ซ่อน | รัก | ลับ – ตอนที่ 62 ไม่มีครั้งต่อไป

ขวดไวน์และแก้วถูกทุบแตกกระจายเต็มพื้นและไม่รู้ว่าเป็นเลือดของใครที่เปื้อนอยู่บนเศษชิ้นส่วนเหล่านั้น

แสงไฟของที่นี่มีสไตล์ย้อนยุค มองดูแล้วราวกับอยู่ในปราสาทหรือบ้านผีสิงย้อนยุค เมื่อเดินเข้าไปจะทำให้รู้สึกหดหู่อย่างอธิบายไม่ถูก

เป๋ยเจี่ยนไม่รู้ว่าพวกเขาทำอะไรกัน

เมื่อตอนที่เขาเดินเข้ามา เห็นซุนไจ่อวี่ลงไปนอนกองที่พื้น

บริเวณอุ้งมือเขามีบาดแผลลึก และเลือดไหลออกมาไม่หยุด

กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งทั่วห้อง

แถมผนังรอบๆยังเต็มไปด้วยคราบเลือด เป๋ยเจี่ยนได้แต่ยืนอยู่ด้านหน้าไม่กล้าเข้าไป เจิ้งหลางจึงประคองซุนไจ่อวี่ลุกขึ้นมานั่งงบนโซฟา และตะโกนบอกเป๋ยเจี่ยนลั่นว่า “เอาพี่โจวโจวออกไป โตขนาดนี้แล้วยังมาต่อยตีกันอีก”

“นี่มันเกิดอะไรขึ้นครับ?”

เป๋ยเจี่ยนถามออกไป แต่ก็พอจะเดาได้ จี้ผิงโจวเป็นพวกเมาแล้วชอบอาระวาด และวันนี้ ซุนไจ่อวี่ก็เป็นคนเริ่มยั่วโมโหเขาก่อน

เจิ้งหลางไม่อยากอธิบายอะไร แต่กลับบอกซ้ำว่า “นายพาเขาอออกไป เรื่องวันนี้อย่าพูดออกไป”

จี้ผิงโจวเมามาก

บนมือเขามีคราบเลือดอยู่ ไม่รู้ว่าเป็นเลือดของเขาเองหรือเลือดของซุนไจ่อวี่

เป๋ยเจี่ยนพยุงจี้ผิงโจวเดินลงมาข้างล่าง สีหน้าของเขายากจะคาดเดาได้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่

“ลูกพี่โจว ยื่นมือมาครับ”

เป๋ยเจี่ยนหยิบน้ำออกมาขวดหนึ่ง และล้างคราบเลือดในมือและตามตัวเขา ทั้งเสื้อเชิ้ตและกระดุมก็โดนเลือดกระเด็นมาโดน

“ทำไมถึงต่อยกันได้ล่ะครับ คุณไม่เคยลงมือนี่ครับ”

“ก็มันอยากโดน”

เมื่อเห็นเขาหายใจค่อนข้างลำบาก จึงรีบถามว่า “เอายาไหมครับ?”

“ไม่ต้อง” จี้ผิงโจวเช็ดมือเสร็จ ก็ถามว่า “เหอเจิงมาหรือยัง?”

“ไม่ครับ…”

ตอนที่เขาจะโทรไปเกลี้ยกล่อมเธอต่อ เจิ้งหลางก็ได้โทรมาพอดี

เขาจึงรีบวิ่งขึ้นไป ไม่มีเวลาจะโทรไปหาเหอเจิงอีก

เขารู้สึกผิดเล็กน้อย ก่อนจะก้มหน้าลง

จี้ผิงโจวยิ้มเยาะออกมา ก่อนจะพูดว่า “คิดไว้อยู่แล้วแหละ กลับกันเถอะ เธอไม่ใช่คนที่นายจะเรียกมาได้เหมือนเดิมแล้ว”

เขายังคงเมาอยู่ โดยเฉพาะหลังจากที่หลับมาบนรถ พอตื่นขึ้นมาแล้วปวดหัวมาก

นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเบลอมาก ถึงขนาดจำไม่ได้ว่ากลับมาอย่างไร

แต่ก่อนเขาเมาเพื่อแก้แค้นเหอเจิง

ทำให้เธอรู้สึกทุกข์ทรมาน ทำให้เธอรู้สึกอึดอัด แต่เธอก็อดทนดูแลเขาได้ตลอดมา เธอเตรียมชาร้อนไว้ให้ เปลี่ยนเสื้อผ้าให้ และไม่ว่าจะยากลำบากแค่ไหน เธอก็ทำให้เขาอย่างดีที่สุดโดยไม่ปริปากบ่นอะไร

ตอนนี้ไม่มีเธออยู่

รู้สึกเหมือนยังไม่ชิน

เขาค่อยๆเดินขึ้นบันได เป๋ยเจี่ยนรีบวิ่งเอาเสื้อคลุมมาคลุมให้เขา “ใส่นี้ไว้ครับ จะได้ไม่เป็นหวัด”

การที่จะเดินขึ้นบันไดได้แต่ละขั้น เขาต้องอาศัยแรงมหาศาล

เดินไปไม่กี่ก้าว เขาก็เดินไปชนโต๊ะที่อยู่ตรงผนัง เป๋ยเจี่ยนรีบประคองเขา จนในที่สุดก็พาเขามาถึงมาที่บันได้ทางขึ้นได้

เมื่อเงยหน้าขึ้นก็เห็นเหอเจิงยืนอยู่ด้านบน

เธอรวบผมหลวมๆ สีหน้าเรียบเนียนใส นัยน์ตาเธอไม่หลงเหลือความรู้สึกใดๆ “เขาเป็นอะไร?”

“เมาครับ” เป๋ยเจี่ยนตอบเสียงหอบ

เหอเจิงยืนอยู่ห่างๆยื่นมือไปหาเขา และบอกว่า “เดี๋ยวฉันดูแลต่อเอง”

อย่างไรซะที่นี่ก็เป็นบ้านตระกูลจี้ และเธอเองก็เป็นภรรยาของจี้ผิงโจวอยู่ ยังไงเธอก็มีหน้าที่ต้องดูแลเขา

เธอมองเห็นเป๋ยเจี่ยนค่อยๆประคองพาเขาขึ้นมาอย่างยากลำบาก

เขาเมามาก จี้ผิงโจวไม่มีแรงจะทรงตัว เหอเจิงที่ดูเหมือนจะอ่อนแอ แต่เธอกลับแบกรับน้ำหนักของจี้ผิงโจวได้ “นายกลับเถอะ ลำบากแย่”

“คุณหนูฟางครับ?” เป๋ยเจี่ยนพยายามรวบรวมความกล้าถาม “ครั้งต่อไป….คุณยังจะไปรับพี่โจวไหมครับ?”

“ไม่มีครั้งต่อไปแล้ว”

ไม่นานคุณปู่ก็คงร่างข้อตกลงการหย่าเสร็จ และเมื่อเธอเซ็นชื่อเรียบร้อย เธอก็สามารถไปจากที่นี่ได้

พูดจบเธอก็ลากจี้ผิงโจวมาถึงห้อง

เธอโยนจี้ผิงโจวลงบนเตียง แม้แรงของเธอจะน้อย แต่ช่วงที่ปล่อยเขาลงนั้น หัวเขาก็ได้กระแทกกับกำแพงด้านหลัง จี้ผิงโจวเจ็บจนร้องออกมา เมื่อเขาเตรียมจะด่า ก็มีฝ่ามืออุ่นๆมาจับหัวเขาอย่างนิ่มนวล

เหอเจิงกระซิบข้างหูเขาว่า “ขอโทษ”

จากนั้นเหอเจิงก็ลูบหัวเขาเบาๆ ราวกับว่ากำลังปลอบเด็กน้อย

จี้ผิงโจวรู้สึกควบคุมตัวเองไม่อยู่ แต่ก็ไม่อยากเสียฟอร์ม จึงตะโกนว่า “ฉันร้อน!”

“เปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะ” เหอเจิงพูดจบ ก็ย่อลง เพื่อจะเปลี่ยนรองเท้าให้เขา

ช่วงที่เธอย่อลงนั้น ก็สังเกตเห็นคราบเลือดที่อยู่บนรองเท้า เธอลองเอามือแตะดู คราบเลือดก็ติดออกมาด้วย

เธอยืนขึ้นและถามด้วยความสงสัยว่า “ทำไมรองเท้ามีเลือด?”

“ฉันร้อน” จี้ผิงโจวไม่อยากอธิบายสาเหตุของรอยเลือดนั่น เพราะตอนนี้เขาปวดหัวและร้อนมาก

คราบเลือดบางส่วนที่เป๋ยเจี่ยนอำพรางไว้ตามแขนเสื้อ แม้มองเห็นไม่ชัดเท่าไหร่ แต่คราบเลือดก็ได้ซึมไปตามเนื้อผ้าแล้ว “ไปพังที่ไหนมา?”

“เปล่า” เขาปวดหัวมาก

“ฉันดูหน่อย”

เธอดูตามคอเสื้อ แขนเสื้อ เห็นว่าเขาไม่ได้รับบาดเจ็บหรือมีแผลใดๆ จี้ผิงโจวหายใจขัดเล็กน้อย เขาเงยหน้าขึ้น จากนั้นก็เห็นผมของเหอเจิงห้อยลงมา ผมของเธอสีดำบริสุทธ์และดูนิ่มสลวย

ช่วงที่เธอก้มตัวนั้น กระดุมตรงกระโปรงเธอก็แหกออกกว้างมาก เผยให้เห็นผิวขาวเนียนสวยใต้ชุดนั้น ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าผิวพรรณเธอดีมาก

จี้ผิงโจวค่อยๆมองต่ำลงไป รู้สึกเหมือนจะทนไม่ไหว จึงเบือนหน้าหนี

เหอเจิงหันหน้ามาหาเขา และบอกว่า “ยกมือขึ้น”

“ทำไม?”

“เปลี่ยนเสื้อผ้า”

เธอปรนนิบัติคุณชายคนนี้ได้ดี ไม่ขาดตกบกพร่องจริงๆ

“ใส่เสื้อหนาขนาดนี้ ไม่ร้อนก็แปลกแล้ว”

บรรยากาศยามค่ำคืนภายนอกค่อนข้างหนาว

แต่ในห้องค่อนข้างอุ่น และเมื่อเขาใส่เสื้อคลุมหนาขนาดนี้ จึงทำให้เขาร้อน

ขณะที่เหอเจิงกำลังถอดเสื้อให้เขานั้น มือของจี้ผิงโจวก็เริ่มสะเปะสะปะ

เหอเจิงกดมือเขาแน่น แต่ยังถูกเขาดึงเข้ามานั่งบนขา “คุณร้อนก็ร้อนซิ มายุ่งกับเสื้อผ้าคนอื่นทำไม?”

ซ่อน | รัก | ลับ

ซ่อน | รัก | ลับ

ฟางเหอเจิงแต่งงานกับจี้ผิงโจวในฐานะลูกสาวนอกกฎหมายของตระกูลฟาง เธอถ่อมตัวต่อหน้าเขา เธอเก็บความรู้สึกทุกอย่างได้จนสามารถกินข้าวร่วมโต๊ะเดียวกันกับคนรักของเขาได้ ระยะเวลาสามปีเต็ม ไม่มีใครเคยเห็นฟางเหอเจิงอิจฉาและเสียอารมณ์ จนกระทั้งมีการเปิดเผยข้อตกลงการหย่าร้างต่อสาธารณะ ไม่มีใครรู้เลยว่าฟางเหอเจิงรักใครอีกคน ในคืนแรกของการแต่งงานเธอจูบดวงตาของเขา เรื่องที่ฟางเหอเจิงแต่งงานกับเขา มีคนถามว่าเธอรัก ฟางเหอเจิงแต่งงานกับเพราะอะไร? เธอตอบว่าเพราะดวงตาเขา เธอรักดวงตาของเขาเท่านั้น ..

Comment

Options

not work with dark mode
Reset