ซ่อน | รัก | ลับ – ตอนที่ 83 รู้สึกสะใจเล็กน้อย

พูดมากไปแค่คำเดียวก็รู้สึกว่าเป็นสิ่งที่น่ารำคาญ

หมอกหนากระจายเต็มไปทั่วค่ำคืนที่มืด เหอเจิงพูดจบก็กลับหลัง เพิ่งกลับหลังก็ถูกจี้ผิงโจวเรียกไว้ เสียงของเขาไม่น่าฟัง ถ้ามีลูกน้องตามหลังอีกไม่กี่คนก็คงเป็นลูกพี่ที่เน้นความเท่เป็นหลัก กับผู้หญิงก็ไม่มีข้อยกเว้น

“ฉันพาคนอื่นมาพักบ้านของเธอ เธอไม่คิดจะถามอะไรสักหน่อยหรอ”

ตอนนี้จี้ซูอยู่ที่บ้านตระกูลฟาง

เหอเจิงรู้สึกว่านอกจากเรื่องของจี้ซูแล้ว ไม่มีอะไรน่าพูดกับจี้ผิงโจวเลย “อยากถามดิ”

เสียงออกมาจากปอดเป็นระลอกๆ

ลอยอยู่ข้างหน้าของเหอเจิง สีหน้าที่ตื่นเต้นเล็กน้อย กลั้นไว้ท่ามกลางแสงเลืองลางขาวเหมือนหมอก ทำให้เห็นได้ไม่ชัด “จากนี้ไปฉันก็ไม่ต้องไปถ่ายเลือดให้พี่สาวนายแล้วใช่ไหม”

สิ่งที่เธอเป็นห่วงนั้น

ก็คงจะมีสิ่งเดียว

และก็จงจะคู่ควรกับการเป็นห่วงสิ่งนี้เท่านั้น

จี้ผิงโจวไม่เข้าใจสิ่งที่เธอจะสื่อ เขานั่งอยู่ในรถ รอบกายเต็มไปด้วยความอบอุ่น แน่นอนว่าไม่เข้าใจหัวอกของเหอเจิงที่ยืนอยู่ท่ามกลางหิมะที่หนาวเหน็บหรอก

“มีคนอื่นแล้ว ยังต้องการเธออีกทำไม”

คำพูดนี้ดูแล้วทำร้ายจิตใจคน

แต่ก็เป็นคำตอบที่เหอเจิงต้องการ เธอเหมือนจะหาคำตอบได้แล้ว “ฉันเข้าใจแล้ว”

คำพูดประโยคนี้เหมือนจะกระทบส่วนลึกในหัวใจของจี้ผิงโจว เขาไม่ได้ลดความหนักแน่นของเสียง ทบสอบดูว่า “แต่ถ้าเธออยากกลับมา…”

“ไม่อยากกลับไปหรอก”

เธอจะไม่กลับไปที่นั่นเด็ดขาด

คำปฏิเสธของผู้หญิงคนนี้เหมือนจะเอาชีวิตเข้าแลก มือเธอไม่มีเหล็กอะไร แต่เหมือนกับว่าใช้มีดล่องหนผ่าแยกความสัมพันธ์ระหว่างเขาสองคน ตรงกลางยังมีแม่น้ำสายหนึ่งพาดผ่านด้วย

ใจของจี้ผิงโจวร้อนรน เขาไม่เคยถูกผู้หญิงแบบนี้ปฏิเสธมาก่อน “ฉันหมายความว่า เรายังไม่ได้เซ็นชื่อ เมื่อไหร่ที่ฉันอยากให้เธอกลับมา เธอก็ต้องกลับมา”

“ฉันรู้ ฉันเคยรับปากกับคุณปู่ว่า เวลาที่ต้องการ ฉันจะกลับไปเป็นเมียของนาย”

“เธอรับปากกับคุณปู่หรอ”

อากาศที่เต็มไปด้วยหมอกหนา ปกคลุมรอบๆ เหมือนกับก้อนเมฆที่ตกจากฟ้าเลย ทีละระลอกๆ เมื่อมีลมพัดมา หมอกขาวก็กระจายไปกลุ่มหนึ่ง แล้วก็พัดถูกผมที่หยักเล็กน้อยของเหอเจิงด้วย เธอทำหน้าตรง สายตาที่จ้องไปยังจี้ผิงโจวนั้นเย็นชา เหมือนกับว่ากำลังมองคนแปลกหน้าที่ไม่อยากจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วยอย่างนั้น

สีหน้าอย่างนั้นทำเอามือของจี้ผิงโจวเย็นไปหมด แต่บนใบหน้าเหมือนกำลังยิ้ม “เธอกำลังแบกสิ่งที่ฉันกับคุณปู่ได้ตกลงกันแล้ว เธอก็มีแววเหมือนกันนี่”

กลัวว่าจะทะเลาะกับเขาขึ้นมา

เธอจิบปาก “ฉันไปเรียกจี้ซูออกมา”

จี้ผิงโจวกดลงไปบนพวงมาลัยรถ ไปกดโดนแตรรถ เสียงแสบแก้วหูมาก ยังไงเขาก็โมโหแล้วล่ะ แต่ยังไงเธอก็ไม่อยากอยู่ตรงนี้ อยากเดินจากไปจริงๆ

บ้านตระกูลฟางนั้นเวลาหลังอาหารเย็นเป็นเวลาที่คึกคักมากที่สุด

คุณนายฟางชอบดึงคนอื่นมาเล่นไพ่นกกระจอก เล่นทีคือหลายโต๊ะ หมอกควันเต็มไปทั่วห้องรับแขกน้อย เสียงร้องเสียงไพ่ ปะปนกันวุ่นวายไปหมด เสียงแหลมเล็กๆของพวกป้ายิ่งทำให้อยากจะอุดหู

เหอเจิงเมินหน้าเดินเข้าไป ดึงจี้ซูที่กำลังชมไพ่นกกระจอกอย่างมีความสุขมาจากมุมของโต๊ะๆหนึ่ง ยิ้วอ่อนๆเป็นการขอโทษพวกป้าแล้วดึงเธอออกมา

ข้างนอกหนาวมาก

จี้ซูสวมเสื้อไหมตัวหนึ่ง เพิ่งก้าวออกไปก็ถูกลมหนาวพัด ตัวสั่นไปทีหนึ่ง กอดแขนของเหอเจิงไว้งอนว่า “ทำไมหรอ วันนี้ฉันขอเล่นครั้งหนึ่ง ให้ฉันเล่นอีกแป๊ปน่ะ”

เหอเจิงกดลงไปบนหน้าผากของเธอแล้วผลักเธอออกไป “พี่ชายนายมาหา รออยู่ข้างนอกแล้ว รีบไปสิ”

จี้ซูไม่ได้มีท่าทีตกใจเลย “ฉันรู้แล้วน่ะ เขาโทรมาหาฉันแล้ว แต่ว่าฉันยังไม่อยากกลับไปนี่”

“ทำไมล่ะ”

“ก็ที่นี่มันสนุกกว่าที่บ้านไง”

บ้านตระกูลฟางไม่ได้มีกฎอะไรมากมายเหมือนบ้านตระกูลจี้ จี้ซูอยู่บ้านต้องอยู่กับจี้เหยียนเซียง แต่เธอเป็นคนที่พูดมากกว่าคนอื่นเป็นพิเศษ ต่อหน้าจี้เหยียนเซียงพูดเยอะไม่ได้ เลยต้องเก็บกดไว้

แต่เมื่อมาถึงบ้านตระกูลฟาง

มีการเล่นไพ่นกกระจอก ยังสามารถพูดคุยกับพวกป้าอีก ไม่มีอะไรที่ผ่อนคลายมากกว่านี้แล้ว

เหอเจิงไม่อยากฟังคำพูดของหล่อน

เขาสองพี่น้อง เป็นคู่ป่วนจริงๆ คนหนึ่งหย่าไม่ไป คนหนึ่งก็ส่งไม่ไป ทำจนเธอเคร่งเคลียดไปหมดแล้ว เลยจำเป็นต้องไม่สนใจคำร้องอะไรของจี้ซูดึงเธอออกไปหน้าประตู

เห็นรถของจี้ผิงโจว เธอผลักจี้ซูไว้ข้างนอกประตูอย่างใจเด็ด ใบหน้าที่เย็นชาอยู่ภายใต้ค่ำคืนที่มืด “กลับไปเถิด บ้านตระกูลจี้ดีกว่าที่นี่เยอะ”

จี้ซูร้องออกมาคำหนึ่ง ร้อนรนในการเคาะประตู

เคาะไปได้สองสามที จี้ผิงโจวก็บีบแตรใส่เธอ เธอถึงต้องจากไปอย่างไม่สมใจยิมยอม ก้มหน้า หยิกนิ้วไปมา น้ำเสียงออกดุดันเล็กน้อย “มาทำไม ก็บอกแล้วไงว่าฉันยังไม่อยากกลับไป”

จี้ผิงโจวมองเธออย่างขี้เกียจทีหนึ่ง “กลับไป เธออยู่ที่นี่ทำอะไรได้ เป็นภาระให้คนอื่นหรอ”

“ถ้าไม่เพราะนายพากิ๊กเข้าบ้าน ฉันจะถูกไล่ออกมาหรอ”

คำพูดนี้เขาฟังแล้วรู้สึกเป็นเรื่องน่าขำสิ้นดี “ฉันพาคนกลับไป แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเธอด้วย”

คนที่นะจะโมโหอยู่อย่างสบาย ไม่ให้สีหน้าที่ไม่ดีแม้แต่น้อย แต่คนที่ไม่เกี่ยวข้องเลยกลับเรียกร้องจะเป็นจะตายอยู่แล้ว

เขาไม่รู้จริงๆว่าจะร้องไห้ดีหรือหัวเราะดี

จี้ซูกลับรู้สึกว่าตัวเองมีเหตุผลมาก เชิดอก ไม่ยอมลดน้ำเสียงแห่งความมั่นใจเลยแม้แต่น้อย “ถ้างั้นพี่ทำเพื่อผู้หญิงคนอื่นถึงกับด่าเมียของตัวเอง ยังตีน้องสาวของตัวเอง ไหนลองบอกมาสิ พี่เป็นคนมีปัญหาหรือเปล่า”

“ฉันด่าหล่อนตอนไหนหรอ”

ในความจำของจี้ผิงโจว เขาไม่ได้ด่าอะไรเหอเจิงนี่ ก็แค่คำพูดเย็นๆไม่กี่คำเอง

แล้วผู้หญิงคนนั้นล่ะ

ก็ไม่เคยทำให้เขาสบายใจได้เลย

“ด่านั่นแหละ ถ้าไม่อย่างนั้นพี่สะใภก็คงไม่ร้องไห้หรอก” จี้ซูลับๆลอๆ “ยังตีฉันด้วย แล้วฉันจะกลับไปกับพี่แต่โดยดีได้ยังไง ฝันไปเถอะ พี่คิดว่าใครๆก็รังแกได้ง่ายเหมือนกับฟางเหอเจิงหรอ”

เธอหันหลังแล้ววิ่งจากไป ท่าทางนั้น ก็เหมือนกับกระต่ายที่อยู่ในทุ่งหญ้า ดีดขาหลังพุ่งไปข้างหน้า กระโดด กลัวว่าจะถูกคนจับหูแล้วนำกลับไป

แต่ว่าจี้ผิงโจวเป็นคนยังไงใครก็รู้ ถ้าเขาไม่อยากให้เธอหนี แม้แต่ก้าวเดียวเธอก็หนีไม่ได้ เขารีบลงจากรถสองสามก้าวก็ดึงคอเสื้อของเธอกลับไปยังที่เดิม

ท่ามกลางหมอกหนาที่มืดมิด สีหน้าของเขาแสดงออกถึงความสะใจ “เมื่อกี้เธอว่ายังไงนะ”

จี้ซูโมโหแล้ว กระทืบเท้า “ฉันบอกว่าพี่ฝันไปเถิด”

“ไม่ใช่ประโยคนี้”

เธอคิดแล้วคิดอีก “พี่คิดว่าใครๆก็เป็นเหมือนฟางเหอเจิงหรอ”

คิ้วของจี้ผิงโจวชนกัน “เธอว่าเหอเจิงร้องไห้หรอ”

“ก็ใช่นะสิ ร้องไห้ได้น่าสงสารมาก เธอว่าเธอเกลียดพี่จะตาย ไม่อยากจะยุ่งกับพี่แล้ว”

คำพูดประโยคหลังแต่ละคำไม่ใช่คำพูดของเหอเจิงเลย แค่ได้ยินจี้ผิงโจวก็รู้แล้ว เขาอธิบายไม่ถูกว่าตัวเองมีความรู้สึกอย่างไร จริงๆควรเป็นห่วงเธอ แต่ไม่รู้ว่าทำไม น่าจะเป็นเพราะแผนที่วางไว้สำเร็จแล้วละมั้ง เขารู้สึกสะใจเล็กน้อย

เขาเก็บอารมณ์ไว้ จี้ผิงโจวกวักมือให้กับจี้ซู

เธอยืนทื่ออยู่ กระดูกทั่วร่างกายเหมือนจะหนาวเหน็บ “พี่จะทำอะไร”

“เข้ามานี่”

แม้ว่าท้องฟ้าจะมืดไปแล้ว

แต่ก็เก็บสีหน้าที่ไม่หวังดีของจี้ผิงโจวไม่อยู่ จี้ซูรู้จักเขาดี ตั้งแต่เล็กจนโตแฝงไปด้วยความคิดที่ไม่ดี รวมไปรวมมาก็กลายเป็นคนๆหนึ่ง ตอนเด็กก็ทำกับเธอไม่น้อย

กลืนน้ำลาย เธอส่ายหัว “ฉันไม่ไป ดูก็รู้ว่าไม่ได้เป็นเรื่องดีแน่”

จี้ผิงโจวยิ้ม เขายิ้มฟ้าก็เปลี่ยนไป เผยให้เห็นถึงความเจ้าเล่ห์ “เธออยากอยู่ที่บ้านตระกูลฟางไม่ใช่หรอ ฉันจะให้เธออยู่”

“จริงนะ”

“จริงดิ”

จี้ซูไม่ได้โง่ “มีเงื่อนไขอะไรหรือเปล่า”

(สวัสดีผู้อ่านที่น่ารักทุกท่าน เนื่องจากเนื้อหานิยายบางส่วนมีข้อผิดพลาดเรื่องความละเอียดรอบขอบ ทางเราต้องขออภัยด้วย และจะดำเนินการแก้ไขอย่างแร่งด่วน โปรดกลับมาอ่านอีกครั้งในวันถัดไป ขอบคุณ)

ซ่อน | รัก | ลับ

ซ่อน | รัก | ลับ

ฟางเหอเจิงแต่งงานกับจี้ผิงโจวในฐานะลูกสาวนอกกฎหมายของตระกูลฟาง เธอถ่อมตัวต่อหน้าเขา เธอเก็บความรู้สึกทุกอย่างได้จนสามารถกินข้าวร่วมโต๊ะเดียวกันกับคนรักของเขาได้ ระยะเวลาสามปีเต็ม ไม่มีใครเคยเห็นฟางเหอเจิงอิจฉาและเสียอารมณ์ จนกระทั้งมีการเปิดเผยข้อตกลงการหย่าร้างต่อสาธารณะ ไม่มีใครรู้เลยว่าฟางเหอเจิงรักใครอีกคน ในคืนแรกของการแต่งงานเธอจูบดวงตาของเขา เรื่องที่ฟางเหอเจิงแต่งงานกับเขา มีคนถามว่าเธอรัก ฟางเหอเจิงแต่งงานกับเพราะอะไร? เธอตอบว่าเพราะดวงตาเขา เธอรักดวงตาของเขาเท่านั้น ..

Comment

Options

not work with dark mode
Reset