ซ่อน | รัก | ลับ – ตอนที่ 86 ให้เธอคุกเข่า เธอก็คุกเข่าจริงๆ

ยาในกล่องมีไม่มาก

ทำแผลอย่างง่ายให้กับเธอ เหอเจิงเจ็บจนออกเหงื่อเย็น ผมข้างๆหูก็เปียกชุมไปหมด แต่ก็ยังปากแข็งกัดฟันไว้ ไม่ส่งเสียงสักนิด มือที่จับตัวรถ เส้นเอ็นบนหลังมือก็กำลังกระตุก

แสงลำเล็กๆในรถฉายมาตามหัวไหล่ของเธอ ส่องลงไปบนหลังที่เปลือย ในที่สุดก็ได้ยินเสียงจี้ผิงโจวเก็บของ เธอถอนหายใจอย่างโล่งอก ยื่นมือที่สั่นไปหยีบเสื้อผ้ามาสวม

การดูแลใกล้ชิดอย่างนี้ มันเป็นอะไรที่—-ดูแคลนกันเกินไปแล้ว

จี้ผิงโจวทำใจอยู่แป๊ป แย้งเสื้อไหมพรมที่ถูกสบัดจนเปื้อนนั้นไป “สกปรกแล้ว ใส่ตัวอื่น เดียวแผลก็ติดเชื้อหรอก”

เหอเจิงก็ไม่ได้ขึ้เสียงขนาดนั้น “หนาวอย่างนี้เนี่ยน่ะ”

เธอนั่งหันข้าง ผมที่ยาวพาดลงไปที่ไหล่ ข้างหน้าบังใบหน้าไว้ครึ่งหนึ่ง อยากจะปกปิดไว้แต่กลับถูกสังเกตได้

“ใส่ของฉัน”

ขณะที่พูด

จี้ผิงโจวก็ถอดเสื้อกันหนานสีเทาเข้มออกมา กดหัวของเธอไว้แล้วสวมเข้าไปบนตัวเธอ ระยะห่างใกล้มาก ไม่ว่าที่ไหนก็เห็นชัดไปหมด รอยโค้ง ยังมีรวดลายบนตัว หรือแม้กระทั้งความเว้านุนของข้อต่อต่างๆ

ยกมือของเธอขึ้นแล้วก็สวมเข้าไปในแขนเสื้อ แต่ก็ไปโดนรอยฟอกช้ำที่ข้อมือของเธอ จี้ผิวโจวกุมไว้ สายตากวาดลงมาทีหนึ่ง “อันนี้เป็นอะไรอีกล่ะ”

เหอเจิงไม่ปริปาก

เหมือนเขาจะกำลังเยาะเย้ยอยู่ “ถูกของอะไรฟาดออกมาแหละมั้ง”

แต่ยังไงก็ไม่ใช่เพิ่งจะได้รับมาแน่นอน

ของแค่นี้ยังไงเขาก็มองออกอยู่

เหอเจิงผยักหน้า แล้วสอดมือเข้าไปอย่างระมัดระวัง ในที่สุดก็ใส่เสื้อเสร็จแล้ว เธอสามารถมองหน้าจี้ผิงโจวโดยตรงได้แล้ว เขาก็จ้องมองเธออยู่

“ซ่อมสายเชลโลไม่ได้ มันขาดเลยฟาดโดนทีหนึ่ง”

จี้ผิงโจวทำหน้านิ้วคิ้วขมวด รู้สึกรำคาญเล็กน้อย “ให้จี้ซูซื้อตัวใหม่ให้เธอแล้วไม่ใช่หรอ”

เสื้อไหมพรมเป็นของเขา ไม่ได้อ่อนนุ่มมากนัก แต่ก็อบอุ่น คลุมถึงเอวของเหอเจิงพอดี แต่เสื้อผ้าของเธออยู่ข้างๆ เธอยังอยากสวมมันอยู่ สอดมือเข้าไปในแขนเสื้อ ปากก็ตอบว่า “ไม่จำเป็นหรอก ซ่อมหน่อยยังใช้ได้อยู่”

“ไม่ต้องสวมอันนั้นแล้ว ยังเจ็บไม่พออีกหรอ”

เธอขยับทีหนึ่ง ก็หยุดจริงๆ อาจเป็นเพราะว่าใจได้ออกห่างแล้ว แต่ร่างกายกลับยังคงเชื่อฟังเขาอย่างไม่รู้ตัว “วันนี้ต้องขอบคุณนายจริงๆ”

ยังคงเกรงใจเหมือนกับว่าหย่ากันไปแล้ว

จี้ผิงโจวไม่ตอบ หยีบกล่องยาโยนไปข้างๆ “เลือดช้ำบนมือต้องบีบออกมา ฉันไปขับรถกลับบ้านล่ะ”

เพิ่งจะลุกขึ้นแค่ท่อนบน ชายเสื้อก็ถูกเหอเจิงดึงไว้ เธอระวังและรู้สึกกลัว ท่าทางน่ารักน่าเอ็นดู “ส่งฉันกลับไปก็พอแล้ว บาดเจ็บแค่นี้ฉันจัดการได้น่ะ”

“เธอกลับไปตอนนี้ อยากจะให้คนทั้งตระกูลฟางโวยวายหรือไง”

จี้ผิงโจวเอามือของเธอออก “นั่งดีๆ ไม่ต้องพูดไร้สาระ”

ทางที่รถมุ่งหน้าไปไม่ใช่บ้านตระกูลฟาง และก็ไม่ใช่บ้านตระกูลจี้ ผ่านทางที่สวยหรูทางหนึ่ง เหอเจิงมองไปยังของที่วางขายตามทางอย่างไม่กระพริบตา เวลานี้เป็นเวลาที่คึกคักที่สุด ผู้คนไปๆมาๆ ทุกที่เต็มไปด้วยผู้คน

ของทั้งสองทางเยอะจริงๆ

ที่นี่ทางการไม่ได้เคร่งครัดมาก

แต่กลับรถติด ไม่ขยับไปไหนเลย จี้ผิงโจวกวาดสายตาไปดู เห็นเหอเจิงทำตากระพริบๆมองออกไปข้างนอก มันเป็นสายตาของเด็กที่ชอบกิน ซ่อนยังไงก็ซ่อนไม่อยู่

เห็นแก่สภาพที่น่าสงสารของเธอในวันนี้

จี้ผิงโจวใช้ความเห็นใจอันน้อยนิดนี้ลงจากรถไปซื้อเกาลัดคั่วน้ำตาลให้เธอหน่อยหนึ่ง ยังร้อนอยู่เลย เมื่อก่อนเป็นของที่เธอชอบที่สุด

“เอาอันนี้ให้ฉันทำไม”เหอเจิงลังเลไม่อยากรับ เพราะเมื่อรับของก็แสดงว่ายอมรับความหวังดีของเขา ความสัมพันธ์ของพวกเขาก็จะแยกไม่ออกอีกครั้ง

ผู้หญิงเป็นคนคิดมาก ผู้ชายกลับไม่ได้คิดเยอะขนาดนั้น “ลูกตาจะตกลงมาอยู่แล้ว”

ของถูกโยนไปให้กับเหอเจิง

หลุดออกมาจากปากกระดาษห่อไม่กี่ลูก

เธอรีบรับไว้ คิดจะขอบคุณหน่อย แต่จี้ผิงโจวไปถึงที่นั่งคนขับขับรถตามไปแล้ว

เก้าอี้รถบังแผ่นหลังของเขาไว้

เห็นแบบลางๆ

เห็นแต่เส้นผมไม่กี่เส้น

เขายังจำของโปรดของเธอได้ ก็เหมือนกับว่ายังจำได้ช่วงเวลาที่ล้ำค่าของความรักที่ซื่ใสบริสุทธ์ คนอื่นเรียกเธอว่าเหอเจิง เจิงเอ๋อ มีแต่เขาที่ชอบเรียกเธอว่าสหายเสียวฟาง

ตอนนั้นทางตึกก็เต็มไปด้วยผู้ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุครั้งนั้น ส่วนใหญ่เป็นลูกศิษย์ของเหยียนจิง มีหลายคนที่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับจี้ผิงโจว ช่วงที่ต่างคนต่างพักฟื้นอยู่นั้นมีคนที่ถือไม้เท้าบ้าง มีคนยังพันผ้าก๊อซอยู่บ้าง ล้วนแล้วแต่พูดคุยกับจี้ผิงโจวที่ห้องผู้ป่อยของเขา

เขาเพิ่งจะออกมาจากการโจมตีของการเสียสตินิดหน่อย ก็ได้ต้อนรับเหอเจิงแล้ว วันไหนไม่ได้เห็น ก็จะนับเวลาไว้ ในใจตั้งตารอให้เธอมา แต่พอเวลาเธอมาแล้ว ปากก็ถูกแอกของความทนงตัวกดทับไว้

เวลาจะแกล้งเธอกลับพูดว่า “สหายเสียวฟาง วันนี้มาสายสิบนาทีอีกแล้ว ไหนบอกมาสิว่าจะให้ทำไงดี”

ฤดูหนาวแล้ว

เวลาเหอเจิงมาจะเอาของอร่อยมาด้วย เธอเอาแกงกับเกาลัดคั่วน้ำตาลบนมือวางไว้ข้างบน แล้วก็ไม่อดทนเป็นพิเศษ “ท่านว่าจะให้ทำไงล่ะ”

คนในห้องต่างก็จ้องมองพวกเขา เหมือนกำลังเดาอะไรสักอย่างอยู่

จี้ผิงโจวเป็นเหมือนกับคุณชายที่ใหญ่ เวลาพูดไม่เคยเกรงกลัวใคร “คุกเข่าแล้วก็โขกหัวสามทีบอกว่าข้าน้อยผิดไปแล้ว แล้วข้าจะไม่เอาโทษเจ้าในวันนี้”

คนเหล่านั้นต่างมองดูเหอเจิงที่สีหน้าไม่เปลี่ยนไป โค้งตัวลงแล้วก็กำลังจะคุกเข่ากับพื้น ยังไม่ทันได้คุกเข่าก็มีคนมาดึงเธอไว้ “ผู้หญิงคนนี้ทำไมมันซื่ออย่างนี้เนี่ย เขาบอกให้คุกเข่าก็จะคุกเข่าเลย”

เหอเจิงแสดงการถูกเอาเปรียบได้เป็นพิเศษ “ฉันจะต่อกรกับคุณชายโจวได้ไง สาวใช้ในวังแอบลอบเข้าไปในวังยังจะแสดงความไม่พอใจกับกษัตริย์ได้หรอ อย่างนั้นมันถึงขั้นตัดหัวเชียว”

ตอนนั้นพวกเขาเป็นคนที่ถูกดูแล คนดูแลคนหนึ่ง

จะพูดอย่างนี้ ไม่ผิดเลยแม้แต่น้อย

เธอพูดออกมาตรงๆซื่อๆแบบนี้ ทำให้หลายคนหัวเราะเป็นกันใหญ่ หันหน้ามาแซวจี้ผิงโจวว่า “โจวโจว คนใช้คนนี้ของนายก็ปากร้ายเหมือนกันนะเนี่ย”

จี้ผิงโจวไม่ชอบให้พวกเขาคุยกับเหอเจิงเป็นพิเศษ เมื่อเหอเจิงมาแล้ว ก็กวักมือไล่พวกเขาออกไป จากนั้นก็จะจับมือของเหอเจิงทั้งวัน ถามเธอว่าข้างนอกหน้าต่างมีอะไร

ตอนแรกเธอจะพรรณนา ดอกไม้ ต้นหญ้า เด็กและผู้ใหญ่ อย่างมีความอดทน ต่อมาเริ่มหมดความอดทนแล้ว แม้แต่เรื่องมนุษย์ต่างดาวก็พูดออกมาได้

จี้ผิงโจวถามกลับไปตามคำพูดของเธอ “มนุษย์ต่างดาวมารับสหายเสียวฟางกลับไปเป็นตัวทดลองหรอ”

เหอเจิงฟังออกว่ากำลังหาว่าตัวเองขี่เหร่

ไม่พอใจ

เอาเปลือกเกาลัดโยนทิ้ง ตบมือแล้วพูดว่า “ใช่ มารับฉันกลับไปทดลอง ถ้าการทดลองสำเร็จก็จะกลับมาทำลายโลก”

เวลาที่จี้ผิงโจวปากร้ายขึ้นมานั้นใบหน้าดูไม่ได้เลย “ถ้างั้นเวลาที่เธอ เจอกับสไปเดอร์แมนอย่าลืมโทรหาฉันด้วย บอกเขาว่าพี่น้องของฉันหลายคนอยากจะแสดงกับเขาด้วย”

เหอเจิงถูกเขายั่วจนอยากออกไป

เขารับรู้ได้ ก็จับเธอนั่งนิ่งอยู่บนขอบหน้าต่าง ไม่พูดอะไร ท่ามกลางแสงแดดที่เจิดจ้าอย่างนี้จูบเธออย่างแรงทีหนึ่ง

ตอนนั้เพื่อนในห้องผู้ป่วยด้วยกันต่างก็รู้ว่ามีสาวน้อยตัวจิ๊วคอยอยู่กับเขาทุกวันคอยดูแลเขาตลอด

และก็รู้ด้วยว่าเป็นเหอเจิง

ลูกนอกสมรสของบ้านตระกูลฟาง

พวกเขาพูดว่าเหอเจิงเป็นเหมือนสาวใช้ เป็นสาวน้อยตัวจิ๊วที่ใส่ใจเขา พูดแต่ว่าเธอตามจี้ผิงโจว ไม่พูดว่าพวกเขาเป็นแฟนกัน และก็ไม่พูดถึงเรื่องอนาคต

ไม่มีใครคิดมาก่อนว่า

จี้ผิงโจวจะแต่งงานกับเธอจริงๆ

ความห่างระหว่างชนชั้น เขาก้าวข้ามไปได้จริงๆ แต่กลับก้าวข้ามแอ่งเล็กๆไม่ได้ ดังนั้นหลังแต่งงานสามปี เป็นสามปีที่พวกเขารู้สึกว่าแย่ที่สุด

ซ่อน | รัก | ลับ

ซ่อน | รัก | ลับ

ฟางเหอเจิงแต่งงานกับจี้ผิงโจวในฐานะลูกสาวนอกกฎหมายของตระกูลฟาง เธอถ่อมตัวต่อหน้าเขา เธอเก็บความรู้สึกทุกอย่างได้จนสามารถกินข้าวร่วมโต๊ะเดียวกันกับคนรักของเขาได้ ระยะเวลาสามปีเต็ม ไม่มีใครเคยเห็นฟางเหอเจิงอิจฉาและเสียอารมณ์ จนกระทั้งมีการเปิดเผยข้อตกลงการหย่าร้างต่อสาธารณะ ไม่มีใครรู้เลยว่าฟางเหอเจิงรักใครอีกคน ในคืนแรกของการแต่งงานเธอจูบดวงตาของเขา เรื่องที่ฟางเหอเจิงแต่งงานกับเขา มีคนถามว่าเธอรัก ฟางเหอเจิงแต่งงานกับเพราะอะไร? เธอตอบว่าเพราะดวงตาเขา เธอรักดวงตาของเขาเท่านั้น ..

Comment

Options

not work with dark mode
Reset