ซ่อน | รัก | ลับ – ตอนที่ 52 ต่อให้ฟ้องศาลก็ชนะไม่ได้หรอก

ทั้งๆที่จะเช้าอยู่แล้วแต่จี้ผิงโจวยังจะออกไปอีก ไม่ว่ายังไงจี้เหยียนเซียงก็ไม่เห็นด้วย เธอประคับประคองร่างกายขี้โรคของเธอเพื่อไปขวางทางของเขา

คราวนี้คนใช้ก็ตื่นขึ้นมากันแล้ว

มีบางส่วนกำลังไปเตรียมยาที่จี้เหยียนเซียงต้องดื่ม บางส่วนกำลังไปเตรียมอาหารเช้า คนที่เดินผ่านมา ต่างก็เห็นฉากของพวกเขาสองพี่น้องที่ตึกใต้น้อย

จี้ผิงโจวปฏิบัติต่อจี้เหยียนเซียงอย่างนุ่มนวลตลอด

เพราะเธอเป็นพี่สาวของตน และเป็นคนเดียวที่ยังมีชีวิตอยู่ แต่กลับป่วย ฉะนั้นต้องยิ่งดีกับเธอ ให้สิ่งที่ดีที่สุดกับเธออย่างไม่มีเงื่อนไข

อย่างนี้นี่เองทำให้ลืมคิดถึงความรู้สึกของเหอเจิง

“พี่สาว ผมไปแป๊ปเดียวก็กลับ”

แววตาที่นุ่มนวลของจี้เหยียนเซียงกลับเต็มด้วยความหนักแน่น “นี่มันกี่โมงแล้ว นายอย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะว่า นายจะออกไปตามหายัยคนป่าคนนั้น”

จี้ผิงโจวไม่ชอบการเถียงกับคนอื่นที่สุดเลย

ช่วงที่ผ่านมานี้ ทะเลาะกับเหอเจิงก็ทำให้เขาเบื่อมากแล้ว กับจี้เหยียนเซียงเขาไม่อยากใช้การทะเลาะ “ผมไปเดี๋ยวเดียวก็กลับ”

“ไม่ได้ นายยิ่งเป็นแบบนี้ เธอก็จะยิ่งได้ใจ”

คนในบ้านที่ต้องการให้เหอเจิงออกไปมากสุดก็คงจะเป็นจี้เหยียนเซียง

จี้ผิงโจวก็รู้มาตลอด แต่เขาก็ไม่เคยคิดจะหย่ากับเธอเลย เมื่อก่อนพวกเธอจะทะเลาะกันยังไงเขาไม่เคยใส่ใจ ครั้งนี้ไม่เหมือนกัน คนที่จะหย่าคือเหอเจิง

เขาจะทำเป็นเหมือนไม่สนใจอะไรไม่ได้แล้ว

“พี่ ผมเข้าใจความหมายของพี่ ” คำพูดของเขาแผ่วเบา “คุณปู่กำลังจะกลับมาแล้ว เธอไปไม่ได้”

“แล้วนายคิดจะทำยังไง”

ทำยังไงหรอ

จี้ผิงโจวกำลังซึมอยู่ จี้เหยียนเซียงยิ้มเล็กน้อย “ครั้งก่อนเธอกล้าเถียงกับฉันก็เพราะนายทำแบบนี้ เธอบอกว่าจะหย่าด้วย พวกเธอเซ็นสัญญาหย่ากันหรือยัง”

ดูเหมือนพวกเขาคิดว่าน่าจะเป็นความจริง

ขอแค่เหอเจิงยอมออกไป จี้ผิงโจวต้องไม่รั้งเธอไว้อย่างแน่นอน เธอก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน แต่สิ่งที่เขาคิดไว้คือเหอเจิงจะไม่ออกไปจากที่นี่ตลอดกาล

“ยังเลย”จี้ผิงโจวไม่อยากพูดเยอะ “ขอให้ทางคุณปู่ทางโน้นผ่านไปก่อนค่อยว่ากันอีกที”

“ให้คุณปู่ไปแล้วก็หย่าเลยหรอ”

เขาไม่ได้ปฏิเสธ “ถ้ามันราบรื่นนะ”

ได้รับคำตอบที่แน่นอนอย่างนี้

จี้เหยียนเซียงก็โล่งใจขึ้น “คืนนี้นายไม่ต้องไปแล้ว ให้เสียวเจี่ยนไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น นายไปเองมันน่าขายหน้ามาก ไม่ใช่แค่หน้าของนายแต่รวมถึงหน้าของตระกูลจี้ด้วย”

ความมีหน้ามีตาของตระกูลจี้จะต้องมาก่อนสิ่งอื่นใดทั้งสิ้น

ตอนแรกที่จี้ผิงโจวจะแต่งงานกับเหอเจิง ถูกต่อต้านทั้งหน้าและหลัง แม้แต่คนของตระกูลฟางก็ไม่เห็นด้วย เป็นเพราะฐานะที่ต่างกันเกินไป เพื่อให้พวกเขาได้แต่งงานกัน แม้แต่พ่อของฟางลู่เป่ยก็ได้รับอุบัติเหตุ

การแต่งงานครั้งนี้ ไม่มีใครเห็นดีด้วย จุดจบก็เป็นอย่างที่ทุกคนคิดไว้ ว่าไม่ช้าก็เร็วต้องแยกจากกันแน่ๆ

ตอนที่เป๋ยเจี่ยนกลับมาถึงตึกเหนือ จี้ผิงโจวก็เพิ่งกลับมาจากตึกใต้น้อยเหมือนกัน

พวกเขายืนอยู่ใต้ตึก

มองไปยังท้องฟ้าที่มีโปร่งใส อยู่ด้วยกันโดยไม่มีใครเอ่ยปาก

เวลาผ่านไปเนิ่นนาน เปลือกตาของจี้ผิงโจวกระตุกแรงมาก ความรู้สึกที่กลัวว่าอะไรไม่ดีไม่ร้ายจะเกิดขึ้นก็รุนแรงกว่าเดิม “ยังหาเหอเจิงไม่เจอหรอ”

เขาไม่สามารถไปจินกงเพื่อตามหาเหอเจิง จึงได้ส่งเป๋ยเจี่ยนไป

แต่เขาไม่รู้เลยว่า พวกเขาเหล่านั้นเหมือนกับร่วมกลุ่มกันกลั่นแกล้งเขา ปิดบังการเคลื่อนไหวของเหอเจิง

“ไม่เจอ แต่ว่าได้ยินว่าคุณฟางต่อรถจากไปเอง คนยังคงปลอดภัยอยู่”

แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว

ขอแค่รู้ว่าเธอปลอดภัยดีก็พอแล้ว

จี้ผิงโจวดูนาฬิกา ฟ้าใกล้จะส่างแล้ว วันนี้คุณปู่น่าจะกลับมาแน่ ไม่เห็นเหอเจิงต้องเป็นสงครามใหญ่อีกแล้วแหละ

อารมณ์ที่ไม่ดีของเขาปิดบังไม่อยู่ เป๋ยเจี่ยนปลอบใจจี้ผิงโจวด้วยความถ่อม “ยังไงก็ให้คุณฟางพักข้างนอกสักสองสามเดือน เมื่อเธอได้ลิ้มรสของความลำบาก ก็คงกลับมาเองแหละ”

“ลิ้มรสความลำบากหรอ”จี้ผิงโจวรู้สึกว่าเป็นเรื่องน่าขำสิ้นดี “เธอจะลิ้มรสความลำบากอะไรได้ล่ะ”

“ตอนที่อยู่ที่บ้านตระกูลจี้ทั้งของกินของใช้และเครื่องนุ่งห่มล้วนแล้วเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ตอนนี้อยู่คนเดียวข้างนอก จะใช้ชีวิตแบบนั้นได้ยังไง”

“เธอเคยชินแล้ว”

ช่วงชีวิตก่อนสิบขวบของเหอเจิงนั้นอยู่ในสภาพแวดล้อมที่แย่มาก ไม่ต้องพูดถึงเลยว่าเธอจะอยู่ข้างนอกแบบนั้นได้ยังไง ขอแค่ให้กระดาษหนังสือพิมพ์เธอแผ่นหนึ่ง เธอก็สามารถพักที่เก้าอี้ยาวในพื้นที่สาธารณะได้เดือนหนึ่งแล้ว หลังจากเดือนหนึ่งผ่านไป สภาพการเป็นขอทานของเธอก็กลับมาแล้ว

เรื่องนี้ถึงเป็นเรื่องที่จี้ผิงโจวเป็นห่วงที่สุด

เหอเจิงไม่ใช่ลูกคุณหนูที่เช้าไหนไม่ได้ดื่นนมวัวจะอยู่ไม่ได้ ถ้าเธอเป็นคนอ่อนแออย่างนั้น เขาคงไม่ต้องเป็นห่วงหรอก

เป๋ยเจี่ยนเข้าใจความหมายของจี้ผิงโจวดี เลยไม่ได้พูดมาก พร้อมกับเก็บเรื่องที่เขาเห็นเหอเจิงเมื่อคืนนี้ไว้ในท้องตัวเอง คำเดียวก็ไม่คิดจะบอกให้เขา

“แล้วถ้าคุณปู่มาถึง จะอธิบายยังไงหรอ”

การรับมือ จี้ผิงโจวมีวิธีไว้แต่แรกแล้ว “นายไปหาเธอ เมื่อหาเจอแล้วยังไงก็ต้องพากลับมาให้ได้ ไม่ต้องโต้กับเธอโดยตรง บอกเธอเรื่องที่ว่าไม่ต้องถ่ายเลือดอีกแล้ว ก่อนจะหย่าก็ต้องรับมือกับคุณปู่ทางนี้ให้ได้ก่อน”

“ถ้าคุณฟางยังไม่ยอมอีกล่ะ”

“ถ้างั้นก็บอกเธอไปว่า วันนี้ไม่กลับมา เรื่องหย่าแม้แต่คิดก็ไม่ต้องคิด หรือเธอมั่นใจว่าจะชนะฉันได้ในการฟ้องร้องก็ลองดูแล้วกัน”

อย่างนี้

พวกเขาปฏิเสธไม่ได้อย่างแน่นอน

แม้แต่เหอเจิงเองก็น่าจะไม่มีวิธีอื่นแล้ว

คนใช้ของบ้านตระกูลจี้ฟ้ายังไม่ส่างก็ได้เตรียมอาหารเที่ยงแล้ว เวลาคุณปู่กลับมา คนของตระกูลจี้จะต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ กลัวว่าจะมีอะไรผิดพลาด

แม้แต้จี้เหยียนเซียงกับจี้ซูก็กลับทำตัวดีมาก ทุกคนต่างกลัวจะทำผิด

ยิ่งกว่านั้นครั้งก่อนๆ เหอเจิงอยู่ตลอด โดยอุปนิสัยและความเป็นตัวของเธอเอง ทำให้เธอใช้คำพูดลดความขัดแย้งบนโต๊ะอาหารได้

11.00น. เป็นเวลาเหมาะกับการออกกำลังกายมาก

ยิ่งอยู่ใต้แสงอาทิตย์ในฤดูหนาว พี่เฉินยืนรออยู่หน้าประตูตึกหลัก ร้อนใจจนเดินไปเดินมา ยืนนิ่งไม่อยู่ อยากจะคอยการกลับมาของเหอเจิง แต่กลับได้เห็นรถของคุณปู่ขับมาเสียก่อน

มองออกไปไกลๆเห็นรถสองคัน คันแรกเป็นคันสีดำ เป็นรถใหม่ สีรถเป็นมันวาว ทันทีที่รถหยุดสนิท คนขับรถรีบลงจากรถหันกลับไปเปิดประตูรถ

คนแก่เดินออกมาจากรถ ผมขาวกว่าครึ่งแล้ว แต่ยังคงไฟแรงเหมือนเดิม มีแต่จอนผมเท่านั้นที่บ่งบอกถึงความมีอายุ

จี้ผิงโจวก็รออยู่ข้างๆด้วย ยิ้มด้วยความรู้สึกใกล้ชิดและความเป็นมิตรให้กับคุณปู่ ในรอยยิ้มเต็มไปด้วยความมีมารยาท

คุณปู่กลับมาไม่บ่อยนัก ทุกครั้งที่กลับมาก็อดไม่ได้ที่จะสั่งสอนเขา “ผอมลงอีกแล้ว ช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาโรงพยาบาลยุ่งมากหรอ”

เสียงพูดออกมา

เป็นเสียงที่เชื่องช้า ไม่ยอมรับว่าแก่ก็คงจะไม่ได้

จี้ผิงโจวส่ายหัวเบาๆ “ก็ไม่ได้ยุ่ง ยังคงเป็นเหมือนเดิม แล้วคุณพ่อคุณแม่ยังคงสบายดีไหมครับ ”

“สบายดี”ผู้ช่วยของคุณปู่ช่วยเอาแว่นคนแก่ออกมาจากรถมาสวมให้เขา เขายกแว่นขึ้นมาสวม แล้วกวาดสายตาไปยังใบหน้าคนที่อยู่ข้างนอกตึกหลักรอบหนึ่ง แววตาเปลี่ยนไปทันที สุดท้ายมองมายังจี้ผิงโจว “เกิดอะไรขึ้น ทำไมไม่เห็นเหอเจิง”

คนใช้ในบ้านตระกูลจี้ต่างก็รู้ว่าเหอเจิงไม่ได้กลับมาเป็นเดือนแล้ว

เมื่อได้ยินเสียง ต่างก็ก้มหน้าลง

จี้ผิงโจวที่ดูซื่อๆใสๆ เขาไม่ชอบการโกหก แต่ไม่ได้หมายความว่าจะโกหกไม่เป็น “ลุงของบ้านตระกูลฟางกลับมาเยี่ยม พวกเขาไม่ได้เจอกันกว่าสามปีแล้ว เหอเจิงกลับไปอยู่กับเขาสักสองสามวัน”

คุณปู่ไม่ได้คิดมาก ลดคิ้วลงแล้วพูดต่อว่า “คือเหอหยุนซิ่งคนนั้นใช่ไหม”

“ครับ”

ตั้งแต่เหอเจิงแต่งงานก็ไม่ได้ติดต่อกับผู้คนหลายคน สิ่งที่ตระกูลจี้คาดหวังจากเธอคือ เป็นภรรยาที่ดีของจี้ผิงโจว และเธอก็ทำได้ไม่เลวเลย

คนเข้าไปในตึกหลักแล้ว

จี้ผิงโจวเดิมตามหลังคุณปู่ คอยรับฟังคำสอนของท่าน “มีเวลานายไปรับเหอเจิงกลับมาหน่อย มีคำถามเล็กน้อยที่แม่นายขอให้ฉันช่วยถามหล่อน”

“แม่ ขอให้คุณปู่ช่วยถามอะไรหรอ”

“เรื่องนี้ฉันเคยบอกนายผ่านโทรศัพท์แล้ว นายยืดเวลาแล้วยืดเวลาอีก ครั้งนี้กลับมา ก็เพื่อที่จะถามหล่อนด้วยตัวเอง”

พวกเขาแต่งงานมากว่าสามปีแล้ว พวกเขายังไม่มีลูกสักที เหตุผลคงไม่มีใครจะรู้ไปกว่าจี้ผิงโจวแล้วล่ะ

เขากลับบ้านมาดึกมาก แม้จะนอนด้วยกัน เหอเจิงก็ไม่เคยแสดงอารมณ์เต็มใจเลย เหมือนกับไม่รู้ร้อนรู้หนาวตลอด ต่อให้ขืนใจเข้าหา เธอก็ยังจะกินยาคุม

เรื่องพวกนี้ถ้าหากให้คนในครอบครัวรู้ เหอเจิงจะไม่สามารถเดินออกจากบ้านตระกูลจี้อย่างสง่าผ่าเผยเลย

เก็บความรู้สึกที่อึดอัดไว้ จี้ผิงโจวค่อยๆตอบกลับไป ” ผมจะหาเวลาไปรับเธอกลับมา”

ซ่อน | รัก | ลับ

ซ่อน | รัก | ลับ

ฟางเหอเจิงแต่งงานกับจี้ผิงโจวในฐานะลูกสาวนอกกฎหมายของตระกูลฟาง เธอถ่อมตัวต่อหน้าเขา เธอเก็บความรู้สึกทุกอย่างได้จนสามารถกินข้าวร่วมโต๊ะเดียวกันกับคนรักของเขาได้ ระยะเวลาสามปีเต็ม ไม่มีใครเคยเห็นฟางเหอเจิงอิจฉาและเสียอารมณ์ จนกระทั้งมีการเปิดเผยข้อตกลงการหย่าร้างต่อสาธารณะ ไม่มีใครรู้เลยว่าฟางเหอเจิงรักใครอีกคน ในคืนแรกของการแต่งงานเธอจูบดวงตาของเขา เรื่องที่ฟางเหอเจิงแต่งงานกับเขา มีคนถามว่าเธอรัก ฟางเหอเจิงแต่งงานกับเพราะอะไร? เธอตอบว่าเพราะดวงตาเขา เธอรักดวงตาของเขาเท่านั้น ..

Comment

Options

not work with dark mode
Reset