ตอนที่ 117 เขาคือผู้ชายที่ดีที่สุดในค่ำคืนนี้
อีกด้านหนึ่งเฉินเชียนโหรวได้ห่อไหล่ลงเล็กน้อย เส้นผมที่ปรกอยู่ข้างหน้าถูกรวบไปไว้ด้านหลัง
กลิ่นหอมจางๆ โชยออกมาจากลำคอของเธอ ท่วงท่าการสะบัดผมดูสง่าอย่างเป็นธรรมชาติ
จนชายหนุ่มแถวนั้นมองกันเป็นตาเดียว
ลอนผมสีชานมลอนใหญ่เปล่งประกายภายใต้แสงไฟอร่าม บวกกับแสงระยับจากเส้นไหมสีทองและผิวพรรณขาวเกลี้ยงเกลา ใบหน้าสวย ทรวดทรงงดงามและความไร้เดียงสาที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์อันแสนดึงดูด
ผู้หญิงแบบนี้ สร้างความประทับใจแรกของหนุ่มๆ ให้รู้สึกอยากจะเก็บเธอเอามากอดรัดไว้ในอ้อมอกและใช้ทุกวิถีทางเพื่อค่อยๆ ให้เธอถลกความใสซื่อนั้นทิ้งและเผยธาตุแท้ของเธอออกมา
แค่คิดก็น่าตื่นเต้นแล้ว
หลินเฟยเฟยเข้ามาหยุดตรงหน้าของเธอแล้วเอ่ยพลางหัวเราะว่า
“เห็นไหมล่ะ ฉันบอกแล้วไงว่าวันนี้เธอจะต้องเด่นกว่าใครในงาน ดูสายตาที่ผู้ชายพวกนั้นมองเธอสิ แล้วดูสายตาสาวต่างชาติพวกนั้นที่มองเธอสิแทบจะพ่นไฟออกมาอยู่แล้ว”
เมื่อเธอกวาดสายตาไปรอบๆ ก็เห็นว่าชายหนุ่มบางคนกำลังมองเธอแบบกล้าๆ กลัวๆ อยู่จริงๆ
เธอคลี่ยิ้มก่อนจะแกล้งทำเป็นถลึงตามองหลินเฟยเฟย “อย่าพูดซี้ซั้วสิ เมื่อกี้ฉันก็เห็นอยู่ว่าหนุ่มหล่อคนนั้นเขากำลังมองเธออยู่”
“ไม่หรอก มีสาวสวยอย่างเธออยู่ด้วยทั้งคน ผู้ชายที่ไหนจะมาสนใจฉันกันล่ะ”
ถึงจะพูดเช่นนั้นแต่ก็อดที่จะหันไปมองทางนั้นไม่ได้อยู่ดี
สุดท้ายเธอก็พบว่ามีชายหนุ่มรูปหล่อคนหนึ่งกำลังมองมายังเธออยู่พอดี หลินเฟยเฟยจึงได้ยกยิ้มขึ้น
เห็นทีคืนนี้เธอคงจะไม่กลับไปมือเปล่า
คืนนี้เธอจะต้องหาผู้ชายที่ดีที่สุดมาให้จงได้!
ซูเหิงที่คุยธุรกิจอยู่ได้ไม่นานก็ค่อยๆ ถูกรายล้อมไปด้วยสาวๆ ที่ทยอยกันเข้ามาทีละคนสองคน
แม้จะตะขิดตะขวงใจอยู่บ้าง แต่ยังไงซะมันก็เป็นมารยาททางสังคม งานเลี้ยงหรูหราเช่นนี้ แขกทุกคนไม่ควรจะคิดเล็กคิดน้อยเขาจึงได้แต่ปล่อยให้มันเลยตามเลย
สาวๆ ที่มารุมล้อมเขาส่วนใหญ่ต่างเอ่ยปากถามกันเสียงเจื้อยแจ้ว เขาเองก็ตอบพวกหล่อนกลับไปบ้างประโยคสองประโยค
แม้เฉินเชียนโหรวเองก็ถูกรายล้อมอย่างหนักเช่นกัน แต่สายตาก็จับจ้องร่างของซูเหิงอยู่ตลอดเวลา
แม้ในงานสังสรรค์นี้จะเต็มไปด้วยบรรดาผู้ทรงอำนาจและอิทธิพล แต่ส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ดูสะดุดตาอะไรนักเพราะไม่ใช่ว่าทุกคนจะเป็นหนุ่มสาวที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย
ถึงพวกลูกท่านหลานเธอทั้งหลายจะมีจำนวนไม่ใช่น้อยๆ แต่ไม่ว่าจะด้านไหนๆ ก็ล้วนแต่ด้อยไปกว่าซูเหิงทั้งสิ้น
ทั้งยังทำให้เฉินฝานซิงทุ่มเทเวลาแปดปีให้โดยไม่หวังผลตอบแทน ผู้ชายที่แค่ออกงานก็ดึงดูดสาวๆ ได้มากขนาดนั้น ก็ต้องโดดเด่นที่สุดอยู่แล้ว
ซูเหิงกลายเป็นชายหนุ่มอายุน้อย รูปหล่อและมีความสามารถที่ดึงดูดสาวๆ ในงานได้มากที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย
มองดูไกลๆ ขณะที่เจ้าของใบหน้าหล่อเหลากำลังพูดคุยสนทนาอยู่กับสาวๆ เหล่านั้น ไม่ว่าจะเป็นริมฝีปากที่พูดคุยไปมา หรือจะริมฝีปากที่กระตุกยิ้มขึ้นมาในบางครั้ง การเลิกคิ้ว ตลอดจนท่าทางการจิบเหล้าล้วนเต็มไปด้วยความสูงส่งที่ทำให้ผู้คนให้ความสนใจ
หลินเฟยเฟยที่ยืนอยู่ข้างๆ สังเกตว่าเฉินเชียนโหรวหันมองซูเหิงอยู่ตลอดเวลาด้วยสายตาที่พยายามเก็บซ่อนความรักใคร่เชิดชูเอาไว้ให้ลึกที่สุด
เธอจึงตบไหล่เฉินเชียนโหรวแล้วเอ่ยขึ้นเบาๆ
“ฉันจะไปทักทายคุณผู้ชายคนนั้นสักหน่อย เธอเองก็อย่ามัวแต่ยืนเซ่ออยู่ตรงนี้ล่ะ”
เธอว่าพลางเคลื่อนสายตาไปยังซูเหิง เฉินเชียนโหรวขำออกมาเบาๆ
“เธอรีบไปเถอะขอให้โชคดีนะ”
เธอมองหลินเฟยเฟยเดินจากไป เธอเองก็ยกชายกระโปรงแล้วค่อยๆ ตรงไปยังซูเหิง
ซูเหิงเป็นผู้ชายที่สะดุดตาที่สุดคืนนี้และเธอก็คู่ควรที่จะยืนอยู่ตรงหน้าของเขา…
ขณะเดียวกันนั้นเอง รถบูกันติเปิดประทุนคันหนึ่งก็ได้ค่อยๆ จอดตัวลงตรงประตูใหญ่ที่อยู่ด้านนอก…
ตอนที่ 118 เธอ…ช่าง…ช่าง
ขณะเดียวกันนั้น รถบูกันติเปิดประทุนคันหนึ่งก็ได้ค่อยๆ จอดตัวลงตรงประตูใหญ่ที่อยู่ด้านนอก…
ชายหนุ่มในชุดสูทเรียบร้อยก้าวลงมาจากที่นั่งคนขับอย่างรวดเร็ว เขาปรี่เข้าไปเปิดประตูรถออกด้วยความนอบน้อม มือของเขาวางอยู่ตรงขอบประตูแล้วเชิญให้หญิงสาวก้าวลงมาจากรถอย่างระมัดระวัง
“คุณหนูเฉินค่อยๆ นะครับ”
“ขอบคุณค่ะ”
น้ำเสียงเนิบนาบที่ดังขึ้นแผ่วเบาดุจสายลมแต่ทว่าเปี่ยมไปด้วยความนุ่มนวล
ขณะที่หญิงสาวก้าวลงมาจากรถ เสียงเอะอะหน้าประตูก็ค่อยๆ สงบลง
“คุณหนูเฉิน ขณะนี้คุณผู้ชายกำลังมีแขก อีกสักพักก็คงจะมาพร้อมกับแขกครับ คืนนี้ท่านคงจะยุ่งหน่อย แต่ก็ขอให้คุณสนุกนะครับ”
เฉินฝานซิงพยักหน้ารับ “เข้าใจแล้วค่ะ บอกเขาว่าไม่ต้องเป็นห่วง ฉันมีเพื่อนที่กำลังรอฉันอยู่”
อวี๋ซงพยักหน้ารับ ก่อนจะเงยหน้ามองเฉินฝานซิงอย่างอดไม่ได้
แค่พริบตาเดียว หัวใจก็สั่นระรัวจนต้องก้มหน้าหลบไปอีกทางก่อนจะโน้มลงคำนับพร้อมผายมือเชิญเธอเข้าไปในโรงแรม
เธอเองก็พยักหน้ารับแล้วใช้มือข้างหนึ่งยกกระโปรงขึ้น อีกมือหนึ่งถือกระเป๋าถือเอาไว้ ค่อยๆ ตรงเข้าไปข้างใน
แชะ—
เสียงชัตเตอร์ดังขึ้นสนั่นท่ามกลางความเงียบตรงหน้าประตู
เธอหันมองไปยังต้นเสียง ภาพที่เห็นคือชาวต่างชาติเจ้าของเรือนผมสีทองนัยน์ตาสีครามและใบหน้าได้รูป
เมื่อเห็นว่าเธอกำลังมองมา ชายหนุ่มก็รีบคว้ากล้องขึ้นมาถ่ายอีกหลายรูปจากนั้นจึงพยักหน้าและส่งยิ้มให้เธอ
เธอพยักหน้าเล็กน้อยแล้วหันกลับมายกชายกระโปรงขึ้นมาใหม่อีกครั้งและเดินขึ้นบันไดไป
สีหน้าของเธอเรียบเฉยอย่างที่เคยเป็นมา แม้แต่ต่อหน้ากล้องก็ไม่ได้เผยความรู้สึกใดออกมาให้เห็น จนกระทั่งร่างของเธอค่อยๆ หายลับตาไปฝูงชนกลุ่มนั้นถึงจะค่อยๆ ได้สติ รีบหันกล้องไปถ่ายเธออย่างลุกลนแม้จะเป็นเพียงแผ่นหลังของเธอก็ตาม ในใจก็พาลนึกเสียดายขึ้นอย่างสุดซึ้ง
“คนเมื่อกี้น่ะใครเหรอ”
“ไม่รู้สิ ไม่เคยเห็นนะ”
“นายถ่ายรูปเธอเอาไว้ไหม ฉันลืม…”
“ฉันก็ด้วย…”
“พระเจ้า จู่ๆ ฉันก็รู้สึกเหมือนตัวเองชวดเงินร้อยล้านไปเลย”
“จิ๊ แต่เมื่อกี้เหมือนฉันจะได้ยินเสียงชัดเตอร์นะ…”
ใครคนหนึ่งเอ่ยขึ้น แล้ววางสายตาไปยังร่างของชาวต่างชาติที่เพิ่งถ่ายรูปไปเมื่อกี้ เห็นดังนั้นเขาจึงรีบกอดกล้องของตัวเองเอาไว้ในอ้อมอก
ฝูงชนต่างพากันหันไปมอง บางคนก็อึ้งไปชั่วขณะก่อนจะรีบเอ่ยขึ้นว่า “นายคือ…อีวาน?!”
“ว่าไงนะ!”
จู่ๆ ฝูงชนก็ได้ฮือฮากันขึ้นมาอีกครั้ง
“ชู่ววว”
อีวานรีบยกนิ้วขึ้นจ่อริมฝีปากส่งสัญญาณว่าให้เงียบ แต่เห็นได้ชัดว่ามันแทบจะไร้ประโยชน์เมื่ออยู่ท่ามกลางความชุลมุนของฝูงชน
เขารู้สึกเหนื่อยหน่าย ทำได้เพียงตบลงบนไหล่ของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยแล้วแสดงบัตรเชิญของตน ก่อนจะปลีกตัวออกมาจากกลุ่มนักข่าวด้วยท่าทีดุดัน
“อีวาน? อีวานที่เป็นช่างภาพแนวหน้าของนิตยสาร ‘WO’ ที่มีอิทธิพลทั่วโลกคนนั้นน่ะเหรอ”
“ใช่! เขานั่นแหละ! เห็นหน้าตาเขาเข้ากับคนง่ายแบบนั้น แต่แว่วๆ มาว่าเขาแสบไม่เบาเลย แววตาดุร้าย ปากก็ร้าย นิสัยก็แรง สรุปง่ายๆ ว่าหากเขาจะถ่ายรูปอะไรล้วนขึ้นอยู่กับอารมณ์เขาเท่านั้น! ถ้าอารมณ์ไม่ดีละก็ เหอะๆ …”
“ยังไงๆ อารมณ์ไม่ดีแล้วยังไง จะเลิกถ่าย?”
“เลวร้ายยิ่งกว่าเลิกถ่ายซะอีก!”
ใบหน้าของคนพูดที่คาดเดาไม่ได้กระตุ้นต่อมอยากรู้ของคนฟังได้เป็นอย่างดี
–
ในห้องจัดเลี้ยง เฉินเชียนโหรวยังครองตำแหน่งเป็นผู้ที่ได้รับความสนใจมากที่สุดอยู่ โดยเฉพาะเมื่อเธอยืนอยู่ต่อหน้าซูเหิง ท่าทางที่งดงามและน่ารักเช่นนั้นยิ่งดูสะดุดตาขึ้นไปอีก
“เชียนโหรว ซูเหิง พวกเธอดูเหมาะสมกันมากเลยนะ”
“จริงด้วย คนหนึ่งทั้งหล่อทั้งชาติตระกูลดี อีกคนก็สวยแถมกิจการด้านความงามยังไปได้ดี พอยืนคู่กันแล้วอย่างกับกิ่งทองใบหยกแหนะ!”
“ซูเหิงคุณโชคดีมากนะ ที่ได้เจอกับผู้หญิงที่ทั้งสวยและแสนดีขนาดนี้ ดูสายตาของผู้ชายในงานคืนนี้สิ แทบจะกลืนเชียนโหรวลงไปอยู่แล้ว! คุณต้องเฝ้าให้ดีๆ ล่ะ!”
ซูเหิงกระตุกยิ้มมุมปาก ตรงหว่างคิ้วเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยน
เฉินเชียนโหรวกัดริมฝีปาก ก้มหน้าลงด้วยความเขินอาย
เมื่อเห็นเช่นนั้นพวกเขาก็พากันหัวเราะเสียงต่ำ ในขณะนั้นเอง เสียงหนึ่งก็ได้ดังขึ้นด้วยความประหลาดใจ “คุณพระ…เธอคือใครน่ะ เธอช่าง…ช่าง…”