ตอนที่ 203 ซูเหิง…
เฉินฝานซิงชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็หัวเราะออกมาเบาๆ “นายเป็นคนปล่อยงั้นเหรอ”
ซูเหิงพยักหน้า “ฉันไม่รู้ว่าจะชดใช้ให้เธอยังไง ฉันให้เธอได้แค่นี้แหละ…ฝานซิง เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้ เป็นความผิดของฉันคนเดียวจริงๆ ฉันขอโทษ…”
เม็ดฝนละเอียดค่อยๆ โปรยปรายลงมาจากท้องฟ้า เฉินฝานซิงจ้องมองซูเหิงอยู่นาน ดวงตาคู่นั้นอ้างว้างและเงียบงันลมที่พัดแทรกเข้ามาระหว่างสายฝนปรอยๆ ดูเหมือนจะแรงขึ้นกว่าเดิม มันพัดพาให้เสื้อเชิ้ตและเส้นผมพลิ้วไหว ยิ่งทำให้เห็นรูปร่างเพรียวบางของเธอได้ชัดเจนกว่าเดิม
เธอยืนตัวตรงอยู่ตรงนั้น ในมือกำโทรศัพท์ไว้ ใบหน้าที่สวยสง่าเต็มไปด้วยความดื้อรั้นและไม่แยแส
เขามองเธออยู่เงียบๆ เธอมีผิวที่ขาวละเอียด โครงหน้าที่ประณีตได้รูป ใบหน้างดงาม ทั้งยังมีรูปร่างที่เพรียวบาง ท่าทางที่ดูมีสง่าราศีอย่างเป็นธรรมชาติ เธอที่เป็นแบบนี้ช่างสวยงามจริงๆ
เขาถูกเฉินฝานซิงจ้องเขม็งจนเริ่มเกร็งไปทั้งตัว มือที่กำเช็คเอาไว้ขยับช้าๆ
“ซูเหิง…”
เสียงแหบพร่าและเยือกเย็นดังขึ้นช้าๆ เสียงเบาจนถูกลมพัดจางหายไปอย่างรวดเร็ว
“นายเลิกเตือนฉันครั้งแล้วครั้งเล่าว่าที่ผ่านมาฉันโง่เง่าแค่ไหนสักทีจะได้ไหม”
ซูเหิงตะลึงงัน
เฉินฝานซิงกระตุกมุมปากเบาๆ ยกมือขึ้นมาเลื่อนรูปพวกนั้นให้ดูทีละรูป
“ภาพนี้ ประธานโจวบริษัทอสังหาฯ เหิงต๋า ขึ้นชื่อเรื่องหื่นกาม ฉันไปคุยงานเป็นเพื่อนนาย แล้วก็ถูกเขามอมด้วยอู่เหลียงเย่ [1] สองขวดเต็มๆ …
ภาพนี้ ประธานฉี บริษัทวัสดุก่อสร้างฮาม่าน มีภรรยาและมีบ้านเล็ก จะคุยธุรกิจกับเขา ฝ่ายตรงข้ามเป็นผู้หญิงจะดีที่สุด ตอนนั้นฉันไปคนเดียว ถูกเขามอมจนเมาไม่ได้สติ สุดท้าย ผู้ช่วยนายเป็นคนไปรับฉัน…
ภาพนี้ ประธานเฉียน ผู้ลงทุนของหัวหลิน เถ้าแก่เหมืองถ่านหิน พวกเศรษฐีใหม่ที่ร่ำรวยกะทันหัน หลังจากได้รับการลงทุนจากเขา วันถัดมาฉันถูกภรรยาของเขาตามมาตบถึงที่บ้าน แต่ท้ายที่สุดฉันก็ไม่กล้าตอบโต้เลยสักนิด…ประธานเฉียนรู้สึกผิด วันต่อมาเลยเพิ่มเงินลงทุนเป็นสามเท่า…
ภาพนี้ ประธานจ่งจากเครือหรงเฉิง ยังจำได้ไหม ในห้องนั้น พวกเขาแต่ละคนต่างก็โอบผู้หญิงหนึ่งคนไว้ในอ้อมแขน บางคนถึงกับกระชากเสื้อผ้าของผู้หญิงออกจนหมดตรงนั้นเลยด้วยซ้ำ!
ตอนนั้นนายก็อยู่ด้วย แต่ว่าจู่ๆ นายก็กลับไปโดยไม่บอกกล่าวอะไรเลยกลางคัน เพื่อปกป้องตัวเอง ฉันถูกพวกเขาบังคับให้ดื่มเหล้าครั้งแล้วครั้งเล่า ถ้าหากสุดท้ายไม่ใช่เป็นเพราะดื่มจนเลือดออกในกระเพาะจนต้องโทรเรียกรถฉุกเฉิน นายน่าจะจินตนาการได้นะว่าคืนนั้นฉันจะต้องลงเอยแบบไหน”
เฉินฝานซิงเค้นเสียงหัวเราะขมขื่นจากในลำคอ
“อ้อ จริงสิ ฉันเองก็เพิ่งรู้เมื่อวานนี้เอง ว่าวันนั้นเป็นวันเดียวกันกับในภาพที่นายส่งเฉินเชียนโหรวกลับบ้านแล้วคลอเคลียกันอยู่หน้าบ้านสกุลเฉินพอดี…”
ดวงตาของซูเหิงสั่นสะท้าน ภายในใจราวกับถูกมือล่องหนกำลังบีบคั้นหัวใจดวงนั้นของเขาอยู่ เจ็บจนแทบหยุดหายใจ
“ฉัน…ในตอนนั้นฉันก็รู้สึกนึกกลัวภายหลังอยู่เหมือนกัน…” เสียงของเขาแหบเครือจนแตกพร่า
เฉินฝานซิงกลับหัวเราะออกมา “นายนึกกลัวภายหลังงั้นเหรอ แน่นอนว่านายต้องนึกกลัวภายหลังสิ นายกลัวว่านายทิ้งฉันเอาไว้เพื่อไปหาเฉินเชียนโหรว แล้วถ้าหากเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับฉัน นายจะต้องรู้สึกผิดและต้องรับผิดชอบฉัน ไม่มีทางสลัดฉันทิ้งได้ไปชั่วชีวิต นายก็จะไม่มีทางได้ครองคู่กันกับน้องเชียนโหรวของนายแล้วยังไงล่ะ…”
ซูเหิงปฏิเสธ “ไม่ใช่นะ ฝานซิง…”
ฝานซิงเก็บโทรศัพท์ไว้ แล้วมองเขาด้วยความเฉยชา “ภาพพวกนี้ไม่มีเรื่องโกหกเลยสักนิด ฉันถูกพวกเขาจับมือถือแขน ลูบขา ประคองพวกเขาที่เมาจนหมดสภาพ ยอมทนมือปลาหมึกที่เกาะแกะไม่หยุดของพวกเขา…ทั้งหมดนี้…เพื่ออะไรกันล่ะ”
“…” ซูเหิงหน้าซีดเผือด
“ฉันยอมทำเพื่อสกุลซูของนายอย่างไม่คิดชีวิต อดทนอะไรตั้งมากมายขนาดนั้น นายที่เป็นคนของสกุลซูแท้ๆ กลับวิ่งไปพลอดรักกะหนุงกะหนิงกับน้องสาวต่างแม่ของฉัน! ซูเหิง ตอนนั้นนายไม่รู้สึกผิดต่อฉันบ้างเลยหรือยังไง”
เฉินฝานซิงแผดเสียงเล็กแหลมออกมากะทันหัน ก่อนจะง้างฝ่ามือฟาดลงไปบนใบหน้าของซูเหิงอย่างเต็มแรงหนึ่งที!
ตอนที่ 204 พวกนายสกุลซูมีวันนี้ได้ก็เพราะฉัน เฉินฝานซิง
เพียะ ซูเหิงโดนตบหน้าเข้าอย่างแรง
“ขอโทษ…ฝานซิง…”
“ฉันไม่ได้ติดค้างอะไรกับสกุลซูของนาย แต่กลับถูกพวกคนกสุลซูใช้งานเยี่ยงทาสมากว่าสามปี ถูกพวกนายสวมเขา ในสายตาของพวกนาย ฉันมันก็แค่ยัยโง่คนหนึ่งใช่ไหม”
ซูเหิงยังคงปฏิเสธ “ฉันไม่เคย…”
เพียะ เสียงดังสนั่นขึ้นอีกครั้ง ใบหน้าของซูเหิงถูกฟาดด้วยฝ่ามือเข้าอย่างจังอีกหนึ่งที
“นายมาที่นี่เพื่อจะมาสารภาพว่าภาพพวกนั้นนายเป็นคนปล่อยงั้นเหรอ นี่ล้วนแต่เป็นสิ่งที่ฉันทนแบกรับเพื่อสกุลซูของพวกนายทั้งนั้น นายเอาภาพพวกนี้มาแบล็กเมล์ฉันเพื่อปกป้องเฉินเชียนโหรวอย่างนั้นเหรอ ซูเหิง นายทำให้อดีตที่ไม่ได้มีอะไรน่าละอายใจเลยของฉันกลายเป็นเรื่องตลกของคนอื่นไปโดยสิ้นเชิง แล้วก็ทำให้ตัวนายเองกลายเป็นตัวตลกไปด้วย”
เฉินฝานซิงโกรธจนหน้าไร้เลือดฝาด เธอพูดขึ้นด้วยยิ้มเหยียดหยัน
“นายยังทำให้ฉันเชื่อด้วยว่านายรักเฉินเชียนโหรวมากจริงๆ จริงๆ นะ ฉันเชื่อสนิทใจ นายรักเธอจนยอมโดนตราหน้าว่ามีชู้ แม้แต่ศักดิ์ศรีความเป็นลูกผู้ชายที่ไม่ควรจะขาดตกบกพร่องมากที่สุดนายกลับทำลายมันจนหมดสิ้น รักแท้ชนะทุกอย่าง น่าซาบซึ้งใจอะไรขนาดนี้”
หลังจากได้ฟังคำของเธอ ซูเหิงก็หน้าถอดสีในทันที
ส่วนเฉินฝานซิงยังคงไม่คลายความโกรธ ไม่สนใจสีหน้าที่เปลี่ยนไปของเขา ก้มหน้าลงมองเช็คที่ยังวางอยู่ตรงหน้าตัวเองปราดหนึ่ง
ทันใดนั้นเอง เธอยื่นมือออกไปแย่งมันมาแล้วฉีกมันจนไม่เหลือชิ้นดี ก่อนจะขว้างมันใส่หน้าซูเหิง
เศษกระดาษลอยอยู่กลางอากาศก่อนจะค่อยๆ ร่วงหล่นลงมาบนพื้น ถูกฝนสาดจนเปียก
“ห้าล้าน? นายใช้เงินพวกนี้มาชดใช้ให้ฉันอย่างนั้นเหรอ ฉันจะบอกนายให้นะซูเหิง สกุลซูของพวกนายมีวันนี้ได้ ทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกคนสกุลซูกำลังเสวยสุขกันอยู่ ที่พวกคนสกุลซูทั้งบ้านกินใช้สวมใส่อยู่นั้น ล้วนแต่มาจากน้ำพักน้ำแรงของฉัน เฉินฝานซิงทั้งนั้น ไม่มีฉัน สกุลซูก็ไม่มีอะไรดีเลย”
ซูเหิงเหลือบตาขึ้นจ้องมองเฉินฝานซิงด้วยแววตาแข็งกร้าว
“อย่ามองฉันแบบนั้น ถ้านายไม่เชื่อ นายจะลองดูก็ได้”
ในขณะที่พูด นิ้วเรียวยาวชี้ไปยังตำแหน่งตรงหัวใจของตัวเอง พลางพูดด้วยน้ำเสียงที่ทั้งอำมหิตและเยือกเย็น
“ฉัน เฉินฝานซิง มีปัญญาช่วยให้บริษัทที่กำลังจะล้มบริษัทหนึ่งค่อยๆ กลับมาลืมตาอ้าปากได้อีกครั้ง ก็มีปัญญาทำให้มันค่อยๆ พังลงไปทีละนิด ทีละนิด ได้เหมือนกัน”
“ซูเหิง นายทำลายความอดทนฉันครั้งแล้วครั้งเล่า ฉันทนมามากพอแล้ว”
เฉินฝานซิงพูดจบก็ชายตามองเขาอย่างเย็นชาแวบหนึ่ง แล้วย่างขาก้าวเดินเข้าอาคารไป
รังสีความน่าเกรงขามจากเธอ ทำให้ซูเหิงสติหลุดลอยอยู่พักใหญ่
จวบจนกระทั่งเงาของเธอหายลับไปจากระยะสายตาของเขาแล้ว เขาถึงละสายตาออกมาได้
คำพูดเมื่อสักครู่ของเฉินฝานซิงยังคงวนเวียนอยู่ข้างหู ถึงแม้จะไม่เชื่อว่าเธอจะทำให้ซูซื่อล้มลงได้จริงๆ แต่ท่าทางมั่นอกมั่นใจและความตั้งใจแน่วแน่ของเธอกลับทำให้เขาอดสั่นผวาไม่ได้
แต่ว่า ซูซื่อในตอนนี้ ไม่ใช่บริษัทที่ใครจะมาล้มลงได้ง่ายๆ
ถึงแม้สถานการณ์จะไม่สู้ดีมากนัก แต่อูฐที่ผ่ายผอมก็ยังตัวใหญ่กว่าม้า [2] ขอแค่นำผลิตภัณฑ์ขึ้นห้างเครือป๋อซื่อได้ก็ไม่มีอะไรต้องกังวลอีกแล้ว
แล้วเขาก็รู้ว่าฝานซิงเพียงแค่พูดไปด้วยอารมณ์ก็เท่านั้น
แต่ไหนแต่ไรมา เธอไม่ใช้คนใจไม้ไส้ระกำอยู่แล้ว…
เมื่อเฉินฝานซิงเดินเข้าไปในอาคาร สวี่ชิงจือก็เดินออกมาจากด้านข้างทันที ก่อนจะคล้องแขนเธอเอาไว้พลางพูดด้วยท่าทางจริงจัง
“เมื่อกี้เด็ดขาดสุดๆ ไปเลย ฝานซิง ฉันไม่ได้ล้อเล่นจริงๆ นะ ฉันจะแต่งงานกับเธอ”
“…”
“จริงๆ นะ เชื่อฉันสิ รอฉันกลับไปถึงบ้านแล้วจะฉันลองศึกษาดู”
เฉินฝานซิงนวดฝ่ามือที่ยังคงรู้สึกชาๆ อยู่ พลางเอ่ยถามขึ้นหนึ่งประโยค “ศึกษาเรื่องอะไร”
“ศึกษาว่าจะให้ความ “สุข” กับเธอได้ยังไงไงล่ะ”
“…”
——
[1] เหล้าข้าวชนิดหนึ่งของประเทศจีน
[2] อูฐที่ผ่ายผอมก็ยังตัวใหญ่กว่าม้า สำนวนจีน อุปมาผู้ที่มีความสามารถโดดเด่นในด้านหนึ่ง ถึงแม้จะตกอยู่ในสถาการณ์ลำบาก แต่ก็ยังแข็งแกร่งกว่ามือใหม่ที่เพิ่งฝึกฝนอยู่ดี