ช้าก่อนคุณป๋อ! ครั้งนี้ขอเป็นรักสุดท้าย – ตอนที่ 215 จูบที่เสียการควบคุม / ตอนที่ 216 รู้สึกยังไง

ตอนที่ 215 จูบที่เสียการควบคุม

 

 

“ฝานซิง ตอนนี้ผมโกรธมาก ทำยังไงดีล่ะ”

 

 

เขาเข้าประชิดตัวเธอ หลังที่ตรงดิ่งโน้มลงมาทางเธอ สองมือขนาบข้างลำตัวของเธอวางทาบลงไปบนโต๊ะ อยู่ในท่าที่กักขังเธอไว้ให้อยู่ในพื้นที่ของเขาโดยสิ้นเชิง

 

 

ไม่เหลือช่องทางให้เธอหาโอกาสหลบหนีได้เลย

 

 

รับรู้ได้ถึงการแสดงความเป็นเจ้าของที่แรงกล้า

 

 

เฉินฝานซิงมองเข้าไปในดวงตาที่ดำสนิทราวกับน้ำหมึกของเขา พบว่าภายในมีประกายเย็นชาปกคลุมอยู่ชั้นหนึ่ง

 

 

ทำให้เกิดรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา “ฉัน…ฉันไม่ได้…อุ๊บ…”

 

 

ริมฝีปากของเธอถูกประทับจูบเข้าอย่างจัง ปลายลิ้นที่มีกลิ่นสดชื่นเป็นเอกลักษณ์ของเขารุกล้ำเข้าไปทำให้เธอเผยอแนวฟันออกอย่างง่ายดาย จากนั้นลิ้นของเขาก็ตวัดไปมาอยู่ในปากของเธอจนทั่วทุกจุด ฉวัดเฉวียนราวกับลมพายุหมุน…

 

 

ดูเหมือนเขาจะเอาความโกรธที่พยายามข่มไว้ก่อนหน้านี้มาลงกับจูบนี้จนหมด

 

 

เฉินฝานซิงไม่ชอบการจูบที่คลุมเครือไม่ชัดเจนแบบนี้

 

 

เธอยื่นมือออกไปผลักบ่าของเขา แต่ป๋อจิ่งชวนกลับออกแรงคล้องเอวเธอไว้ พร้อมกับอุ้มเธอขึ้นไปบนโต๊ะทำงานทันที

 

 

และตลอดระยะเวลานั้น เขาไม่เคยปล่อยช่องว่างให้เธอเลยแม้แต่น้อย เอาแต่จูบเธออย่างนั้นไม่ยอมปล่อย

 

 

ฟันของเขาขบลงไปบนริมฝีปากของเธอ จากนั้นก็ปล่อยออก แล้วก็ขบลงไปอีกครั้ง ทำแบบนั้นอยู่ซ้ำๆ

 

 

 ในแต่ละครั้ง เฉินฝานซิงกลัวว่าเขาจะออกแรงกัดเธอมากเกินไปจนทำให้เธอต้องปากแตกเลือดไหล

 

 

 แต่เขาก็ไม่ได้ทำแบบนั้นเลยสักครั้ง เขาเพียงแต่ออกแรงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ บดขยี้ให้ริมฝีปากของเธอให้รับรู้ถึงความเจ็บปวด ขณะเดียวกันก็เป็นการทำให้เธอรู้สึกกดดันด้วย

 

 

ในที่สุดเธอก็ทนรับกับความทรมานแบบนี้ไม่ไหว เธออยากจะหลีกหนีออกมา ทว่าเขากลับประชิดเข้ามาด้วยความร้อนแรงยิ่งกว่าเดิม!

 

 

เธอได้แต่หาช่องว่างเพื่อส่งเสียงออกมา “อย่า…อย่ากัด…”

 

 

ป๋อจิ่งชวนไม่ยอมหยุด

 

 

เขาอยากจะกัดลงไปจริงๆ ให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย ถ้าเธอรู้จักกับคำว่าเจ็บแล้ว เธอก็จะได้รู้ว่า ตอนนี้มีเพียงเขาคนเดียวเท่านั้นที่มีสิทธิ์ทำแบบนี้กับเธอ

 

 

 แต่เขาก็ยังคงทำใจกัดลงไปไม่ได้อยู่ดี

 

 

เพียงแค่บรรจงจูบทั่วทุกมุมปากของเธอ แล้วค่อยๆ เลื่อนริมฝีปากไปบริเวณใบหู ลมหายใจที่เร่าร้อนแผดเผาอย่างรุนแรง

 

 

ร่างกายของเฉินฝานซิงเริ่มสั่นสะท้าน นิ้วมือที่วางอยู่บนไหล่ของเขาค่อยๆ งอเข้าหากันเนื่องจากถูกชายหนุ่มคลอเคลียบริเวณหู

 

 

เขารับรู้ถึงจุดอ่อนไหวของเธอได้ในทันที

 

 

ครั้นแล้วก็ใช้ปลายลิ้นตวัดไปยังติ่งหูที่อ่อนนุ่มของเธออย่างไม่ลังเล

 

 

ขณะนั้นเอง เสื้อเชิ้ตก็ของเธอถูกกระชากลงมาจนเผยให้เห็นไหล่ข้างซ้าย

 

 

สายเสื้อในสีดำพาดอยู่บนบ่าที่เห็นกระดูไหปลาร้าชัดเจนของเธอ ผิวหนังขาวเนียนที่เต่งตึงอวบอิ่มบริเวณขอบชั้นในกระเพื่อมเบาๆ

 

 

ดวงตาดำทมิฬของเขาหรี่ลงเล็กน้อยในทันที มือที่วางอยู่บนเอวของเธอค่อยๆ เลิกชายเสื้อขึ้น ก่อนที่ฝ่ามืออุ่นๆ ของเขาจะประทับลงไปบนผิวหนังช้าๆ

 

 

ร่างกายหญิงสาวที่แต่เดิมสั่นเทาเพียงเล็กน้อยเริ่มสั่นสะท้าน เธอสูดหายใจเข้าเต็มปอดหนึ่งเฮือก ในหัวสมองพลันมีแสงสีขาวสว่างวาบขึ้นมา จากนั้นก็หันหน้าหนีเพื่อหลบจูบของชายหนุ่มพร้อมกับยื่นมือออกไปผลักเขา

 

 

“ป๋อจิ่งชวน!”

 

 

ทันใดนั้น โทนเสียงที่สูงขึ้นกว่าเดิมขึ้นมากของเธอทำให้ป๋อจิ่งชวนหยุดชะงักทุกอิริยาบถของตัวเองในทันที

 

 

เขาละสายตาจากไหล่ซ้ายของเธอแล้วหันมองไปยังใบหน้าคนรัก

 

 

ท่ามกลางแววตาที่เย็นชาของเฉินฝานซิงเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก เธอรีบดึงชายเสื้อที่ตกลงมาจากหัวไหล่ขึ้น ก่อนจะกระชับคอเสื้อไว้แน่น เพื่อปกปิดเรือนร่างของตัวเองให้มิดชิดที่สุด

 

 

สายตาเยือกเย็นคู่นั้นจับจ้องไปที่เขา ภายในแฝงไปด้วยความรู้สึกตัดพ้ออย่างชัดเจน

 

 

ลึกๆ ในใจของป๋อชิ่งชวนเริ่มสั่นคลอน แต่เขากลับปลดกระดุมคอเสื้อออกสองเม็ด ผิดกับเฉินฝานซิงที่กำลังแสดงท่าทีระวังตัวอย่างชัดเจน

 

 

เสื้อเชิ้ตแบรนด์ดังราคาแพงสีขาวสะอาดตาของเขาเกิดรอยยับเนื่องจากท่วงท่าเมือกี้นี้ คอเสื้อที่เปิดโล่งทำให้เห็นผิวเนียนละเอียดและไหปลาร้าของเขาได้อย่างชัดเจน

 

 

ภายในห้องหนังสือมีเพียงความเงียบงัน

 

 

 สายตาเฉยชาแข็งกร้าวของป๋อจิ่งชวนชำเลืองมองทางใบหน้าของเฉินฝานซิง แต่กลับพบว่าดวงตาของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ แต่ทว่ายังคงไว้ซึ่งความดื้อดึงไม่ยอมคนอยู่อย่างเคย

 

 

เขาเม้มริมฝีปากแน่นในทันที หลังจากผ่านไปเพียงชั่ววินาที เขาก็อ้าแขนออกแล้วดึงเฉินฝานซิงเข้าอ้อมกอดโดยไม่สนใจการขัดขืนของเธอ

 

 

 

 

ตอนที่ 216 รู้สึกยังไง

 

 

เขาเม้นริมฝีปากแน่นในทันที หลังจากผ่านไปเพียงชั่ววินาที เขาก็อ้าแขนออกแล้วดึงเฉินฝานซิงเข้าไปไว้ในอ้อมกอดโดยไม่สนใจการขัดขืนของเธอ

 

 

“ปล่อยฉันนะ”

 

 

แน่นอนว่าไม่ปล่อยอยู่แล้ว

 

 

ป๋อจิ่งชวนไม่พูดไม่จา ปล่อยให้เธอดิ้นขัดขืนต่อไป ท่อนแขนที่โอบเธอเอาไว้ค่อยๆ ออกแรงกระชับแน่นขึ้น

 

 

หญิงสาวดิ้นรนไปได้ระยะหนึ่ง ในที่สุดก็ยอมอยู่ในอ้อมกอดของเขาอย่างสงบเสงี่ยม ทำให้รับรู้ได้ถึงความสุขที่แท้จริงของการได้ครอบครองหญิงอันเป็นที่รัก คราวนี้ ป๋อจิ่งชวนถึงแอบถอนหายใจอย่างโล่งอกอยู่ลึกๆ

 

 

“ขอโทษ”

 

 

มือของเขาคล้องอยู่ที่ท้ายทอยของเธอ ใบหน้าของเฉินฝานซิงซุกอยู่ในอ้อมแขนของเขาด้วยสภาพเหนื่อยหอบหลังจากการดิ้นรนเมื่อครู่นี้

 

 

เธอเห็นสายตาของเขาไม่ชัด ไม่เห็นสีหน้าในตอนนี้ของเขา

 

 

แต่กลับรับรู้ได้ถึงความอดทนและระมัดระวังจากน้ำเสียงทุ้มต่ำอ่อนโยนในคำพูดที่เขาเอ่ยขึ้นเมื่อครู่

 

 

เฉินฝานซิงรออยู่เงียบๆ ครู่หนึ่ง หลังจากที่ลมหายใจค่อยๆ กลับมาเป็นปกติแล้วจึงดันไหล่ของเขาออกไป

 

 

ดวงตาสีดำสนิทของป๋อจิ่งชวนจ้องเธออย่างไม่วางสายตา มือยังคงโอบเอวเธอไว้เพื่อกักเธอไว้ในอ้อมแขนของตัวเองอย่างเดิม คอยระวังไม่ให้เธอมีโอกาสหนีออกไปได้

 

 

เฉินฝานซิงนั่งอยู่บนโต๊ะหนังสือ ใบหน้าที่ใสสะอาดของเธอนิ่งเรียบ นัยน์ตาที่สุกใสราวกับแอ่งน้ำคู่นั้น สะท้อนให้เห็นน้ำรื้นขึ้นในขอบตา

 

 

“ฉันบอกแล้ว ฉันกับสวี่ชิงจือเป็นแค่เพื่อนสนิทกัน วันนี้มันก็แค่อารมณ์ชั่ววูบของเธอ…”

 

 

ระหว่างที่พูด เธอก็สอดส่ายสายตาไปมองยังชายหนุ่มที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงทางสีหน้าใดๆ เลย ทำให้เธอรู้ทันทีว่าไม่ว่าจะพูดอะไรเขาก็ไม่มีทางรับฟังแน่

 

 

เฉินฝานซิงเริ่มมีน้ำโห “คุณกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่ ฉันดูเหมือนเลสเบี้ยนตรงไหนเหรอ ถ้าหากฉันเป็นจริงๆ ฉันจะยอมคบกับคุณ แล้วยังยอมให้คุณจูบฉันอย่างไร้เหตุผลยอยู่ได้ยังไง”

 

 

คิ้วของป๋อจิ่งชวนขยับเล็กน้อย แขนที่โอบเธอเอาไว้ออกแรงมากขึ้นกว่าเดิมเพื่อดึงเฉินฝานซิงเข้ามาใกล้ตัวเองให้มากขึ้นอีก

 

 

“ผมกำลังคิดอะไรงั้นเหรอ”

 

 

นัยน์ตาดำขลับจ้องเธอเขม็ง เขาช้อนคางของเธอขึ้นมาเพื่อให้สบตากันโดยตรง

 

 

น้ำเสียงทุ้มต่ำแหบเครือ “แล้วคุณว่าผมคิดอะไรอยู่ล่ะ หืม?”

 

 

เฉินฝานซิงจ้องเขาตอบอย่างไม่เกรงกลัว ทั้งยังพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “คุณหึงจนหน้ามืดตามัวเกินไปแล้ว”

 

 

“หึง?” ป๋อจิ่งชวนนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะยิ้มมุมปาก “ใช่ คุณพูดถูกแล้ว ผมกำลังหึง เพราะงั้นต่อไปคุณต้องรักษาระยะห่างกับเธอ ผมไม่ชอบเธอ…”

 

 

“ตอนนี้คุณหึงแม้กระทั่งกับผู้หญิง!” เฉินฝานซิงถลึงตาใส่เขา  เขารู้หรือเปล่าว่าประเด็นสำคัญอยู่ตรงไหนกันแน่

 

 

“ผู้หญิงที่ป่าวประกาศว่าจะแต่งงานกับคุณ ดึกดื่นเที่ยงคืนยังส่งหนังแบบนี้มาให้คุณดู คุณจะให้ผมนิ่งดูดาย? หรือจะบอกว่า…รอให้คุณค่อยๆ เบี่ยงเบนไปทีละนิด จนวันดีคืนดี จู่ๆ คุณก็มาบอกกับผมว่าคุณเปลี่ยนรสนิยมทางเพศ ตกหลุมรักเธอเข้าแล้ว ผมถึงจะมีสิทธิ์หึงงั้นเหรอ หือ?”

 

 

“…”

 

 

เฉินฝานซิงสะดุดกึก  ถ้าจะพูดแบบนี้ล่ะก็…

 

 

ลึกลงไปในดวงตาของป๋อจิ่งชวนแฝงไปด้วยรอยยิ้มจางๆ ปลายจมูกค่อยๆ ถูไถลงไปบนเนื้อแก้มที่เนียนละเอียดของเธอเบาๆ “ไหน บอกผมที ดูหนังเมื่อกี้แล้วรู้สึกยังไง”

 

 

เฉินฝานซิงหงายเงิบ

 

 

ความรู้สึก?

 

 

ความรู้สึกของเธอสำคัญขนาดไหนกันเชียว ใครๆ ถึงต้องได้อยากรู้กันนัก!

 

 

“ก็…ไม่ได้รู้สึกอะไร…” เธอถูกเขาเสียดสีจนรู้สึกจักจี้ จึงเบนหน้าไปทางด้านข้างเล็กน้อย

ช้าก่อนคุณป๋อ! ครั้งนี้ขอเป็นรักสุดท้าย

ช้าก่อนคุณป๋อ! ครั้งนี้ขอเป็นรักสุดท้าย

หลังจากแม่ของเธอจากไป เฉินฝานซิง ก็ถูกพ่อและย่าแท้ๆ ของตัวเองขับไสไล่ส่งไปตายเอาดาบหน้าในประเทศต่างแดนอันแสนทุรกันดาร ทว่าเธอไม่ใช่ผู้หญิงเคี้ยวง่ายอย่างที่คิด ด้วยสมองและสองมือ ในที่สุดเฉินฝานซิงก็หนีกลับมาจากนรกขุมนั้นได้ เธอตัดสินใจแยกตัวออกมาจากครอบครัวสารพัดพิษและใช้ชีวิตอยู่ตามลำพัง คอยทุ่มเทพัฒนาบริษัทของคู่หมั้นที่เกือบจะต้องปิดตัวลงและบริษัทเล็กๆ ที่แม่ของเธอทิ้งไว้ กระนั้นความสัมพันธ์รักแปดปีกลับได้มาแค่ความเชื่อใจที่แสนเปราะบาง เพราะคู่หมั้นกลับไปหลงเชื่อคำโกหกของน้องสาวต่างแม่ที่ชอบตีสองหน้าของเธอเสียได้ ในขณะที่แผลใจจากคนรักเก่ายังไม่ทันหายดี ศรัทธาที่มีในชีวิตคู่ก็เริ่มถดถอย เธอเลือกหันหลังให้กับความรักโดยการขดตัวเป็นตัวเม่นและใช้หนามแหลมๆ นั้นปฏิเสธทุกคนที่เข้าหา ทว่าอยู่มาวันหนึ่ง ป๋อจิ่งชวน ผู้ชายจอมเผด็จการคนนั้นก็ก้าวเข้ามาพร้อมหยิบยื่นความรักครั้งใหม่ให้กับเธอโดยไม่เปิดโอกาสให้เธอได้ปฏิเสธมันเลยสักนิด! “การตัดสินใจจีบคุณคือเรื่องของผม สุดท้ายแล้วคุณจะปฏิเสธหรือไม่นั่นก็เรื่องของคุณ แต่ผมจะปฏิเสธคำปฏิเสธของคุณ!”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset