ตอนที่ 99 การหลอกใช้ที่โหดเ**้ยม
ทันใดนั้นรูม่านตาของเธอก็ได้หดเล็กลง เธอรู้สึกราวกับว่าเรี่ยวแรงที่ขาพลันถูกสูบออกไป
ฝานซิง แกคิดจะทำให้ย่าต้องผิดหวังในตัวแกไปตลอดใช่ไหม!
คำพูดที่เจียงหรงหรงเอ่ยด้วยความคับแค้นใจปะทุขึ้นในหัว ท่าทีเช่นนั้นปรากฏขึ้นเพียงชั่วพริบตา
อุตส่าห์คิดว่ายังไงซะเขาก็คือย่าของเธอและคงจะเสียใจกับทุกสิ่งที่เคยทำลงไป
สุดท้ายก็กลายเป็นตัวเองที่ต้องเป็นฝ่ายเสียความรู้สึกอีกครั้ง
“จริงๆ แล้วชุดราตรีชุดนี้เป็นชุดที่คุณย่าออกปากขอฉัน! ในเมื่อฉันตั้งใจจะยกให้เธอ นั่นก็หมายความว่าฉันไม่ต้องการมันแล้ว! ถึงมันจะดูเชยไปนิดแต่เธอก็แก่ว่าฉันสองปี ยังไงซะเสื้อผ้าของ Prada ก็เป็นสินค้าระดับสากล รับไปสิ!”
เฉินเชียนโหรวมองอย่างหยามเหยียดพร้อมนำกล่องใบนั้นยัดเข้าไปในอ้อมแขนของเธอ
เฉินฝานซิงถอยหลังไปหนึ่งก้าวแล้วใช้มือปัดกล่องใบนั้นออกไป
จนชุดราตรีสีดำได้ร่วงลงไปเปล่งแสงวับวาวอยู่บนพื้นโคลน
“แก…” เฉินเชียนโหรวโกรธเกรี้ยว
ร่างกายของเธอปกคลุมไปด้วยกลิ่นอายความเยือกเย็น ใบหน้าเย็นชาสีหน้าหม่นหมองและแข็งกร้าว
“ฉันยังไม่ตกต่ำจนถึงขึ้นต้องขอเศษทานจากเธอ! เฉินเชียนโหรว อย่าท้าทายกับเส้นความอดทนของฉันนัก…”
“เชียนโหรว ฝานซิง พวกเธอทำอะไรกันอยู่”
เสียงของซูเหิงดังขึ้นจากทางด้านหน้า ตามมาด้วยเฉินฝานซิงที่เงยหน้าขึ้นมองซูเหิงที่ก้าวยาวๆ มาทางนี้
สายตาของเขาเหลือบไปมองเสื้อผ้าที่กองอยู่บนพื้นก่อนจะดึงเฉินเชียนโหรวเข้ามาหลบในอ้อมแขนของตัวเองตามสัญชาตญาณ
“เกิดอะไรขึ้น”
“พี่เหิง…”
เฉินเชียนโหรวเรียกเขาอย่างแผ่วเบา ใบหน้าบอบบางหน้าทะนุถนอมเต็มไปด้วยสีหน้าจำยอมและความอ่อนแอ หลังจากที่ลังเลอยู่นาน เธอก็ซุกใบหน้าลงกับอ้อมกอดของซูเหิงพร้อมทั้งหยาดน้ำตาที่รินไหล
รูปร่างที่งดงามและน่าทะนุถนอมจนทำให้ใครหลายคนต้องหวั่นไหว แม้ตอนนี้เธอจะยังไม่ได้พูดอะไรออกมา ทว่ากลับทำให้ใครหลายคนเข้าใจความรู้สึกของเธอได้อย่างชัดเจน…
เฉินเชียนโหรวทั้งแสนดี บริสุทธิ์และไร้เดียงสา ที่ตกอยู่ในสภาพแบบนี้จะต้องเป็นเพราะเฉินฝานซิงที่ยืนด้วยท่าทีเย็นชาและแข็งกร้าวอยู่ตรงหน้านี้แน่ๆ ที่เป็นคนกลั่นแกล้งเธอ!
สายตาของซูเหิงกลายเป็นสิ่งที่เธอคุ้นเคยไปเสียแล้วในช่วงเวลานี้
ผิดหวัง ตำหนิ จนปัญญา…ไร้เหตุผล
เฉินฝานซิงกระตุกมุมปากขึ้นอย่างเย้ยหยัน!
“ฝานซิง เธอ…จะนั่งคุยกันดีๆ แบบใจเย็นกันสักครั้งไม่ได้เลยใช่ไหม”
เมื่อกี้เขาเห็นกับตาว่าเธอโยนกล่องที่เฉินเชียนโหรวส่งให้ลงกับพื้น
เธอมองเขาอย่างเย็นชาด้วยหัวใจรู้สึกไม่เข้าใจ แต่ก็ยังคงไม่ละทิ้งรอยยิ้มที่เยือกเย็นและถากถาง
คุยกันเรื่องอะไร
คุยเรื่องที่พวกเธอหักหลังเธอเหรอ มั่วกันยังไม่พอ จะออกงานสังคมด้วยกันทั้งทียังจะเอาเธอไปบังหน้าอีก?
เห็นเธอโง่ขนาดนั้นเชียว
โง่จนถูกหลอกเอาไปใช้เป็นผ้าปิดของน่าบัดสีให้กับพวกนี้?
มันช่างเป็นการหลอกใช้ที่โหดเ**้ยม!
จนสุดท้ายเธอทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอจ้องมองไปยังเขาอย่างถากถางแบบสุดๆ แล้วแค่นหัวเราะออกมา
แม้ว่าเธอกำลังหัวเราะอยู่แต่เขากลับมองไม่เห็นรอยยิ้มในดวงตาของเธอแม้แต่น้อย
“น่าขยะแขยง!”
ความเหยียดหยามค่อยๆ เอ่อล้นขึ้นดวงตาของเธออย่างแจ่มชัด
หัวใจของซูเหิงวูบไหวก่อนจะค่อยๆ จมดิ่งลงอย่างรวดเร็ว ความเจ็บปวดได้แผ่ซ่านขึ้นในจิตใจอย่างช้าๆ
เขาขยับปากเตรียมจะพูดในสิ่งที่หัวใจของตนต้องการจะพูดในขณะนั้น!
ทว่าเสียงร้องไห้กระซิกในอ้อมกอดและร่างกายที่สั่นเทาทำให้เขาเก็บคำพูดนั้นไว้ในลำคอ
สุดท้ายเขาได้แต่เบิกตาโพลงมองเฉินฝานซิงที่เดินเฉียดไหล่เขาไป
ไอแห่งความเยือกเย็นพร้อมทั้งเงาสีขาวได้พัดผ่านข้างลำตัวของพวกเขาไป
อันที่จริงเขาก็รู้สึกได้ตั้งแต่แรกแล้วว่า
วันนี้เฉินฝานซิงแต่งตัวในแบบที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน
ชุดเดรสสีขาวแบบตะวันตก รูปร่างสูงโปร่ง เผยให้เห็นสองขาเล็กๆ ตรงดิ่งและเนียนละเอียด
เมื่อก่อนเคยเป็นหญิงสาวที่แต่งตัวซ้ำๆ ซากๆ นึกไม่ถึงเลยว่าในความแข็งกระด้างนั้นจะมีเสน่ห์ดึงดูดที่ซ่อนอยู่
หัวใจของเขาทำงานอย่างหนักและรู้สึกวุ่นวาย
ตอนที่ 100 เอาเธอไปเป็นผ้าปกปิดของน่าบัดสีให้สองคนนั้น
เฉินซั่งหวาลุกขึ้นนั่งบนเตียง “เธอรู้อยู่แก่ใจ…รู้อยู่แก่ใจว่าฝานซิงและซูเหิงเพิ่งจะเลิกกัน! เชียนโหรวก็อีกคนชอบใครไม่ชอบตั้งหน้าจะชอบซูเหิงเสียให้ได้ ว่าที่เจ้าบ่าวกับน้องสาวรวมหัวกัน เธอยังจะให้ฝานซิงคิดยังไงอีก”
“นอกจากไม่ปลอบแล้ว เธอยังจะให้หลานไปเป็นผ้าปิดของน่าบัดสีให้สองคนนั้นอีก เธอ…เธอ…แค่กๆ …”
เฉินซั่งหวาแสดงถึงอารมณ์ที่พุ่งสูงไม่ใช่น้อย ยิ่งพูดยิ่งหัวใจเต้นแรง ในใจก็ยิ่งสงสารเฉินฝานซิงจับใจ!
“หัวใจของซูเหิงไม่ได้อยู่ที่เธออีกแล้ว อีกอย่างจะช้าหรือเร็วเขาก็ต้องมาเป็นเขยของสกุลเฉินอยู่ดี! จะช้าหรือเร็วเฉินฝานซิงก็ต้องเผชิญกับเรื่องพวกนี้! เชียนโหรวเป็นน้องของเธอซูเหิงก็ต้องเป็นน้องเขยของเธอ! เรื่องมันแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว จะทำหรือไม่แล้วมันจะยังไง ฉันเป็นย่ามันยังไงมันก็ตัดไม่ขาด ฉันก็เลยช่วยมันไปอีกแรง! ฉันไม่กลัวหรอกว่าต้องกลายเป็นคนเลว!”
“เธอ…”
“พอแล้ว! คุณพักผ่อนไปเถอะอย่ายุ่งไม่เข้าเรื่อง!”
เจียงหรงหรงขัดเขาด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด หลังจากทิ้งประโยคสุดท้ายเอาไว้เธอก็หันไปแหวกม่านแล้วเดินจากไป!
เฉินฝานซิงไม่คิดจะอยู่ในบ้านสกุลเฉินต่อแม้แต่วินาทีเดียว เธอมุ่งหน้าไปยังประตูใหญ่
“ช้าก่อนสิคะพี่สาว”
เสียงออดอ้อนของเฉินเชียนโหรวแว่วดังมาจากด้านหลัง ทว่าเธอก็ไม่ได้มีท่าทีจะหยุดลงแม้แต่น้อยและได้ก้าวออกจากประตูโลหะไป
ที่หน้าประตูของคฤหาสน์ตระกูลเฉินนั้นมีต้นฮวายที่มีอายุยืนยาว
ขณะที่เธอเดินผ่านที่นั่น เฉินเชียนโหรวได้ตามเธอมาทันแล้วขวางหน้าเธอเอาไว้
ความอ่อนแอเมื่อครู่นี้ได้หายไปหมดแล้ว
ทันใดนั้นมุมปากของเธอก็ได้กระตุกขึ้นพร้อมกับสีหน้าเย้ยหยัน
“จะรีบกลับอะไรขนาดนั้นคะพี่สาว นานๆ จะกลับบ้านมาสักที”
เธอเอ่ยขึ้นโดยเน้นคำว่า ‘บ้าน’ เป็นพิเศษ
เฉินฝานซิงหรี่ตาลงมองเธอเล็กน้อยบรรยากาศอันหนาวเหน็บได้แผ่เข้าปกคลุม
“เอาของที่เธอแย่งมาได้สำเร็จมาคุยให้ฉันฟังเนี่ยมันน่าภูมิใจนักใช่ไหม”
“พี่คะ กำลังพูดเรื่องอะไรอยู่เนี่ย บ้านสกุลเฉินก็ตั้งอยู่ตรงนี้อยากจะกลับมาเมื่อไหร่ก็ได้ทุกเมื่อ ไม่มีใครขวางไว้สักหน่อย สบายใจเถอะยังไงซะฉันก็ไม่อยู่ที่นี่นานนักหรอก…”
เฉินเชียนโหรวหยุดไปจากนั้นจึงยิ้มขึ้นจางๆ
“หลังจบงานเลี้ยงวันเสาร์นี้ คุณพ่อได้วางแผนนัดคุณลุงซูคุณป้าซูมาทานข้าวด้วยกันสักมื้อ แล้วถือโอกาสนี้นัดวันหมั้นหมาย เพราะงั้นต่อไปเธอไม่ต้องกลัวฉันแล้ว เพราะอีกไม่นาน ฉันก็จะแต่งเข้าสกุลซู ส่วนที่นี่ฉันก็คงอยู่อีกไม่นาน…”
ราวกับเธอถูกเสียดแทงลงไปยังเบื้องลึกของหัวใจ
นัดวันหมั้นหมาย?
เหอะ ใจร้อนขนาดนั้นเชียว
มันช่าง…
มันช่างดีซะเหลือนเกิน…
แม้จะรู้ตั้งนานแล้วว่าเรื่องของเธอกับซูเหิงนั้นหมดหวังไปตั้งนานแล้ว แต่เธอก็อดไม่ได้ที่จะไม่รู้สึกเลยสักนิด
ถึงยังไงซูเหิงก็เคยเป็นผู้ชายที่เธอเคยอยากจะฝากทั้งชีวิตไว้กับเขา
แต่ในเมื่อเป็นเช่นนี้ สีหน้าของเฉินฝานซิงนั้นยังนิ่งเรียบเฉกเช่นทุกครั้ง
เอาเข้าจริงมันก็ไม่ได้เสียใจขนาดนั้นแล้ว
สำหรับความสัมพันธ์แปดปีเธอรู้ว่าจะต้องให้ระยะเวลาและขั้นตอนในการปรับตัวและลืมเลือน
แต่ว่าเธอกลับ…ไม่ได้รู้สึกเสียใจอย่างที่เธอคิดไว้
“คุยเสร็จแล้ว จะหลีกทางให้ฉันได้รึยัง”
สายตาของเฉินเชียนโหรวมืดหม่นลง เธอล่ะเกลียดทุกๆ สีหน้าและปฏิกิริยาของพี่สาวคนนี้เสียจริง
เธอยืนนิ่งไม่ขยับเขยื้อน จนเฉินฝานซิงต้องเอื้อมมือดันเธอออกไปให้พ้นทาง
เฉินเชียนโหวเซเล็กน้อยแต่ก็พยุงตัวเองกับต้นไม้เอาไว้ได้ทัน
เธอขบฟันแน่น “เธอรู้รึเปล่าว่าทำไมวันนี้คุณย่าถึงอยากให้เธอไปร่วมงานเลี้ยง”
เฉินเชียนโหรวตามไปดักหน้าเธอไว้อีกครั้ง
เฉินฝานซิงคิ้วขมวดพร้อมทั้งมองเธอด้วยสายตาที่เยือกเย็น
“ก็เพราะความสัมพันธ์ของฉันกับพี่ซูยังไม่ถูกเปิดเผย ยังแสดงออกต่อหน้าสื่อไม่ได้ เพราะงั้นคุณย่าถึงเสนอให้เธอไปด้วยเพื่อจะได้ ‘เดินกันสามคน!’ โดยมีเธอ พี่สาวในนามคู่หมั้นปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับฉัน เรื่องระหว่างฉันและพี่เหิงจะได้ไม่ถูกใครจับได้ยังไงล่ะ!”