ซ่อน | รัก | ลับ – ตอนที่ 55 เธอเชื่อฟังขนาดนั้นเชียว

เธอไม่บริสุทธิ์แน่นอน และอาจจะเป็นคนที่ไม่สะอาดที่สุดในบรรดาผู้หญิงที่จี้ผิงโจวพบเจอด้วยซ้ำ

มีแฟนที่อยู่ใกล้กันมากกว่า10ปี

ถ้าเดาไม่ผิด

ความสัมพันธ์อะไรที่ลึกซึ้งก็คงทำหมดแล้วล่ะ จากการจับมือเป็นขั้นแรก จนถึงขั้นสุดท้าย น่าจะมากกว่าความใกล้ชิดของจี้ผิงโจวเยอะ ความรู้สึกของเขาที่พลุ่งพล่านและความรู้สึกที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ได้สลายหายไปในพริบตา

ทั้งหมดได้เปลี่ยนไปเป็นเหมือนผู้ชายอีกคน

เขาก้มหน้าลง บรรยากาศที่ดูสบายๆกลายเป็นความรู้สึกที่เย็นเล็กน้อย เหมือนลมในคืนฤดูหนาว ได้ทับผิวของเหอเจิงเป็นระลอกระลอก เธอเอามือเช็ดน้ำตา ยังดีความกดดันครั้งนี้ผ่านไปแล้ว

ความรู้สึกปลอดภัยยังอยู่ได้ไม่นาน

คนที่ทับอยู่ที่คอได้ขยับ ในสภาพแวดล้อมที่ไร้แสงไร้เงา ในอากาศเหมือนจะลอยไปด้วยเสียงหายใจของจี้ผิงโจว เป็นแผ่นที่หนา ทับลงข้างๆหูของเหอเจิง

ขนตาของเขากระพริบเล็กน้อย ปลายขนตาที่สัมผัสกับผิวให้ความรู้สึกที่สดใส

คางของเหอเจิงถูกมือของเขาจับไว้โดยไม่รู้ตัว เขาหรี่ตามองใบหน้าของเหอเจิง ยังคงอ่อนเยาว์ ทั้งที่อายุ20กว่าแล้ว แต่ยังมีความรู้สึกเหมือนวัยรุ่นสาว เหมือนกับว่ารักษาความอ่อนเยาว์ไว้รอคู่กับคนที่ตายไปแล้วนั้น

“ไม่บริสุทธิ์หรอ”จี้ผิงโจวไม่เข้าใจ ความผิดหวังหายไปถูกแทนที่ด้วยความโกรธ “ไม่บริสุทธิ์แล้วครั้งนั้นเธอร้องทำไม”

“ฉันร้องอะไร”

เหอเจิงปกปิดอาการร้องไห้ไว้

ยิ่งทำให้คนอื่นรู้สึกสงสารเป็นพิเศษ

จี้ผิงโจวถูกวิธีนี้ของเธอควบคุมไว้นานหลายปี คืนแรกของวันแต่งงาน จี้ผิงโจวแทบอยากจะฉีกเธอออกเป็นชิ้นๆ แต่ทันทีที่เธอน้ำตาตก เขาก็ทำอะไรไม่ลง ออกไปข้างนอกสงบอารมณ์จนถึงเช้าจึงกลับมา

ตอนกลับมาเห็นเธออยู่บนซากปรักหักพัง กำลังใช้มือที่เล่นเชลโลของเธอเก็บกวาดของที่วางกระจาดกระจายไปทั่ว มือถูกบาดเป็นแผลก็ไม่รู้สึกตัว

เขาโมโหถึงขั้นที่ว่าทั้งหัวใจและแขนต่างก็สั่นไปหมด เขายืนอยู่กลางหิมะทั้งคืน จะขยับตัวก็รู้สึกเจ็บ บวกกับร่างกายที่อ่อนแออยู่แล้ว ถูกเหอเจิงหลอกจนเนื้อไม่เกาะกระดูก ความโกรธทั้งหมดมารวมกัน เขาเหมือนกับคนบ้าคนหนึ่ง ไม่ว่าเหอเจิงจะร้องยังไงก็ไม่ยอมหยุด

เธอร้องว่าขอโทษ ร้องว่าเจ็บ ก็ไม่ได้ผล

สุดท้ายขอร้องพร้อมน้ำตา จี้ผิงโจวถึงวางมือ

การทำร้ายก็แค่เหมือนถูกเผาแป๊ปหนึ่งเท่านั้น ไม่ได้ดับไฟทั้งหมด

จี้ผิงโจวสบตาเหอเจิงแต่ไม่ได้พูดอะไรออกไป เธอก็ค่อยๆเข้าใจความหมายของเขา เมื่อสงบสติอารมณ์แล้ว คำตอบก็เป็นธรรมชาติ ไม่ได้แฝงด้วยความรักแต่กลับแฝงด้วยความไม่อดทน

“โดนแบบเธอ คนที่เป็นคนปกติเขาก็ร้องออกมากันหมดแหละ”

จี้ผิงโจวไม่อยากรู้อดีตของเธอ แต่ในกระดูกเหมือนกับว่าเป็นร่างที่ชอบความรุนแรง มีความอยากรู้อยากลอง ยิ่งกลัวก็ยิ่งอยากไปดู

“ฉะนั้นเธอกับผู้ชายคนนั้นอะไรก็ทำหมดแล้วใช่ไหม”

เขาอยากได้ยิน

แต่เหอเจิงกลับไม่อยากพูด

“คุณชายจี้ไม่เคยมีแฟนสาวหรอ”รอยยิ้มของเธอแฝงด้วยการดูถูกเป็นพิเศษ “คุณกับแฟนสาวก็แค่จับมือกันเองหรือเปล่า”

“คุณชายจี้อะไร”จี้ผิงโจวบีบปากของเธอไว้ “มีปากที่สวยงามอย่างนี้ทำไมพูดจาไม่น่าฟังเลย เธอลืมไปแล้วหรือว่าเมื่อก่อนเธอเรียกฉันว่าพี่โจวโจวน่ะ”

ช่วงเวลาที่ดีที่สุดของพวกเขา หวานถึงขั้นที่ว่าจากกันแค่คืนเดียวก็จะงอนกันนานเลยทีเดียว

เมื่อก่อนรักกันมากแค่ไหน เวลาทะเลาะกันก็จะรุนแรงมากเท่านั้น

เหอเจิงไม่เคยลบช่วงเวลานี้ออกไป “จี้ผิงโจว นายลืมไปแล้วหรือ นายเป็นคนไม่ให้ฉันเรียกแบบนี้เองนะ”

“ฉันพูดอะไรเธอก็เชื่อ เธอเชื่อฟังขนาดนั้นเลยหรอ”

อะไรที่ควรฟังกลับไม่ฟัง อะไรที่ไม่ควรฟังกลับจำขึ้นใจ “ฉันให้เธอลืมผู้ชายคนนั้น เธอยังทำไม่ได้เลย”

“ถ้านายไม่พูดถึงเขา ฉันก็ลืมไปตั้งนานแล้ว”

“แล้วทำไมเวลานอนหลับยังเรียกชื่อเขาล่ะ”

เหนื่อยมากแล้ว

แม้แต่คำเดียวเหอเจิงก็พูดไม่ออก เธอกำชายผ้าห่มแน่น ขณะที่กำลังแย่งผ้าห่มกัน เธอเอามันมาปิดใบหน้าของเธอก่อน ซ่อนตัวอยู่ในความมืด เหมือนกับว่าทำแบบนี้แล้วก็ไม่ต้องไปเผชิญหน้ากับอะไรอีก

ตาปิดแล้ว แต่หูกลับยังได้ยินเสียงของจี้ผิงโจว

ด้วยความเห็นใจเขาก็ไม่ได้ตามตื้อเธออีก

แต่กลับเอนตัวนอนลงไปด้วย อกของเขาแนบติดกับหลังของเหอเจิง มือทั้งสองข้างจับเอวของเธอไว้ ฝ่ามือไร้ซึ่งความอบอุ่น จับเอวที่สวยงามของเธออย่างมีความสุข

ตอนแรกคิดว่าเขาจะต้องทำกระบวนการต่อไปแน่

แต่ว่าไม่มี

เขาหยุดการกระทำต่อ ขอแค่ซุกหัวลงไปบนคอของเหอเจิง

ที่ที่นั่นก็รู้สึกแปลกมาก สามารถได้กลิ่นหอมอ่อนๆจากปลายผมของเธอ และสามารถหอมคอของเธอได้ด้วย ถ้าเข้าใกล้กว่านี้ อาจจะได้ยินเสียงเต้นของหัวใจเธอ

ระยะห่างที่ใกล้ที่สุดในโลกก็คงจะถึงแค่นี้แหละ

ตอนที่คบหากันแรกๆ ทุกครั้งที่จี้ผิงโจวหอมเธอ ก็จะได้ยินเสียงหัวใจที่เต้นแรงมากของเธอ ทุกครั้งเขาจะยิ้มหัวเราะเธอด้วย “อ่อนหักจริงๆ แค่หอมนิดหน่อยก็ขนาดนี้แล้ว ถ้าจะทำอะไรมากกว่านี้ไม่ถึงขั้นหันหลังให้เลยหรอ”

เหอเจิงได้แต่ยิ้มไม่พูดอะไร

ตอนนั้นเขาคิดว่าเธอตื่นเต้นดีใจ แต่ตอนนี้ดูๆแล้วน่าจะเป็นเพราะกลัวมากกว่า

เวลาหนึ่งคืน

อาการหวัดอาจจะดีขึ้น หรืออาจจะแย่ลงก็ได้

แต่เหอเจิงเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง

ยิ่งกว่านั้นเวลากลางคืนยังมีคุณชายตัวใหญ่แย่งผ้าห่มกับเธอด้วย ตอนแรกๆยังดี จี้ผิงโจวนอนดีอยู่ แต่เลยเที่ยงคืนไปนิสัยการนอนที่แย่ของเขาก็เปิดตัวออกมา ทั้งแย่งผ้าห่มและเตะผ้าห่ม และชอบดึงเสื้อผ้าด้วย

ดึงเสื้อผ้าของคนอื่น

เหอเจิงอยากจะถีบเขาสักสองสามที แต่พอเห็นใบหน้าของเขาก็ใจอ่อน เพื่อหนีเขา ตัวเองจำเป็นต้องหนีไปนอนท้ายเตียง

แม้จะมีเครื่องทำความอุ่น แต่ก็ยังถูกแช่เย็นอยู่ดี

ตั้งแต่เช้าอาการจามก็ไม่ได้หยุดเลย

จี้ผิงโจวดูเธอไปด้วยหัวเราะไปด้วย “ไม่รู้บ่มเพาะนิสัยที่ไม่ดีมาจากไหน เวลานอนไม่ชอบห่มผ้าห่ม สมน้ำหน้า”

เหอเจิงถือแก้วน้ำไว้ ดื่มน้ำทีละอึบ ในใจทำตาขาวใส่เขา

แต่แรกก็ไม่ได้คิดจะหาเรื่องเขา

แต่เขากลับหาเรื่องใส่ตัว

“ไม่รู้ว่าเวลาคุณชายจี้นอนกับผู้หญิงคนอื่น การนอนจะแย่แบบนี้ไหมนะ”

ผู้หญิงเหล่านั้นรับได้ยังไง

จี้ผิงโจวฟังแล้วไม่สบอารมณ์ โยนช้อนเหล็กเข้าไปในถ้วยน้ำแกง น้ำแกงสะเด็นออกมาหลายหยด “เธอจะโทษฉันหรอ”

“ไม่กล้า”

ออกไปหลายวัน

กลับมานิสัยก็เปลี่ยนเป็นแบบนี้

ต้องเข้าใจว่า เมื่อก่อนเหอเจิงไม่เคยกล้าต่อปากต่อคำเลย

จี้ผิงโจวเป็นคนพูดไม่เก่ง วัดความสามารถจากปากแล้ว ถ้าเหอเจิง อยากเถียงกับเขาจริงๆ ยังไงเขาก็สู้ไม่ได้หรอก

“วันนี้ฉันต้องไปโรงพยาบาล เธออย่าไปไหนล่ะ อยู่บ้านรักษาอาการให้ดี ไม่ใช่ว่าตอนเย็นป่วยจนมาทานข้าวก็ไม่ได้”

จี้ผิงโจวยืนขึ้น จัดคอเสื้อ แต่ที่คอยังคงว่างเปล่าอยู่ ไม่ได้ผูกอะไรไว้

เขายืนอยู่อย่างนั้นหลายนาที

เหอเจิงแม้แต่หน้าก็ไม่เงยขึ้นมามองเลย

อากาศรอบๆรวมตัวกัน รู้สึกได้ว่าคนข้างหน้ายังไม่ไป เหอเจิงมองไปทีหนึ่งด้วยความขี้เกียจ เธอไม่สบายอยู่แล้ว เลยมองดูอย่างมึนงง ไม่รู้ว่าเขาต้องการอะไร แต่ก็ไม่ได้อ้าปากถาม ปล่อยให้เขายืนอยู่อย่างนั้น

จี้ผิงโจวแฝงด้วยความโมโหเล็กน้อย “ฟางเหอเจิง เธอออกไปสองวัน แม้แต่การเป็นภรรยาก็ไม่รู้ว่าต้องทำอะไรหรือ”

เธอรู้สึกว่าเขาประสาทจริงๆ

“ทำไรหรอ”เหอเจิงขึ้นเสียง “เจ็บมือก็ไปหาหมอสิ”

เป๋ยเจี่ยนยังคงรออยู่ในรถ

เขาลดกระจกรถลง ส่องกระจกดูผมที่ยังจัดไม่เสร็จในตอนเช้า ไม่นานก็เห็นจี้ผิงโจวจากกระจกรถมองหลัง เขาเดินอย่างแรง เหมือนว่าทุกฝีก้าวล้วนเต็มไปด้วยความโกรธ

คำว่ากำลังอารมณ์ไม่ดี อย่ายุ่งกับฉัน เขียนอยู่บนสีหน้าของเขา

เป๋ยเจี่ยนนั่งตัวตรงอย่างตั้งใจ ได้ยินจี้ผิงโจวนั่งเรียบร้อยแล้ว หันกลับไปมอง จริงๆตั้งใจจะพูดอะไรที่ทำให้บรรยากาศดีขึ้น

แต่เมื่ออ้าปากกลับไปเหยียบถูกสิ่งที่เขาไม่อยากฟังที่สุด

“พี่โจว ทำไมวันนี้ไม่ใส่เนคไทหรอ”

จี้ผิงโจวจ้องเขาอย่างแรง “นายยุ่งเรื่องคนอื่นมากไปแล้ว ออกรถ”

ซ่อน | รัก | ลับ

ซ่อน | รัก | ลับ

ฟางเหอเจิงแต่งงานกับจี้ผิงโจวในฐานะลูกสาวนอกกฎหมายของตระกูลฟาง เธอถ่อมตัวต่อหน้าเขา เธอเก็บความรู้สึกทุกอย่างได้จนสามารถกินข้าวร่วมโต๊ะเดียวกันกับคนรักของเขาได้ ระยะเวลาสามปีเต็ม ไม่มีใครเคยเห็นฟางเหอเจิงอิจฉาและเสียอารมณ์ จนกระทั้งมีการเปิดเผยข้อตกลงการหย่าร้างต่อสาธารณะ ไม่มีใครรู้เลยว่าฟางเหอเจิงรักใครอีกคน ในคืนแรกของการแต่งงานเธอจูบดวงตาของเขา เรื่องที่ฟางเหอเจิงแต่งงานกับเขา มีคนถามว่าเธอรัก ฟางเหอเจิงแต่งงานกับเพราะอะไร? เธอตอบว่าเพราะดวงตาเขา เธอรักดวงตาของเขาเท่านั้น ..

Comment

Options

not work with dark mode
Reset