ดวงตาของเทพเจ้า God’s eyes – ตอนที่ 89

เวลาผ่านไปอย่างไม่รู้ตัว จนกระทั่งเจสันได้รวบรวมสติได้เล็กน้อย และคลายมือที่กำลังจับเสื้อของกรีลแน่น เจสันเห็นกรีลร้องไห้ขณะที่กอดเจสัน ทำให้เจสันแปลกใจ

 

“ฉันขอโทษ”

คำพูดที่ไร้ความกังขา และดูอ่อนแอ เป็นคำพูดแรงที่เจสันได้ยินจากกรีล

 

กรีลไม่รู้ว่ามันจะเจ็บปวดขณะที่ ในขณะที่เขาหวังดีและอยากช่วยเหลือเจสัน กรีลจึงวางหินเวทย์มนต์ระดับ 4 จำนวนมากเข้าไปในวงเวทย์โดยไม่คำนึงถึงจำนวนปริมาณมานาที่มากมายมหาศาลที่เกือบจะฆ่าเจสัน

 

ความจริงแล้วกรีลเคยกินผลปีศาจวัลคีรีชิล์ดมาก่อน เพื่อฝึกฝนบางอย่าง แต่กรีลสามารถทนความเจ็บปวดได้เพียง 12 ชั่วโมงเท่านั้น กรีลที่มีพลังและความแข็งแกร่งที่มากกว่าเจสันหลายเท่า กลับเทียบเจสันไม่ได้เลยแม้แต่น้อยในขณะกรีลรู้ว่าเจสันต้องทนความเจ็บปวดที่มากมายขนาดนั้นถึง 60 กว่าชั่วโมง

 

ในตอนนั้นกรีลไม่อยากแม้แต่จะกินมันอีกเลย ในขณะที่ตอนี้เขากลับยื่นผลไม้ที่น่ากลัวนี้ให้แก่ลูกศิษย์ของเขา และต้องทนกับคาวมเจ็บปวดมากกว่าตั้ง 5 เท่า ที่กรีลได้เผชิญ

 

เมื่อนึกนึงความเจ็บปวดที่เจสันต้องเผชิญ กรีลได้กอดเจสันอีกครั้งและได้แต่พูดว่า

“ฉันขอโทษ….ฉันขอโทษ….ฉันขอโทษ”

ไปเรื่อยๆ

 

เจสันยังคงรู้สึกตกตะลึงและใชช้เวลานานกว่าจะดึงสติตัวเองกลับมาได้ จนเสียงของกรีลได้แหบแห้ง

 

 

“ผมไม่เป็นไร”

เจสันพูดเบาๆ และเริ่มรู้ว่าทำไมกรีลถึงขอโทษ เจสันสังเหตเห็นหินเวทย์มนต์ระดับ 4 และรู้สึกขอบคุณกรีลที่ใช้หินระดับนี้กับเขา

 

*** เพิ่มเติม หินเวทย์มนต์กับหินมานาคือหินเดียวกันนะครับ แต่ใช้คำว่าเวทย์มนต์กับในระดับ 3-4 ขึ้นไปเพื่อความขลังของมานาที่มากมายในหิน ***

 

 

แต่ตอนนี้เจสันแทบไม่อยากเห็นหินระดับนี้อีกแล้ว อย่างไรก็ตาม เจสันก็เป็นคนที่ต้องการทำแบบนี้เอง ถึงกรีลจะเตือนถึงอันตรายหลายครั้ง

 

แม้ว่า 2-3ที่ผ่านมา ความเจ็บปวดจะฝังลึกลงในจิตใจไปตลอดชีวิต แต่เจสันก็สามารถสร้างพื้นที่ย่อยได้สำเร็จทั้งๆ ที่ยังอยู่ในขั้นมือใหม่เท่านั้น

 

ถึงอย่างนั้น เจสันก็ยังไม่ค่อยสบายใจ และสกอร์พิโอที่ตอนนี้ยาว 10 เซติเมตรกำลังพยายามปีนขึ้นเสื้อผ้าของเจสัน เพื่อที่มันจะไปอยู่บนหัวของเจสัน

 

กรีลคลายการโอบกอดและมองไปที่เจสัน เหลือบดูดวงตาว่ายังมีความมัวหมองหรือความเจ็บปวดอยู่หรือไม่ เมื่อเห็นว่าเจสันดีขึ้นมากกรีลก็สบายใจขึ้น

 

กรีลช่วยพยุงเจสันขึ้น ขณะที่เจสันกำลังถือสกอร์พิโอ เจสันหมดแรงภายในจิตใจ แต่ยังคงสังเหตเห็นเกราะกระดองของสกอร์พิโอที่มีสีเขียวชอุ่ม และสงสัยว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้น

 

เมื่อกระตุุ้นดวงตามานา เจสันเห็นว่าแกนมานาของสกอร์พิโอกำลังส่องแสงออร่าสีดำที่หนาแน่น เมื่อกรีลสังเกตว่าเจสันกำลังมองดูแกนของเจ้าพาราสกอร์ตัวนี้

“ฉันต้องบอกคุณว่า บุคลิกของคุณแปลกมา คุรเป็นคนที่ใจร้อนและขี้รำคาญ แต่มันไม่อันตรายเกินไปหน่อยหรอที่ให้สัตว์พันธะกินผลไม้วิเศษ ? “

 

กรีลถามเจสันขณะที่หยิบกล่องไม้ที่ว่างเปล่าขึ้นมา

 

“เจ้าพาราสกอร์ตัวนี้ เปิดกล่องไม้ด้วยตัวมันเองและกินทุกอย่างที่อยู่ในนั้นจนหมดเกลี้ยง และมันก็เริ่มลอกคราบ ตอนนี้มันกลายเป็นสีเขียวและฉันรู้สึกว่ามันแข็งแกร่งขึ้นกว่าแต่ก่อน และแข็งแกร่งกว่าสายพันธุ์ปัจจุบันของมัน”

 

เจสันเกาหัวด้วยความอับอาย แต่เจ้าสกอร์พอโิก็ได้กินผลไม้จนหมดแล้ว เจสันไม่สามารถโกหกได้อีก ขณะที่บอกกรีล เกี่ยวกับการทดลองและทฤษฎีที่ได้ค้นคว้าและยังบอกอีกว่าสิ่งที่เจสันได้ทำนั้น เจสันทำด้วยความระมัดระวัง

 

“มันอาจจะเป็นอันตรายต่อสายใยวิญญาณของคุณทั้ง 2 นะ แต่ก็ช่างเถอะ มันก็ได้ผล แต่ฉันอยากรู้ว่าคุณรู้ได้ยังไงว่ามันจะได้ผล มีคนบอกหรอว่ามันได้รับการพิสูจน์แล้ว ซึ่งมันก็อาจจะเป็นความลับที่ยิ่งใหญ่มากนะ หรือคุณคุณเพิ่งทดลองมันกับสัตว์พันธะและสายใยวิญญาณของคุณเอง?? เด็กโง่”

 

กรีลสั่งสอนเจสันเล็กน้อย ก่อนที่จะบอกความจริงว่าทฤษฎีนี้พิสูจน์แล้วว่าเป็นจริงและมันยังเป็นความลับสุดยอดของรัฐบาล มีคนจำนวนไม่มากบนเกาะที่รู้เรื่องนี้ ในขณะที่ผู้คนจำนวนมากตระหนักถึงเรื่องนี้บนคาเนียร์และมันก็ยังถูกกว่า การซื้อสัตว์ร้ายราคาแพง

 

เจสันยังคงสนใจกับข้อมูลนี้ ในขณะที่กรีลหยุดพูดและหยุดตอบคำถาม กรีบลยังคงเขินอายเพราะได้ร้องไห้ต่อหน้าลูกศิษย์ และกรีลได้บอกเจสันว่าควรกลับบ้านได้แล้วและนอนฟื้นจนกว่าจะดีขึ้นแล้วค่อยมาโรงเรียน

 

เกือบ 40 นาทีต่อมาเจสันก็ได้กลับมาที่บ้าน และได้รับการต้อนรับจากเฟลเลอร์ ขณะที่พวกเขาเข้ามากอดเจสัน ก่อนที่จะผลักเจสันออกเพราะเสื้อผ้าและเนื้อตัวของเจสันเต็มไปด้วยสิ่งสกปรกและมีกลิ่นเหม็นมาก ตอนนี้เจสันเหมือนซอมบี้ที่กำลังเดินอยู่ เฟลเลอร์อยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่พวกเขาก็เลือกที่จะปล่อยให้เจสันได้มีเวลาส่วนตัวและได้พักผ่อน

 

เจสันไม่ได้นอนมาเป็นเวลา 10 กว่าวัน ซึ่งรวมเวลาในขณะที่ทำความเข้าใจเทคนิคการแยกจิตในขั้นแรก และตอนนี้เป็นครั้งแรกในช่วงเวลาที่เนินนานที่เจสันจะได้นอนหลับอย่างสบายใจ เจสันล้มตัวนอนบนเตียงที่แสนอุ่น แล้วรู้สึกราวกับว่ามันดูดกลืนวิญญาณเจสันลงไป

 

ขณะที่นอนหลับ ความเจ็บปวดที่เจสันรู้สึกทำพิธี ก็ได้ปรากฏขึ้นมา และเจสันไม่สามารถตื่นจากฝันร้ายที่มีชีวิตนี้ได้ แม้ว่าจะหลับอยู่ก็ตาม เจสันรู้สึกว่าแขน ขา ของเขาถูกฉีกออก ดวงตาที่เบิกกว้างราวกับว่าจะฉีกขาด หนังที่ถูกถลก และสิ่งเดียวที่ทำได้คือการร้องไห้ เจสันร้องไห้ด้วยความเจ้บปวดและหวาดกลัวแต่เมื่อมันถึงจุดสูงสุดของความเจ้บปวด แสงสีทองก็เข้ามาปกคลุมและคลายความหวาดกลัวและความเจ็บปวดพวกนั้นออกไป

 

ร่างกายที่กำลังสั่นอย่างรุนแรงก็ถูกปลุกให้ตื่นจากฝันร้าย ในขระที่ตัวชุ่มไปด้วยเหงื่อ ทันใดนั้นมานาที่ถูกดูดซับไว้จำนวนมหาศาลภายในดวงตา ก็ลดลงอย่างรวดเร็ว ในขณะที่รู้สึกว่าความเจ็บปวดที่ฝั่งลึกในใจได้ค่อยๆ เสื่อมหายไป จนมันไม่สามารถทำอะไรเจสันได้อีก

 

ราวกับว่าควาทรงจำของความเจ็บปวดได้ถูกจัดเก็บด้วยการปิดตาย และทันใดนั้นเจสันก็รู้สึกเหนื่อยเกินกว่าจะคิดสิ่งใดๆ ในขณะที่ล้มตัวนอนอีกครั้งอย่างไร้ความฝัน

 

*

 

เจสันไม่แน่ใจว่าตอนนี้กี่โมงแล้ว เมื่อตื่นขึ้นมาท้องฟ้าก็สว่างแล้ว และเจสันรู้สึกแปลกๆ ไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง จากก่อนที่เจสันจะสร้างพื้นที่ย่อยสำหรับการแยกจิต

 

เจสันรู้สึกแข็งแกร่งขึ้น เจสันจำได้ว่าก่อนหน้านี้ดวงตาของตัวเองได้ปลุกเขาให้ตื่นขึ้นจากฝันร้ายที่น่ากลัว เมื่อสัมผัสถึงมานาภายในดวงตา ก็พบว่ามานาเหลวจำนวนมหาศาลได้ถูกใช้จนหมด

 

ในขระเดียวกันสกอร์พอโอกำลังนอนข้างเจสันๆ และมันถ่ายทอดความหิวส่งไปให้เจสันได้รับรู้ เจสันมองดูที่หน้าจอโฮโลแกรม และตกใจว่ามันเป็นวันศุกร์แล้ว นี่เขาหลับไป 1 วันเต็มๆ เลยงั้นหรอ ตอนนี้เป็นเวลา 10.00 น และเจสันเตรียมตัวที่จะไปโรงเรียน แม้ว่าจะไปสายแต่ก็ต้องไป ตอนนี้เจสันเป็นคนเดียวที่อยู่ในบ้าน และเจสันก็ไม่อยากอยู่คนเดียว นั้นเป็นเหตุผลที่เขาจะไปโรงเรียนในตอนนี้

 

 

เวลาประมาณ 10:40 น รถรับส่งมาถึงที่ ระหว่างทางเจสันก็ฝึกเทคนิคนรกสวรรค์อย่างเคย และสังเกตุว่าพลังวิญญาณของเขานั้นมีถึง 9 หน่วยแล้ว

 

และสังเกตุว่า สกอร์พิโอนั้นโตมเต็มที่แล้วและมีระดับ 3 แล้ว  และตอนนี้เจสันขาดพลังวิญญาณเพียงหน่วยเดียว ซึ่งตอนนี้มันไม่เพียงพอสำหรัลอาร์เทมิสและสกอร์พิโอที่กำลังจะกลายเป็นสัตว์ระดับ 4 ดาว เจสันอาจจะเสียการควบคุมพวกมัน

 

เจสันยังคงประหลาดใจเมื่อเห็นว่าพลังวิญญาณของเขามีถึง 9 หน่วย และนี้เป็นครั้งแรงที่เจสันเพิ่งสังเกตเห็นแกนมานาตัวเองว่ามันอยู่ในขั้นมือใหม่ระดับ 8 แล้ว ซึ่งทำให้เจสันตกใจ  ขนาดร่างกายขอแกนมานาของเจสันได้อยู่ในขั้นมือใหม่รัดับ 8 แม้ว่าจะได้พลังจากอารืเทมสิและสกอร์พิโอ 33 % และกำลังจะเข้าสู้ระดับ 9 ในไม่ช้า

 

เจสันถือสกอร์พิโอตลอดเวลา ในขณะที่เดินเข้าดรงเรียน เจสันเดินมาถึงสนามหญ้า ซึ่งเห็นเพื่อนร่วมชั้นได้จากไกลๆ

‘พวกเขากำลังเรียนเทคนิคศิลปะการต่อสู้กันอยู่หรอ?’

เจสันสงสัยและเดินเข้าไปใกล้ๆ ในขณะที่วางสกอร์พิโอไว้บนไหล่ เจสันเดินเข้ามายันลานประลอง และมีคนสังเกตุเห็นเจสันเดินเข้ามา

“โอ้ เจสัน !!”

ใครสักคนพูดขึ้นและเพื่อนร่วมชั้นก็หันมามองเจสันพร้อมกัน นักเรียนบางคนนินทาทันทีขณะที่มองเจสัน ขณะที่นักเรียนคนอื่นๆ ไม่สนใจเรื่องของเจสัน เห็นได้ชัดว่ากรีลไม่ได้มาสอน และมีครูคนอื่นกำลังสอนอยู่ ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น และทั้งหมดก็กำลังเรียนรู้เทคนิคศิลปะการต่อสู้ระดับ 1 ที่สามารถใช้อาวุธควยคู่ไปได้ทุกชนิด ทำให้เทคนิคนี้สูญเสียศักยภาพไปบางส่วน

 

อย่างไรก็ตาม เทคนิคนี้ก็ยังดีกว่าเทคนิคอื่นๆ ที่ไม่สามารถใช้ควบคู่กับอาวุธได้ และนักเรียนหลายๆ คนก็มีความสุขที่ได้เรียนรู้เทคนิคนี้ ครูคนใหม่นี้ชื่อไบรอัน และไบรอันรู้ว่ามีนักเรียนคนหนึ่งของเขา ที่ไม่อยู่ตลอดทั้งสัปดาห์ ซึ่งทำให้ไบรอันรู้สึกโกรธเล็กน้อย

 

และเขาก็ไม่รู้เหตุผลที่นักเรียนคนนี้ขาดเรียน และไบรอันก็คิดไว้ว่าเด็กคนนี้เป็นคนขี้เกียจ ตอนนี้เป็นวันศุกร์แล้วและตอนนี้เขาก็ได้มาโรงเรียนสักที แถมยังทำให้เพื่อร่วมชั้นเสียสมาธิอีก

 

“นักเรียนทั้งหมด มารวมตัวกัน !!”

ไบรอันกล่าวประกาศ

God’s eyes ดวงตาของเทพเจ้า

God’s eyes ดวงตาของเทพเจ้า

ดวงตาของเทพเจ้า God’s eyes
Score 7.8
Status: Ongoing
อ่านนิยายเรื่อง God’s eyes ดวงตาของเทพเจ้าจากการสูญเสียพ่อแม่ตั้งแต่ยังเล็ก เขาต้องเอาชีวิตรอดในโลกที่เขามองไม่เห็น … คนตาบอดที่ถูกทิ้งให้อยู่คนเดียวเหมือนกาฝากตามทาง ในสังคมยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยศิลปะการต่อสู้และจิตวิญญาณในการบังคับให้เติบโต ความคิดของเขานั้นแตกต่างจากคนรอบข้างในขณะที่เขาไม่รังเกียจที่จะเล่าเรื่องเกี่ยวกับตัวของเขาเอง วันที่เขาถูกปลุกดวงวิญญาณของเขา คือวันที่เขาร้องไห้ด้วยความสิ้นหวังในขณะที่พระเจ้าเล่นตลกกับเขา เนื่องจากการปลุกดวงวิญญาณของเขาเป็นพรจอมปลอม ใครๆก็คิดว่าเขานั้นตาบอด จนกระทั่งวินาทีที่เขาเบิกเนตรสีทองของเขาที่กระพริบเป็นประกาย ที่รอคอยที่จะกลืนกินทุกคนที่กล้าขัดขวางเส้นทางของเขาไปสู่ยอดเป้าหมาย โปรดติดตามเจสันในการเดินทางผจญภัยทั่วโลกอันกว้างใหญ่นี้

Comment

Options

not work with dark mode
Reset