ช้าก่อนคุณป๋อ! ครั้งนี้ขอเป็นรักสุดท้าย – ตอนที่ 131 ผมได้กำไรแล้ว / ตอนที่ 132 เพราะอิจฉาถึงได้แย่งทุกอย่างมาเป็นของตัวเอง

ตอนที่ 131 ผมได้กำไรแล้ว

 

 

“อันที่จริงแบบนั้นก็ไม่เลว ขืนคุณยังมัวแต่กัดปากตัวเองอยู่อย่างนี้ งั้นผมก็จะจูบคุณในอีกวินาทีถัดไป”

 

 

เฉินฝานซิงรีบคลายริมฝีปากในทันที

 

 

จุดที่โดนกัดลงไปเมื่อครู่ ก็ปรากฏรอยฟันให้เห็นจางๆ

 

 

“รังเกียจจูบผมขนาดนั้นเลย?”

 

 

เฉินฝานซิงแสดงสีหน้ากระอักกระอ่วน “ตอนนี้คนออกจะเยอะแยะ คุณหักห้ามใจไม่เป็นเลยรึไง”

 

 

“ถ้างั้นตอนไม่มีคนผมก็จูบคุณได้?”

 

 

“…” เฉินฝานซิงไม่พูดไม่จา

 

 

ในขณะที่ความสุขกำลังเอ่อล้น ป๋อจิ่งชวนดันเอวของเธอออกไปอย่างเบามือ เฉินฝานซิงออกไปหมุนตัวเบาๆ ก่อนจะถูกป๋อจิ่งชวนดึงกลับไปอีกครั้งให้แผ่นหลังของเธอแนบชิดกับแผ่นอกของเขา

 

 

“ทำไม่เมื่อกี้คุณถึงไม่อธิบาย” เขาถามขึ้นข้างใบหูของเธอ

 

 

“อธิบายอะไร”

 

 

เฉินฝานซิงเผชิญหน้ากับป๋อจิ่งชวนอีกครั้งตามจังหวะของการเต้น

 

 

“ทุกคำนินทาพวกนั้น”

 

 

เธอยกยิ้มขึ้น “ปีนั้นฉันยังอธิบายไม่เคลียร์ ตอนนี้จะอธิบายให้เคลียร์ได้เหรอ อีกอย่าง นั่นไม่ใช่ประเด็นหลักของวันนี้ วันนี้ฉันแค่จะมาดู…”

 

 

เธอชะงักไป

 

 

ป๋อจิ่งชวนกลับเคลื่อนสายตามองเธอ “ดูอะไร”

 

 

เฉินฝานซิงนิ่งเงียบอยู่นาน หลังจากนั้นอีกสองจังหวะของการเต้นเธอเงยหน้าขึ้นมองเขาอย่างแน่วแน่

 

 

“ก็วันนี้นับว่าเป็นวันสำคัญวันหนึ่งในชีวิตของคุณ ฉัน…ไม่อยากพลาดมัน”

 

 

ฝ่ามือที่รั้งเอวเธออยู่เผลอกระชับแน่นขึ้นอย่างลืมตัว

 

 

“ดีล่ะ งั้นคุณก็จำเอาไว้ด้วยว่า ต่อไปวันสำคัญในชีวิตของผมยังมีอีกนับไม่ถ้วน จะให้ดีคุณไม่ควรจะพลาดมัน”

 

 

เฉินฝานซิงคลี่ยิ้มขึ้นจางๆ

 

 

“…ร้อยล้าน จะไม่มากไปหน่อยเหรอ” สุดท้ายเธอก็ยังนึกเรื่องนี้ขึ้นมาได้ อย่าว่าแต่คนอื่นเลย แม้แต่เธอเองก็ต้องตกใจเช่นกัน

 

 

“เกินไปอะไร คุณคือฝานซิงร้อยล้านพันล้านดวงดาวร้อยเรียงกันกลายเป็นคุณเพียงคนเดียว แค่เงินร้อยล้านจิ๊บจ๊อยแค่นี้ ผมก็ได้กำไรแล้ว”

 

 

เธอมีทีท่าอึกอักไปเล็กน้อย

 

 

การเต้นรำของทั้งคู่งดงามและสมดั่งใจ สมกับที่เป็นการเต้นรำร้อยล้านที่มีคุณค่าอย่างแท้จริง

 

 

ทุกคนต่างก็ชื่นชมการเต้นรำที่หาชมได้ยากนี้ แต่กลับมีเพียงเฉินเชียนโหรวคนเดียวเท่านั้น ที่ใช้สายตาคู่นั้นที่มองเฉินฝานซิงอย่างจิกกัด สายตาคู่นั้นเ**้ยมโหดราวกับอยากจะฉีกเธอให้เป็นผุยผง

 

 

แต่เดิมงานสังสรรค์ของสมาคมสกุลป๋อไม่เคยเปิดสู่ภายนอกมาก่อน แต่ล่ะปีก็จัดเฉพาะที่สำคัญๆ ไม่กี่ครั้งเท่านั้น

 

 

เธอแต่งองค์ทรงเครื่องซะดิบดี ดันมาโดนเฉินฝานซิงแย่งซีนไปได้เสียนี่

 

 

หลินเฟยเฟยอุตส่าห์วางแผนเพื่อแย่งซีนให้เธอกลับมาอย่างแยบยล หนึ่งล้านสำหรับการเต้นรำหนึ่งครั้งก็พอแล้วที่จะทำให้ผู้หญิงทุกคนพากันอิจฉา!

 

 

สุดท้ายดันมีคนมาประมูลให้เฉินฝานซิงร้อยล้าน!

 

 

ความผิดพลาดครั้งใหญ่แบบนี้ สุดท้ายก็ฉุดให้เธอต้องกลายเป็นยัยงั่งของคืนนี้

 

 

ไม่ใช่ว่าเธอรักซูเหิงจนสุดหัวใจหรอกเหรอ

 

 

แล้วผู้ชายคนนั้นนั่นมันยังไงกัน!

 

 

ฝ่ามือถูกเธอจิกจนแทบทะลุ มืออีกข้างหนึ่งของเธอจับชายเสื้อของซูเหิงไว้แน่นจนยับยู่ยี่!

 

 

แถมสายตาของซูเหิงก็ยังเต็มไปด้วยความแปลกใจอีก!

 

 

ผู้ชายคนนั้นเป็นใคร

 

 

เขารู้จักกับเฉินฝานซิงเหรอ

 

 

จู่ๆ ถึงได้ยอมควักเงินร้อยล้านเพื่อกู้หน้าให้เฉินฝานซิง!

 

 

ร้อยล้านกับการเต้นรำหนึ่งรอบ นี่มันเป็นความคิดประเภทไหนกัน

 

 

รอยยิ้มจางๆ ที่เฉินฝานซิงเผลอไผลออกมาเป็นครั้งคราว สะท้อนในดวงตาเอาเขาอยู่หลายครั้ง ท่าทีของผู้หญิงบอบบางที่หลุดออกมาให้เห็นในบางครั้ง กรีดแทงหัวใจของเขาอย่างเชื่องช้า

 

 

ที่จริงเฉินฝานซิงเองก็สามารถงดงามและเพียบพร้อมเช่นนี้ได้!

 

 

ไม่สิ ความสวยของเธอมีเสน่ห์ที่เป็นเอกลักษณ์

 

 

ไม่ใช่ว่าใครที่ไหนจะเลียนแบบได้ง่ายๆ

 

 

ก่อนหน้านี้เขาไม่เคยสังเกตเห็นมาก่อน ตอนนี้…เพิ่งจะมารู้ ก็ตอนที่ไม่มีสิทธิ์นั้นอีกต่อไปแล้ว

 

 

ในใจของเฉินเชียนโหรวนั้นเต็มไปด้วยความอึมครึม เมื่อสังเกตเห็นซูเหิงที่อยู่ข้างๆ มองไปยังเฉินฝานซิงด้วยท่าทีเหม่อลอยอยู่ตลอดเวลา เธอแทบบดกรามให้แหลกละเอียดภายในคราเดียว!

 

 

การเต้นรำสิ้นสุดลง ท่ามกลางเสียงปรบมือ ป๋อจิ่งชวนได้โค้งตัวลงสวมกอดเฉินฝานซิงไว้แผ่วเบา

 

 

ในสายตาของทุกคนมันเป็นเพียงการกอดกันตามมารยาทเท่านั้น

 

 

จู่ๆ ป๋อจิ่งชวนก็แอบขโมยจูบลงบนใบหูของเธอไปหนึ่งครั้ง

 

 

“คืนนี้รอผมนะ หืม?”

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 132 เพราะอิจฉาถึงได้แย่งทุกอย่างมาเป็นของตัวเอง

 

 

ป๋อจิ่งชวนเป็นพระเอกในค่ำคืนนี้ ก็ย่อมมีบางอย่างที่ต้องตระเตรียม

 

 

ยิ่งไปกว่านั้น ที่ด้านล่างยังมีเพื่อนฝูงที่ถูกเขาทิ้งไว้…

 

 

เขายกยิ้มขึ้นอย่างพอใจหลังจากที่เฉินฝานซิงพยักหน้าเบาๆ แล้วเขาก็ก้าวจากไป

 

 

หลังจากที่เขาจากไป สวี่ชิงจือก็รีบตามมาสมทบแล้วยื่นแชมเปญให้เธอแก้วหนึ่ง

 

 

“ใช้ได้นี่ เฉินฝานซิง ไปหาแรไอเทมแบบนี้มาจากไหน คืนนี้เขากู้หน้าเธอไว้ได้จริงๆ”

 

 

เฉินฝานซิงเดินหลบไปอีกทาง เพื่อหลีกให้คนอื่นๆ ที่เริ่มพากันเต้นรำ

 

 

“อันที่จริง…ก็แค่เจอกันโดยบังเอิญ”

 

 

แค่บังเอิญเจอกันในสวนสาธารณะของโรงพยาบาล แต่ไม่คิดว่าเพียงไม่กี่วันทั้งคู่จะก้าวมาถึงจุดนี้โดยไม่รู้ตัว

 

 

“ไม่ง่ายแบบนั้นแน่!” สวี่ชิงจือเอ่ยขึ้นด้วยเสียงหนักแน่น ก่อนจะสบเข้ากับสายตาเหนื่อยหน่ายของเฉินฝานซิงแล้วลากเธอไปอีกทาง

 

 

“ก่อนหน้านี้ที่ฉันพูดไปกับเธอแม้จะหงุดหงิดไปบ้าง แต่ก็ใช่ว่าจะไร้เหตุผลนะ วันนี้แค่ฉันเห็นซูเหิงกับเฉินเชียนโหรวก็แทบอยากจะเข้าไปฉีกทึ้งสองคนนั้นให้ได้! ก็จริงที่เธอเลิกกับซูเหิงแล้ว แต่ฉันไม่เคยเจอใครที่น่ารังเกียจแบบพวกนั้นเลย ไหนจะเรื่องที่พวกเขาจะหมั้นกันอีก แต่งงานกันอีก…”

 

 

“ฝานซิง ถ้าเป็นไปได้ก็รีบชัดเจนต่อหน้าพวกนั้นสักทีเถอะ ไม่ใช่เพราะฉันโกรธพวกนั้นนะ ก็แค่หวังว่าเธอจะเลิกไปสนใจและไม่กลับไปฟุ้งซ่านเกี่ยวกับสองคนนั้นอีก”

 

 

“…”

 

 

“ฉันว่าคุณชายร้อยล้านนั่นก็งานดีอยู่นะ ดูเขาจะชอบเธอมาก”

 

 

เฉินฝานซิงแหงนหน้ามองเธอ “เราเพิ่งรู้จักกันได้ไม่กี่วัน! เธอเองก็เพิ่งจะเจอเขาวันนี้! เธอ…เธอไปมองตรงไหนว่าเขาชอบฉันมาก”

 

 

สวี่ชิงจือทอดถอนหายใจอย่างหน่ายๆ “สายตาที่เขามองเธอไม่เหมือนกับตอนที่มองคนอื่นอย่างสิ้นเชิง เขาปกป้องเธอโดยที่ไม่สนว่าใครจะว่ายังไง เขาอยากใกล้ชิดเธอ เอาง่ายๆ เลยนะ แค่เขาเห็นเธอก็ยิ้มออกมาแล้ว…”

 

 

“ยิ้ม?”

 

 

“ก็ใช่ไง คนที่แค่เห็นเธอก็ยิ้มออกมาได้ ถ้าไม่ใช่คนโง่ก็คือคนที่รักเธอ”

 

 

เฉินฝานซิงนิ่งเงียบ…

 

 

คนที่แค่เห็นเธอก็ยิ้มออกมา ถ้าไม่ใช่คนโง่ก็คือคนที่รักเธอ…

 

 

รัก?

 

 

คงยังเป็นสิ่งที่ห่างไกล

 

 

ระหว่างที่กำลังครุ่นคิด เสียงหนึ่งที่คุ้นหูก็ได้แว่วดังขึ้น

 

 

“พี่คะ…”

 

 

คิ้วของเฉินฝานซิงขมวดชนกันโดยอัตโนมัติ

 

 

เธอแหงนหน้ามองเฉินเชียนโหรวและซูเหิงที่ตอนนี้มาหยุดลงตรงหน้าเธอเรียบร้อยแล้ว

 

 

“เฉินเชียนโหร เลิกจองเวรกันแบบนี้สักทีจะได้ไหม”

 

 

สวี่ชิงจือกลอกตาอย่างสุดระอา สองคนนี้น่ารังเกียจเสียจริง!

 

 

“ฉัน…ฉันก็แค่อยากจะทักทายพี่เอง?”

 

 

เฉินเชียนโหรวกัดฟัน ใบหน้าบอบบางเต็มไปด้วยความน้อยใจ

 

 

“เธอ…”

 

 

“สวี่ชิงจือ ถึงยังไงเชียนโหรวกับฝานซิงก็เป็นพี่น้องกัน! เรื่องของเขาสองคนเธออย่ายุ่งให้มากนักจะได้ไหม” ซูเหิงที่ยืนอยู่อีกฝั่งเอยขึ้นมาอย่างละเ**่ยใจ

 

 

“แล้วนายเป็นตัวอะไรล่ะ เป็นคู่หมั้นของเฉินฝานซิงหรือว่าหรือชู้รักของเฉินเชียนโหรว”

 

 

“ชิงจือ อย่าพูดจาไร้สาระ ฉันไม่มีคู่หมั้น” เฉินฝานซิงว่าพลางยกแก้วขึ้นดื่มไวน์ น้ำเสียงจืดจางราวกับน้ำ ใบหน้าไม่มีแม้แต่อารมณ์ใด

 

 

ร่างของซูเหิงชะงักนิ่งไปเล็กน้อย เงยหน้ามองเฉินฝานซิง ใบหน้าหล่อเหลานั้นเต็มไปด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย

 

 

“โทษที เขา…ไม่คู่ควรกับเธออยู่แล้ว!” สวี่ชิงจือขำออกมาอย่างเยือกเย็น สายตาที่ส่งไปยังซูเหิงเต็มไปด้วยความเยาะเย้ยอย่างเปิดเผย

 

 

สายตาของซูเหิงขุ่นหมองจนน่ากลัว แต่เขาก็ไม่รู้ว่าควรจะตอบโต้ผู้หญิงคนนี้ไปยังไง!

 

 

“พี่คะ วันนี้พี่สวยมากจริงๆ …ฉัน…ฉันอิจฉาพี่มาตลอด…”

 

 

เฉินฝานซิงกรีดยิ้มขึ้นอย่างเย้ยหยัน “อืม ฉันรู้ ถ้าไม่อิจฉาแล้วจะอยากแย่งทุกอย่างที่เป็นของฉันไปเพื่ออะไร”

ช้าก่อนคุณป๋อ! ครั้งนี้ขอเป็นรักสุดท้าย

ช้าก่อนคุณป๋อ! ครั้งนี้ขอเป็นรักสุดท้าย

หลังจากแม่ของเธอจากไป เฉินฝานซิง ก็ถูกพ่อและย่าแท้ๆ ของตัวเองขับไสไล่ส่งไปตายเอาดาบหน้าในประเทศต่างแดนอันแสนทุรกันดาร ทว่าเธอไม่ใช่ผู้หญิงเคี้ยวง่ายอย่างที่คิด ด้วยสมองและสองมือ ในที่สุดเฉินฝานซิงก็หนีกลับมาจากนรกขุมนั้นได้ เธอตัดสินใจแยกตัวออกมาจากครอบครัวสารพัดพิษและใช้ชีวิตอยู่ตามลำพัง คอยทุ่มเทพัฒนาบริษัทของคู่หมั้นที่เกือบจะต้องปิดตัวลงและบริษัทเล็กๆ ที่แม่ของเธอทิ้งไว้ กระนั้นความสัมพันธ์รักแปดปีกลับได้มาแค่ความเชื่อใจที่แสนเปราะบาง เพราะคู่หมั้นกลับไปหลงเชื่อคำโกหกของน้องสาวต่างแม่ที่ชอบตีสองหน้าของเธอเสียได้ ในขณะที่แผลใจจากคนรักเก่ายังไม่ทันหายดี ศรัทธาที่มีในชีวิตคู่ก็เริ่มถดถอย เธอเลือกหันหลังให้กับความรักโดยการขดตัวเป็นตัวเม่นและใช้หนามแหลมๆ นั้นปฏิเสธทุกคนที่เข้าหา ทว่าอยู่มาวันหนึ่ง ป๋อจิ่งชวน ผู้ชายจอมเผด็จการคนนั้นก็ก้าวเข้ามาพร้อมหยิบยื่นความรักครั้งใหม่ให้กับเธอโดยไม่เปิดโอกาสให้เธอได้ปฏิเสธมันเลยสักนิด! “การตัดสินใจจีบคุณคือเรื่องของผม สุดท้ายแล้วคุณจะปฏิเสธหรือไม่นั่นก็เรื่องของคุณ แต่ผมจะปฏิเสธคำปฏิเสธของคุณ!”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset