ซ่อน | รัก | ลับ – ตอนที่ 69 อย่าไปไหน

บ้านเก่าของตระกูลฟางตั้งอยู่ที่ค่อนข้างห่างไกล เวลาตอนเช้าออกเดินทาง ช่วงเที่ยงถึงจะเดินทางมาถึง เหอเจิงไม่กล้าเดินเข้าไป เธอยืนรอหน้าประตูอยู่พักใหญ่ จนป้าหมิงเดินออกมา เมื่อเห็นเธอใส่เสื้อผ้าค่อนข้างบาง จึงรีบเดินเข้ามาถูมือเธอ

“เจิง ทำไมไม่เข้าไปล่ะคะ?”

เพราะคนใช้คนอื่นบอกเธอ เธอถึงรู้

เหอเจิงทำสีหน้าท่าทางให้เป็นปกติ ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น “พี่อยู่ไหมคะ ฉันมาหาเขา”

“ไม่อยู่ค่ะ เมื่อวานเขาไม่ได้กลับบ้าน”

นิสัยเสียของฟางลู่เป่ย

ตอนนี้เขาน่าจะเมาและนอนไม่ตื่นอยู่ที่ไหนสักที่

ป้าหมิงเห็นท่าทีไม่ปกติ จึงถามว่า “มีอะไรเหรอคะ? มีเรื่องด่วนหรือเปล่า เดี๋ยวฉันช่วยโทรตามเขากลับมาค่ะ”

“ไม่มีเรื่องใหญ่อะไรค่ะ เขาไม่อยู่ งั้นฉันโทรบอกเขาก็ได้ค่ะ”

ฟางลู่เป่ยเป็นคนไม่อยู่ติดบ้าน

ขนาดเธอมาก่อน

ก็ยังไม่เจอตัวเขา

ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา หลังจากที่เธอออกจากบ้านตระกูลฟางไป ฟางเหอเจิงดูเหมือนจะน้ำหนักลดลงอีกครั้ง มือของเธอดูซูบผอม จนไม่สามารถรักษาความอบอุ่นได้ “กลับไปลำบากอีกไหมคะ? พวกบ้านเขาได้รังแกอะไรคุณไหม?”

“เปล่าค่ะ” เหอเจิงไม่เคยบ่นเรื่องที่นั่นเลย “พวกเราจะหย่ากันแล้ว ไม่มีอะไรแล้วค่ะ”

“หย่าแล้ว?”

“ค่ะ คุณปู่ก็ตกลงเห็นด้วยแล้ว”

เรื่องใหญ่ขนาดนี้ แต่เธอพูดเหมือนไม่มีอะไร

ป้าหมิงได้ยินแล้วก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ “เรื่องนี้ถ้าจะบอกว่าใหญ่ก็ไม่ใช่ แต่จะบอกว่าเล็กก็ไม่ใช่อีก คุณคิดดีแล้วใช่ไหมคะ?”

เหอเจิงกำมือของป้าหมิงเบาๆ ราวกับปลอบโยนเธอ

เหอเจิงไม่ได้ตอบอะไร

แต่กลับยิ้มและบอกว่า “ถ้าพี่ไม่อยู่ งั้นฉันกลับก่อนนะคะ คงไม่เข้าไปรบกวนคุณแม่หรอกค่ะ”

“รบกวนที่ไหนกันคะ..”

“หย่าแล้ว ฉันจะกลับมาที่นี่บ่อยๆค่ะ”

ขณะที่เธอหมุนตัว ก็มีรถคันหนึ่งขับมาจากไกลๆ จากนั้นก็ได้ยินเสียงแตรรถ ราวกับบอกเหอเจิงว่าอย่าเพิ่งไป เหอเจิงเองก็ยังมองเห็นไม่ชัดว่าคนในรถคือใคร จากนั้นป้าหมิงก็เช็ดน้ำตาของตัวเอง และบอกว่า “คุณเหอกลับมาแล้วค่ะ ไม่กี่วันเขายังบ่นถึงคุณอยู่เลยค่ะ”

เพราะตั้งแต่ที่เหอหยุนซิ่งกลับมา

เหอเจิงก็ได้เจอกับเขาแค่ไม่กี่วันนั้นเอง

ตั้งแต่ที่โดนจี้ผิงโจวลากตัวกลับไปคราวนั้น พอมาเจอหน้าครั้งนี้ เหมือนเธอจะทำตัวไม่ถูก

ในขณะที่เธอกำลังคิดอยู่นั้น ก็เห็นเหอหยุนซิ่งเดินยิ้มเข้ามาหาเธอ

“ทำไมมาไม่บอกกันก่อนเลยล่ะ?”

เมื่อป้าหมิงเห็นเหอเจิงไม่ได้พูดอะไร จึงรีบพูดแทนเธอว่า “เธอมาหาลู่เป่ยค่ะ”

เหอหยุนซิ่งยังคงมองเธอ “หาลู่เป่ยเหรอ มีเรื่องอะไร?”

ป้าหมิงกำลังจะพูด

แต่เหอเจิงก็ดึงแขนห้ามไว้ก่อน

จากนั้นก็ยิ้มและพูดว่า “ไม่มีอะไรค่ะ”

ถึงแม้ว่าเธอจะพยายามปกปิด แต่เหอหยุนซิ่งก็มองออก

ไม่กี่วันนี้มีเรื่องเกิดขึ้นมากมาย ข่าวที่จี้ผิงโจวทะเลาะกับซุนไจ่อวี่ที่คลับ เขาก็ได้ยินมาเหมือนกัน

เหอหยุนซิ่งยิ้มตาหยี ถึงแม้เขาจะรับรู้ทุกอย่าง แต่เขาก็ไม่ได้พูดออกมา เขาเก็บซ่อนมันไว้ในท่าทางอันใสซื่อนี้

เขาวางมือบนไหล่ของเหอเจิง และบอกว่า “เข้าไปกันเถอะ ฉันมีของให้เธอพอดี”

เหอเจิงจำได้ว่าตอนเด็กๆ เธอสนิทกับเขามากที่สุด

เพราะเขาเป็นน้า

แต่ตอนนี้เธอก็โตแล้ว คงจะเป็นเหมือนที่จี้ผิงโจวเคยพูดไว้ว่า อายุยี่สิบกว่าแล้ว คงจะไม่สามารถเจอเรื่องไม่สบายใจอะไรมา แล้วก็กลับมาร้องฟูมฟายกับน้าได้เหมือนเดิม

“อะไรเหรอคะ?” เหอเจิงถาม

เหอหยุนซิ่งค่อยๆวางลง “เดี๋ยวน้าหยิบออกมาให้”

ถ้าเธอเข้าไปในบ้าน

อาจจะเจอกับคุณนายฟาง และเมื่อเจอกับเธอแล้ว คงจะต้องโดนตำหนิติเตียนเรื่องใดสักเรื่องอีกแน่ๆ และถ้ามีพวกป้าๆน้าอยู่ เหอเจิงก็จะต้องเข้าไปทักทายทีละคนๆ เธอนึกถึงแล้วก็รู้สึกปวดหัว

“โอเคค่ะ งั้นฉันรออยู่ที่นี่”

พูดจบ เหอหยุนซิ่งก็เดินไป

เมื่อเหอเจิงเห็นเขาเดินไปแล้ว ก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกมาอย่างโล่งใจ

ป้าหมิงไม่เข้าใจว่าทำไมเธอต้องปิดบังด้วย “คุณเหอกับคุณนายต่างก็รักและเอ็นดูคุณ แล้วทำไมต้องปิดบังพวกเขาด้วยล่ะคะ?”

“ไม่อยากให้พวกท่านมาลำบากเพราะเรื่องของฉันค่ะ”

ที่เธอพูดเป็นความจริง

แต่มันก็ดูเหมือนจะสายไป

เพราะเมื่อตอนที่เหอหยุนซิ่งแน่ใจว่าเหอเจิงจะหย่า เขาก็วิ่งเต้นไปไปช่วยเธอติดต่อถามไถ่คนนู้นคนนี้

เพื่อเรื่องหย่า

เขาทำให้เธอมาเยอะมาก

ตอนที่เหอหยุนซิ่งออกมา ป้าหมิงก็เข้าไปข้างในแล้ว

ท้องฟ้าก็ค่อยๆเปลี่ยนสีแล้ว เพราะตอนนี้เป็นหน้าหนาว ทำให้ฟ้าค่อนข้างจะมืดเร็ว ในฤดูนี้ มักจะมีลมหนาวพัดมาบ่อยๆ ความหนาวแบบนั้น เหอเจิงเจอมาจนชินแล้ว

ตอนที่เหอเจิงยืนรอตรงขอบรั้วสีขาวข้างๆบ้าน

เวลามีลมพัดมา

เธอหนาวจนเหมือนโดนแช่แข็ง วิวรอบๆแห้งเฉา เหมือนกับเธอตอนนี้

เหอหยุนซิ่งมองภาพเหอเจิงที่อยู่ด้านหน้า ก็นึกถึงตอนที่เหอเจิงยังเด็ก ช่วงตรุษจีนเธอถูกเรียกมจากที่ไกลแสนไกล

จะบอกว่าระยะทางเป็นร้อยไมล์ ก็ฟังไม่เว่อร์เกินไป

เพราะฉะนั้นจึงไม่มีใครอยากไปรับเธอ

แม่ของเธอมาส่งเธอตรงบริเวณรั้วหน้าบ้าน เธอยืนอยู่พร้อมกับแบกกระเป๋าหนังสือใบหนึ่ง แม่ของเธอตบหน้าของเธอเบาๆ เพื่อกำชับกับเธอว่า “รอคนข้างในมารับตรงนี้ อย่าเดินไปไหนมมั่วซั่วนะ”

ตอนนั้นเหอเจิงยังเด็ก

และในความทรงจำของเธอ

มีแค่ว่า เวลาที่รอคนออกมารับเธอ เป็นเวลาที่ยาวนานเหมือนจะไม่มีที่สิ้นสุด

เหอหยุนซิ่งเปิดประตูออกมา จากนั้นเขาก็หยิบซองกระเป๋าหนังขึ้นมา ตอนที่ยื่นให้เธอ เหอหยุนซิ่งยอมออกมา จากนั้นก็พูดว่า “อันนี้ ถ้าเธอคิดจะหย่า ของข้างในน่าจะช่วยอะไรได้บ้าง”

ตอนนี้เป็นเวลาหกโมงกว่าแล้ว

เหอเจิงจึงไม่มีเวลาเปิดดูว่าของข้างในคืออะไร

จากนั้นเหอเจิงก็นั่งรถมาโรงแรมที่ลู่เป่ยจองระยะยาวไว้ เขาเพิ่งตื่นและรีบเดินมาขึ้นรถเลย เขารีบจนลบรอยลิปสติกที่อยู่บนคอออกไม่หมด

ช่วงที่รถติด

ฟางลู่เป่ยถึงได้มีเวลาหายอกหายใจบ้าง เขาส่องกระจกเล็กๆข้างหน้า และหยิบกระดาษมาจัดการรอยพวกนั้น “พวกเธอกินข้าวกัน และเอาฉันไปด้วยทำไม?”

“ฉันมีแค่นาย”

ในบรรดาญาติที่เธอมี

มีแค่ฟางลู่เป่ยเท่านั้นที่จะยอมไปด้วย

“ปู่ของจี้ผิงโจวบอกให้ฉันพาคนในครอวครัวไปด้วย ไปคุยเรื่องหย่า เพราะตอนที่แต่งงาน ก็เป็นเรื่องตัดสินใจร่วมกันของทั้งสองตระกูล”

ฟางลู่เป่ยพับกระจกเก็บด้วยความหงุดหงิดเล็กน้อย “ก็ว่าแล้วว่าไม่ใช่เรื่องดี”

เหอเจิงก้มหน้า รู้สึกตาร้อนผ่าว “ถ้าเรื่องนี้จบ ฉันจะตอบแทนพี่อย่างดีที่สุด”

“คนดีมีคุณธรรมอย่างเธอ จะเอาอะไรมาตอบแทนฉัน ดูแลชีวิตตัวเองให้ดีเถอะ”

พูดจบ เขาก็เคลื่อนตัวรถ เขามองมาที่หน้าของเหอเจิงเล็กน้อย ก่อนจะพูดว่า “อีกสักพัก ทำตัวฉลาดๆหน่อยนะ”

ซ่อน | รัก | ลับ

ซ่อน | รัก | ลับ

ฟางเหอเจิงแต่งงานกับจี้ผิงโจวในฐานะลูกสาวนอกกฎหมายของตระกูลฟาง เธอถ่อมตัวต่อหน้าเขา เธอเก็บความรู้สึกทุกอย่างได้จนสามารถกินข้าวร่วมโต๊ะเดียวกันกับคนรักของเขาได้ ระยะเวลาสามปีเต็ม ไม่มีใครเคยเห็นฟางเหอเจิงอิจฉาและเสียอารมณ์ จนกระทั้งมีการเปิดเผยข้อตกลงการหย่าร้างต่อสาธารณะ ไม่มีใครรู้เลยว่าฟางเหอเจิงรักใครอีกคน ในคืนแรกของการแต่งงานเธอจูบดวงตาของเขา เรื่องที่ฟางเหอเจิงแต่งงานกับเขา มีคนถามว่าเธอรัก ฟางเหอเจิงแต่งงานกับเพราะอะไร? เธอตอบว่าเพราะดวงตาเขา เธอรักดวงตาของเขาเท่านั้น ..

Comment

Options

not work with dark mode
Reset