ตอนที่ 107 คนใจร้าย

บทที่ 107 คนใจร้าย

การเคลื่อนไหวของครอบครัวตระกูลโจวในครั้งนี้สร้างความปั่นป่วนภายในหมู่บ้านอย่างที่คิดไว้

อะไรนะ?

ผู้คนต่างคุ้นเคยกับชีวิตอันฟุ้งเฟ้อของหลินชิงเหอแล้ว แต่กลับต้องตกใจเมื่อจู่ ๆ เธอก็ไม่ได้ใช้ชีวิตแบบนั้น

กลับเป็นสะใภ้ใหญ่กับสะใภ้สามบ้านโจวเสียอีกที่ใช้ชีวิตแบบนั้น เกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย?

พวกเขาไม่เข้าใจเลย โดยเฉพาะสะใภ้ใหญ่บ้านโจว หล่อนส่งลูกสาวเข้าโรงเรียนทีเดียว 3 คนเลยงั้นเหรอ?

อย่าว่าแต่คนอื่นเลย แม้แต่ท่านแแม่โจวก็อึ้งไปเล็กน้อยเมื่อทราบเรื่อง

นางไม่ได้พูดอะไร เพราะตอนนี้พวกเขาแยกครอบครัวกันแล้ว และมีวิถีชีวิตเป็นของตัวเอง หากนางเข้าไปยุ่งก็จะโดนดูถูกเสียเปล่า ๆ

นางทำเพียงบ่นให้ท่านพ่อโจวกันสองคน

ท่านพ่อโจวก็งุนงงไปไม่น้อยเหมือนกัน แต่เขาก็ไม่ได้สนใจอะไรมาก “ในเมื่อพวกเขาอยู่กันเองได้แล้วก็ปล่อยให้เป็นแบบนั้นเถอะ ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรอยู่สักหน่อย”

“นั่นเด็กผู้หญิงนะคะ ปล่อยให้พวกเธอได้เรียนมันมีประโยชน์อะไร?” ท่านแม่โจวพึมพำ

ยิ่งกว่านั้นยังเป็นเด็กหญิงที่ได้เรียนถึงสามคนอีก พวกเขาคิดอะไรกันอยู่นะ?

“เสี่ยวเม่ยเองก็ได้เรียนไม่ใช่เหรอ?” ท่านพ่อโจวเลิกคิ้วและให้ความเห็น

ท่านแม่โจวไม่กล่าวอะไร

หากลูกสาวคนเล็กของพวกเขาไม่ได้เข้าโรงเรียน ตอนนั้นหล่อนคงไม่มีโอกาสแม้แต่จะได้สัมภาษณ์งานเสียด้วยซ้ำ

แต่ไม่ว่าคนนอกจะคิดอย่างไร เรื่องที่เด็กผู้หญิงในตระกูลโจวได้เรียนหนังสือก็เป็นอันตกลงเรียบร้อย

เจ้าใหญ่กลายเป็นที่พึ่งหลักของบรรดาพี่สาวน้องสาวไปครู่หนึ่ง เพราะสาว ๆ ไม่เข้าใจบทเรียนมากนัก พวกหล่อนต้องให้เจ้าใหญ่ช่วยสอน แต่เจ้าใหญ่ก็แสบไม่น้อย เวลาส่วนใหญ่ของเขามักไม่ใช่ที่บ้าน โดยเฉพาะช่วงใบไม้ผลิอย่างตอนนี้ ที่เขามักจะออกไปปีนต้นไม้ขโมยไข่นกในรังหรืออะไรทำนองนี้ไม่ขาด

คราวที่แล้วเขาก็นำไข่นกกลับมาทั้งรังและขอให้หลินชิงเหอช่วยปรุงอาหารให้เขา หลินชิงเหอจึงใส่ลงไปในโจ๊กและมันก็กลายเป็นโจ๊กแสนอร่อย

ใครไม่เคยทำเรื่องแบบนี้บ้างล่ะในตอนเด็ก? หลินชิงเหอจึงไม่ได้ห้ามเขา

จากนั้นเจ้าใหญ่ก็เอาลูกนกมาเลี้ยงหนึ่งหรือสองตัว หลินชิงเหอปล่อยให้เขาได้เลี้ยงพวกมันตามใจ

ส่วนเจ้ารองกับเจ้าสามก็มีท่าทีชอบอะไรแบบนี้อย่างเห็นได้ชัด

ดังนั้นเมื่อพวกเด็กผู้หญิงมาหาเจ้าใหญ่ที่บ้านเพื่อถามการบ้านแล้วเจ้าใหญ่ไม่อยู่ที่บ้าน หลินชิงเหอก็มักจะเป็นคนสอนพวกเธอ

ตอนนี้เอง บรรดาสาว ๆ ก็รู้ว่าอาสะใภ้สี่ของพวกเธอช่างสุดยอด!

ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเธอถึงเลี้ยงเจ้าใหญ่ เจ้ารอง กับเจ้าสามได้อย่างยอดเยี่ยม!

นอกจากนั้นในกลุ่มของต้านี เอ้อร์นี อู่นี ซื่อนี ก็ยังมีซานนีด้วย

ซานนีเป็นลูกสาวคนโตของสะใภ้รอง แม้หลินชิงเหอจะไม่ถูกกันกับสะใภ้รอง แต่เธอก็ไม่นำความขุ่นเคืองทั้งหลายมาลงกับซานนี เรื่องของผู้ใหญ่ก็ให้เป็นเรื่องของผู้ใหญ่ไป

ซานนีเองก็อยากไปโรงเรียนเหมือนกัน แต่แม่ของเธอไม่ให้เธอไป เธอจึงไปถามต้านีกับสาว ๆ บ้านโจวคนอื่น ๆ ว่าพวกเธอเรียนอะไรกันบ้าง เธอมีความสัมพันธ์อันดีกับต้านีและน้องสาวทุกคน ซึ่งซานนีมีนิสัยดีเหมือนกับพี่ชายรองตระกูลโจวผู้เป็นพ่อ

แต่ลิ่วนีผู้เป็นน้องสาวนั้นมีนิสัยเหมือนสะใภ้รองราวกับถอดจากพิมพ์เดียวกัน

เมื่อมีซานนีอยู่ในกลุ่มด้วย หลินชิงเหอก็สอนเธอเหมือนกัน และปฏิบัติต่อเธอเหมือนกับเด็กหญิงคนอื่น ๆ ในกลุ่ม

ขณะที่บรรดาสาว ๆ เรียนกันอยู่ในห้องโถง หลินชิงเหอก็ทำหงโต้วถัง โดยการต้มถั่วแดงแช่น้ำ ถั่วลิสง ลำไยแห้ง เก๋ากี้ และพุทราจีนรวมกัน

หลังจากที่ส่วนผสมเข้ากันดีแล้ว เธอก็ใส่น้ำตาลทรายแดงในยุคนี้ไป 2-3 ก้อน

เนื่องจากเด็กหญิงเหล่านี้มาที่บ้าน เธอเลยทำมากกว่าเดิมเล็กน้อย เนื่องจากเธอแช่ถั่วแดงไว้มาก จึงทำแค่เพิ่มส่วนผสมที่เหลือ

หลังจากปรุงมันเสร็จ เธอก็ให้เด็กหญิงแต่ละคนดื่มคนละถ้วย

“อาสะใภ้สี่คะ ไม่เป็นไรหรอกค่ะ” ต้านีส่ายหน้าอย่างรวดเร็ว

เอ้อร์นีกับซานนีก็รีบเอ่ยตาม แต่ซื่อนีกับอู่นียังเด็กเกินไป พวกเธอมองซุปสีแดงในถ้วยที่ส่งกลิ่นหอมหวานแล้วก็น้ำลายไหล

“แต่ละคนได้กินกันคนละถ้วยนะจ๊ะ อาไม่มีมากกว่านี้แล้ว ดังนั้นจงดื่มกันซะ นี่น่ะเป็นผลดีต่อผู้หญิงนะจ๊ะ” หลินชิงเหอบอก

เธอต้มหงโต้วถังราวสองหรือสามครั้งต่อเดือน แน่นอนว่าโจวชิงไป๋กับเด็กชายทั้งสามก็ได้กินเหมือนกัน ในเมื่อซุปนี้มีสรรพคุณคลายหนาวและบำรุงเลือด มันจึงเป็นผลดีต่อหญิงสาวและเด็กหญิง

บรรดาสาว ๆ มองหน้ากันก่อนจะเอ่ยขอบคุณอาสะใภ้สี่ของพวกเธอ

หลินชิงเหอดื่มพร้อมกับพวกเธอด้วย หลังดื่มหงโต้วถังเสร็จ เธอก็ถามสาว ๆ ว่ายังมีเรื่องไหนไม่เข้าใจอีกบ้าง แล้วก็สอนพวกเธอทีละคน จากนั้นก็ส่งพวกเธอกลับบ้านไปเรียนต่อด้วยตัวเอง

แต่ต้านียืนยันที่จะล้างชามที่พวกเธอดื่มให้ก่อนจะจากไป

หลินชิงเหอพอใจไม่น้อย สมกับเป็นลูกสาวที่สะใภ้ใหญ่สอนจริง ๆ ยิ่งกว่านั้นเธอยังขยันเรียนหนังสือ ต่อให้ต้องเผชิญกับความยากลำบากของยุคนี้ก็ตาม

หากเป็นยุคหลังจากนี้ พ่อแม่ของพวกเธอก็จะรักใคร่พวกเธอมากกว่านี้ หากพวกเธอต้องการเรียนหนังสือ ทั้งพ่อและแม่ก็จะสนับสนุน

บรรดาเด็กชายกลับมาหลังจากต้านีกับสาว ๆ ออกจากบ้านไปไม่นาน สามพี่น้องเล่นจนกระทั่งเนื้อตัวสกปรกมอมแมมไปทั้งตัว สองคนใหญ่มีท่าทีกังวลว่าจะถูกดุเล็กน้อย ขณะที่เจ้าสามน้องเล็กยังคงยืนตรง

พอเขากลับมาถึงบ้าน เขาก็อยากจะมากอดหลินชิงเหอ แต่หญิงสาวออกคำสั่งในทันที “หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ!”

“แม่ ผมคิดถึงแม่” เจ้าสามจ้องมองเธอ

หลินชิงเหอแค่นเสียง “อย่าคิดว่าทำแบบนี้แล้วจะได้ผลนะ ลูกเล่นซนมากเกินไปแล้ว!”

เจ้าสามยังคงยืนนิ่งและมองเธอด้วยสายตาเศร้าสร้อย จากนั้นหลินชิงเหอก็กวาดสายตามองเจ้าใหญ่กับเจ้ารอง “พาน้องไปล้างมือซะสิ!”

เจ้าใหญ่กับเจ้ารองพาเจ้าสามไปล้างมือ หลังล้างมือเสร็จแล้วหลินชิงเหอก็ตักหงโต้วถังให้พวกเขาดื่ม

“แม่ครับ แม่อยากดื่มไหมครับ?” เจ้าใหญ่ถาม

“แม่ดื่มไปแล้วล่ะ แต่พ่อยังไม่ได้ดื่มเลย” หลินชิงเหอเอ่ยขณะเย็บส้นรองเท้าโดยไม่เงยหน้าขึ้นมามอง

“งั้นผมจะเหลือไว้ให้พ่อนะครับ” หลังเจ้าใหญ่พูดจบ เขาก็ปิดฝาหม้อและดื่มหงโต้วถังกับน้องชายทั้งสอง

อาหารนี้ไม่ใช่อาหารหายากสำหรับบ้านนี้เลย พวกเขาเคยดื่มมันมาก่อน แม้แต่เจ้าสามก็รู้จักคายเมล็ดออกโดยที่หลินชิงเหอไม่จำเป็นต้องเตือน

หลังสามพี่น้องดื่มกันเสร็จแล้ว หลินชิงเหอก็ตักน้ำใส่ลงไปในหม้อ จากนั้นก็ให้เด็ก ๆ ต้มน้ำอุ่นอาบกัน

เด็กชายทั้งสามเล่นกันมาเลอะเทอะทั้งตัว พวกเขาต้องอาบน้ำแล้ว

เมื่อปล่อยให้เจ้าใหญ่ที่อายุเจ็ดขวบจัดการเรื่องนี้ หลินชิงเหอก็ไม่เข้ามายุ่ง

ไม่ใช่ว่าลูกชายเกิดมาเพื่อรับคำสั่งงั้นเหรอ? เธอไม่ตามใจเขาหรอกนะ

“ต้มน้ำอาบตอนนี้เลยเหรอครับ? แม่ต้องทำอาหารก่อนหรือเปล่า?” เจ้าใหญ่ถาม

“คืนนี้เราจะกินเกี๊ยวน้ำกัน คงไม่นานมากหรอก ลูกอาบน้ำไปก่อนแล้วค่อยว่ากัน” หลินชิงเหอตอบ

เจ้าใหญ่เริ่มต้มน้ำโดยมีเจ้ารองช่วย ขณะที่เจ้าสามเดินไปที่สวนหลังบ้านเพื่อไปดูหมูกับไก่พร้อมกับเจ้าเฟยอิง

เมื่อน้ำร้อนพร้อมอาบแล้ว หลินชิงเหอก็มาตักมัน พวกเขายังเด็กอยู่ มันคงจะดีกว่าถ้าเธอเป็นคนมาตักน้ำให้พวกเขา

พวกเขาอาบน้ำกันในอ่างไม้ขนาดใหญ่ น้ำหนึ่งหม้อก็พออาบแล้วสำหรับสามพี่น้อง

เนื่องจากพวกเขาสกปรกเหลือเกิน เธอจึงให้เจ้าใหญ่อาบน้ำก่อน แล้วจากนั้นเธอก็อาบน้ำให้เจ้ารองกับเจ้าสาม เจ้าใหญ่ไม่ต้องการให้เธออาบน้ำให้ เขาบอกว่าเขาโตแล้ว

หลินชิงเหอให้ความเคารพเขาและปล่อยให้เขาได้อาบน้ำเอง

แม้แต่ตอนอาบน้ำเขาก็ไม่อยู่เฉย ขณะที่อาบน้ำกันอยู่นั้นเขาก็เข้ามาอาบน้ำให้เจ้ารองกับเจ้าสาม หลังอาบน้ำในครั้งเดียว เจ้ารองกับเจ้าสามก็เปียกโชกไปทั้งตัว

หลังทำความสะอาดเด็กชายทั้งสามแล้ว หลินชิงเหอก็เย็บส้นรองเท้าต่อและรอให้โจวชิงไป๋เลิกงานกลับมาบ้าน

ตอนนี้เป็นงานเพาะปลูกประจำฤดูใบไม้ผลิอันวุ่นวาย และโจวชิงไป๋ก็ได้กลับมาถึงบ้านเกือบหกโมงเย็น

แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น เขาก็ยังต้องทำงานเมื่อกลับมาถึงบ้าน อย่างเช่นต้องซักเสื้อผ้าให้ลูกชายจอมซนทั้งสาม เช่นเดียวกับเข้าไปในเล้าเพื่อกวาดมูลหมูและมูลไก่ในสวนหลังบ้าน

หลินชิงเหอจะเข้ามาช่วยก็ต่อเมื่อมันเป็นการเก็บเกี่ยวประจำฤดูร้อนกับฤดูใบไม้ร่วงเท่านั้น ส่วนที่เหลือเขาคงจัดการได้

เธอเป็นคนใจร้ายแบบนี้แหละ

…………………………………………………………………………………

สารจากผู้แปล

เจ้าใหญ่เริ่มฉายแววความแสบแล้วค่ะ พอสาว ๆ จะมาให้ช่วยติวให้ก็หายไปเล่นนอกบ้าน จนแม่ต้องเป็นคนสอน แต่ก็นั่นแหละค่ะ ถ้าแม่ไม่ได้เป็นคนสอน สาว ๆ บ้านโจวก็คงไม่ได้ทานอาหารแสนอร่อยฝีมือแม่เหมือนกัน

สงสารพ่อนะคะ โอกาสได้ลูกสาวก็ริบหรี่เพราะแม่ทำหมันไปแล้วไม่พอ ยังต้องมาจัดการซักเสื้อผ้าให้ลูกกับดูแลสวนหลังบ้านอีก เป็นโจวชิงไป๋นี่มันเหนื่อยเหมือนกันนะคะ

ไหหม่า (海馬)

Comment

Options

not work with dark mode
Reset