เมื่อทุกคนมารวมตัวกัน เจสันก็เดินตามหลังทุกคนไป ขณะที่ทั้งหมดกำลังเข้าแถวหน้ากระดานเป็นวงกลมโดยมีไบรอันอยู่ตรวงกลาง นี้เป็นครั้งแรกที่เจสันได้มองเห็นผู้สอน เขามีผมสีน้ำตาล และมีใบหน้าที่ไม่หล่อเท่าไหร่ ดูราวๆ น่าจะอายุ 30 ปี แต่ในยุคปัจจุบันไม่สามารถดูได้จากรูปลักษณ์ภายนอก
เมื่อสังเกตมากขึ้น เจสันก็ได้เห็นว่าไบรอันมีอันเป็นผู้วิเศษในระดับเริ่มต้นด้วยมานาเหลวเพียง 3-4 หยดในแกนมานา ซึ่งถือว่าโอเค เจสันสงสัยว่านี่คือความแข็งแกร่งโดยเฉลี่ยนของครูในโรงเรียน บางทีอาจจะมีเพียงอาจารย์ใหญ่ที่แข็งแกร่งที่สุดแต่คงยังไม่ถึงผู้วิเศษระดับสูงใช่ไหม?
เจสันไม่รู้อะไรมากนั้น แต่การคาดเดาของเจสันก็ถูกต้อง
การอยู่ในขั้นผู้วิเศษถือเป็นจุดแข็งของครูในโรงเรียน ในขณะที่ระดับผู้วิเศษขั้นสูงนั้นส่วนมากเป็นครูชั้นสูงสำหรับหลักสูตรพิเศษของโรงเรียนและมีค่าแรงที่สูงมากและมีสิทธิ์พิเศษมากมาย
เมื่อทุกคนมารวมตัวกัน ไบรอันได้ตั้งคำถามต่างๆ เดี่ยวกับเทคนิคระดับ 1 ที่เด็กนักเรียนได้เรียนรู้ตลอดทั้งสัปดาห์ หรือที่เรียกว่าเทคนิควีโพนี่ ไนฟ์
เทคนนิคนี้เน้นไปที่การต่อสู้ระยะประชิดด้วยดาบ หอก ขวานและอาวุธหลากหลาย ในขณะที่มีดสั้น ธนูและรูปแบบการต่อสู้อื่นๆ ไม่ได้รับความสนใจที่จะใช้กับเทคนิคนี้
แต่ก็ยังคงใช้กับเทคนิค วีโพนี่ ไนฟ์ได้ แต่ศักยภาพจะลดลงเมื่อเทียบกับอาวุธเฉพาะ ขณะที่เจสันฟังไบรอัน และสังเกตุได้วามีดสั้นของเจสันนั้น ค่อนข้างยาวและเกือบจะเทียบได้กับดาบสั้นซึ่งหมายความว่าเขาสามารถใช้เทคนิคนี้ได้
ไบรอันสังเหตว่าเจสันได้ตั้งใจฟัง ความโกรธจึงค่อยๆ ลดลง เขาเป็นผู้สอนที่มีวุฒิภาวะแต่ก็มีความททะเยอทะยาน และสอนนักเรียนอย่างขันแข็ง ตราบใดที่นักเรียนตั้งใจเรียน ไบรอันก็พร้อมที่จะช่วยเหลือนักเรียนของเขาเสมอ
หลังจากที่ถามคำถามนักเรียนเสร็จแล้ว เขาก็เริ่มอธิบายรายละเอียดที่สำคัญและหันไปมองเจสันที่กำลังตั้งใจฟัง เมื่อมองเข้าไปในดวงตาของเจสัน ไบรอันก็ประหลาดใจในทันทีที่เห็นดวงตาสีทองนั้น ซึ่งมันไม่ธรรมดา และเขาเกือบจะรู้ในทันทีว่ามันคือลักษณะพิเศษที่หาได้ยาก
หลังจากคิดอยู่สักครู่ ไบรอันก็ถามคำถามที่สงสัยมาตลอด แม้ว่าบางคนจะคิดว่าคำถามนี้เป็นคำถามที่หยาบคาย
“คุณ คนนั้นนะ ทำไมคุณถึงไม่เข้าเรียนตลอดทั้งสัปดาห์นี้ คุณพลาดบทเรียนที่สำคัญและเพื่อนๆ ของคุณก็เรียนนำหน้าคุณไปมากแล้วนะ ในความเข้าใจของเทคนิควีโพนี ไนฟ์ นอกจากนี้ด้วยเหมือนแกนมานาของคุณจะอ่อนแอที่สุดในชั้นรียน กรีลได้บอกฉันว่าคุณจะไม่มาเรียนในสัปดาห์นี้เพราะเหตุการณ์บางอย่าง แต่การแข่งขั้นของคลาสจะเริ่มในอีก 10 วัน และคุณจะกลายเป็นตัวถ่วงของเพื่อนๆ คุณได้นะ”
เจสันขมวดคิ้วเล็กน้อยและรู้ว่าไม่ควรพูดความจริง เจสันไม่ชอบไบรอันเพราะดวงตาของไบรอันไม่น่ามอง ดังนั้นเจสันจึงรู้สึกรำคาญไบรอันอย่างยิ่ง
“ผมนอน”
เจสันพูดแบบห้วนๆ อย่างไม่สนใจ
เพื่อนร่วมชั้นคนอื่นๆ ก็อยากรู้ว่าเจสันไปทำอะไรมาตลอดทั้งสัปดาห์ แต่เมื่อได้ยินเจสันพูดว่า ‘นอน’ นักเรียนบางคนเกือบจะเป็นลมกับคำตอบของเจสัน
ไบรอันสงบสติขณะที่กำลังโกระ
‘เขาขี้เกียจนี่เอง และอยากทำให้เพื่อนๆ แบกภาระมากขึ้นงั้นหรอ ? ทำไมเขาถึงเข้ามาเรียนโรงเรียนนี้ได้ หรือว่าโรงเรียนเราตกต่ำถึงขนาดนี้ ?’
นี่คือสิ่งที่ไบรอันคิดขณะเดินเข้าไปใกล้เจสัน
“ถ้าเธอเอาแต่นอน เธอคงมีแรงพอที่มาเป็นคู่ต่อสู้ของฉันจริงไหม”
ไบรอันถามด้วยสีหน้าเรียบเฉย เจสันสังเกตว่าตอนนี้เขาอาจจะกำลังทำเรื่องที่ผิดพลาด
เจสันทำได้เพียงมองหน้า ขณะที่ไบรอันพยักหน้าให้
ผ่านไปไม่ถึงนาที ทั้งคู่กำลังยืนตรงข้ามกัน ในขณะที่ไบรอันใจกว้างพอที่จะให้เจสันได้เปรียบใน 1 ระดับ ขณะที่เขาลดความแข้งแกร่งเป็นมือใหม่ระดับ 7
เมื่อไบรอันกล่าวว่าเขาจะลดความสามารถลงให้เป็นมือใหม่ระดับ เพื่อที่จะให้เจสันได้เปรียบกว่า 1 ระดับ ทำให้เพื่อนๆ ของเจสันรู้สึกสับสน มันไม่โกงไปหน่อยหรอ เจสันอยู่แค่มือใหม่ระดับ 6 เองนะ นอกจากนี้เจสันยังมีประสบการณ์ต่อสู้ที่น้อยกว่ามาก จนมีนักเรียนบางคนร้องออกมาด้วยความตกใมจ
“มือใหม่ระดับ 8 เป็นไปได้ยังไง ?!!! “
เพื่อนร่วมชั้นคนหนึ่งที่ยืนใกล้กับเจสันมากที่สุดตะโกนขึ้น ขณะที่เขาสแกนแกนมานาของเจสัน
‘ฮะ’
ทุกคนเบิกตากว้าง ขณะที่ปล่อยมานาออกมาเพื่อแสกนดูเจสัน และนักเรียนคนอื่นๆ ก็ร้องด้วยความตกใจ ในความสามารถของเจสันในการเพิ่มระดับแกนมานา ทำให้ทุกคนสงสัยในความสามารถของเจสัน ในความทรงจำของทุกคนเจสันยังเป็นแค่มือใหม่ระดับ 6 เท่านั้นเมื่อสัปดาห์ก่อน
” ได้ยังไงกัน เจสันทำอะไรในสัปดาห์ที่แล้ว ทำไมแกนมานาถึงเพิ่มขึ้นมาถึง 2 ระดับในเวลาสั้นๆ “
บางคนเห็นเจสันเมื่อวันอาทิตย์ และตอนนั้นเจสันอยู่เป็นมือใหม่ระดับ 6 อยู่ และตอนนี้ทุกคนกำลังมองเจสันด้วยความประหลาดใจ และคิดว่าเจสันคงได้สมบัติอะไรบางอย่างจากครอบครัว ที่สามารถเพิ่มระดับแกนมานาได้ แต่ไม่มีใครรู้ว่าเจสันไม่มีญาติที่ไหนแล้ว ยกเว้นพวกเฟลเลอร์ซึ่งก็ไม่ใช่ญาติแท้ๆ ของเจสัน
และพวกเฟลเลอณืเองก็ไม่สมบัติดังกล่าว แม้ว่าจะมีทำไมถึงต้องให้กับเจสันละ เขาก็คงให้ลูกๆ ของตัวเอง เพื่อนร่วมชั้นไม่รู้ถูกความน่ากลัวตลอดทั้งสัปดาห์ของเจสัน ที่ต้องรู้สึกเหมือนตายไปเป็นพันๆ รอบ
ตอนนี้เจสันสงบนิ่ง และเห็นว่าไบรอันกำลังสั่งสอนเขา ไบรอันที่สังเกตุเห็นความวุ่นวายของนักเรียน และก็ได้ยินที่นักเรียนพูดไบรอันก็แสดงสีหน้าประหลาดใจ
‘ฮะ ? เขาเพิ่มระดับแกนมานาถึง 2 ระดับ ในเวลา 5 วันหรอ ? แต่เขาเป็นเด็กที่ค่อนข้างกังขานัก ฉันแค่จะสั่งสอนเขาให้รู้ว่าควรประพฤติตัวยังไง’
เมื่อทุกคนเริ่มสงบนิ่ง เจสันก็หยิบมีด 2 เล่มออกมาและเข้าสุ่ท่าพื้นฐาน ไบรอันตั้งข้อสังเกตว่าจุดยืนของเจสัน นั้นไม่มีความบกพร่องใดๆ ในขณะที่พยักหน้าชื่นชม ทำให้เจสันแอบรู้สึกถึงอะไรบางอย่างในใจ
การต่อสู้ได้เริ่มขึ้น เจสันก้มตัวลงและเสริมร่างกายท่อนล่างด้วยมานา เพื่อเพิ่มความเร็วจนถึงขีดจำกัด เจสันยังไม่ค่อยคุ้นเคยกับการใช้มานาหลลังจากที่เข้าสุ่มือใหม่ระดับ 8 และความแข็งแกร่งที่ได้รับจากสกอร์พิโอ ทำให้เจสันนั้นรวดเร็วกว่าที่ตัวเองคิดไว้
ทั้งคู่อยู่ห่างกันเพียง 30เมตรเท่านั้น และการพุ่งตัวที่รวดเร้วของเจสัน ทำให้เจสันอยู่หน้าไบรอันเพียง 4 เมตรในครู่เดียว ไบรอันไม่หยุดนิ่งที่จะรอให้เจสันโจมตี และทั้งคู่ก็พุ่งเข้าหากัน
เพียง 2 วินาทีต่อมาทั้งคู่ก็มาเผชิญหน้ากัน ขณะที่ไบรอันเหวี่ยงดายยาวใส่เจสันอย่างหนักหน่วงด้วยความเคลื่อนไหวที่รวดเร็วและแม่นยำ ซึ่งเจสันแทนขะหลบไม่ทัน แต่เจสันก็สามารถหลบได้แบบเชียดชิว ขณะที่เบี่ยงกริซไปตามวิถีดาบของไบรอัน แต่เจสันก็พลาดโดนไบรอันเตะทำให้เจสันเกือบจะเสียการทรงตัว
เจสันกระโดดถอยออกมา เจสันสามารถหลบการโจมตีได้ แต่ก็ได้รับความเสียหายจากการเตะเล็กน้อย ในขณะเดียวกันไบรอันก็รู้สึกประหลาดใจที่เจสันสามารถหลบการโจมตีแบบผสมผสานของเขาได้โดยไม่ยากนัก เนื่องจากเขาคิดว่าเจสันไม่มีประสบการณ์ในการต่อสู้ในชีวิตจริงมาก่อน
หากปราศจากประสบการณ์การต่อสู้ เจสันคงไม่สามารถคาดเดาการโจมตีของไบรอัน หรือหลบการโจมตีนี้ได้โดยไม่ได้รับบาดเจ็บ เนื่องจากการโจมตีที่ต่อเนื่องโดยไม่มีช่องว่างนี้ ไบรอันได้จำกัดพลังไว้ แต่ก็ไม่สามารถจัดการอารมณ์ที่แปรปรวมของตัวเองได้และไบรอันก็คาดไว้ว่าโจมตีนี้ที่แม้แต่มือใหม่ระดับ 9 ก็น่าจะไม่สามารถหลบการดจมตีนี้ได้ แม้แต่ผู้วิเศษคนอื่นๆ คงต้องรับการโจมตีด้วยอาวุธอย่างอื่น
ทันใดนั้นเจสันก็เข้าสู่ดหมดกระหายเลือดหลังจากที่โดนไบรอันเตะ แต่ความเจ้บปวดนี้มันแทบจะเทียบไม่ได้เลยจากการที่ถูกทรมาณที่เจสันต้องทนเมื่อ 2-3 วันก่อน และจิตใจของเจสันได้สั่งให้เขาคิดว่านี้เป็นการต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอดและการฆ่ามากกว่าการประลอง เจสันยืนขึ้น
ดวงตาที่อ่อนโยน และเห็นอกเห็นใจและสงบนิ่งของเจสัน ได้เปลี่ยนเป็นดวงตาที่ดุร้าย น่าหวาดกลัว และไร้ความเมตตาในดวงตา ทำให้เพื่อนร่วมชั้นต่างตกตะลึง ราวกับว่าดวงตาของเจสันเต็มไปด้วยความโหดร้ายและความปราถานาที่จะฆ่าคู่ต่อสู้
ไบรอันที่กำลังตกใจกับความรวดเร็วของเจสันที่ได้ปรากฏตัวอยู่ข้างหลังอย่างไม่ทันตั้งตัว ไบรอันได้สัมผัสถึงจิตสังสารที่รุนแรงอยู่ด้านหลัง กำลังจะกำจัดเขาให้สิ้นซาก ถ้าเขาไม่ทำอะไรในตอนนี้
ไบรอันเหงื่ออกในทันที และโชคดีที่ประสาทสัมผัสของเขาไม่ได้ถูกจำกัดให้อยู่ในระดับต่ำตามความสำมารถที่ไบรอันได้จำกัดไว้ ไม่อย่างนั้นไบรอันอาจจะตายโดยไม่รู้ตัว
ไบรอันไม่เคยรู้สึกเช่นนี้มาก่อน ดูเหมือนว่ากำลังโดนไล่ล่าจากความตาย หากจำกัดพลังไว้อย่างนี้ ไบรอันคงทำอะไรไม่ได้ จากนั้นไบรอันจึงปลดปล่อยพลังของผู้วิเศษออกมา และและสร้างแรงกดดัน ซึ่งพัดเจสันปลิวออกไป เจสันได้ฟื้นคืนสติเมื่อถูกแรงกดดัดพัดออกมาจากตัวของไบรอัน และสังเกตว่ามีสิ่งผิดปกติบางอย่างที่อยู่ในใจ เจสันรู้สึกที่อยากจะฆ่าไบรอันหลังจากที่ถูกไบรอันเตะ
การโจมตีของเจสันในครั้งนี้มันรุนแรงจนเกินไป และจิตใจเต็มไปด้วยความเหี้ยมโหดไร้ความลังเลใดๆ ในใจ ที่จะฆ่า สิ่งนี้ทำให้เจสันกลัวตัวเองและต้องบอกกรีลให้เร็วที่สุด เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงสถานการณ์แบบนี้
‘ถ้าคู่ต่อสู้ของเจสันไม่ใช่ครู แต่เป็นหนึ่งในเพื่อนร่วมชั้น เจสันคงจะฆ่าพวกเขาไปในพริบตา’
สิ่งนี้ทำให้เจสันกลัว