ซ่อน | รัก | ลับ – ตอนที่ 65 บ้าคลั่ง

เวลาเปิดทำการของโรงพยาบาลไม่มีจำกัด เพราะว่าทุกวินาทีมักจะมีคนทีได้รับบาดเจ็บและต้องการการรักษา

แต่เหอเจิงเกลียดที่นี่มากที่สุด

ถ้าไม่มีเรื่องจำเป็นต้องมา เธอจะไม่ยอมมาเด็ดขาด รอตั้งแต่บ่ายจนพลบค่ำ ตอนนี้การผ่าตัดเพิ่งจะเสร็จ เมื่อแขวนสายน้ำเกลือเรียบร้อยแล้ว พยาบาลก็เดินออกมาบอกว่าให้พวกเธอไปได้

เหอเจิงประคองหญิงสาวคนนั้นเข้าลิฟต์

หญิงสาวเพิ่งทำแท้งลูก ร่างกายเธออ่อนแอและไม่มีแรง เธอเทน้ำหนักทั้งตัวไปที่เหอเจิง “ขอบคุณนะคะ”

“ไม่เป็นไร” เหอเจิงตบที่ไหล่เธอเบาๆ จากนั้นก็พูดโกหกว่า “เดี๋ยวฉันให้พี่ไปเยี่ยมคุณบ่อยๆ คุณเพิ่งทำแท้งมา ดูแลตัวเองดีๆล่ะ อย่างไรซะก็อย่าเพิ่งไปหาเขา”

หญิงสาวพูดด้วยน้ำตาคลอเบ้าว่า “เขาจะมาจริงๆเหรอคะ?”

แม้แต่ชื่อของเธอ ฟางลู่เป่ยก็น่าจะจำไม่ได้ด้วยซ้ำ

แต่เหอเจิงก็ไม่ได้พูดออกมา เธอยิ้มอย่างอ่อนโยนและบอกว่า “แน่นอน เวลานี้เป็นโอกาสดีที่จะใช้พัฒนาความสัมพันธ์กับเขา?”

“แต่ว่าเขามีแฟนหลายต่อหลายคน..”

“แต่เธอไม่เหมือนกันนี่นา”

เหอเจิงโกหกมาตั้งแต่เด็ก

ขนาดผู้เฒ่าผู้แก่มากประสบการณ์เธอยังหลอกได้ นับประสาอะไรกับหญิงสาวผู้ใสซื่อคนนี้

เธอมองที่เหอเจิงอย่างไม่รู้อะไร “ขอบคุณมากเลยนะคะ ฉันชอบพี่ลู่เป่ยจริงๆ ที่ก่อกวนครั้งที่แล้ว ฉันใจร้อนมากไปหน่อย”

“ต่อไปไม่เป็นแบบนี้ก็พอ ผู้ชายไม่ชอบทั้งนั้น มันขายหน้า”

“ค่ะ ฉันจะจำไว้”

ขณะที่เดินออกจากโรงพยาบาล หิมะก็เริ่มตก

ทั้งสองไม่ได้พกร่ม เหอเจิงจึงเรียกรถมารับที่หน้าโรงพยาบาล จากนั้นก็ค่อยๆส่งหญิงสาวขึ้นรถ เหอเจิงหยิบบัตรส่งให้เธอ และบอกว่า “เก็บไว้ เอาไว้ซื้อของบำรุง”

หญิงสาวไม่กล้ารับ

เหอเจิงจึงพูดว่า “ยังไงก็ต้องเก็บไว้ ถือซะว่าเป็นการชดเชยแทนพี่ชายฉัน”

หญิงสาวได้ยินดังนั้น จึงรับบัตรมา

เมื่อส่งหญิงสาวไปแล้ว หิมะก็ตกลงมาใส่จมูกของเหอเจิง เธอค่อยๆเช็ดออก ใบหน้าที่แกล้งทำเมื่อกี้ หายไปทันที และเปลี่ยนไปเป็นใบหน้าที่เหนื่อยล้า จากนั้นเธอก็หันหลังและเดินไปขึ้นรถของฟางลู่เป่ย

รถของเขาค่อนข้างกว้าง บรรยากาศภายในมีกลิ่นหอมอ่อนๆของใบชะเอม

ฟางลู่เป่ยหยิบบุหรี่ออกมาสูบ ก่อนจะยิ้มอย่างพอใจ สีหน้าไร้ซึ่งความเจ็บปวดหรือทุกข์ใจ “ดูวันนี้เธอทำเรื่องดีๆแทนฉัน ชื่นชมจริงๆ”

เหอเจิงมองไปที่เขาอย่างไร้อารมณ์ จากนั้นก็หยิบบุหรี่มาคาบไว้ จากนั้นก็จุดไฟแช็ค

“ทำไมพี่ไม่เสียใจเลยสักนิด?”

“เสียใจอะไร?”

“อย่างไรซะเธอก็ท้องลูกของพี่”

ในโลกนี้จะมีคนไร้หัวใจแบบนี้อยู่ได้อย่างไร ถึงแม้ว่านั่นจะไม่ใช่คนที่เขารัก แต่เขาก็ไม่น่าพาอีกชีวิตที่ไม่รู้เรื่องมาเดือดร้อนด้วย

ฟางลู่เป่ยหยักไหล่อย่างไม่สนใจ “จะโทษฉันได้อย่างไร ฉันให้เธอกินยาแล้ว แต่ยัยนั่นไม่กินเอง แถมยังจะใช้เด็กมาผูกมัดฉันอีก เจอแบบนี้ก็สมควรแล้วไม่ใช่เหรอ?”

หิมะตกหนักขึ้นเรื่อยๆ

จากนั้นเขาก็เบนสายตามองไปข้างหน้า และถามอีกว่า

“เธอว่าสมควรไหมล่ะ?”

เหอเจิงไม่ได้มองเขา เธอเกยหน้าต่างและพ่นควันออกไปข้างนอก จากนั้นพูดว่า “พี่ต้องโดนแก้แค้นแน่สักวัน”

“นี่เธอเป็นน้องใครกันแน่เนี่ย?” ฟางลู่เป่ยถาม “เอาแต่พูดให้คนอื่นอยู่ได้”

“ฉันพูดตามความจริง”

“นี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกซะหน่อย ฉันไม่กลัวจะโดนแก้แค้นหรอก”

“ยังมีอีกเหรอ?”

เรื่องนี้ถึงแม้จะไม่ควรเอาออกมาพูด แต่เพื่อให้เหอเจิงรู้สึกดีขึ้นมาหน่อย ฟางลู่เป่ยจึงเลือกที่จะบอกเธอ “ตอนมหาวิทยาลัย มีนักศึกษาการแสดงท้องลูกแฝด ฉันก็ให้เสียวเจี่ยนพาเธอไปเอาออก”

“พี่ยังเป็นคนอยู่ไหม?”

“อย่าเอาแต่ด่าฉัน ใครไม่เคยทำเรื่องแบบนี้บ้างล่ะ?”

พวกเขาต่างเป็นหลอกลวง พอเล่นจนเบื่อแล้วก็ทิ้ง และถึงผู้หญิงพวกนั้นจะหืออย่างไร ก็ทำไม่ได้ เพราะการที่จะเป็นศัตรูกับพวกเขา ก็เหมือนการหาเหาใส่หัว สู้ยอมเอาผลประโยชน์เล็กๆน้อยๆ และยอมจากไปแบบง่ายๆดีกว่า ไม่ได้เสียหายอะไร

เหอเจิงสูบบุหรี่ได้ครึ่งมวนก็โยนทิ้ง “กลับกันเถอะ กลับดึกมากไม่ได้ คุณปู่เขายังอยู่บ้าน”

วันนี้เธอรู้ว่าต้องมาผ่าตัด จึงไม่ได้วางแผนว่าจะซ้อมดนตรีทั้งวัน เพราะหลังจากพักผ่อนช่วงบ่ายเสร็จ เธอก็รีบมาช่วยสะสางเรื่องเน่าๆของฟางลู่เป่ย

ฟางลู่เป่ยลัดเข็มขัด “ไป ฉันไปส่ง”

รถเดินทางมาได้ครึ่งทาง ก็ติดไฟแดง ช่วงที่เหอเจิงเงยหน้าพิงด้วยความเหนื่อยล้า ก็เผยให้เห็นรอยช้ำและรอยแผลบนคอกับแก้มของเธอ

ฟางลู่เป่ยเคยเจอมาเยอะ เขาจึงรู้ว่ารอยพวกนั้นเกิดมาจากอะไร

เขาขำในลำคอ ก่อนจะเคลื่อนตัวรถ “ปกติแล้วโจวโจวดูเป็นคนสุภาพเรียบร้อย แต่พอเรื่องนั้นแล้ว เขาก็บ้าคลั่งเหมือนกัน”

แต่ก็ต้องโทษเหอเจิงที่ยั่วโมโหเขา

เหอเจิงรีบเอาผมมาบังรอยพวกนั้น

แต่ฟางลู่เป่ยก็ไม่ยอมหยุด “แต่ก็พอเข้าใจได้ เมื่อวานเขาต่อยกับเหล่าซุน เหล่าซุนเองก็บ้า กล้าไปพูดกับเขาแบบนั้น มิน่าเขาถึงลงกับเธอ”

ทะเลาะกัน

เมื่อวานบนเนื้อตัวของจี้ผิงโจวก็มีเลือด

“พี่อยู่ด้วย?”

“เปล่า ฉันไปทีหลัง เห็นตอนที่เจิ้งเจิ้งพาเหล่าซุนออกมาพอดี เขาเลยบอกฉัน”

ถ้าเขาอยู่ เขาคงจะต้องถ่ายรูปเซฟไว้แล้ว

คิดๆตอนที่เจอ ซุนไจ่อวี่โดนต่อยจนสติสตางค์ไม่อยู่กับตัว แขนของเขาก็มีเลือดไหลออกมาเต็มไปหมด จากนั้นเจิ้งหลางก็พูดกับเขาอีกนิดหน่อย แล้วก็รีบพาซุนไจ่อวี่ไปโรงพยาบาล

ดูแล้ว จี้ผิงโจวต้องคลั่งมากแน่

“เธอเองก็อย่าคิดว่าจี้ผิงโจวทำเกินไป เพราะไม่มีผู้ชายคนไหนทนได้เมื่อรู้ว่าเมียของตัวเองมีชู้ โดยเฉพาะคนอย่างเขายิ่งไม่ได้” ฟางลู่เป่ยไม่ได้พูดให้เหอเจิงต้องทน แต่แค่อยากให้เธอรู้ว่าเธอก็มีส่วนผิด

ตอนแรกที่เธออยู่กับจี้ผิงโจวและโกหกเขา อีกด้านหนึ่งก็ยังรักครูซ่งอยู่ เรื่องนี้เธอทำไม่ถูกจริง

จนมาถึงวันนี้

เธอก็ไม่มีทางแก้ต่างอะไรได้

เพราะฉะนั้นเธอจึงดูแลและอดทนจี้ผิงโจวให้ดีที่สุดมาตลอดสามปี

แต่ตอนนี้เธอทนต่อไปอีกไม่ไหวแล้ว

ซ่อน | รัก | ลับ

ซ่อน | รัก | ลับ

ฟางเหอเจิงแต่งงานกับจี้ผิงโจวในฐานะลูกสาวนอกกฎหมายของตระกูลฟาง เธอถ่อมตัวต่อหน้าเขา เธอเก็บความรู้สึกทุกอย่างได้จนสามารถกินข้าวร่วมโต๊ะเดียวกันกับคนรักของเขาได้ ระยะเวลาสามปีเต็ม ไม่มีใครเคยเห็นฟางเหอเจิงอิจฉาและเสียอารมณ์ จนกระทั้งมีการเปิดเผยข้อตกลงการหย่าร้างต่อสาธารณะ ไม่มีใครรู้เลยว่าฟางเหอเจิงรักใครอีกคน ในคืนแรกของการแต่งงานเธอจูบดวงตาของเขา เรื่องที่ฟางเหอเจิงแต่งงานกับเขา มีคนถามว่าเธอรัก ฟางเหอเจิงแต่งงานกับเพราะอะไร? เธอตอบว่าเพราะดวงตาเขา เธอรักดวงตาของเขาเท่านั้น ..

Comment

Options

not work with dark mode
Reset