ซ่อน | รัก | ลับ – ตอนที่ 35 คิดว่าฉันเป็นเด็กสามขวบเหรอ?

อุปกรณ์การแพทย์ของเมืองเหยียนจิงครบครันที่สุด การบริการก็ยอดเยี่ยมที่สุด จนเป็นโรงพยาบาลที่ผู้คนต่างก็กล่างถึง

จี้ผิงโจวอายุได้ ยี่สิบต้นๆ ก็บินกลับประเทศมารับช่วงต่อโรงพยาบาลของตระกูล

เขาเองก็มีชื่อเสียงโด่งดังมากไม่แพ้กัน

เพราะเขาได้รักษาและช่วยเหลือคนไข้ที่ป่วยหนักแทบจะไม่รอดมาแล้ว ไม่รู้กี่คนต่อไม่กี่คน

จึงไม่มีใครคิดและรู้เลยว่า คุณหมอชื่อดังคนนี้ จะเป็นต้นเหตุให้ภรรยาตัวเองอ่อนแอ ร่างกายไม่แข็งแรง

หมอบอกว่าเหอเจิงบริจาคเลือดปริมาณมาก ทำให้ภูมิต้านทานต่ำ และเกิดภาวะเลือดแข็งตัว เหอหยุนซิ่งได้ยินดังนั้น จึงเข้าใจสาเหตุที่ทำให้เธอเป็นลมง่าย

ประตูห้องคนไข้ปิดลง

เหอหยุนซิ่งรู้สึกจุกอก ทำให้น้ำเสียงเขาฟังแล้ว ไม่ค่อยดีเท่าไหร่

“ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาที่เจิงอยู่บ้านตระกูลจี้ นายทำอะไรกับเธอ?”

เหอเจิงเองก็ยังคงมึนอยู่

เหอหยุนซิ่งเก็บอาการไว้ไม่อยู่ถามขึ้น

จี้ผิงโจวได้ยินดังนั้น ก็ไม่ได้อธิบายอะไร แต่กลับถามว่า “คุณอา ทำไมเป็นห่วงภรรยาผมขนาดนี้ล่ะ?”

“อยู่ๆเธอก็เป็นลม หมอบอกว่าร่างกายเธอแย่มาก จะบอกว่าไม่ได้เป็นเพราะนายเหรอ?”

จี้ผิงโจวขำเยาะ “ผมเป็นหมอ ผมคิดว่าเธอไม่ได้เป็นอะไร”

“ไม่ได้เป็นอะไร แต่อยู่ดีๆก็เป็นลมเหรอ?”

“คุณไม่พาเธอออกไปเที่ยวเล่น เธอก็คงไม่เป็นลม”

ตลอดเวลาที่อยู่บ้านตระกูลจี้ เหอเจิงน้อยมากที่จะออกจากบ้าน และถึงแม้จี้ผิงโจวจะทำไม่ดีกับเหอเจิงเท่าไหร่ แต่เรื่องอาหารการกิน เรื่องเสื้อผ้า และของที่ควรจะได้รับ เธอต่างก็ได้รับไม่ขาดตกบกพร่อง

สามปีมานี้ เขาเลี้ยงเธอมาอย่างดี

เหอหยุนซิ่งรู้ว่าจี้ผิงโจวเป็นคนรับมือยาก แต่ไม่คิดว่าจะยากขนาดนี้

ทั้งสองจ้องตากันเขม็ง บรรยากาศรอบๆราวกับอยู่ในกองเพลิง

เหอหยุนซิ่งจ้องจี้ผิงโจวอยู่นาน แต่จี้ผิงโจวก็ยังหน้านิ่ง ไม่แสดงอาการใดๆออกมา

พวกเขาจำได้ดีว่า

คืนงานแต่งของจี้ผิงโจวและเหอเจิง หลังจากที่เขาได้รับคำตอบที่สะเทือนใจนั้น เขาก็ได้จัดการปาข้าวของในห้องจนแตกกระจายไม่เหลือชิ้นดี

แม้กระทั่งตลับเทปที่เหอเจิงรักที่สุดก็ไม่เว้น

ตอนที่จี้ผิงโจวไม่อยู่ เหอเจิงมักจะเข้าไปในห้องของเขาเพื่อเปิดเทปนั่น เทปนั่นเหมือนเป็นตัวแทนความรักระหว่างเขาทั้งสอง เป็นจุดเริ่มต้นของความรักและจุดจบของความรักเลยก็ว่าได้

หลังจากวันนั้น จี้ผิงโจวก็ไม่มีความรู้สึกอารมณ์ความรู้สึกใดๆอีกเลย และเขาก็เอาแต่ใช้ชีวิตเสเพลกับฟางลู่เป่ย

จากเดิมที่เป็นความรักใสๆ ก็กลายเป็นที่รู้จักกับคนมากหน้าหลายตา

ฟางลู่เป่ยเคยบอกเรื่องพวกนี้กับเหอหยุนซิ่งตอนที่เขากลับมา

และเขาไม่เชื่อ

แต่จากวันนี้ที่ได้ยินได้ฟังคำพูดของจี้ผิงโจวแล้ว เขาก็เริ่มเชื่อ

จากนั้นเขาก็ถามแทงใจดำต่อว่า “ฉันได้ยินมาว่าเจิงจะหย่ากับนาย?”

เหอหยุนซิ่งหรี่ตาถามจับผิด

จี้ผิงโจวตอบว่า “อ่อ คุณอาได้ยินมาจากไหนครับ ผมไม่เห็นรู้เลย?”

“เจิงพูดเอง”

“พูดกับคุณเองเลย?”

“เปล่า”

จี้ผิงโจวหัวเราะในลำคอ

“งั้นก็แปลกมากเลย เพราะเจิงไม่ได้เป็นคนบอกคุณอา แต่คุณก็สนใจขนาดนี้ ไม่น่าตลกเหรอครับ?”

“จะพูดแบบนี้ก็ไม่ถูก”

“งั้นควรพูดแบบไหนเหรอ” จี้ผิงโจวรู้สึกเสียเวลาที่ได้คุยกับเขา “คุณอาครับ อย่าลืมซิครับว่าคุณเป็นใคร ที่เรียกเจิงอย่างนั้นเจิงอย่างนี้ ไม่คิดเหรอครับว่ามันไม่เหมาะ?”

“ฉันก็เรียกเธอแบบนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว ทำไมพอมาอยู่กับนายแล้วไม่เหมาะสมได้?”

น่าขำสิ้นดี

จี้ผิงโจวเอามือล้วงกระเป๋าและพูดเสียงเรียบว่า “คุณอา ผมกับคุณต่างก็เป็นผู้ชายเหมือนกัน คุณคิดอะไรผมรู้ดี ที่ทำอยู่นี้ก็เพื่อรักษาของของคุณและผมอยู่ คุณอาคงไม่คิดว่าผมจะโง่เหมือนตอนสามปีก่อนหรอกนะ?”

เขาไม่อยากพูดอะไรต่อแล้ว

และเขาก็ไม่ยอมให้เหอหยุนซิ่งเข้าไปเยี่ยมเหอเจิงอีก เพราะโรงพยาบาลนี้เป็นของเขา เขาจึงจะทำอะไรก็ได้

ฟ้าค่อยๆมืดลง

หญิงสาวใบหน้าซีดเซียวที่กำลังนอนอยู่บนเตียง เริ่มขยับเปลือกตา และท่าทางกระหายน้ำ

เธอผอมซูบมาก

จี้ผิงโจวเห็นดังนั้น

จึงเดินไปหยิบน้ำ และเดินเข้าไปตบเบาๆที่แก้มของเธอ “ตื่นได้แล้ว ดื่มน้ำหน่อย”

น้ำเสียงเขาเหมือนกับกำลังง้อเด็กอยู่

เหอเจิงพยายามลืมตาขึ้น จากนั้นก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย สติเธอยังไม่กลับมาร้อยเปอร์เซ็น การที่ได้เห็นจี้ผิงโจวอยู่ข้างหน้า เหมือนกับฝัน

“ตื่นมาดื่มน้ำ”

น้ำเสียงเขาชัดขึ้น

เธอจึงรู้ว่าเธอไม่ได้ฝันไป จี้ผิงโจวประคองเธอขึ้นมา จากนั้นก็ป้อนน้ำเธอ

เหอเจิงรู้สึกดีขึ้น จึงถามว่า “ฉันเป็นอะไร ทำไมถึงมาอยู่ที่โรงพยาบาลคุณได้?”

จี้ผิงโจววางแก้วลง และยื่นมือไปเช็ดน้ำที่มุมปากเธอ จากนั้นตอบว่า “เป็นลม”

“เป็นลมได้อย่างไร?”

สาเหตุที่แท้จริง จี้ผิงโจวไม่อยากพูดถึงมาก

จึงโบ้ยความผิดไปให้เหอหยุนซิ่ง

“คุณอาเธอพาเธอออกไปเที่ยวเล่นจนเหนื่อย เลยเป็นลม”

เหอเจิงขมวดคิ้ว “คุณคิดว่าฉันอายุสามขวบแล้วหลอกง่ายแบบนั้นเหรอ?”

“แล้วไม่ใช่เหรอ?” จี้ผิงโจวหลุดขำเล็กน้อย “คนอื่นให้ขนมเธอ เธอก็ไปกับเขาง่ายๆ แบบนี้ไม่เรียกเด็กแล้วเรียกว่าอะไร?”

ไม่รู้ว่าเขาพูดอะไรอีก

เหอเจิงใช้มือดันเขาออก และพยายามจะออกไป ช่วงที่เธอออกแรงดึงนั้น

เข็มน้ำเกลือที่เสียบอยู่ ก็ทำเอาเธอเจ็บจนแทบร้องไห้

“สมน้ำหน้า” ถึงปากเขาจะพูดแบบนั้น แต่เขาก็ดึงมือเหอเจิงเข้ามา และจัดการเข็มน้ำเกลือให้เธอใหม่ “หมดน้ำเกลือขวดนี้ก็กลับบ้านได้”

“คุณให้ยาอะไรกับฉัน?”

“ยาพิษ หมดขวดก็ตายทันที พอใจหรือยัง?”

ฟังดูก็รู้ว่าประชด

เหอเจิงได้ยินดังนั้น ก็ไม่ได้สนใจ หันหน้าออกไปมองทางหน้าต่างแทน เธอยังรู้สึกแน่นอกอยู่เล็กน้อย ช่วงปีที่ผ่านมานี้ ดูเหมือนร่างกายเธอจะย่ำแย่มากไปทุกที นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธออยู่ๆก็เป็นลมไปแบบนี้

ทั้งหมดเป็นเพราะจี้ผิงโจวคนเดียว

แล้วทำไมเขายังต้องมาเสแสร้งแกล้งทำมาดูแลเธอด้วย

เธอคิดได้แบบนั้นก็เตรียมจะหันไปพูดกับเขา แต่พอหันหน้าไปก็เห็นท่าทางตั้งใจของเขา ที่กำลังสังเกตการหยดของน้ำเกลืออยู่

อาจจะเป็นเพราะท่าทางตั้งใจและเสื้อกาวน์สีขาวที่เขาใส่ ทำให้เขาดูอ่อนโยนขึ้นมามาก

คนที่เย็นชาคนนั้นเหมือนจะมองไม่เห็นเลย

จากนั้นเขาก็เหลือบตามา และเห็นว่าเหอเจิงกำลังมองเขาอยู่ จึงถามว่า “มองพอหรือยัง?”

ซ่อน | รัก | ลับ

ซ่อน | รัก | ลับ

ฟางเหอเจิงแต่งงานกับจี้ผิงโจวในฐานะลูกสาวนอกกฎหมายของตระกูลฟาง เธอถ่อมตัวต่อหน้าเขา เธอเก็บความรู้สึกทุกอย่างได้จนสามารถกินข้าวร่วมโต๊ะเดียวกันกับคนรักของเขาได้ ระยะเวลาสามปีเต็ม ไม่มีใครเคยเห็นฟางเหอเจิงอิจฉาและเสียอารมณ์ จนกระทั้งมีการเปิดเผยข้อตกลงการหย่าร้างต่อสาธารณะ ไม่มีใครรู้เลยว่าฟางเหอเจิงรักใครอีกคน ในคืนแรกของการแต่งงานเธอจูบดวงตาของเขา เรื่องที่ฟางเหอเจิงแต่งงานกับเขา มีคนถามว่าเธอรัก ฟางเหอเจิงแต่งงานกับเพราะอะไร? เธอตอบว่าเพราะดวงตาเขา เธอรักดวงตาของเขาเท่านั้น ..

Comment

Options

not work with dark mode
Reset