บทที่ 131 ของเก่าไร้ค่า
หลินชิงเหอรู้แน่ชัดว่าโจวชิงไป๋อยากได้ลูกมากขนาดไหน คงเป็นเพราะเขาไม่เคยได้มีส่วนร่วมติดตามการเติบโตของเด็กชายสามพี่น้องเลย เขาจึงอยากมีส่วนร่วมบ้างสักครั้ง
หลินชิงเหอเข้าใจเรื่องนี้และเต็มใจที่จะมีลูกให้เขาอีกคนหนึ่ง
แต่ประเด็นก็คือ เธอให้กำเนิดบุตรไม่ได้จริง ๆ
หลังเธอบอกโจวชิงไป๋เกี่ยวกับเรื่องที่แอบไปทำหมันเงียบ ๆ แล้ว โจวชิงไป๋ก็มีท่าทางตกตะลึงไป
เขาอยากมีลูกมาก แต่ก็ไม่สามารถทำให้มีได้ และเกิดความสงสัยมาตลอดว่าคงเป็นเพราะร่างกายของเขามีปัญหา
เขาไม่คิดเลยว่าภรรยาจะแอบไปทำหมันลับหลังเขา
ต้องบอกว่าโจวชิงไป๋ถึงกับรู้สึกโมโห
โมโหเดือดดาลอย่างมากด้วย
เขาต้องการพื้นที่ส่วนตัวเพื่อขบคิดเรื่องนี้คนเดียวจึงเดินออกมาด้วยใบหน้าบึ้งตึง ซึ่งหลินชิงเหอเห็นแล้วก็ไม่กล้าเรียกเขา
“เวรกรรมจริง ๆ เล้ย!” หลินชิงเหออุทานออกมาอย่างอดไม่ได้
เจ้าของร่างเดิมช่างสร้างแต่เรื่องยุ่งให้เธอจริง ๆ แต่เธอจะทำอย่างไรกับเรื่องนี้ดีล่ะ? เธอเองก็จนปัญญาเหมือนกัน
ใครจะรู้ว่าเธอจะโหดร้ายขนาดนี้
หลินชิงเหอไม่ได้อยู่ในห้องอีกต่อไป เธอออกไปเดินเล่นพร้อมกับหิ้วถุงผ้าใบหนึ่ง
ในตอนนี้ทิวทัศน์ของเมืองหลวงเก่าในปัจจุบันยังเต็มไปด้วยต้นไม้ใบหญ้า หลินชิงเหอทำได้เพียงเดินด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษ จากการที่เธอรู้หนังสือทั้งหมดและแต่งกายเรียบร้อยรัดกุม เธอก็ดูเหมือนเลขาธิการสาวคนหนึ่ง
ตลอดทางเธอจึงไม่เผชิญกับความยากลำบากนัก
แล้วหลินชิงเหอก็เดินมาถึงตรอกสายหนึ่ง
“แค่ก ๆ” หญิงชราร่างเล็กคนหนึ่งกำลังผิงไฟอยู่หน้าเตาและเสียงไอก็ดังออกมาจากเรือนหลังหนึ่งเบื้องหลังเธอ หลินชิงเหอเหลือบมอง และพบกับเด็กอายุราว 5 ถึง 6 ขวบคนหนึ่งที่มีร่างกายผอมแห้ง
“คุณป้าคะ เด็กคนนี้เป็นหวัดอยู่ คุณต้องพาเขาไปโรงพยาบาลนะคะ” หลินชิงเหอเอ่ยกับหญิงชรา
เธอใช้สำเนียงปักกิ่งดั้งเดิมพูดกับนาง และท่าทางของเธอก็ทำให้หญิงชราร่างเล็กไม่ได้คิดเลยว่าเธอเป็นคนต่างถิ่น
นางเหลือบมองเธอแล้วก็ถอนหายใจ “การไปโรงพยาบาลมันใช้เงินมากเลยจ้ะ”
นางจะไม่รู้สึกเดือดร้อนไปกับหลานชายได้อย่างไร? ไม่ว่านางจะเดือดร้อนขนาดไหน นางก็ต้องมีเงิน แล้วก็ต้องได้กินอิ่มท้องด้วยถึงจะดีขึ้น
“คุณยายครับ ผมกินมันได้ไหม” เด็กน้อยกวาดสายตามองหลินชิงเหอแล้วก็เอ่ยกับคุณยายของเขา
“หลานต้องรอก่อนนะ” หญิงชราร่างเล็กตอบ
หลินชิงเหอหยิบหมั่นโถวข้าวโพดลูกหนึ่งออกมาจากถุงผ้าที่เธอหิ้วมาด้วย ซึ่งที่แท้จริงแล้วหมั่นโถวนี้มันมาจากมิติในมือของเธอ
“หมั่นโถวนี้หนูซื้อมาจากภัตตาคารน่ะค่ะ ไม่รู้ว่าจะขอแลกกับน้ำแก้วหนึ่งของคุณป้าได้ไหม” หลินชิงเหอบอก
หมั่นโถวข้าวโพดมีแป้งอยู่เป็นจำนวนมากและส่งกลิ่นหอมของแป้งสาลีขาวลอยอบอวลไปไกล
ดวงตาของหญิงชราร่างเลิกเบิกกว้างแต่นางก็ยังไม่ขยับ ได้แต่มองเธอ “นางหนู หนูไม่ต้องสุภาพมากขนาดนี้ก็ได้ น้ำแค่แก้วเดียวเอง”
“คุณป้ารับไปเถอะค่ะ” หลินชิงเหอเอ่ยเร้า เธอบิหมั่นโถวออกเป็นชิ้นเล็ก ๆ และกินให้ดูว่ามันไม่มีพิษอะไร จากนั้นก็ยัดหมั่นโถวข้าวโพดลูกนั้นให้หญิงชราร่างเล็ก
ถึงตอนนี้เองหญิงชราร่างเล็กจึงรับหมั่นโถวไว้ จากนั้นนางก็พาหลินชิงเหอเข้าไปในบ้านเพื่อดื่มน้ำและบอกหลานชายให้คอยดูแลเตาไฟไว้
“คุณยาย” หลานชายของนางเอ่ยพร้อมกับทำตาอ้อนแบบลูกสุนัข
“รีบกินเร็วเข้าแล้วอย่าให้คนอื่นเห็นล่ะ” หญิงชราร่างเล็กบิหมั่นโถวออกครึ่งหนึ่งแล้วส่งให้เขาพลางกระซิบบอกขณะยัดมันลงในมือของเด็กน้อย
เด็กชายตัวน้อยพยักหน้าและรีบสวาปามหมั่นโถวอย่างรวดเร็ว
จากนั้นหลินชิงเหอตามหญิงชราร่างเล็กเข้าไปในบ้าน “คุณป้าคะ คนที่อยู่แถว ๆ นี้เป็นใครเหรอคะ? ตรงนู้นมีแต่บ้านหลังใหญ่ ๆ ทั้งนั้นเลย”
“นางหนู ดื่มน้ำก่อนเถอะ” หญิงชราร่างเล็กรินน้ำให้เธอถ้วยหนึ่ง
หลินชิงเหอเลื่อนไปไว้ข้างๆ ตัว เธอจะดื่มน้ำจากคนแปลกหน้าได้อย่างไรล่ะ? ต่อให้เป็นในยุคนี้ก็เถอะ
“คุณป้าคะ บ้านนี้มีแค่คุณป้ากับหลานชายเหรอคะ?” หลินชิงเหอถามด้วยรอยยิ้ม
“มีลูกชายกับลูกสะใภ้ด้วยจ้ะ แต่พวกเขาไปทำงานทั้งคู่” หญิงชราร่างเล็กมองหน้าเธอ
“คือฉันมีคูปองอาหารอยู่น่ะค่ะ” หลินชิงเหอพลันลดเสียงลงเป็นเสียงกระซิบ
ดวงตาของหญิงชราเป็นประกายในทันที ในยุคนี้คูปองอาหารเป็นของสำคัญยิ่งกว่าเงินเสียอีก
สำหรับคนที่อยู่ในเมือง หากพวกเขามีเงินแต่ไม่มีคูปองอาหาร ก็อย่าหวังว่าจะซื้อข้าวถุงหนึ่งได้เลย
“คุณป้าคะ” หลินชิงเหอหยิบคูปองอาหารทั่วประเทศ 1 ชั่งออกมาแล้วก็เก็บกลับไปเหมือนเดิม
หญิงชราเหลือบเห็นมันแค่ผ่าน ๆ แต่ก็ยังเห็นชัดเจนอยู่ดี
“นางหนู ฉันยังมีเงินอยู่ในบ้านบ้างนะ” หญิงชรารู้สึกใจเต้น คูปองอาหารทั่วประเทศสามารถนำมาแลกเปลี่ยนได้กับคูปองอาหารประจำเมืองหลวง โดย 1 ชั่งแลกได้ 2 ชั่ง
โอกาสแบบนี้หายากยิ่งนัก แล้วหญิงชราจะปฏิเสธได้อย่างไรล่ะ?
ไม่ว่าจะยุคไหน ๆ ก็จะมีคนที่ต้องลองเสี่ยงเพื่อจะทำให้ท้องอิ่ม
แน่นอนว่าสิ่งสำคัญก็คืออาหารในครอบครัวกำลังจะหมดแล้ว
ลูกสะใภ้ที่ทำงานอยู่ก็ตั้งครรภ์อีก
เด็กในครรภ์คือหลานชายคนที่สองของครอบครัว เนื่องจากการให้กำเนิดหลานชายคนแรกเมื่อครั้งที่แล้วส่งผลเสียต่อร่างกายของลูกสะใภ้ ทำให้หล่อนต้องใช้เวลานานกว่าจะตั้งครรภ์อีกครั้ง
แล้วพวกเขาจะไม่กินให้มากขึ้นได้อย่างไร?
ถึงหลินชิงเหอจะแต่งตัวดีและดูมีสง่าราศี แต่ทำไมหญิงสาวอย่างเธอจะต้องมาหลอกลวงหญิงชราด้วยล่ะ?
“ฉันไม่ต้องการเงินหรอกค่ะ” หลินชิงเหอส่ายหน้า
“แล้วนางหนูอยากได้อะไรเหรอ?” หญิงชรากระซิบ
“คุณป้าคะ ฉันแค่อยากรู้ว่าในยุคนี้มีคนเก็บของเก่าสีเหลืองกับขาวไว้หรือเปล่าน่ะค่ะ หยกหรืออะไรก็ได้ ฉันอยากจะขอแลกกับมันน่ะค่ะ” หลินชิงเหอเอ่ยด้วยดวงตาเป็นประกาย
หญิงชราร่างเล็กอึ้งไปและเอ่ยรัวเร็ว “นางหนู พูดเบา ๆ หน่อย!”
จากนั้นนางก็ผลุนผลันลุกขึ้นไปดูรอบ ๆ โชคดีที่ไม่มีคนอยู่ นางจึงเดินกลับเข้ามา จ้องมองหลินชิงเหอ และเอ่ยตอบ “ของพวกนี้ถูกทางการตรวจสอบเข้มมากนะ เราจะมีของแบบนี้ได้อย่างไรล่ะจ๊ะ?”
“คุณป้าไม่ต้องกังวลว่าฉันจะเป็นสายให้ทางการหรอกค่ะ ฉันไม่ได้มาเพื่อตรวจสอบของพวกนั้น ฉันแค่อยากได้เฉย ๆ ถ้าคุณป้าหามาให้ได้ ฉันก็มีคูปองอาหารกับอาหารอยู่ในมือ และฉันก็สามารถให้เนื้อบางส่วนกับคุณป้าได้ด้วยนะคะ” หลินชิงเหอกระซิบ
หญิงชราสังเกตปฏิกิริยาของหญิงสาวแล้วก็อดไม่ได้ที่จะใจเต้น แน่นอนสินางรู้ว่าของพวกนั้นอยู่ที่ไหนและตอนนี้มันก็กลายเป็นของไร้ค่า ไม่มีใครต้องการมันต่อให้จะถูกทิ้งอยู่ข้างถนนก็ตาม
แต่นางแค่นึกไม่ออกว่าหลินชิงเหอจะต้องการของพวกนี้ไปทำไม
“คุณป้าคะ หมั่นโถวสองลูกนี้ถือเป็นสินน้ำใจของฉัน หากคุณป้ายอมร่วมมือกับฉันสักครั้งหนึ่ง เราก็จะร่วมมือกันครั้งหนึ่งและแค่ครั้งนี้เท่านั้นค่ะ” หลินชิงเหอใช้ถุงผ้าอำพรางเพื่อที่จะหยิบหมั่นโถวขาว 2 ลูกออกมาจากมิติ
“นางหนู….”
“ถึงคุณป้าจะไม่เห็นด้วยแต่ฉันก็จะไม่รับมันคืน ถือเสียว่าหมั่นโถว 2 ลูกนี้เป็นของขวัญให้เด็ก ๆ ข้างนอกแล้วกันค่ะ” หลินชิงเหอพูด
ก่อนหน้านี้หญิงชราสงสัยว่าหญิงสาวอาจเป็นสายลับ แต่ก็ไม่มีสายลับคนไหนเต็มใจใช้ของพวกนี้ล่อตาคนหรอก
“นางหนู หนูอยากได้ของสีเหลืองกับสีขาว แล้วก็หยกใช่ไหม?” ดวงตาของหญิงชราจับจ้องอยู่ที่หมั่นโถวกลิ่นหอมน่ารับประทาน 2 ลูกแล้วก็มองหลินชิงเหอ
“ทอง หยกล้ำค่า และแจกันโบราณพวกนั้นก็ได้ค่ะ ยิ่งมีของมาก ฉันก็มีของจะแลกกับคุณป้ามากขึ้นนะคะ” หลินชิงเหอกระซิบ
เห็นว่าหญิงชรายังลังเล เธอจึงโน้มน้าวอีกครั้ง “คุณป้าคะ ความกล้าจะทำให้ท้องอิ่ม แต่ความขลาดจะทำให้หิวโหย ร่วมมือกับฉันสักครั้งนะคะ เราจะร่วมมือกันแค่ครั้งนี้ครั้งเดียว ครั้งหน้าที่มาหา ฉันจะไม่ทำเรื่องนี้อีกแล้ว ฉันได้รับความไว้วางใจจากคนอื่น คุณป้าก็รู้นี่คะว่าคนบางคนก็ชอบสะสมของเก่าไร้ค่าพวกนี้”
………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
พ่อโกรธแม่แล้วค่ะ แม่จะง้อพ่ออย่างไรดีล่ะเนี่ย
ตอนนี้จะว่าไปแม่ก็เหมือนสายลับจริง ๆ นะคะ ดูจากทักษะการเจรจากับหาของเก่าได้โดยที่ไม่โดนตรวจสอบแล้ว
ไหหม่า (海馬)