ช้าก่อนคุณป๋อ! ครั้งนี้ขอเป็นรักสุดท้าย – ตอนที่ 22 เธอคู่ควรกับคนที่ดีกว่านี้

เธอยังไม่ทันได้พูดจบบรรยากาศก็ดูอึดอัดขึ้นมา  

 

 

“ช่างมันเหอะเนาะ ในชีวิตนึง ใครบ้างที่ไม่เคยเธอผู้ชายห่วยๆ ยังจำวันที่เธอปลอบตอนฉันอกหักสมัยเรียนมหาลัยได้ไหม”  

 

 

“…”  

 

 

ดวงตาของเธอวูบไหว ไร้ซึ่งเสียงตอบรับ สวี่ชิงจือผ่อนลมหายใจเบาๆ กดเสียงพูดต่อไป  

 

 

“คนเรามาจากร้อยถิ่นฐานบ้านเกิด ไม่ต้องถามว่ามาจากไหน การปรับตัวไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ โลกเราเต็มไปด้วยดอกไม้ที่หอมหวน ซูเหิงเป็นเพียงแค่คนที่ผ่านเข้ามาในชีวิตเธอ ไม่จำเป็นต้องจมปลักกับเข้านาน ฝานซิง เธอโดดเด่นขนาดนี้ เธอควรที่จะได้เจอคนที่ดีกว่านี้นะ”  

 

 

เธอควรที่จะได้เจอคนที่ดีกว่านี้…  

 

 

ฝ่ามือที่ถือโทรศัพท์อยู่กำแน่น ใบหน้าของคนที่ทั้งรู้สึกคุ้นเคยแต่ก็ไม่คุ้นเคยฉายชัดขึ้นในสมอง  

 

 

ถึงแม้จะเป็นช่วงสั้นๆ แต่ก็ทำเอามุมปากยกขึ้นบางๆ  

 

 

นี่เธอคงโกรธจนเลอะเทอะไปหมดแล้ว เรื่องห่างกันคนละขั้วโลกขนาดนั้นยังจะลากมาโยงกันได้อีก  

 

 

“ฝานซิง…โอเคใช่ไหม”  

 

 

เธอตื่นจากห้วงความคิด “…ฉันโอเค ก็แค่กำลังคิดว่า…เธอพูดถูก”  

 

 

ปลายสายถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก “ดีแล้วล่ะ ดูแลตัวเองดีๆ นะ ฉันคงต้องไปสะสางงานต่อละ…”  

 

 

“โอเค…”  

 

 

ขณะที่สายกำลังจะถูกตัดไป เสียงของจากปลายสายก็ได้รั้งเธอเอาไว้  

 

 

“เดี๋ยวก่อนฝานซิง!”  

 

 

“หื๊ม?”  

 

 

“แล้ว…เธอจะยังทำงานที่บริษัทของซูเหิงอยู่อีกไหม”  

 

 

เฉินฝานซิงนิ่งไปสักพัก เรื่องนี้เธอเองก็ไม่เคยคิดถึงมาก่อน  

 

 

“คืออย่างนี้นะ ฝ่ายวิจัยและพัฒนาของเรากำลังขาดคนที่มีฝีมือ ถ้าเธอไม่อยากทำงานกับซูเหิงแล้ว เธอมาช่วยฉันก่อนได้ไหม ฉันรู้ว่าเธอยังต้องดูแลบริษัทซิงเฉินกั๋วจี้ที่คุณหน้าทิ้งไว้ให้ แต่จริงๆ แล้วทางนี้…”  

 

 

เฉินฝานซิงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยขึ้นเสียงแผ่วเบา  

 

 

“ในเมื่อเลิกกันแล้ว ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องทำงานให้เขาต่อ ไหนๆ หลายปีมานี้ฉันก็ทำงานหนักจนชิน ถ้าเกิดเธอต้องการฉัน ฉันก็พร้อมทุกเมื่อ”  

 

 

“อา…ที่ร๊าก เธอช่วยชีวิตฉันไว้จริงๆ ถ้าเธอต้องการให้ฉันช่วยอะไรขอให้บอกฉันนะ ไม่ว่าจะรินน้ำ บีบไหล่ นวดขา หรือต่อให้ฉันถวายชีวิตให้ฉันก็ยอม แค่ให้ฉันได้ทำเพื่อเธอแค่นี้ก็คุ้มแล้ว…”  

 

 

สวี่ชิงจือไม่เคยมีความสุขขนาดนี้มาก่อน ทำให้ในใจของเธออัดอั้นตันใจ  

 

 

เธอหัวเราะในลำคอ “เวอร์อะไรขนาดนั้น…”  

 

 

“แบบฉันเรียกว่าเวอร์เหรอ ไม่มีใครในโลกนี้โชคดีไปกว่าฉันแล้วรู้ปะ ต้องรู้ว่าเธอ…”  

 

 

“จ้าๆ ใจเย็นๆ นะ มีเรื่องต้องทำไม่ใช่หรือไง รีบไปสิ”  

 

 

“รับทราบ!”  

 

 

สวี่ชิงจือแก้ไขปัญหาหนักใจไปได้แล้วเรื่องหนึ่ง น้ำเสียงฟังดูดีกว่าตอนแรกเยอะก่อนจะกดวางสายไปอย่างสะอดสะใจ  

 

 

หลังจากสายถูกตัดไป ความเสียใจก่อนหน้าได้ทุเลาลงไปบ้าง ขณะกำลังจะลุกขึ้นออกไปเดินสูดอากาศข้างนอกโทรศัพท์ก็ดังขึ้นอีกครั้ง  

 

 

เธอชะงักไปเล็กน้อย หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู หน้าจอโชว์ให้เห็นเบอร์โทรศัพท์จากคนไม่รู้จัก  

 

 

ครุ่นคิดอยู่สักครู่ ก็นึกได้ว่าคงเป็นลูกค้าจากบริษัทของซูเหิงจึงตัดสินใจกดรับสาย  

 

 

“เหวย สวัสดีค่ะ” น้ำเสียงเอ่ยขึ้นอย่างเป็นทางการด้วยความเคยชิน  

 

 

“…เหวย…เหวย! ฝานซิงใช่ไหม”  

 

 

น้ำเสียงที่ดูมีชีวิตชีวาเป็นพิเศษดังขึ้น แต่ยังคงพอจะฟังออกว่าเจ้าของน้ำเสียงนี้มีอายุไม่น้อยแล้ว  

 

 

ดวงตาสุกใสฉายความเคลือบแคลง  

 

 

“ใช่ค่ะ คุณคือ…”  

 

 

“นี่ย่าเอง ก็วันนั้น…ที่ใต้ต้นจือจื่อฮวาไง ย่าได้ยินว่าหนูอยากพบย่า…”  

 

 

แววตาคลุมเครือเมื่อครู่ได้แปรเปลี่ยนเป็นความกระจ่างชัดในชั่วพริบตา  

 

 

“ใช่ค่ะ คุณย่า ก็ตอนนั้นสัญญาไว้แล้วไปจะไปอยู่คุยเป็นเพื่อน ผ่านมาตั้งหลายวันแล้วต้องขอโทษจริงๆ นะคะ”  

 

 

“ไม่ใช่เรื่องใหญ่ สุขภาพหนูต้องมาก่อน! งั้น…ถ้าไม่ว่าอะไรก็มาตอนนี้เลยสิ ย่าจะให้อวี๋ซงไปรับนะ”  

 

 

เฉินฝานซิงมองดูอากาศข้างนอก แล้วยิ้มขึ้น  

 

 

“ค่ะ”  

ช้าก่อนคุณป๋อ! ครั้งนี้ขอเป็นรักสุดท้าย

ช้าก่อนคุณป๋อ! ครั้งนี้ขอเป็นรักสุดท้าย

หลังจากแม่ของเธอจากไป เฉินฝานซิง ก็ถูกพ่อและย่าแท้ๆ ของตัวเองขับไสไล่ส่งไปตายเอาดาบหน้าในประเทศต่างแดนอันแสนทุรกันดาร ทว่าเธอไม่ใช่ผู้หญิงเคี้ยวง่ายอย่างที่คิด ด้วยสมองและสองมือ ในที่สุดเฉินฝานซิงก็หนีกลับมาจากนรกขุมนั้นได้ เธอตัดสินใจแยกตัวออกมาจากครอบครัวสารพัดพิษและใช้ชีวิตอยู่ตามลำพัง คอยทุ่มเทพัฒนาบริษัทของคู่หมั้นที่เกือบจะต้องปิดตัวลงและบริษัทเล็กๆ ที่แม่ของเธอทิ้งไว้ กระนั้นความสัมพันธ์รักแปดปีกลับได้มาแค่ความเชื่อใจที่แสนเปราะบาง เพราะคู่หมั้นกลับไปหลงเชื่อคำโกหกของน้องสาวต่างแม่ที่ชอบตีสองหน้าของเธอเสียได้ ในขณะที่แผลใจจากคนรักเก่ายังไม่ทันหายดี ศรัทธาที่มีในชีวิตคู่ก็เริ่มถดถอย เธอเลือกหันหลังให้กับความรักโดยการขดตัวเป็นตัวเม่นและใช้หนามแหลมๆ นั้นปฏิเสธทุกคนที่เข้าหา ทว่าอยู่มาวันหนึ่ง ป๋อจิ่งชวน ผู้ชายจอมเผด็จการคนนั้นก็ก้าวเข้ามาพร้อมหยิบยื่นความรักครั้งใหม่ให้กับเธอโดยไม่เปิดโอกาสให้เธอได้ปฏิเสธมันเลยสักนิด! “การตัดสินใจจีบคุณคือเรื่องของผม สุดท้ายแล้วคุณจะปฏิเสธหรือไม่นั่นก็เรื่องของคุณ แต่ผมจะปฏิเสธคำปฏิเสธของคุณ!”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset