ช้าก่อนคุณป๋อ! ครั้งนี้ขอเป็นรักสุดท้าย – ตอนที่ 21 นายทนทิ้งฉันไว้คนเดียวได้ยังไง

“คนอย่างฉันเฉินฝานซิง ถ้าอยากทำอะไรแล้วไม่ว่าเรื่องนั้นจะดีหรือร้าย ฉันก็จะทำมันอย่างเปิดเผย! ฉันยอมเป็นคนเลวที่ซื่อตรง แต่ไม่ขอเป็นคนต่ำๆ ที่ดีแต่ตีสองหน้า ทำตัวหลบๆ ซ่อนๆ คอยยุแยงให้คนเขาแตกกัน!”  

 

 

ใบหน้าของซูเหิงเต็มไปด้วยคำถาม เขาก้มลงมองร่างกายที่บอบช้ำของคนที่กำลังสะอึกสะอื้นอยู่ในอ้อมแขน ดวงตาที่ฉาบไปด้วยความลังเล  

 

 

เนื่องจากความเข้าใจของเข้าที่มีต่อเฉินฝานซิง…  

 

 

“พี่เหิงฉันเสียโฉมไปแล้วยัง…ต่อไปฉันจะยังแสดงละครได้อีกไหม…ฉันไม่รู้…ว่าถ้าฉันไม่แสดงละครแล้วฉันยังจะทำอะไรได้อีก… ฮือๆ ฮือ…”  

 

 

แววตาของซูเหิงย้อมไปด้วยความสงสารจับใจ เขาจับผมที่เปียกปอนของเธออย่างเบามือนำเอามันไปวางไว้ที่ไหล่ข้างหนึ่ง  

 

 

น้ำเสียงอันเปี่ยมไปด้วยความอบอุ่นเอ่ยขึ้น  

 

 

“ยังไม่มีตรงไหนเสียโฉม เธอยังแสดงละครได้อยู่ เธอจะต้องเป็นราชินีแห่งวงการอย่างที่เธอใฝ่ฝันได้แน่ๆ ”  

 

 

เหอะ…  

 

 

เธอหัวเราะหยัน หมุนตัวเดินไปหย่อนก้นลงบนเตียงคนไข้  

 

 

“ในเมื่ออำลาเสร็จแล้ว ก็ช่วยออกไปรักกันให้ไกลๆ ด้วย”  

 

 

ซูเหิงเงยหน้าขึ้นพร้อมกับสายตามองเธอราวกับเป็นคนแปลกหน้า  

 

 

สุดท้ายเขาก็โน้มตัวลงอุ้มคนที่ร้องไห้จนตัวโยนขึ้นมาในอ้อมแขนแล้วสาวเท้าออกไปจากห้อง  

 

 

เฉินฝานซิงลุกขึ้นเดินไปปิดประตูที่เปิดค้างไว้  

 

 

ตัดขาดจากโลกภายนอกไปโดยสิ้นเชิง ทั้งห้องเหลือเธอแค่เพียงคนเดียว เธอพิงร่างเข้ากับประตูค่อยๆ ข่มดวงตาอันดื้อรั้นและเย็นชานั้นลง  

 

 

เหลือเพียงแค่ความอ่อนระโหยโรยแรง  

 

 

เธอไม่เคยเข้าใจเลยว่าทำไมคนบางคนถึงได้มีเป้าหมายในการใช้ชีวิตมากมายขนาดนั้น!  

 

 

อาหารที่วางอยู่บนชั้นนั่นเธอก็ไม่มีอารมณ์จะกินแล้ว เธอนั่งพิงหัวเตียงเหม่อมองสีสันอันสวยงามของท้องฟ้าจากนอกหน้าต่างผ่านสายตาอันเรียบเฉย  

 

 

ก่อนหน้าไม่ทันสังเกต เพิ่งจะมารับรู้เอาวันนี้ว่ารสชาติชีวิตของคนคนหนึ่งมันช่างอ้างว้างจนเหน็บหนาวไปทั้งกาย  

 

 

ซูเหิง…  

 

 

นายทนทิ้งฉันไว้เอาคนเดียวได้ยังไง…  

 

 

หลังจากที่ใครๆ ก็พากันจากฉันไปหมด แม้แต่คนที่ฉันเหลืออยู่เพียงคนเดียวอย่างนายก็ยังทิ้งฉันไป  

 

 

นายนี่มันใจร้ายใจดำเกินไปแล้ว ในยามที่ฉันคิดว่าฉันยังมีนาย มีแค่นายเท่านั้น แต่นายก็ทิ้งฉันไปจนได้…  

 

 

เฉินฝานซิงไม่สามารถหยุดยั้งความเศร้าโศกที่กัดกินในใจได้  

 

 

เธอก็เป็นคนนะ เป็นมนุษย์ธรรมดาๆ คนหนึ่ง หัวใจของเธอก็ทำขึ้นจากก้อนเนื้อ  

 

 

เห็นแก่ตัวได้ ท้อได้ มีความต้องการเหมือนคนทั่วๆ ไป สุขก็ได้เศร้าก็เป็นให้เธอเข้มแข็งกว่านี้ แล้วต้องเข้มแข็งไปถึงเมื่อไหร่กันล่ะ  

 

 

ลมหนาวพัดเข้ามาผ่านหน้าต่าง ความหนาวปลุกเธอขึ้นจากภวังค์ในทันที ร่างกายสั่นเทาเล็กน้อยในขณะเดียวกันนั้นโทรศัพท์ที่วางอยู่บนหัวเตียงก็ได้ดังขึ้น  

 

 

เสื้อคลุมที่เธอใส่บนดาดฟ้าเรือวันนั้น รวมทั้งกระเป๋าถือและโทรศัพท์ทั้งหมดอยู่ในห้องผู้ป่วย  

 

 

ถ้าถามว่าใครที่เป็นคนละเอียดอ่อนขนาดนี้ เธอก็รู้ได้โดยไม่ต้องคิดให้เหนื่อย นี่เป็นฝีมือของเพื่อนที่ดีที่สุดเท่าที่เกิดมาอย่างซวี่ชิงจือนั่นเอง  

 

 

เธอดูรายชื่อโทรเข้าอีกครั้ง ในเวลานี้คนที่โทรหาเธอก็ไม่ใช่ใครที่ไหนนอกจากเพื่อนของเธอคนนี้  

 

 

เธอลอบถอนหายใจก่อนจะกดรับสาย  

 

 

“ชิงจือ”  

 

 

“อื้ม ขอโทษทีนะฝานซิง สองวันนี้ที่บริษัทยุ่งจนตัวเป็นเกลียวเลยล่ะ ไม่ได้ไปเยี่ยมเธอเลย…”  

 

 

“ฉันเข้าใจ เธอไม่ต้องเป็นห่วงตอนนี้ฉันโอเคแล้ว ฉันไม่เป็นไรตั้งแต่แรกแล้ว ยิ่งตอนนี้ยิ่งสบายมาก”  

 

 

เฉินฝานซิงพูดอย่างเข้าใจ  

 

 

ซวี่ชิงจือมือบริษัทเครื่องสำอางเป็นของตัวเอง ก่อนหน้านี้ก็หาโรงงานเพื่อผลิตให้แต่ทว่าสถานการณ์แบบนี้ ระหว่างทางมักจะเผชิญกับปัญหาต่างๆ นานา ทั้งเรื่องส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ ราคา การแอบตัดลดวัสดุและคุณภาพของสินค้าเป็นต้น แต่ละครั้งปัญหาที่เข้ามาไม่เคยซ้ำกัน ซวี่ชิงจือโมโหจนต้องตบโต๊ะลุกพรวดขึ้นแล้วตัดสินใจจัดตั้งโรงงานเป็นของตัวเอง  

 

 

นี่ก็เป็นช่วงที่กำลังยุ่งอยู่พอดี เธอเข้าใจดี  

 

 

ซวี่ชิงจือเงียบไปสักพัก “…ฉันได้ข่าวว่าซูเหิงเขา…”  

ช้าก่อนคุณป๋อ! ครั้งนี้ขอเป็นรักสุดท้าย

ช้าก่อนคุณป๋อ! ครั้งนี้ขอเป็นรักสุดท้าย

หลังจากแม่ของเธอจากไป เฉินฝานซิง ก็ถูกพ่อและย่าแท้ๆ ของตัวเองขับไสไล่ส่งไปตายเอาดาบหน้าในประเทศต่างแดนอันแสนทุรกันดาร ทว่าเธอไม่ใช่ผู้หญิงเคี้ยวง่ายอย่างที่คิด ด้วยสมองและสองมือ ในที่สุดเฉินฝานซิงก็หนีกลับมาจากนรกขุมนั้นได้ เธอตัดสินใจแยกตัวออกมาจากครอบครัวสารพัดพิษและใช้ชีวิตอยู่ตามลำพัง คอยทุ่มเทพัฒนาบริษัทของคู่หมั้นที่เกือบจะต้องปิดตัวลงและบริษัทเล็กๆ ที่แม่ของเธอทิ้งไว้ กระนั้นความสัมพันธ์รักแปดปีกลับได้มาแค่ความเชื่อใจที่แสนเปราะบาง เพราะคู่หมั้นกลับไปหลงเชื่อคำโกหกของน้องสาวต่างแม่ที่ชอบตีสองหน้าของเธอเสียได้ ในขณะที่แผลใจจากคนรักเก่ายังไม่ทันหายดี ศรัทธาที่มีในชีวิตคู่ก็เริ่มถดถอย เธอเลือกหันหลังให้กับความรักโดยการขดตัวเป็นตัวเม่นและใช้หนามแหลมๆ นั้นปฏิเสธทุกคนที่เข้าหา ทว่าอยู่มาวันหนึ่ง ป๋อจิ่งชวน ผู้ชายจอมเผด็จการคนนั้นก็ก้าวเข้ามาพร้อมหยิบยื่นความรักครั้งใหม่ให้กับเธอโดยไม่เปิดโอกาสให้เธอได้ปฏิเสธมันเลยสักนิด! “การตัดสินใจจีบคุณคือเรื่องของผม สุดท้ายแล้วคุณจะปฏิเสธหรือไม่นั่นก็เรื่องของคุณ แต่ผมจะปฏิเสธคำปฏิเสธของคุณ!”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset