความร่วมมือได้ตลอดนะครับในอนาคต”
จ้านชุนเล่อคาดเดาได้ตั้งแต่แรกแล้วว่า ภูมิหลังของจ้าวเฉียนไม่ใช่แค่ไม่ธรรมดา และบางทีอาจยิ่งใหญ่กว่าตระกูลเขาด้วยซ้ำ นี่จึงเป็นเหตุผลที่เขาดูสุภาพขนาดนี้ และยังต้องพาลูกชายกับลูกสาวมาทำความรู้จักไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ
จ้าวเฉียนพยักหน้าตอบ และหันกลับไปถามจ้านซูวอู่และจ้านซูวเหวินว่าตอนนี้พวกเขากำลังเรียนอยู่หรือทำงานแล้ว
จ้านซูวอู่ยิ้มแย้มตอบกลับไปทันทีว่า
“ผมเพิ่งจบจากฮาวาร์ดกลับมา ก่อนหน้านี้ผมก็เคยฝึกงานอยู่ที่วอลล์สตรีทประมาณปีหนึ่ง หลังจากนั้นผมก็บินกลับบ้านเกิดตั้งใจจะเริ่มต้นธุรกิจของตัวเองขึ้นมา คุณจ้าวครับ ผมขออนุญาตเรียกคุณว่าบอสจ้าวนะครับ ผมได้ฟังเรื่องราวของคุณจากคุณพ่อมาประมาณหนึ่งแล้ว ผมรู้สึกนับถือในตัวคุณมากเลยครับ ทั้งที่อายุพอๆกับผม แต่สามารถควบคุมธุรกิจใหญ่โตแบบนี้ได้ สุดยอดจริงๆครับ ถ้าอนาคตมีโครงการอะไรดีๆก็เรียกใช้ผมได้ตลอดเลยนะครับ ไม่ต้องเกรงใจ”
“โอ๊ะ? จบจากฮาวาร์ดเลยเหรอครับ? ดีเลยครับผมชอบคนเก่งมากความสามารถแบบคุณชายจ้าน ถ้ามีโอกาสได้ร่วมงานกัน ผมอยากจะสร้างโครงการร่วมกับคุณชายจ้านจริงๆ ไม่ทราบว่าคุณชายจ้านสนใจในธุรกิจด้านไหนครับ?”
“ผมสนใจธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครับ ตอนอยู่ที่โน้นผมเริ่มเก็บเกี่ยวประสบการณ์จากตลาดหุ้น กองทุน ฟิวเจอรส์อะไรพวกนั้นน่ะครับ บอสจ้าวพอมีเคลือข่ายเกี่ยวกับด้านนี้บ้างไหมครับ?”
“มีแน่นอนครับ ผมมีเส้นสายค่อนข้างมากในบริษัทฟู่ไห่ อินเวสเม้นต์ ถ้าคุณชายจ้านสนใจในด้านนี้จริงๆ พวกเราค่อยนัดคุยกันทีหลังดีกว่าว่าจะเอายังไงต่อ ผมสามารถสอบถามข้อมูลภายในฟู่ไห่ได้บางส่วนถ้าคุณต้องการ เวลาคุณเริ่มต้นธุรกิจจะได้ง่ายขึ้น”
จ้านซูวอู่รีบจับมือกับจ้าวเฉียนทันทีอย่างมีความสุขเมื่อได้ยินชื่อบริษัทฟู่ไห่ กล่าวได้ว่าถ้าใครก็ตามที่สามารถสร้างสัมพันธ์อันดีกับบริษัทฟู่ไห่ได้ แม้จะหลับตายังสามารถทำเงินได้ดป็นกอบเป็นกำ
โจวเจียงเฉินยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ก่อนจะสะกิดเรียกจ้านชุนเล่อชวนไปเล่นกอล์ฟที่หลุมถัดไป
“น้องจ้าน พี่คิดยังไงกับจ้าวเฉียน”
โจวเจียงเฉินเอ่ยถามเสียงค่อย
“เฮ้อ…ผมไม่รู้หรอกนะว่าเขาเก่งกาจขนาดไหน แต่คิดว่าภูมิหลังของเขาไม่ธรรมดาแน่นอน ไม่สิ…อาจจะเหนือกว่าพวกเราสองตระกูลด้วยซ้ำ พี่โจวไปรู้จักเขาจากที่ไหน?”
“โน้น ลูกสาวฉันไปเจอเขาที่ฟิตเนส ฉันเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าเขาเป็นใครกันแน่ แต่ฉันสัญญากับเขาแล้วว่า จะไม่ตรวจสอบภูมิหลังของเขาเป็นอันขาด ถึงแบบนั้นฉันก็คิดแบบเดียวกับแก จ้าวเฉียนไม่ธรรมดาแน่นอน”
“เดี๋ยวก่อนนะ? เขาเป็นผู้อยู่เบื้องหลังท่าเรือเฉียนตง แถมยังชื่อสกุลจ้าว….!! หรือเขาจะเกี่ยวข้องกับตระกูลจ้าวลึกลับนั้น! บางที…เขาอาจจะเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งผู้นำตระกูลจ้าวรุ่นต่อไปก็ได้!”
“แกคิดเหมือนฉันไม่มีผิด ยังไงก็เถอะ ฉันไม่ได้ติดตามข่าวการปะทะระหว่างท่าเรือเฉียนตงกับท่าเรือหัวเท่าไหร่นัก แต่การที่เขาต้องการชิงออเดอร์ของพวกเราไปแบบนี้ เห็นได้ชัดว่าเขากำลังวางแผนตัดท่อน้ำเลี้ยงใหญ่ของท่าเรือหัวอยู่”
“โอ๊ะ? อย่างนี้นี่เอง ยังเด็กอยู่แท้ๆแต่มีความทะเยอทะยานมาก แถมใจเด็ดไม่ใช่น้อยเลย เขาต้องการชิงออเดอร์ของพวกเราสองคนในคราวเดียว นี่คิดจะฆ่าท่าเรือตระกูลหัวทั้งเป็นเลยใช่ไหมเนี่ย?”
“ฮ่าฮ่า…นี่ขนาดนั้นเด็กนะ ถ้ายิ่งแก่ตัวลงหมอนี่จะยิ่งโหดเหี้ยมขนาดไหน”
ทั้งสองเหลือบมองไปที่จ้างวเฉียนซึ่งอยู่ไม่ไกลนัก พลางคลี่ยิ้มขึ้นบนมุมปากของพวกเขาทั้งสอง
จ้าวเฉียนคุยกับจ้านซูซอู่ได้สักพัก ก็หันกลับไปคุบกับจ้านซูวเหวินบ้าง
จ้านซูวเหวินหน้าสดเป็นอย่างไรไม่ทราบ แต่เท่าที่จ้าวเฉียนรู้ตอนนี้คือเธอสวยมากเมื่อแต่งหน้า
ทรงหน้าโค้งสวย จมูกโด่ง หน้าอกใหญ่อวบอิ่ม เอวคอดดูเซ็กซี่เหลือล้น นี่คือสาวงามในอุดมคติของชายหนุ่มทั้งหลาย
“คุณหนูจ้านล่ะครับ? ตอนนี้กำลังทำอะไร?”
จ้าวเฉียนเอ่ยถามพร้อมรอยยิ้มอ่อน
จ้านซูวเหวินคลี่ยิ้มปรายเสน่ห์ใส่จ้าวเฉียนไปทีหนึ่ง เธอตอบไปว่า
“นั่งเป็นสตีมเมอร์อยู่บ้านนี่แหละค่ะ แต่ถ้าคุณชายจ้าวอยากชวนฉันไปไหนก็เรียกได้เสมอเลยค่ะ”
เนื่องด้วยใบหน้าอันสะสวยของเธอที่เหมาะกับการไลฟ์สตีมเป็นคนดังบนโซเชียล จึงเป็นการดีกว่าที่เธอจะหันมาทำงานด้านนี้เต็มตัว แถมในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา อุตสาหกรรมไลฟ์สตีมก็เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วไม่รู้กี่เท่า
พอกล่าวมาถึงจุดนี้ จ้าวเฉียนก็เริ่มได้ไอเดียอะไรใหม่ๆแล้ว เขาตั้งใจจะให้บริษัทเฉียนเก๋อของเขาเปิดแผนกใหม่ที่เกี่ยวกับการทำสื่อโซเชียลโดยตรง
นอกจากจ้านซูวเหวินแล้ว หลิวเสี่ยวเฟย เทรนเนอร์สาวที่มีดีทั้งหน้าตาและรูปร่างสุดเซ็กซี่ก็เหมาะอย่างมากที่จะเดบิวกลายมาเป็นสตีมเมอร์โลดแล่นบนสื่อโซเชียล
“คุณหนูจ้าน ทั้งสวย ทั้งดูดีมีเสน่ห์ ทำไมถึงไม่มาเป็นดาราในสังกัดของผมล่ะ? นอกจากท่าเรือเฉียนตงแล้วผมยังเป็นเจ้าของบริษัทเฉียนเก๋อ เอ็นเตอร์เทนเม้นต์อีกด้วย และผมกำลังจะเปิดแผนกใหม่เกี่ยวกับการทำสื่อโซเชียลโดยเฉพาะ บางทีผมสามารถปั้นให้คุณโดดดังได้มากกว่านี้อีกนะ”
ดวงตาคู่สวยของจ้านซูวเหวินเปล่งประกายระยิบระยับขึ้นมาทันควัน เธอรีบกล่าวขึ้นทีด้วยความตื่นเต้นว่า
“จริงเหรอ? คุณชายจ้าวคิดว่าฉันจะทำได้รึเปล่า?”
“แน่อนครับ ทางเรามีทีมงานมืออาชีพคอยสนับสนุนและให้คำปรึกษาอยู่ตลอด ตรายใดที่คุณมีความทะเยอทะยานใฝ่พัฒนาตัวเองอยู่เสมอ การจะปั้นให้โดงดังได้ก็ไม่ใช่เรื่องยาก แถมคุณหนูจ้านก็หน้าตาดี สวยกว่าดาราหลายๆคนบนจอทีวีอีกครับ ผมพูดจากใจจริงเลย”
ทันใดนั้นจ้านซูวเหวินก็ใบหน้าแดงก่ำทันทีที่ได้ยินจ้าวเฉียนกล่าวชม เธอยกมือป้องปากหัวเราะคิกคักเบาๆ
โจวเหว่ยซูที่เห็นแบบนั้นก็เหลือบมองไปที่จ้าวเฉียนและจ้านซูวเหวินเล็กน้อยด้วยความไม่พอใจ เธอคลี่ยิ้มเล็กน้อยและเดินเข้าไปแทรกกลางระหว่างทั้งสองทันทีและกล่าวว่า
“คุณจ้าว ดูท่าจะสนิทกับสองคนนี้ไวดีนะคะ”
จ้าวเฉียนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไรก็ยิ้มตอบกลับไปว่า
“ต้องขอบคุณประธานโจวกับคุณมากเลยครับ ที่แนะนำทั้งสองคนนี้ให้ผมรู้จัก”
ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด จู่ๆโจวเหว่ยซูก็ยื่นมือออกไปโอบแขนจ้าวเฉียนต่อหน้าทุกคน และกล่าวตอบไปว่า
“ไม่ต้องขอบคุณหรอก แค่อย่าลืมสัญญาระหว่างพวกเราก็พอ”
แต่ทันใดนั้นเองเสียงโทรศัพท์ของโจวเหว่ยซูก็ดังขึ้น เธอรีบกล่าวกับจ้าวเฉียนและทั้งสองคน ขอตัวออกไปรับสายก่อน จากนั้นก็วิ่งแยกออกไปยังมุมหนึ่ง
ระหว่างนั้นเองจ้านซูวเหว่ยที่กำลังสนทนาอย่างสนุกสนานกับจ้าวเฉียน เธอก็เหลือบไปเห็นพี่ชายของเธอชำเลืองมองโจวเหว่ยซูด้วยสีหน้าเศร้าๆ
จ้านซูวเหวินทราบดีว่า พี่ชายของเธอสนใจในตัวโจวเหว่ยซูมาโดยตลอด ดังนั้นเธอจึงเอ่ยถามจ้าวเฉียนพร้อมรอยยิ้มว่า
“คุณชายจ้าว ความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับคุณโจวคืออะไรเหรอค่ะ?”
“เพื่อนกันนี่แหละครับ แค่พวกเราสัญญากันว่า บริษัทเฉียนเก๋อของผมจะเซ็นสัญญากับเธอ เพื่อมุ่งเน้นปั้นให้เธอกลายเป็นดาราดังตามความฝันของเธอในอนาคต”
จ้าวเฉียนก็พูดไปตามข้อเท็จจริง
พอได้ยินแบบนั้นจ้านซูวเหวินก็เริ่มไม่พอใจขึ้นมาเล็กน้อย เธอพึ่งพาความสามารถตัวเองจนกลายมาเป็นสตีมเมอร์โดงดังขึ้นมาได้ นี่แสดงให้เห็นแล้วว่า ตัวเธอเองก็มีพรสวรรค์และคุณสมบัติมากพอที่จะเดบิวขึ้นเป็นดาราดังได้เช่นกันในอนาคต แต่ทำไมล่ะ? ทั้งๆที่เธอมั่นใจอย่างมากว่าตัวเองทั้งสวยสวยกว่าและเก่งกว่าโจวเหว่ยซู แล้วทำไมเธอจะเป็นดาราดังบ้างไม่ได้?
จ้านซูวเหวินคิดในใจกับตัวเอง
‘ไม่ได้การแล้ว ตอนนี้โจวเหว่ยซูกำลังทมมำตัวสนิทสนมกับจ้าวเฉียนอยู่ ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปเขาจะต้องให้ค่าเธอมากกว่าฉันแน่ แล้วฉันควรทำยังไงดี? หรือจะลองพูดกับเขาตรงๆดูบ้าง?’