ซุปเปอร์เจ้าสำราญ – ตอนที่ 494 ข่าวด่วนจากตี้จิง

“ลูก ในสมองลูกมันใส่อะไรไปบ้าง? อะไรคือคนที่อยู่คนละโลก?” ลู่หย่าฮุ่ยรีบพูดขัด ไม่สนใจความรู้สึกของจางฉีโม่เลย “ไม่ว่ายังไง ลูกเรียกหลินอิ่งกลับมาก็แล้วกัน ครอบครัวเราจะปล่อยลูกเขยมหาเศรษฐีคนนี้ไปไม่ได้”

“แม่ ถ้าทำแบบนี้แล้วมันทำให้หนูรู้สึกสะอิดสะเอียน” จางฉีโม่พูดด้วยสีหน้าจริงจัง “ครั้งที่แล้วเรื่องที่หลินอิ่งอยู่กับผู้หญิงผมทองคนนั้นที่เมืองก่าง ยังพูดไม่ชัดเจนเลย ตอนนี้แม่ก็เปลี่ยนไปคนละหน้าเลย ทำอย่างนี้มันดีจริงเหรอ”

ลู่หย่าฮุ่ยพูด “นั่นมันจะเป็นไรไป? ในเมื่อหลินอิ่งมีเงินมีอำนาจขนาดนี้ ถึงจะมีผู้หญิงอยู่ข้างนอกหน่อยก็ไม่เห็นจะเป็นไรเลย? ยังไงลูกก็เป็นเมียแต่ง”

“ครั้งนี้ หนูฟังแม่ก็ถูกแล้ว” ลู่หย่าฮุ่ยรีบพูดจูงใจ

หลังจากได้รู้ถึงอำนาจทรัพย์สินของหลินอิ่งแล้ว ลู่หย่าฮุ่ยพลิกผันอคติทุกอย่างที่เคยมีต่อหลินอิ่งทั้งหมด

“เห้อ”

จางฉีโม่ถอนหายใจ ไม่ได้พูด

เธอรู้ว่าแม่เธอคิดอะไรอยู่ ก็เพราะเห็นแก่อำนาจและทรัพย์สินของหลินอิ่ง

แม่เธอไม่ได้ใส่ใจเลยแม้แต่น้อยว่าหลินอิ่งเป็นคนยังไง

จนถึงขั้น ในสายตาแม่เธอ มีเพียงเงินและอำนาจเท่านั้น จะเป็นหลินอิ่งก็ดี โจผิงก็ได้ เธอไม่ได้ใส่ใจเลยแม้แต่น้อย

ทัศนคติแบบนี้ จางฉีโม่รู้สึกว่าเข้ากับเธอไม่ได้เลยแม้แต่น้อย

“พอแล้ว ลูก เมื่อก่อนแม่ผิดเอง ไม่ควรแยกลูกกับหลินอิ่ง ตอนนี้มันไม่ใช่เวลาที่ลูกจะมาใช้อารมณ์ ตอนนี้ที่บ้านกำลังลำบาก ลูกจะเอาแต่ใจไม่ได้” ลู่หย่าฮุ่ยพูดวางแผนให้ “ลูกต้องรู้ไว้ ผู้ชายมันปลอบง่าย ลูกไปโทรหาหลินอิ่งเอง เขาจะไม่รับเหรอ? จะไม่ยอมมาดีๆเหรอ?”

“ลูกจะปล่อยหลินอิ่งเย็นชาต่อไปไม่ได้ ผ่านไปอีกสักพัก ผู้ชายเจ้าชู้แบบนี้ ก็อาจจะเปลี่ยนใจก็ได้ แล้วไปชอบคนอื่น ลูกต้องรักษาโอกาสไว้ดีๆ”

ลู่หย่าฮุ่ยพยายามพูดโน้มน้าวไม่หยุด

ตอนนี้เธอตัดสินใจแน่นอนแล้ว ไม่ว่ายังไง ก็จะจับหลินอิ่งไว้ในตระกูลจางให้ได้

จางฉีโม่หมกมุ่นอยู่กับความในใจ คิดอะไรบางอย่าง ไม่ได้แสดงอาการใดๆ

“ซิ่วเฟิง คุณก็พูดกับลูกสาวหน่อยซิ เวลาแบบนี้จะใช้อารมณ์ไม่ได้” ลู่หย่าฮุ่ยพูดอย่างใจร้อน “คุณดูตระกูลโจ หลินอิ่งพูดแค่คำเดียวก็ราบคาบไปแล้ว แม้แต่เสิ่นซานกับเจียงฉีก็เป็นลูกน้องของเขา คนระดับนี้ ชีวิตนี้ลูกสาวจะได้เจออีกไหม?”

“คุณ…..เห้อ” จางซิ่วเฟิงถอนหายใจ สีหน้าไม่ดี “เรื่องแบบนี้ ก็แล้วแต่ลูกสาวเถอะ ผมไม่ยุ่งแล้ว”

เมื่อก่อนด่าว่าหลินอิ่งอยู่บ่อยครั้ง ปรากฏว่าหลินอิ่งเป็นคนเก่งขนาดนี้ จางซิ่วเฟิงก็รู้สึกขายหน้าจนไม่มีชิ้นดีแล้ว

ยังจะไปเชิญหลินอิ่งกลับมาด้วยตัวเอง จางซิ่งเฟิงรู้ตัวเองว่าทำเรื่องแบบนี้ไม่ได้

เขายังพอมียางอายอยู่

“หลี่ผู คุณเป็นพ่อบ้านที่หลินอิ่งจ้างมา คุณเรียกเขาคุณชายตลอด ดูแล้ว คุณต้องรู้ฐานะของเขาตั้งนานแล้ว?” ลู่หย่าฮุ่ยหันไปมองหลี่ผูที่ยืนนิ่งอยู่ด้านข้าง

หลี่ผูสีหน้านิ่งเฉย พูดอย่างเรียบเฉย “ฐานะของคุณชายผม คุณดูไม่ออก ก็ต้องโทษที่แง่มุมของต่ำเกินไป”

พูดตลกอะไร

ครั้งแรกที่หลี่ผูตามคุณชายมาที่คฤหาสน์วิลล่าหิมะมังกร ก็เห็นลู่หย่าฮุ่ยทิ้งเฟอร์นิเจอร์โบราณอันมีค่าที่คุณชายซื้อ

ตอนนั้น เขาก็ดูออกแล้ว ลู่หย่าฮุ่ยคนนี้ ก็เป็นแค่ผู้หญิงไร้การศึกษาที่สายตาคับแคบ

คนแบบนี้ ไม่รู้ทำไมถึงมีลูกสาวที่ดีอย่างคุณนายน้อย

หรืออาจจะเป็นเพราะคุณนายน้อยถูกนายท่านจางเวิ่นติ่งสอนมาตั้งแต่เด็ก เคยเรียนและเปิดหูเปิดตาในมหาลัยตี้จิง

หากเป็นเหมือนอย่างลู่หย่าฮุ่ย เช่นนั้นคุณชายก็เลือกคู่ครองผิดแล้ว

ลู่หย่าฮุ่ยขมวดคิ้วเล็กน้อย กำลังจะต่อว่าหลี่ผู แต่พอคิดถึงอำนาจที่หลินอิ่งแสดงออกมาวันนั้น ในใจก็รู้สึกกังวล

“หลี่ผู คุณไปพูดกับคุณชายของคุณหน่อย เมื่อก่อนเป็นแค่เรื่องเข้าใจผิด ต่างก็เป็นครอบครัวเดียวกัน จะไปมีความแค้นข้ามคืนที่ไหน? บอกเขาว่าอย่าใส่ใจ ถ้าไม่ได้จริงๆ พวกเราสองคน จัดโต๊ะเหล้าเลี้ยงเขา” ลู่หย่าฮุ้ยพูด

หลี่ผูมุมปากยิ้มอย่างเย็นชา ส่ายหัว ไม่ได้พูดอะไร

หากรู้วันนี้ อดีตจะทำเช่นนั้นทำไม?

เรื่องของคุณชาย เขาหลี่ผูไม่กล้าก้าวก่าย

เขาอยู่ที่วิลล่าหิมะมังกร หน้าที่เดียวก็คือปกป้องคุณนายน้อย

“แม่ เลิกพูดได้แล้ว หนูมีการตัดสินใจของตัวเอง” จางฉีโม่พูดอย่างจริงจัง ทนฟังต่อไปไม่ไหวแล้ว

พูดไป จางฉีโม่ก็ลุกขึ้นเดินกลับห้องนอนตัวเอง

ติ้งต่อง

เวลาเดียวกัน กริ่งประตูคฤหาสน์ดังขึ้น

หลี่ผูเดินออกไปด้วยสีหน้าเคร่งเครียด เปิดประตู ก็มองเห็นนอกรั้ว มีเห็นรถRolls-Royceจอดอยู่

หลินอิ่งพาเสิ่นซานมาด้วย ยืนอยู่หน้าประตู

“คุณชาย” หลี่ผูเรียกอย่างเคารพ

“บอกฉีโม่ว่า ผมกลับมาแล้ว” หลินอิ่งพูดอย่างจริงจัง

“ครับ คุณชาย” หลี่ผูพยักหน้าอย่างเคารพ จากนั้นก็หมุนตัว

“คุณนายน้อย คุณชายกลับมาแล้ว คุณชายอยากพบคุณ” หลี่ผูพูดอย่างจริงจัง

ลู่หย่าฮุ่ยผัวเมียมองหน้ากัน สีหน้าแปลกใจ ไม่ได้พูดอะไร

พวกเขาสองคน ไม่กล้าเผชิญหน้ากับหลินอิ่งแล้ว

หลินอิ่งในวันนี้ ไม่เหมือนเดิมแล้ว ราศีอันแข็งแกร่งนั้น ไม่ใช่สิ่งที่พวกเขากล้าไปเผชิญหน้า

ถ้าหากไม่ใช่เพราะความสัมพันธ์ของลูกสาวกับหลินอิ่ง ลำพังครอบครัวพวกเขา แม้แต่พบหน้าหลินอิ่งยังไม่มีสิทธิ์

“พ่อบ้านหลี่ ต่อไปนี้ไม่ต้องเรียกฉันว่าคุณนายน้อยแล้ว” จางฉีโม่เดินออกมาจากห้อง พูดอย่างจริงจัง “ฉันไม่มีความสัมพันธ์อะไรกับหลินอิ่งแล้ว ต่อจากนี้ คุณก็ทำงานอยู่ข้างกายหลินอิ่งก็พอ”

“คุณให้หลินอิ่งกลับไปเถอะ”

จางฉีโม่สีหน้าวุ่นวายใจ ใจเต้นตุ๊บตั๊บ กัดฟันและฝืนใจจนพูดประโยชน์นี้จบ

อารมณ์ความรู้สึกของเธอวุ่นวายไปหมด

ในใจของเธอนั้นรู้สึกเสียดาย แต่ก็ไม่แน่ใจว่าหลินอิ่งยังชอบตัวเองอยู่ไหม และสงสัยหลินอิ่งกับสาวผมทองคนนั้น ว่ามีความสัมพันธ์อะไรกันหรือไม่

จุดที่สำคัญที่สุด

ในใจของเธอ เธอกับหลินอิ่งไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกันแล้ว ระดับของเธอ ไม่คู่ควรกับหลินอิ่ง

จางฉีโม่เป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่ง

ถ้าหากหลินอิ่งรักเธอจริงก็ยังดี สามารถทดแทนความไม่เท่าเทียมกันทั้งหมดได้

แต่ว่า เรื่องที่หลินอิ่งไปยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงอื่นนอกบ้าน ความสัมพันธ์ไม่ชัดเจน ทำลายความเท่าเทียมนี้หมดแล้ว

จางฉีโม่ไม่อนุญาต ให้ตัวเองไปเป็นตัวถ่วงของหลินอิ่ง สำหรับอนาคต ถูกหลินอิ่งรังเกียจหรือทิ้ง…….

หลี่ผูสีหน้าเคร่งเครียด หันตัวเดินออกไปหน้าประตูคฤหาสน์ บอกต่อคำพูดของจางฉีโม่

“หลี่ผู บอกฉีโม่ว่าอย่าเข้าใจผิดในเรื่องบางอย่าง ผมจะอธิบายให้เธอฟังทุกอย่างเอง” หลินอิ่งพูดอย่างจริงจัง

เสียงของเขาดังมาก จางฉีโม่ที่อยู่ในคฤหาสน์ ได้ยินทุกอย่าง

ได้ยินเสียงของหลินอิ่ง ความรู้สึกของจางฉีโม่ก็หวั่นไหว สีหน้าดูซับซ้อนมาก

“ฉันไม่อยากฟังคำอธิบายของเขา ฉันอย่างอยู่เงียบๆสักพัก คุณบอกหลินอิ่ง ว่าไม่ต้องมาหาฉันอีก……” จางฉีโม่พูดด้วยเสียงเบา ในน้ำเสียงเต็มไปด้วยความไม่แน่ใจ ไม่มั่นใจ

หลี่ผูเดินออกมาจากคฤหาสน์ บอกต่อคำพูดทั้งหมด

“คุณชาย หลังจากที่คุณนายน้อยรู้ฐานะของท่านแล้ว ความคิดของเธอ เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด……คุณนายน้อย เธอไม่ใช่ผู้หญิงทั่วไป” หลี่ผูพูดอย่างจริงจัง

หลินอิ่งมองไปในคฤหาสน์ ค่อยๆหลับตา สีหน้าเคร่งเครียด

ติ๊ดติ๊ด

ขณะเดียวกัน มือถือล็อกรหัสของหลินอิ่งดังขึ้น

เขากดรับสาย

“ฮัลโหล ท่านอิ่ง ยุ่งอยู่ไหมครับ? ทางตี้จิงมีปัญหานิดหน่อย ทางด้านนายท่านฉี เมื่อครู่อาการป่วยกำเริบ ตอนนี้ส่งไปที่โรงพยาบาลทหารแล้ว ก่อนที่ท่านจะสลบ ให้ผมแจ้งกับท่าน ให้ท่านกลับมาตี้จิงมาดูท่าน”

ในโทรศัพท์ เป็นเสียงของหยูจื๋อเฉิงที่พูดอย่างรีบร้อน

สีหน้าของหลินอิ่งเปลี่ยนเล็กน้อย

Comment

Options

not work with dark mode
Reset