ช้าก่อนคุณป๋อ! ครั้งนี้ขอเป็นรักสุดท้าย – ตอนที่ 30 เซนส์แรง

“นายหญิงอา…”  

 

 

ความหนักใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าของบ่าว ก่อนเธอจะค่อยๆ ก้มลงไปกระซิบที่ข้างหู  

 

 

หลังจากที่คิดกลับไปกลับมาสักพักความหนักใจก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าเช่นกัน  

 

 

“ฉัน…ฉันหมายถึง แกไม่พักผ่อนเหรอถึงได้ลงมาเร็วขนาดนี้”  

 

 

ป๋อจิ่งชวนเม้มปากเข้าหากันก่อนจะสาวเท้าลงมาพลางพูดขึ้น:  

 

 

“ห้องผมโดนยึดไปแล้วจะให้พักผ่อนได้ยังไง”  

 

 

“เตียงออกตั้งกว้างขวาง ไม่ได้คับแคบซะหน่อย!” หญิงชราสวนกลับอย่างไม่ลังเล  

 

 

“…”  

 

 

ห้องรับแขกอันใหญ่โตเงียบสนิท  

 

 

เฉินฝานซิงที่เปลี่ยนเสื้อผ้าเดินลงมาได้ยินเข้ากับเสียงบ่นพึมพำของผู้อาวุโสสกุลป๋อเข้าพอดีใบหน้าสวยจึงฉายแววหนักใจ  

 

 

“คุณย่า…”  

 

 

มองไปยังอีกคนที่มาปรากฏตัวข้างหลังของคุณชาย ไหลหรงจึงได้มีท่าทีหนักใจ  

 

 

เมื่อไหร่ที่อยู่ต่อหน้าหลานทั้งสองจะต้องทำตัวเป็นเด็กๆ ทุกครั้งไป  

 

 

หญิงชรารู้สึกเสียดายในใจ เบนสายตาไปมองเฉินฝานซิงที่อยู่ที่บันไดปราดนึง  

 

 

รอยยิ้มจึงปรากฏขึ้นบนใบหน้าที่ห่อเ**่ยวอีกครั้ง เธอกวักมือเรียกเฉินฝานซิง  

 

 

“ฝานซิงตื่นแล้วเหรอ หลับสบายดีไหม จิ่งชวนไปกวนให้ตื่นใช่หรือเปล่า”  

 

 

ใช้อ่างอาบน้ำของป๋อจิ่งชวน สวมเสื้อคลุมอาบน้ำของป๋อจิ่งชวน นอนบนเตียงของป๋อจิ่งชวน!  

 

 

เธอรู้หมดแล้วว่าเรื่องพวกนี้เป็นสิ่งที่หญิงชราตั้งใจให้เกิดขึ้น แต่เมื่อต้องมาเผชิญหน้ากับสีหน้าที่รักใคร่เอ็นดูแบบนี้ เธอเองก็ไม่สามารถที่จะแสดงความไม่พอใจได้!  

 

 

ความรักและทะนุถนอมที่หาได้ยากใจชีวิตจริง เธอจะไม่พอใจได้ยังไง  

 

 

ยิ้มจางๆ พร้อมพยักหน้ารับให้กับหญิงชรา  

 

 

“หลับสบายมากค่ะคุณย่า”  

 

 

“งั้นก็ดีเลย”  

 

 

ลากเฉินฝานซิงมานั่งตรงโซฟา  

 

 

โดยมีป๋อจิ่งชวนอยู่ข้างกาย  

 

 

ตรงคอเสื้อของเสื้อเชิ้ตสีขาวถูกเปิดเอาไว้ แต่ยังคงความเป็นระเบียบเอาไม่โดยไร้รอยยับยู่ยี่  

 

 

เขาพิงเข้ากับโซฟาหนังแท้ โน้มหน้าลงต่ำเล็กน้อย ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่ในใจ ปากบางคลี่ยิ้มบางเฉียบแทบจะมองไม่ออก มองท่าทีอวดดีที่ซึ่งเป็นเอกลักษณ์นั้นด้วยท่าทีอ่อนลง  

 

 

ท่าทีราบเรียบ ท่าทางสุขุมอย่างคุณชายผู้มีอิทธิพล  

 

 

เขานั่งอย่างเงียบสงบ ราวกับว่ากำลังฟังบทสนทนาของเธอและหญิงชราอยู่  

 

 

ไม่พูดไม่ได้ว่า ว่าเซนส์ของเขาแรงอย่างไม่น่าเชื่อจน เฉินฝานซิงเองไม่สามารถประมาทมันได้  

 

 

ระหว่างนั้น เขานั่งตัวตรง แขนยาวยืดออกไปมือกว้างผิวขาวสวยยื่นไปเลือกผลไม้บนโต๊ะน้ำชา  

 

 

ก่อนจะหยิบแอปเปิลสีแดงลูกใหญ่มาลูกหนึ่ง  

 

 

ฝ่ามือกว้างถือแอปเปิลด้วยมือเดียวแถมยังเกี่ยวเอามีดปอกผลไม้ติดมือมาด้วย  

 

 

เฉินฝานซิงอดใจที่จะหันไปมองเขาไม่ได้ แต่ได้เห็นเขานั่งหลังตรง สองมือวางไว้บนเข่าทั้งสองข้าง สายตาจ้องมองเขม็งไปยังสองมืออย่างจดจ่อ เปลือกแอปเปิลสีแดงสดขอบสีขาวค่อยๆ ยาวขึ้นเรื่อยๆ จนห้อยลงมาได้ครึ่งหนึ่ง  

 

 

เฉินฝานซิงมีท่าทีแปลกใจ นึกไม่ถึงว่าชายคนนี้จะลงมือปอกผลไม้ได้ด้วยตัวเอง  

 

 

นายหญิงสกุลป๋อเองก็อดไม่ได้ที่จะลอบมองหลานชายตัวเอง น้อยครั้งที่เธอจะเห็นเขาในบริบทแบบนี้  

 

 

แต่ตอนนี้เธอไม่อยากจะสนเขา ประเคนผู้หญิงให้ถึงเตียงแล้วไม่รู้จักจะคว้าไว้  

 

 

หงุดหงิดนัก!  

 

 

เธอบุ้ยปากมองหลานชาย ก่อนจะหันไปถามเฉินฝานซิงต่อ  

 

 

“ฝานซิงอา ตอนนี้หนูทำงานอะไรอยู่”  

 

 

เธอนิ่งไปนิด “…พัฒนาสูตรน้ำหอมค่ะ แล้วก็ยังดูแลบริษัทพีอาร์เล็กๆ ที่คุณแม่ทิ้งไว้ให้”  

 

 

ทิ้งไว้ให้?   

 

 

สามคำนี้ทำให้นายหญิงสกุลป๋อตะลึงงัน กุมมือเฉินฝานซิงเอาไว้แน่น  

 

 

ป๋อจิ่งชวนเงยหน้าขึ้น ดวงตาสีนิลทอประกายหม่นหมอง  

 

 

“ยุ่งขนาดนั้นเชียว ดูแลบริษัทไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลยนะ” ผู้อาวุโสสกุลป๋อถาม  

 

 

“ค่ะ เมื่อก่อนเป็นบริษัทของบ้านสกุลซู…”  

 

 

นึกถึงซูเหิง คำพูดของเธอก็หยุดลงกลางคัน  

 

 

เธอตึงคิ้วเล็กน้อยแล้วผู้ต่อ  

 

 

“กำลังจะลาออกแล้วค่ะ แต่เพื่อนดันขาดลูกมืออยู่พอดี หนูก็เลยตั้งใจว่าออกจากโรงพยาบาลแล้วจะไปช่วยทางนั้น”  

 

 

“บริษัทอะไร”  

 

 

ในที่สุดป๋อจิ่งชวนก็เอ่ยปากขึ้น พร้อมทั้งยื่นเนื้อแอปเปิลสีขาวที่ถูกปอกเสร็จแล้วส่งให้เธอ  

ช้าก่อนคุณป๋อ! ครั้งนี้ขอเป็นรักสุดท้าย

ช้าก่อนคุณป๋อ! ครั้งนี้ขอเป็นรักสุดท้าย

หลังจากแม่ของเธอจากไป เฉินฝานซิง ก็ถูกพ่อและย่าแท้ๆ ของตัวเองขับไสไล่ส่งไปตายเอาดาบหน้าในประเทศต่างแดนอันแสนทุรกันดาร ทว่าเธอไม่ใช่ผู้หญิงเคี้ยวง่ายอย่างที่คิด ด้วยสมองและสองมือ ในที่สุดเฉินฝานซิงก็หนีกลับมาจากนรกขุมนั้นได้ เธอตัดสินใจแยกตัวออกมาจากครอบครัวสารพัดพิษและใช้ชีวิตอยู่ตามลำพัง คอยทุ่มเทพัฒนาบริษัทของคู่หมั้นที่เกือบจะต้องปิดตัวลงและบริษัทเล็กๆ ที่แม่ของเธอทิ้งไว้ กระนั้นความสัมพันธ์รักแปดปีกลับได้มาแค่ความเชื่อใจที่แสนเปราะบาง เพราะคู่หมั้นกลับไปหลงเชื่อคำโกหกของน้องสาวต่างแม่ที่ชอบตีสองหน้าของเธอเสียได้ ในขณะที่แผลใจจากคนรักเก่ายังไม่ทันหายดี ศรัทธาที่มีในชีวิตคู่ก็เริ่มถดถอย เธอเลือกหันหลังให้กับความรักโดยการขดตัวเป็นตัวเม่นและใช้หนามแหลมๆ นั้นปฏิเสธทุกคนที่เข้าหา ทว่าอยู่มาวันหนึ่ง ป๋อจิ่งชวน ผู้ชายจอมเผด็จการคนนั้นก็ก้าวเข้ามาพร้อมหยิบยื่นความรักครั้งใหม่ให้กับเธอโดยไม่เปิดโอกาสให้เธอได้ปฏิเสธมันเลยสักนิด! “การตัดสินใจจีบคุณคือเรื่องของผม สุดท้ายแล้วคุณจะปฏิเสธหรือไม่นั่นก็เรื่องของคุณ แต่ผมจะปฏิเสธคำปฏิเสธของคุณ!”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset