ซ่อน | รัก | ลับ – ตอนที่ 66 ใช่เธอ

หน้าตึกเหนือมีรถของจี้ผิงโจวจอดอยู่ และยังมีหิมะตกลงมาบางๆ

เหอเจิงเหลือตามองแวบหนึ่ง ก่อนจะปัดหิมะบนไหล่ และเดินเข้าบ้านไป

อุณหภูมิอบอุ่นในห้อง ทำให้เธอคลายหนาวได้

ตอนนี้คงต้องประจันหน้ากับจี้ผิงโจวแล้วซินะ เหอเจิงทำไม่มีทางเลือก เธอเปิดประตูเข้าไปเห็นจี้ผิงโจวนั่งทำงานอยู่ตรงโต๊ะข้างๆหน้าต่าง

เอกสารต่างๆที่เขาเอากลับมา

เหอเจิงไม่เข้าใจสักนิด

เพราะมันค่อนข้างยากและซับซ้อน คนที่ไม่เคยเรียนหมอมาก่อนแล้วไปดู น่าจะต้องงงตาแตกแน่ แต่จี้ผิงโจวก็ชอบเรื่องที่ซับซ้อนแบบนี้

เขารู้ว่ามีคนกลับมา

แต่ก็ไม่ได้หันมามอง และถามว่า “ไปไหนมา?”

เหอเจิงไม่ได้ตอบ เธอจัดการเปลี่ยนเสื้อผ้า เธอมองไปที่กระจก เห็นรอยช้ำและบาดแผลต่างๆบนร่างกายเธอ ตอนนี้เธอเหมือนตุ๊กตาเน่าๆที่มีแต่ตำหนิ ต้องใช้ชุดกระโปรงสวยๆเพื่อปกปิดมัน

เมื่อเธอล้างหน้าเสร็จ

ก็ออกมาเห็นจี้ผิงโจวนั่งอยู่ ในมือถือหลอดยาอะไรสักอย่าง และกำลังเจาะหลอดยานั้น ค่อยๆบีบจนมีเนื้อครีมขาวๆออกมา “มานี่”

เหอเจิงไม่ได้สนใจ

เขาจึงเรียกอีกครั้ง “มานี่ มาทายา”

“ไม่เจ็บ”

“ฉันบอกให้มา”

เหอเจิงได้แต่เดินไปอย่างไม่เต็มใจเท่าไหร่ จากนั้นก็ยื่นไปมือไปข้างหน้าเขา เพื่อให้เขาส่งยามา

จี้ผิงโจวไม่ได้ยื่นหลอดยาให้ เขาเงยหน้าขึ้นและบอกว่า “นั่งลง ฉันทายาให้”

เธอตอบอย่างเย็นชาว่า “ฉันทำเองก็ได้”

“ฉันเป็นคนทำ ฉันรับผิดชอบเอง”

เขายังจำได้ว่าเป็นฝีมือเขา

เหอเจิงยังจำภาพที่เขาทำกับเธอไว้อย่างเลือดเย็นได้

“งั้นก็ทาเถอะ เร็วๆหน่อย”

“นั่งลงซิ ยืนแบบนี้จะทายังไง?”

เหอเจิงจึงเตรียมจะลากเก้าอี้มา แต่ก็ถูกจี้ผิงโจวดึงมือให้เธอนั่งบนขา มีแค่กางเกงบางๆกั้นไว้เท่านั้น

เธออยากจะลุกขึ้น แต่ก็ถูกแรงของจี้ผิงโจวกดไว้

“อย่าขยับซิ เธอหนักขนาดนี้” พูดจบ จี้ผิงโจวก็ค่อยๆทายาให้เธออย่างอ่อนโยนและเบามือ

ความสวยความสาวของเธอ แม้กระทั่งหมอหรือครีมบำรุงใดๆก็ไม่อาจให้ได้เท่านี้ ผิวพรรณของเธอความอ่อนเยาว์นุ่มนวลและอ่อนโยนและเปล่งประกายแวววาว

จี้ผิงโจวยังจำความรู้สึกตอนที่จูบเธอได้

เขาอยากจะทะนุถอนมและค่อยๆบรรจงจูบเธอ แต่เพราะเธอยั่วโมโหเขา ทำให้เขาทำกับเธอแบบนี้

เขาทั้งเสียใจและผิดหวัง

“เมื่อวานฉันเมามากไปหน่อย ไม่ได้ตั้งใจ ยังเจ็บอยู่ไหม?”

เหอเจิงเงยหน้ามองเขา และรู้ว่าเขาแค่ขอโทษผ่านๆ “ไม่เจ็บ”

จากนั้นจี้ผิงโจวก็ค่อยๆทายาตั้งแต่บริเวณคาง ถึงแก้ม

คอของเธอเรียบเนียน ขาวผ่อง และยาวระหงส์

จี้ผิงโจวไม่ได้เป็นคนต้องการอะไรมาก

แต่ก่อนเขาเคยมีแฟน เป็นรักใสๆตอนที่เขาอยู่ที่คฤหาสตร์ของคุณตา เป็นลูกครึ่งที่ไปเรียนต่างประเทศ สานสัมพันธ์อยู่ไม่ถึงเดือนก็เลิกกันไป และยังไม่ได้ทำอะไรเกินเลยสักนิด

แต่กับเหอเจิงไม่เหมือนกัน

เพราะตั้งแต่ที่สายตามองเห็นเธอที่โรงพยาบาล จี้ผิงโจวก็คิดว่าเธอนี่แหละใช่แล้ว

เมื่อทายาเสร็จ

จี้ผิงโจวก็ยื่นมือไปสัมผัสบริเวณที่คางเหอเจิง เธอสะดุ้งเล็กน้อย ก่อนจะหันมองเขา แล้วก็พบว่าหน้าของจี้ผิงโจวค่อยๆใกล้เข้ามา

เธอใจเต้นแรงมาก

เหอเจิงกระเด้งตัวยืนขึ้นมองเขา

“ฉัน ฉันเหนื่อย นอนก่อนนะ”

“ไปไหนมา?” จี้ผิงโจวถาม ทั้งที่รู้อยู่ “ทำไมเหนื่อยขนาดนี้?”

จากนั้นก็พูดต่อว่า “ถ้าเธอจะกลับมาเล่นเปียโนอีก ฉันจะให้คนไปจัดการห้องเปียโนข้างๆ แล้วก็ซ้อมที่บ้าน”

เหอเจิงงุนงง “คุณรู้ได้อย่างไร?”

จี้ผิงโจวจัดการเก็บยา และค่อยๆพูดว่า “ที่ที่เธอจะไปได้มีไม่กี่ที่ เธอว่าฉันรู้ได้อย่างไร?”

“ไม่!”

“งั้นก็อย่าไป”

แต่อย่างไรก็ตามเขาก็ไม่มีสิทธิมาจำกัดเธอ

จี้ผิงโจวพูดจบก็หันตัวจะเดินไปเก็บหลอดยา จากนั้นเหอเจิงก็พูดกับเขาว่า “คุณอย่าลืมไปนะว่าพวกเราจะหย่ากันแล้ว ทำแบบนี้แล้วมีประโยชน์อะไร? หรือคุณคิดว่าแผลฉันหายแล้ว จะลืมคนที่ทำให้เจ็บ?”

“เธออยากซ้อม ฉันก็ให้คนจัดการห้องให้ มีอะไรไม่ถูกต้องเหรอ?”

เขากำลังแกล้งโง่

เหอเจิงไม่อยากคุยกับเขาต่อ เธอเดินไปหยิบหมอน จากนั้นพูดว่า “ฉันออกไปนอนข้างนอก!”

จี้ผิงโจวรีบพูดขึ้นว่า “จะไปก็ไสหัวไป แต่เอาหมอนวางไว้”

สิ้นเสียง หมอนก็ลอยมาบนอากาศ และตกมาอยู่ในใจเขา จากนั้นก็ได้ยินเสียงปิดประตูดังลั่น ได้ยินดังนั้น เขาก็โยนหลอดยาทิ้งไปนอกหน้าต่าง

แค่พวกเขาอยู่แยกกัน คงไม่ทะเลาะกันอีก

ตอนแรกจี้ผิงโจวเป็นคนที่ค่อนข้างอัธยาศัยดี ไม่หงุดหงิดง่าย แต่ตอนนี้ เหอเจิงทำให้อารมณ์ไม่ดีๆเหล่านั้นผุดออกมาไม่หยุด

ตอนนี้เขาต้องนอนคนเดียว

ข้างกายว่างเปล่า บรรยากาศในห้องก็ว่างเปล่า

เขานอนไม่หลับ จนถึงช่วงกลางดึก ทนไม่ไหวหยิบหมอนออกไปที่ห้องนั่งเล่น เขามองหาเหอเจิงแต่ก็ไม่พบ อากาศข้างนอกหนาวมาก และเธอก็ใส่ชุดค่อนข้างบาง จะออกไปข้างนอกได้

เขาเดินไปเปิดไฟ และมองดูอีกที ก็ไม่เห็นเธอ

เขารีบเดินขึ้นไปดูที่ดาดฟ้าก็ยังไม่เจอเธอ

จี้ผิงโจวกดโทรศัพท์หาเธอ แต่ก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังออกมาจากห้องนอน เพราะเธอไม่ได้พกโทรศัพท์ออกมาด้วย

เขาไม่รู้จะทำอย่างไร จึงตัดสินใจโทรหาจี้ซู ณ เวลาตีสอง

เธอรับสายด้วยเสียงงัวเงีย “ฮัลโหล ใครอะ?”

จี้ผิงโจวพยายามข่มอารมณ์ตอบกลับ “พี่เอง”

เมื่อรู้ว่าปลายสายคือจี้ผิงโจว จี้ซูก็กรอกตาไปมา “ทำไมอีกคะคุณชาย? รู้ไหมคะว่าตอนนี้มันกี่โมงแล้ว”

“ตอนเหอเจิงอยู่บ้านคนเดียวเธอชอบไปที่ไหน?”

“อะไรนะ?”

“เวลาเธออยู่ที่บ้านคนเดียวชอบแอบอยู่ที่ไหน?”

จี้ซูตั้สติได้ ก็เดาออกว่าน่าจะเกิดอะไรขึ้น “ทะเลาะกันอีกแล้ว? พี่โตขนาดนี้แล้วนะ ยังจะรังแกคนอื่นอยู่ทำไม?”

จี้ผิงโจวไม่มีเวลาจะรออีก “เธอมักจะไปที่ไหน?”

จี้ซูครุ่นคิดพักหนึ่ง ก่อนจะตอบว่า “น่าจะไปห้องดูหนังชั้นสองมั้ง เวลาที่พี่ไม่กลับบ้าน เธอชอบไปนอนที่นั่น”

ซ่อน | รัก | ลับ

ซ่อน | รัก | ลับ

ฟางเหอเจิงแต่งงานกับจี้ผิงโจวในฐานะลูกสาวนอกกฎหมายของตระกูลฟาง เธอถ่อมตัวต่อหน้าเขา เธอเก็บความรู้สึกทุกอย่างได้จนสามารถกินข้าวร่วมโต๊ะเดียวกันกับคนรักของเขาได้ ระยะเวลาสามปีเต็ม ไม่มีใครเคยเห็นฟางเหอเจิงอิจฉาและเสียอารมณ์ จนกระทั้งมีการเปิดเผยข้อตกลงการหย่าร้างต่อสาธารณะ ไม่มีใครรู้เลยว่าฟางเหอเจิงรักใครอีกคน ในคืนแรกของการแต่งงานเธอจูบดวงตาของเขา เรื่องที่ฟางเหอเจิงแต่งงานกับเขา มีคนถามว่าเธอรัก ฟางเหอเจิงแต่งงานกับเพราะอะไร? เธอตอบว่าเพราะดวงตาเขา เธอรักดวงตาของเขาเท่านั้น ..

Comment

Options

not work with dark mode
Reset