ตอนที่ 113 ขนมกุยช่ายทอด

บทที่ 113 ขนมกุยช่ายทอด

เมื่อโจวชิงไป๋กลับมาบ้าน เขาก็นำสร้อยทอง แหวนทอง ต่างหูทอง และกำไลทองคู่หนึ่งมาให้ภรรยา และยังมีชิ้นหยกสลักที่อาจเก็บไว้เพื่อแสดงความเคารพด้วย

ในตอนนี้ ของเก่าพวกนี้ไม่อาจเปิดเผยต่อสายตาใคร ๆ ได้

โจวชิงไป๋รับของพวกนี้มาได้เพราะว่ามีสหายเก่าอยู่ในกรมตำรวจ ไม่อย่างนั้นแล้วอย่าว่าแต่ได้ของพวกนี้เลย ตัวเขาเองก็คงจะถูกหมายจับอีกด้วย

เมื่อกลับมาถึงบ้านแล้วเขาก็มอบของเหล่านี้ให้ภรรยา

และหลินชิงเหอก็มีท่าทีประหลาดใจอย่างที่คิดไว้

หญิงสาวตกใจมากจนนิ่งงัน ไม่เคยคิดว่าผู้ชายหัวโบราณอย่างสามีจะนำของเหล่านี้กลับมาเพื่อเอาใจเธอ

“อย่าเอาออกมาให้คนอื่นเห็นนะ” เมื่อเห็นแววตกใจสุดขีดในสายตาของภรรยา โจวชิงไป๋ก็กระแอมและเอ่ยเสียงแข็ง

หลินชิงเหอเก็บของเหล่านี้ไว้อย่างมิดชิด เด็ก ๆ ยังเล็กอยู่ เธอไม่อยากให้พวกเขาเห็นแล้วเที่ยวโพนทะนาไปทั่ว

“คราวที่แล้วคุณฟังแล้วเก็บไปคิดเหรอคะ?” หลินชิงเหอเก็บของพวกนี้ไว้ในที่ปลอดภัยซึ่งก็คือพื้นที่มิติของเธอเอง จากนั้นก็เอ่ยกับโจวชิงไป๋

โจวชิงไป๋ไม่เคยแสดงความรักใคร่ให้เห็น แต่หลินชิงเหอก็รับรู้ เธอมองเขาด้วยรอยยิ้ม สมกับที่เป็นเขาจริง ๆ หากไม่ใช่เธอแล้วจะมีผู้หญิงคนไหนเข้าใจบุคลิกที่เผยออกมาของเขากันล่ะ?

“ฉันก็แค่พูดลอย ๆ น่ะค่ะ แต่คราวหลังอย่าเสี่ยงทำอะไรแบบนี้อีกเลยนะคะ” หลินชิงเหอเดินมากอดเอวและซบใบหน้าลงกับอกของเขา จากนั้นก็เอ่ยขึ้นขณะฟังเสียงหัวใจของชายหนุ่ม

โจวชิงไป๋ส่งเสียงรับรู้

“เมื่อกลางวันคุณกินอะไรมาคะ? แล้วอิ่มไหม?” หลินชิงเหอถาม

“กินเกี๊ยวน่ะ แต่อร่อยสู้คุณทำไม่ได้หรอก” โจวชิงไป๋ตอบ

นี่ไม่ใช่คำชมแต่อย่างใด เขากินอาหารฝีมือภรรยามามาก จนไม่คุ้นลิ้นกับอาหารนอกบ้านไปแล้ว รสชาติอาหารเหล่านั้นช่างต่างจากอาหารที่ภรรยาทำเหลือเกิน

หลินชิงเหอหัวเราะคิกคัก “วันนี้เราจะกินขนมกุยช่ายทอดกับโจ๊กข้าวฟ่างกันนะคะ

“ได้สิ” โจวชิงไป๋พยักหน้า

หลินชิงเหอปล่อยให้เขาได้พัก วันนี้เขาออกไปนอกบ้านทั้งวันเลย

เธอเริ่มหุงโจ๊กข้าวฟ่าง ขณะเดียวกันก็นวดแป้งไปด้วย

ไม่ต้องกล่าวเลยว่าทักษะการทำอาหารของหลินชิงเหอเป็นอย่างไรโดยเฉพาะหลังจากทะลุมิติมาแล้ว ซึ่งเธอเชี่ยวชาญในเรื่องนี้อย่างรวดเร็ว เหตุผลก็ไม่มีอย่างอื่นนอกจากเด็กชายสามคนในครอบครัวที่ต้องเลี้ยงเช่นเดียวกับชายหนึ่งคนที่ต้องพึ่งพาเธอ ดังนั้นเธอจะทำอาหารไม่เก่งได้อย่างไรล่ะ?

หลังต้มโจ๊กข้าวฟ่างเสร็จและตักออกจากหม้อแล้ว หลินชิงเหอก็ขัดหม้อและเดินมาตัดกุยช่ายที่สวนหลังบ้าน จากนั้นหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ และเอาลงผัด เมื่อตักใส่จานแล้ว เธอก็ทำไข่คน จากนั้นก็ผัดกุยช่ายกับไข่เข้าด้วยกันและเติมเกลือลงไป หลังจากนั้นก็ตักออกมาเพื่อใช้เป็นไส้ขนมกุยช่ายทอด

หญิงสาวห่อผัดกุยช่ายกับไข่คนใส่ในแป้งที่นวดเสร็จแล้ว ก่อนเติมน้ำมันลงในกระทะและหย่อนขนมกุยช่ายที่ห่อเสร็จแล้วลงไปทอดจนกระทั่งมีสีเหลืองทองทั้งสองด้านพร้อมกับกลิ่นหอมภายในที่โชยออกมา

เจ้าใหญ่ยังไม่เลิกเรียน ขณะที่เจ้ารองกับเจ้าสามก็ออกไปเล่นนอกบ้าน

โดยเฉพาะเจ้าสามที่ความซุกซนของเขาเทียบได้กับพี่ใหญ่ตอนที่เขายังเด็กกว่านี้

แต่หลินชิงเหอก็ไม่ได้ห้ามเขา ได้แต่ห้ามไม่ให้เขาไปเล่นใกล้แม่น้ำ หากเขาไปที่นั่นจะต้องมีเธอไปด้วย ไม่อย่างนั้นถ้าเธอพบว่าเขาแอบลงไปเล่นน้ำในแม่น้ำ เขาก็จะถูกงดขนมไป 7 วัน

มีครั้งหนึ่งที่เจ้าใหญ่ไม่เชื่อฟังและแอบไปเล่นน้ำจนหลินชิงเหอจับได้ เธอจึงไม่ให้ขนมเขาไป 7 วันหลังจากนั้น

เจ้าใหญ่จำเรื่องนี้ฝังใจจนกระทั่งถึงตอนนี้

น้องชายทั้งสองของเขาได้กินแตงโมกันขณะที่เขาไม่ได้กิน พวกเขาได้กินขนมหวานแต่เขาไม่ได้กิน แม้กระทั่งปลาเค็มทอดเขาก็ยังไม่ได้กิน

ในระหว่าง 7 วันนั้น แม่ของเขาเตรียมของว่างน่าอร่อยหลายอย่าง แต่เขาไม่ได้กินสักอย่าง

ไม่มีบทลงโทษใดเลวร้ายยิ่งไปกว่านี้แล้ว

แม้เจ้ารองกับเจ้าสามจะยังเด็ก แต่พวกเขาก็ถือเอาเรื่องนี้เป็นคำเตือน พวกเขาไม่อยากทำตามพี่ชายแล้วโดนลงโทษแบบนี้โดยเด็ดขาด

หลินชิงเหอจัดการเวลาของเธอได้ดี เมื่อเจ้าใหญ่กลับมาจากโรงเรียน ขนมกุยช่ายทอดก็ทอดเสร็จจนเกือบหมด

“แม่ครับ มันหอมจังเลย ใช่ขนมกุยช่ายทอดหรือเปล่าครับ?” ดวงตาของเจ้าใหญ่เป็นประกาย

“ใช่แล้วจ้ะ ไปเรียกเจ้ารองกับเจ้าสามกลับบ้านเร็ว ถึงเวลาอาหารเย็นแล้ว” หลินชิงเหอบอก

“เร็วไปไหมครับ?” เจ้าใหญ่เอ่ยอย่างอดไม่ได้

“เร็วอยู่ล่ะ แต่หลังจากนั้นยังมีโจ๊กข้าวฟ่างกับหงโต้วถัง (ซุปถั่วแดงหวาน) ต่ออีกนะ” หลินชิงเหอตอบ

“งั้นผมจะไปเรียกพวกเขากลับมาเดี๋ยวนี้ครับ!” เจ้าใหญ่ตอบดังนั้นแล้วก็รีบออกไปเรียกน้องชายทั้งสองกลับบ้าน

ทั้งเจ้ารองกับเจ้าสามเล่นกันจนเนื้อตัวสกปรกมอมแมมไปทั่ว เมื่อถึงบ้านแล้วพวกเขาจึงได้ล้างหน้ากับมือท่ามกลางสายตาตำหนิของหลินชิงเหอ

“ครั้งหน้าถ้าลูก ๆ มอมแมมกลับมาแบบนี้อีก คอยดูแล้วกันว่าแม่จะจัดการยังไง!” หลินชิงเหอดุขณะล้างเนื้อตัวให้เด็ก ๆ

“ความผิดเจ้าสามครับ เขาไม่รู้ว่าจะเล่นลูกแก้วยังไงผมเลยต้องสอนเขา” เจ้ารองอุทาน

“พี่ก็ไม่รู้ว่าเล่นยังไงเหมือนกันนั่นแหละ ไม่เห็นเก่งเลย” เจ้าสามเอ่ยเยาะพี่ชาย

“งั้นคราวหน้าก็อย่าให้ฉันอยู่ทีมเดียวกับนายแล้วกัน” เจ้ารองสวนกลับ

“ก็ได้ คราวหน้าผมจะเล่นคู่กับโฮ่วจื่อ” เจ้าสามตอบ

เด็กคนนี้นับวันจะพูดเก่งขึ้นเรื่อย ๆ หลังจากพูดได้แล้ว และเขาก็พูดได้ไม่แพ้พี่ชายทั้งสองเลยเวลาที่พวกเขาเถียงกัน

“ลูกจะเถียงกันทำไมน่ะ? ล้างมือให้สะอาดเดี๋ยวนี้ ถ้าไม่สะอาดก็อดกินนะ” หลินชิงเหอพูด

“แม่ครับ พ่อยังไม่กลับมาเลย” เจ้าใหญ่นึกขึ้นมาได้

“พ่อกลับมาแล้วและนอนพักอยู่ในห้อง แม่จะไปดูว่าเขาตื่นหรือยัง ลูกคอยดูน้อง ๆ ล้างมือนะ” หลินชิงเหอตอบและเดินเข้าไปในห้อง

ทันทีที่เธอเดินเข้ามา เธอก็สบกับสายตาของโจวชิงไป๋พอดี

“คุณตื่นแล้วเหรอคะ ฉันคิดว่าคุณหลับอยู่เสียอีก ในเมื่อคุณตื่นแล้วก็ออกมากินข้าวได้แล้วค่ะ” หลินชิงเหอบอก

ความจริงโจวชิงไป๋ตื่นนานแล้ว แต่เมื่อได้ฟังบทสนทนาของภรรยากับเด็ก ๆ นอกห้อง เขาก็รู้สึกอบอุ่นหัวใจ ชายหนุ่มรู้สึกดีใจมากที่เธอมอบครอบครัวนี้ให้เขา

โจวชิงไป๋ยื่นมือไปหาภรรยา หลินชิงเหอจับมือเขาไว้ จากนั้นก็ถูกเขาดึงเข้าไปอยู่ในอ้อมแขน

“คุณทำอะไรน่ะคะ? พวกเขาอาจจะเข้ามาเมื่อไหร่ก็ได้” หลินชิงเหอเอ่ยอย่างขัดเขิน

“ภรรยาครับ เรามามีลูกสาวกันเถอะ” โจวชิงไป๋สูดกลิ่นหอมจากเรือนผมของเธอแล้วเอ่ยขึ้นมา

หลินชิงเหอหน้าเหวอไป เรื่องนี้ไม่ได้ถูกหยิบมาคุยกันสักพักหนึ่งแล้ว ทำไมเขาถึงพูดเรื่องนี้อีกล่ะ

“ถ้าฉันท้องแล้วเราก็มีได้ค่ะ” หลินชิงเหอเอ่ยพลางยิ้มแห้ง

“อืม” โจวชิงไป๋พยักหน้าและจูบที่ลำคอของเธอ

“ผมไม่เห็น ผมไม่เห็นอะไรทั้งนั้น!” เจ้ารองที่ไม่รู้ว่ามาอยู่ตรงประตูตั้งแต่เมื่อไหร่ได้เอ่ยขึ้นมาและกางมือปิดตา

หลินชิงเหอผลักโจวชิงไป๋ออกและกระแอมเสียงแห้ง “เจ้ารอง ลูกไม่รู้จักเคาะประตูก่อนจะเข้ามาเหรอ!”

“ไม่ใช่อย่างนั้นครับ ประตูมันไม่ได้ปิดอยู่แล้ว” เจ้ารองตอบ

“พ่อครับ แม่ครับ รีบออกมากินข้าวได้แล้วครับ ขนมกุยช่ายทอดถ้าเย็นแล้วจะไม่อร่อยนะครับ” เจ้าใหญ่ตะโกนจากด้านนอกห้อง

โจวชิงไป๋จึงต้องปล่อยตัวหลินชิงเหอออกไปกินข้าว โดยมีเจ้ารองหัวเราะคิกคักอย่างร่าเริง

ทั้งครอบครัวกินขนมกุยช่ายทอดด้วยกันกับโจ๊กข้าวฟ่าง เพราะทานแต่ขนมกุยช่ายทอดอย่างเดียวมันก็ดูจืดชืดเกินไป พอมีโจ๊กข้าวฟ่างมาทานด้วยมันจึงอร่อยขึ้น

ต้องบอกว่าขนมกุยช่ายทอดที่หลินชิงเหอทำนั้นช่างอร่อยล้ำ เหตุผลหลักก็คือการที่เธอใส่น้ำมันลงไปเต็มที่ เลยทำให้ขนมกุยช่ายทอดมีรสชาติเป็นพิเศษ

แต่เจ้าสามนั้นเด็กเกินไปที่จะกินขนมกุยช่ายทอดในปริมาณมาก เธอจึงให้เขากินแค่สองชิ้นและตบท้ายด้วยโจ๊กข้าวฟ่าง

เธอไม่ห้ามเจ้าใหญ่กับเจ้ารองเลย เพราะตอนนี้พวกเขาไม่ใช่เด็กเล็กแล้วจึงกินได้มากขึ้น

…………………………………………………………………………………

สารจากผู้แปล

พ่อสายเปย์จริงๆ ค่ะ จะมีผู้ชายคนไหนยอมเสี่ยงคุกเพื่อเอาของมาเอาใจภรรยาได้อย่างพ่อไหมคะ แม่ต้องให้รางวัลเป็นลูกสาวกับพ่อแล้วล่ะค่ะ

ขนมกุยช่ายทอดดูน่ากินจังเลยค่ะ พูดถึงก็หิววว

ไหหม่า (海馬)

Comment

Options

not work with dark mode
Reset