ซ่อน | รัก | ลับ – ตอนที่ 45 ยังไงถึงนับได้ว่าดีกับนางล่ะ

เสียงนั้นลอยมาไม่นานก็หายไป การเคลื่อนไหวหยุดอย่างกะทันหัน

แต่เสียงนั้นก็ได้ยินไปแล้ว

หน้าแตกอย่างไม่มีทางเย็บเลย

ฟางลู่เป่ยแทบจะอยากหมอบลงกับพื้น เขาหันตัวกลับไป เขานวดหน้าไปมา ไม่รู้ว่าควรพูดอะไรเพื่อควบคุมสถานการณ์ แต่จี้ซูกลับพูดด้วยเสียงหัวเราะเล็กน้อย “พี่ลู่เป่ย…พี่ลู่เป่ย เราออกไปก่อนไหม”

“ก็ดีเหมือนกัน”

สถานการณ์แบบนี้

ไม่ลงไปชั้นล่างจะทำไรได้อีก

ขาข้างหนึ่งของฟางลู่เป่ยเหยียบลงบันได เขาพยายามคุมเสียงฝีเท้า ไม่อยากรบกวนสองคนที่อยู่ข้างในนั้น แต่จี้ซูไม่ได้มีความละเอียดขนาดนั้น เธอเป็นคนไม่แคร์อะไรอยู่แล้ว เลยไม่ได้คิดถึงเรื่องพวกนี้

ทันทีที่รองเท้าส้นต่ำเหยียบลงไป ทำเอาทุกอย่างพังไปหมด

เหมือนกับว่ามีอะไรหนักๆตกลงสู่พื้น

เสียงนั้นดังสนั่นข้างหู

แม้แต่ฟางลู่เป่ยก็หยุดชะงัด เกร็งมือไว้ หันกลับไปมองจี้ซูด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม เธอตื่นเต้น ขาขางหนึ่งค้างไว้บนอากาศ ไม่รู้ว่าควรเหยียบลงไปหรือไม่

ท่าทางที่ก้าวไม่ไปถอยไม่ได้นั้นดูแล้วน่าเห็นใจจริงๆ

ฟางลู่เป่ยมองค้างไว้ หัวเราะออกมาแบบกลั้นไม่อยู่คำหนึ่ง แล้วทำมือ”มาทางนี้”ให้เธอ

จี้ซูโล่งอก ขาอีกข้างกำลังจะเหยียบลงไป ประตูด้านหลังกลับเปิดออกครึ่งหนึ่งอย่างกะทันหัน มีแสงออกมาเล็กน้อย ยังมีลมอุ่นๆ ตกลงบนหลังของเขาทั้งสองด้วย

ตามด้วยการหันหน้ากลับไปของเขาทั้งสอง

จี้ผิงโจวหนีบอยู่ระหว่างประตู ไอของความรักยังเผยให้เห็นในลูกตาที่สดใสของเขา สะลึมสะลือ อาจเป็นคนที่เพิ่งออกจากกล่องของความนุ่มนวล แต่วิญญาณยังอยู่ข้างใน ดังนั้นเสียงพูดจึงเบาและไม่ได้ชัดแจน

เผยให้เห็นจิตใจที่เลื่อนลอย

“พวกเธอมาทำอะไรที่นี่”

ความรู้สึกที่อึดอัดยิ่งกว่าอึดอัดได้เกิดขึ้นแล้ว

ไม่มีเรื่องที่หน้าอายมากกว่าการแอบฟังข้างกำแพงแล้วล่ะ จี้ซูเหยียบลงอย่างมั่นคง ไม่รู้ว่าได้รับความกล้าจากไหน ลิ้นพันกันไปหมด กลับพูดว่า “พวกเรา…ถ้าฉันบอกว่าพวกเรามาสำรวจห้อง พี่เชื่อไหม”

คำพูดแบบนี้กระทบไปยังหูของจี้ผิงโจว เหมือนกับว่ากำลังบีบคั้นเขาอยู่

เขาขยับหางคิ้วเบาๆ โค้งหัวลง ใช้สายตาแสดงคำถาม

เห็นจี้ซูกลัวจริงๆ ฟางลู่เป่ยดึงเธอหลบไปด้านหลัง พูดด้วยน้ำเสียงเข้มแข็งพร้อมด้วยความมีเหตุผล “ฉันมาหาเหอเจิง วันนี้เธอมาที่นี่ไม่ใช่หรือ”

“ใช่ เธอมาที่นี่”

“แล้วคนล่ะ”

“อยู่ในห้อง”

“เรียกเธอออกมา”

จี้ผิงโจวมองเข้าไปในห้องเหมือนกับว่ามีอะไรสักอย่างที่บอกไม่ถูก ท่ามกลางแสงฝุ่นละอองสลั่วๆเห็นร่างลางๆของเหอเจิง เธออยู่หน้ากระจกกำลังหวีผม รอบตัวเหมือนมีแสงสีเงินล้อมรอบไว้

ได้ยินเสียงจากข้างนอก การกระทำของเธอเร่งเร็วขึ้นกว่าเดิมเยอะ

จากความคิดที่อยากแสดงฉากชั่วร้าย จี้ผิงโจวไม่พูดความจริง แต่กลับแต่งเรื่องขึ้นเอง “เธอออกมาไม่ได้”

ฟางลู่เป่ยไม่เข้าใจเจตนาของเขา “ทำไมหรอ”

“ขาอ่อนน่ะ”

จี้ซูได้ยินไม่ชัด ได้ยินแต่ว่า “ขา” ก็ถูกมืออันรวดเร็วของฟางลู่เป่ย ปิดหูไว้ ฟางลู่เป่ยกัดฟันด่าจี้ผิงโจว “นายมันเดรัจฉานชัดๆ ไม่เห็นหรือไงว่ามีเด็กอยู่ด้วย พูดอะไรมั่วซั่ว”

สีหน้าของจี้ผิงโจวไม่เปลี่ยน “ฉันจะเดรัจฉานหรือไม่ ก็ถามน้องสาวนายดูสิ”

ฟางลู่เป่ยจะอาเจียนเป็นเลือดเพราะเขาอยู่แล้ว ช่องที่เหลือของประตูถูกเปิดออก สีหน้าของเหอเจิงยังคงดูดี ตอนที่วิ่งออกมาสีหน้ายังดูดี ไม่ได้ตื่นเต้นตกใจ และก็ไม่มีสิ่งที่พวกเขาคิดไว้ในใจด้วย

เดินผ่านจี้ผิงโจวอย่างเย็นชา เดินลงบันไดไปหลบอยู่หลังของฟางลู่เป่ย

ฟางลู่เป่ยเอามือออกจากหูของจี้ซู สายตาที่ริบหรี่มองผ่านเหอเจิง เหมือนจะบอกว่า “ขายหน้ามากเลย” ไม่ว่ายังไงวันนี้ก็ไม่ใช่เวลาที่เหมาะที่จะพูดเรื่องการหย่า

เขาทำได้แค่พูดตรงไปตรงมาว่า “ครั้งหน้ามาใหม่”

เหอเจิงเร่งฝีเท้าเดินตามหลัง

ขณะที่กำลังจะเดินออกจากสวนซาง

เธอเหยียบใส่น้ำขัง น้ำสะเด็นถูกขากางเกงของฟางลู่เป่ย เขามีความสงสัยชั่วครู่ หยุดเดิน ถอนหายใจทีหนึ่ง พูดด้วยน้ำเสียงที่เสียดสี” ฟางเหอเจิง เธออยากทำอะไรกันแน่”

“อะไร ฉันอยากทำอะไร”

คำพูดนี้บ่งบอกว่าเป็นเรื่องส่วนตัวของพวกเขา จะหย่าหรือไม่ ทั้งสองครอบครัวน่าจะต้องมาเจรจากัน แต่เขาไม่จำเป็นต้องเป็นที่พึงของเธอ ไม่จำเป็นต้องให้ความช่วยเหลือเธอด้วย

ที่ทำอย่างนี้

ก็เพราะเห็นใจเธอที่เป็นถุงเลือดให้บ้านตระกูลจี้ฟรีๆตั้งสามปี

แต่เธอกลับ ไม่มีความจริงใจหรือเอาจริงแม้แต่น้อย

ฟางลู่เป่ยเครียดจนเจ็บใจ เขาไม่เข้าใจว่ามีความสัมพันธ์อะไรที่ไม่สามารถวางลงได้หรอ แม้ว่าพวกเขาเคยรักกัน แต่เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว ก็ควรหย่ากันไม่ใช่หรอ

“เธอบอกว่าอยากหย่ากับโจวโจว ฉันก็มาช่วยแล้ว แต่ดูเธอสิ ทำอะไรลงไป”

น้ำเสียงของเหอเจิงดังขึ้น “ฉันทำอะไรลงไปล่ะ ฉัน…”

“ฉันจะมาช่วยเธอคุยเรื่องหย่า แต่เธอกับเขาหลบอยู่ในห้องอย่างสนิทสนมจะให้ฉันคิดยังไง” ฟางลู่เป่ยโมโหเพราะเธอไม่สู้เขา

“ฉันสนิทสนมกับเขาที่ไหนกัน”

ตอนนี้เธอถึงได้รู้ว่าพวกเขาเข้าใจผิดแล้ว

เสียงรวนไปหมดในพริบตา “โรคของเขากำเริบ ฉันก็แค่ช่วยเขาเพิ่มความอุ่นเฉยๆ”

เขาก็ไม่เชื่อว่าจี้ผิงโจวจะเป็นคนทำอะไรต่ำช้าแบบนั้น เขาเป็นคนมีคุณธรรม เพื่อนในกลุ่มที่เล่นด้วยกัน มีแต่เขาเท่านั้นที่ไม่ร่วมบ่อนพนัน ไม่สูบบุหรี่ ผู้หญิงข้างกายก็เป็นคนที่พวกเขาแนะนำให้ทั้งนั้น

คำพูดสกปรกก็ได้ยินจากปากของเขาไม่กี่คำ

เหอเจิงรู้ว่าฟางลู่เป่ยกำลังคิดอะไรอยู่ เครียดจนหน้าแดง ต่อให้เธอจะไม่มีขีดจำกัดเลย ก็ไม่ถึงกับว่ายอมเพราะคำพูดสองสามคำของจี้ผิงโจวหรอก “นั่นเป็นเพราะเขาเป็นไอ้ระยำ”

ด่าอย่างไม่เต็มใจ

คำด่าได้ไปตกลงบนหัวของจี้ผิงโจว เขาจามทีหนึ่ง ทั้งร่างกายและกระดูกอ่อนล้าไปหมด จี้ซูยังอยู่ที่บันได มองเขาอย่างจริงจัง ถอนหายใจเฮือก”พี่ คิดไม่ถึงว่าพี่ก็เป็นคนไม่รู้จักอายเหมือนกัน”

เหอเจิงกับฟางลู่เป่ยจากไป

จี้ผิงโจวก็กลับสู่สีหน้าที่เย็นชาเหมือนเดิม ยืนนิ่งไม่ขยับ “ไม่ต้องยืนทื่ออยู่อย่างนี้ ไม่มีอะไรทำหรือไง”

“มีสิ”จี้ซูยิ้มฮิฮิ “ดูเรื่องสนุกไง”

“ออกไปซะ”

“เอ่อคือว่า… พี่ ” เธอถามด้วยความอยากรู้”พวกพี่ทะเลาะกันจริงๆหรอ ”

“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเธอ”

“เห็นพี่สภาพแบบนี้ ฉันก็แค่เป็นห่วงน่ะ”

จี้ผิงโจวจ้องเธออย่างเย็นชา “พวกเธอเป็นห่วงอะไรเล่า อย่าทำเป็นอีเห็นมาอวยพรปีใหม่ไก่ ”

จี้ซูยังไม่เคยได้ยินใครด่าเธอแบบนี้มาก่อน บนหน้าของเธอแขวนใบหน้าที่ทะเล้นไว้ “ฉันก็แค่เป็นห่วงว่าถ้าฟางเหอเจิงไปจริงๆ ก็จะไม่มีใครมาดูแลพี่ไง”

“เธอจากไปเพราะอะไร พวกเธอไม่รู้หรอก”

“อยากจากไปตามใจนะสิ”

แม้ว่าเธอไม่ได้ชอบเหอเจิงมาก แต่เหอเจิงอยู่ที่บ้านตระกูลจี้นั้นดีจนไม่ต้องพูดอะไร ให้เธอทำอะไรก็จะทำสุดความสามารถตลอด จี้ซูเคยทำให้เธอลำบากใจหลายครั้ง แต่ที่ทำไปก็เพื่อความสนุกสนานเท่านั้นเอง

ไม่ได้ทำอะไรเกินไปจริงๆ

พวกเธอทะเลาะกันตลอด แต่ก็ไม่ได้เกลียดฝ่ายตรงข้ามเลย

กับเรื่องหย่าของเหอเจิง จี้ซูทำเป็นเหมือนไม่ได้เกี่ยวกับตัวเองเลย เธอรีบพูดแก้ต่าง”ไม่ว่าจะคำนวณยังไงฉันก็ไม่ใช่คนที่รังแกเธอมากที่สุด พี่อยู่ข้างนอกเที่ยวไปทั่ว ให้เธอเฝ้าห้องอยู่คนเดียว เวลาพี่สามรังแกเธอก็ไม่เคยออกมาปกป้องเธอเลย พี่… พี่ไม่รู้จริงๆหรือว่าทำไมเหอเจิงจึงอยากหย่ากับพี่”

จี้ผิงโจวไม่อยากจะเชื่อว่าคำพูดเหล่านี้จะออกมาจากปากของจี้ซู

หรือทุกอย่างที่พูดออกมาจะเป็นความคิดของเหอเจิงจริงๆ เขาคิดอย่างเอาจริงเอาจัง

เหมือนจะเห็นวิญญาณของเหอเจิงด้วย

คำพูดที่ช้าๆ ค่อยๆถามออกมา “ฉันทำไม่ดีกับเธอตรงไหน มีอะไรที่ดีแล้วยังไม่เคยส่งให้เธอบ้าง”

จี้ซูเอาลิ้นเลียปาก เหมือนจะอึดอัดเล็กน้อย “พี่ พี่นี่นอกจากใบหน้าแล้ว อย่างอื่นไม่มีอะไรดีเลย ฟางเหอเจิงเหมือนผู้หญิงที่พี่พบปะข้างนอกหรอ เธอเป็นภรรยาของพี่ ไม่ใช่เป็นภาพลักษณ์ที่พี่ใช้ของขวัญแลกมาโชว์ให้คนดู”

“เธอรู้ได้ยังไงว่าเธอไม่อยากได้”

“ถ้าเธอต้องการแค่ของพวกนี้ ตั้งแต่แรกเธอจะแต่งกับใครก็ไม่ต่างกันไม่ใช่หรอ”

ลองคิดเปรียบเทียบดูแล้ว

เมื่อแต่งเข้ามายังบ้านตระกูลจี้ยังต้องบริจาคเลือดด้วย

ไม่ว่าจะคิดอย่างไร

ก็ไม่ใช่การค้าที่คุ้มค่าเลย

จี้ผิงโจวเก็บกดไว้ เหมือนกับว่าจะจับอะไรได้สักอย่าง กระพริบตาเบาๆ ถามอย่างใจเย็น “เธอยังจะแต่งกับใครได้อีก”

นอกจากเขา ตั้งแต่ตอนนั้นเธอคงจะไม่มีตัวเลือกที่ดีกว่านี้แล้วล่ะ

เพราะอย่างนี้ถึงได้พยายามเข้าใกล้เขา หลอกเอาความเชื่อใจและความรักที่เขามีตั้งแต่แรก

จี้ซูไม่ได้คิดมาก กอดแขนอย่างขี้เกียจ “ครูของเธอไง ฉันยังไม่ได้บอกพี่ เมื่อก่อนฉันยังเคยฟังวงดนตรีของเขาด้วย”

“ครูหรือ”

“อีกอย่าง ตอนนั้นเธอเป็นผู้หญิงที่พรสวรรค์ด้านดนตรี ออกแสดงกับครูของเธอในรายการแสดงช่องของประเทศ คนอื่นบอกว่าพวกเขาเป็นกิ่งทองใบหยก ถูกขัดเกลาด้วยกันสิบกว่าปี แต่น่าเสียดายต่อมาไม่รู้ทำไม…”

“ไม่ต้องพูดแล้ว”จี้ผิงโจวรู้ว่าเหอเจิงมีประวัติแบบนี้ แต่ก็ไม่อยากรู้ชัดเจน และยิ่งไม่ต้องการสืบหาความรักของพวกเขาอย่างละเอียด

เธอจะปลอบผู้ชายคนนั้นเป็นด้วยไหมนะ

หรือจะไปจูบเขาด้วย ช่วงเวลาที่อบอุ่นเข้าไขกระดูก มือที่เล็กๆคู่นั้นจะจับที่จุดไหนของเขากันแน่

ขนปุยๆที่กำลังกระจายอย่างบ้าคลั่ง เหมือนจะทำลายจี้ผิงโจว เขาปฏิเสธไม่ได้ว่าตัวเองกำลังอิจฉา

“ถ้างั้น ฉันจะต้องทำยังไงต่อเธอ”

คำพูดที่เย็นชาคำหนึ่ง ทำเอาจี้ซูอึ้งไปเลย “อะไรนะ”

“เธอว่าฉันไม่ดีกับเธอ แล้วทำยังไงถึงจะนับว่าดีกับเธอล่ะ”

เหอเจิงเห็นจี้ผิงโจวในอีกห้าวันต่อมา

ซ่อน | รัก | ลับ

ซ่อน | รัก | ลับ

ฟางเหอเจิงแต่งงานกับจี้ผิงโจวในฐานะลูกสาวนอกกฎหมายของตระกูลฟาง เธอถ่อมตัวต่อหน้าเขา เธอเก็บความรู้สึกทุกอย่างได้จนสามารถกินข้าวร่วมโต๊ะเดียวกันกับคนรักของเขาได้ ระยะเวลาสามปีเต็ม ไม่มีใครเคยเห็นฟางเหอเจิงอิจฉาและเสียอารมณ์ จนกระทั้งมีการเปิดเผยข้อตกลงการหย่าร้างต่อสาธารณะ ไม่มีใครรู้เลยว่าฟางเหอเจิงรักใครอีกคน ในคืนแรกของการแต่งงานเธอจูบดวงตาของเขา เรื่องที่ฟางเหอเจิงแต่งงานกับเขา มีคนถามว่าเธอรัก ฟางเหอเจิงแต่งงานกับเพราะอะไร? เธอตอบว่าเพราะดวงตาเขา เธอรักดวงตาของเขาเท่านั้น ..

Comment

Options

not work with dark mode
Reset