ซ่อน | รัก | ลับ – ตอนที่ 61 ของน่าเบื่อ

บรรยากาศในห้องส่วนตัวเงียบเกินไป

และเสียงของเขาก็ดังพอควร จี้ผิงโจวไม่ใช่ว่าไม่ได้ยิน เขาเบนสายตาไปมองอยู่แวบหนึ่ง จากนั้นก็หันมากระดกเหล้าจนหมด จากนั้นก็วางแก้วเสียงดังลั่น

เจิ้งหลางอยู่ในเหตุการณ์น่าอึดอัดนี้

ปกติแล้วซุนไจ่อวี่ไม่ใช่คนหัวแข็ง แต่กับเรื่องนี้แล้วเขาดูเหมือนค่อนข้างที่จะดื้อรั้น

“โจวโจว….” เจิ้งหลางยิ้มแหยๆ “พี่อย่าโกรธไปเลย เรื่องนี้พวกเราจัดการไม่ดีเอง ที่ปล่อยให้พี่สะใภ้หนีไปต่อหน้าต่อตา”

จี้ผิงโจวไม่ใช่คนอาฆาตพยาบาท

แต่เขาเป็นคนชอบรื้อฟื้นเรื่องเก่ามาคิดบัญชี

ถ้าวันไหนพวกเขาทะเลาะแตกคอกัน เรื่องนี้ต้องถูกเอามาพูดอีกแน่ๆ และคงไม่ใช่แค่เรื่องที่จะมาขอโทษกันได้ง่ายๆแบบนี้แน่

จี้ผิงโจวได้แต่กระดกเหล้าต่อ

ซุนไจ่อวี่เองก็ไม่ได้ปริปากพูดอะไร เจิ้งหลางจึงแอบสะกิดมือเขาเบาๆ เพื่อบอกให้เขาพูดอะไรออกมาบ้าง

จากนั้นซุนไจ่อวี่ก็ลุกขึ้นยืน ด้วยอารมณ์เดือดจัด เขามองไปที่จี้ผิงโจวและเจิ้งหลาง จากนั้นก็ตะโกนลั่นว่า “วันนั้นฉันไม่ได้ตั้งใจจะโทรหาโจวโจว ถ้าพวกนายอยากจะโทษก็โทษไปเถอะ”

“ทำไม?”

เขาถูกถามกลับ

จี้ผิงโจวเองก็ดื่มจนเมานิดหน่อยแล้ว เขารู้สึกเหมือนกลืนน้ำลายไม่ลงคอ เหมือนในลำคอมีเมือกอะไรอยู่

เขาก้มหน้าลง และไอออกมาเล็กน้อย

เจิ้งหลางรู้ว่าจี้ผิงโจวสุขภาพไม่ค่อยดี จึงเข้าไปตบหลังจี้ผิงโจวเบาๆ เพื่อให้เขารู้สึกหายใจโล่งขึ้น แต่จี้ผิงโจวก็ปัดมือเขาออก จากนั้นก็พูดว่า “ฟางเหอเจิงเป็นเมียของฉัน นายเห็นเธอ แต่ไม่โทรหาฉัน นายคิดจะทำอะไร?”

ตอนแรกเขากะว่าจะไม่โกรธ

และไม่อยากไปกล่าวโทษอะไรซุนไจ่อวี่

แต่ดูเหมือนซุนไจ่อวี่จะไม่ยอมหยุดพูดหรือแสดงความคิดเห็น

“นายคิดว่าฉันไม่กล้าใส่อารมณ์กับพวกนายใช่ไหม?”

ซุนไจ่อวี่ไม่ใช่คนในกลุ่มนี้ และคนที่สนิทที่สุดก็มีแค่เจิ้งหลาง ช่วงแรกที่เขามาที่เมืองเหยียนจิง บ้านเขาทำธุรกิจการประมง และทางสายนี้ต้องรู้จักสานมิตรไมตรีกับคนอื่นอยู่เสมอ

พ่อของเขาจึงผลักดันให้เขาออกไปทำความรู้จักกับคนรุ่นหลังๆบ้าง

และหลังจากที่เขาได้เข้าร่วมกลุ่มกับเจิ้งหลางได้ไม่นาน จี้ผิงโจวก็ได้กลับมาจากบ้านของตาเขา

เจิ้งหลางจึงแนะนำจี้ผิงโจวให้ซุนไจ่อวี่รู้จัก เขาไม่ได้พูดคุยอะไรมาก เพราะเขาค่อนข้างที่จะเข้ากับคนอื่นได้ค่อนข้างยาก

ยังดีที่จี้ผิงโจวเป็นหมอ เพราะฉะนั้นถ้าจะไม่สานสัมพันธ์กับเขา ก็คงไม่ได้มีผลกระทบอะไรกับธุรกิจของเขา

เวลาผ่านมา

และมีอยู่ครั้งหนึ่ง จี้ผิงโจวเห็นซุนไจ่อวี่เอาแต่ถามเหอเจิงไม่หยุดว่าทำไมเธอไม่อยู่วงออเคสตร้าแล้ว

จนทำให้เหอเจิงตกใจและวิ่งไปแอบหลังจี้ผิงโจว

จี้ผิงโจวจึงได้สั่งสอนให้เขารู้จักระวังคำพูดหน่อย

และเพราะเรื่องนี้ทำให้ซุนไจ่อวี่รู้สึกไม่ชอบใจเท่าไหร่

ซุนไจ่อวี่ทนไม่ไหว พูดออกไปว่า “ฉันนึกว่าเหอเจิงจะหย่ากับนาย”

“เหล่าซุน!” เจิ้งหลางตะโกนแทรกขึ้น “นายอย่าพูดซี้ซั้ว!”

“เขาไม่ได้พูดซี้ซั้ว”

จี้ผิงโจวตอบ

“เหอเจิงจะหย่าจริงๆ ว่าแต่นายรู้เรื่องนี้ได้อย่างไร?”

เพราะเรื่องนี้ค่อนข้างภายใน จะมีคนที่รู้ก็แต่คนใช้ของบ้านจี้ คุณปู่จี้ และก็ฟางลู่เป่ยกับคนของบ้านฟางเท่านั้น อีกอย่างเรื่องนี้ก็ไม่น่าที่ซุนไจ่อวี่จะรู้ได้?

ซุนไจ่อวี่สีหน้าดูหวาดกลัวเล็กน้อย เขาเลือกที่จะเบนหน้าหนี สายตามองไปที่ของบนโต๊ะแทน “ฉันเดาเอา”

“เดาเก่งแบบนี้ ทำไมไม่ไปเป็นหมอดูล่ะ?” จี้ผิงโจวรู้สึกขำกลิ้ง “นายคิดว่าฉันโง่หรือนายโง่?”

เจิ้งหลางเองก็คิดว่าช่วงเวลาแบบนี้เขาไม่น่าจะล้อเล่นได้

ซุนไจ่อวี่จึงกล่าวอ้างถึงฟางลู่เป่ยแทน “พี่ชายของเหอเจิงบอกฉัน”

“เขาไม่มีเรื่องอะไรกับนายแล้วจะคุยเรื่องนี้ทำไม? ปากว่างเหรอ?”

“นี่ก็ไม่ใช่เรื่องที่พูดไม่ได้เสียหน่อย”

“พวกเรายังไม่ได้หย่ากัน แต่นายกลับมายุ่งวุ่นวาย?”

จี้ผิงโจวมองเขาอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็หันหลังไปหยิบขวดเหล้าที่เหลืออยู่ เจิ้งหลางคิดว่าเขาจะฟาดหัวซุนไจ่อวี่ แต่ก็ไม่ใช่

เพราะเขาหยิบเหล้ามาเทใส่แก้วตัวเอง จากนั้นก็ดื่ม และหันไปหยิบเสื้อคลุมบนโซฟา เดินออกจากห้องไป

ขณะที่กำลังจะบิดลูกบิดประตูนั้น ซุนไจ่อวี่ก็พูดขึ้นว่า “ถ้าฉันไม่รู้จักเหอเจิง ฉันคงไม่มายุ่งเรื่องนี้ นายเองก็ไม่รู้ว่าเธอทิ้งอะไรมาบ้างเพื่อนาย และนายกลับยังทำแบบนั้นกับเธอ นายยังมีหัวใจอยู่ไหม?”

“ฉันทำกับเธอยังไง?”

จี้ผิงโจวหันหลังถามขึ้น

จากนั้นเจิ้งหลางก็ลุกขึ้น และตีไปที่ซุนไจ่อวี่ จากนั้นพูดขึ้นว่า “ฉันให้นายมาขอโทษ ไม่ใช่มาทะเลาะ”

“ฉันก็ไม่อยากทะเลาะ” ซุนไจ่อวี่กล่าวขึ้น และเขาก็ไม่รู้ว่าสถานการณ์ตอนนี้ย่ำแย่มากแค่ไหน “แต่เขาไม่มีสิทธิจะรังแกใครเพราะอำนาจของครอบครัวเขา”

“ฉันรังแกใคร?”

เพราะจี้ผิงโจวรู้สึกว่าเขาให้ทุกอย่างกับเหอเจิงดีพอแล้ว ดีจนไม่สามารถร้องขออะไรได้อีก

แต่ก็มักจะมีคนที่อยู่ข้างเธอ และพูดแทนเธอ

เจิ้งหลางเห็นท่าทีไม่ดี จึงดึงซุนไจ่อวี่ออก แต่ก็ซุนไจ่อวี่ก็ไม่หยุดพูด “นายเคยได้ยินเธอขึ้นคอนเสิร์ตไหม? นายรู้ว่าเธอเก่งแค่ไหน และทั้งหมดก็เพื่อนาย!”

“ของพรรค์นั้น คงจะมีแค่คนน่าเบื่อไปดู”

จี้ผิงโจวไม่ค่อยถนัดเรื่องต่อยตี

แต่ถ้าเขาได้เริ่มละก็ เขาจะน่ากลัวมาก เพราะถ้าไม่เห็นเลือด เขาจะไม่ยอมหยุดหรือยั้งมือเด็ดขาด

ถนนยามค่ำคืนที่งดงามไปด้วยสีสันมากมาย อีกทั้งยังปกคลุมไปด้วยสีแดง ราวกับน้ำแข็งที่ละลายผสมกับเลือดสีจาง ๆ

เมื่อเป๋ยเจี่ยนตื่นขึ้นมา เห็นบรรยากาศนั้นแล้วรู้สึกใจไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่เขาก็คิดว่าน่าจะแค่ไม่สบาย จึงไม่ได้คิดอะไรมาก

คำนวณเวลาดูแล้ว ถ้าจี้ผิงโจวเมา ก็จะออกมาเวลานี้

จากนั้นเขาจึงตัดสินใจโทรหาเหอเจิง

เขาเดาได้ว่าเธอไม่อยากออกมา แต่ก็คิดไม่ถึงว่าเธอจะปฏิเสธเสียงแข็งแบบนี้ “มีนายขับรถให้แล้ว ฉันจะไปทำไมอีก?”

ถ้าเป็นเมื่อก่อน เธอคงจะถามแค่ว่าที่ไหน

เป๋ยเจี่ยนอึ้งเล็กน้อย

ก็จริง

มีเขาขับรถให้ จี้ผิงโจวก็แค่นอนหลับอยู่ด้านหลังอย่างสบายๆก็พอ มีบ้างเวลาที่เขาอยากอ้วก แต่ทุกครั้งเป๋ยเจี่ยนก็จอดรถและลงมาดูแลเขาเองตลอด ดูแล้วไม่จำเป็นที่จะให้เหอเจิงมา

จริงๆแล้วที่ผ่านมา จี้ผิงโจวแค่ต้องการยั่วให้เธอโกรธ

แต่มันก็ไม่เคยประสบความสำเร็จเลยสักครั้ง

เป่ยเจี่ยนมองดูเวลาอย่างกังวลเล็กน้อย“ คุณหนูฟางมาที่นี่ได้ไหมครับ?”

“ ฉันไม่อยากไป”

“แต่……”

เหอเจิงนั่งอยู่ในห้อง และกำลังฟังสิ่งที่คุณปู่พูดอยู่ ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาเธอรอให้ข้อตกลงการหย่าร้างออกมา จากนั้นเมื่อเซ็นชื่อเสร็จ เธอก็จะสามารถออกมาจากบ้านนั้นได้

“เขามีผู้หญิงมากมาย นายจะหาใครก็ได้ และไม่ต้องตามฉันอีก”

เป๋ยเจี่ยนอึกอัก “ คุณหนูฟาง … ”

ขณะที่เตรียมจะเกลี้ยกล่อมเธอ ปลายสายก็วางไปเสียก่อน

ซ่อน | รัก | ลับ

ซ่อน | รัก | ลับ

ฟางเหอเจิงแต่งงานกับจี้ผิงโจวในฐานะลูกสาวนอกกฎหมายของตระกูลฟาง เธอถ่อมตัวต่อหน้าเขา เธอเก็บความรู้สึกทุกอย่างได้จนสามารถกินข้าวร่วมโต๊ะเดียวกันกับคนรักของเขาได้ ระยะเวลาสามปีเต็ม ไม่มีใครเคยเห็นฟางเหอเจิงอิจฉาและเสียอารมณ์ จนกระทั้งมีการเปิดเผยข้อตกลงการหย่าร้างต่อสาธารณะ ไม่มีใครรู้เลยว่าฟางเหอเจิงรักใครอีกคน ในคืนแรกของการแต่งงานเธอจูบดวงตาของเขา เรื่องที่ฟางเหอเจิงแต่งงานกับเขา มีคนถามว่าเธอรัก ฟางเหอเจิงแต่งงานกับเพราะอะไร? เธอตอบว่าเพราะดวงตาเขา เธอรักดวงตาของเขาเท่านั้น ..

Comment

Options

not work with dark mode
Reset