ตอนที่ 591 ลูกสาวเหมือนแม่

บทที่ 591 ลูกสาวเหมือนแม่

“งั้นก็อย่าให้คุณแม่รู้สิคะ ยุคสมัยของพวกเราเขาก็อยู่ไฟหลังคลอดแบบนี้ทั้งนั้น นี่ถึงจะถูกหลักอนามัยนะคะ” หลินชิงเหอพูดอย่างไม่ใส่ใจ

การอยู่ไฟหลังคลอดที่ทำให้คนเกลียดมากก็คือการที่ต้องไปอยู่แต่ในห้องที่ปิดทุกอย่าง แล้วก็ไม่ได้อาบน้ำล้างหน้าแปรงฟัน ถ้าเธอเป็นคนยุคนี้โดยกำเนิดก็คงจะสามารถอดทนได้ แต่เธอรู้การอยู่ไฟหลังคลอดของยุคปัจจุบันแล้ว ย่อมไม่มีทางทนไหว

แน่นอนว่าเพราะการพัฒนาของสมัยนี้เทียบไม่ได้กับยุคปัจจุบัน เธอก็คงไม่กล้าทำแบบยุคปัจจุบันเช่นกัน แต่ยังต้องพยายามปกป้องสุขภาพของตัวเองหลังการคลอดให้ถูกต้องด้วย

มองเห็นโจวซื่อนีอุ้มสาวน้อยมี่มี่ออกมาแล้ว หลินชิงเหอจึงไม่พูดอะไรเรื่องนี้อีก พูดขึ้น “ตื่นอีกแล้วเหรอจ๊ะ?”

“ตอนนี้น่าจะหิวแล้วน่ะค่ะ” โจวซื่อนีพูดด้วยรอยยิ้ม

หลินชิงเหอพยักหน้า และรวบห่อผมขึ้นก่อนจะอุ้มเด็กน้อยเข้าห้องไปให้นม โจวซื่อนีรู้สึกว่าอาสะใภ้สี่ดูพิถีพิถันมากจริง ๆ ถ้าเป็นชนบทในที่สาธารณะก็สามารถให้นมตรงนั้นได้เลย

ทุกครั้งที่อาสะใภ้สี่ให้นม เธอจะกลับเข้าไปในห้อง แต่โจวซื่อนีก็คิดว่าแบบนี้ดูเหมือนจะดีมากกว่าหน่อย ต่อไปหล่อนจะเลียนแบบการให้นมลูกอย่างอาสะใภ้สี่บ้าง

โจวซื่อนีพลันหน้าแดงขึ้นมาอย่างกะทันหัน นี่หล่อนคิดอะไรเนี่ย สามีก็ยังไม่มีคิดไปไกลขนาดนั้นทำไม?

“ชิงไป๋ ต้มน้ำร้อนเอาเข้ามาให้หน่อยค่ะ” หลินชิงเหอพูด

โจวชิงไป๋จึงไปรินน้ำร้อนมา หลินชิงเหอให้นมเด็กน้อยเสร็จอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นก็ส่งคืนให้ผู้เป็นพ่อ

“มองอะไรคะ” หลินชิงเหอเห็นสายตาผู้เป็นพ่อที่ปรายมองจุดหนึ่งของลูกสาว ก็ถามอย่างไม่พอใจ

นัยน์ตาโจวชิงไป๋ฉายแววยิ้มขำ และตบเบา ๆ ให้ลูกสาวเรอออกมา

ตอนนี้เป็นเดือนพฤษจิกายน ถ้าตามปฏิทินจันทรคติก็เข้าสู่เดือนที่สิบแล้ว อากาศจึงเย็นลงมา

ถ้าที่ปักกิ่งเย็นเร็วหน่อย อีกไม่นานก็น่าจะมีหิมะตกแล้ว เซี่ยงไฮ้ก็น่าจะมีหิมะตกเช่นกัน แต่ว่าไม่ได้เร็วขนาดนั้น

หลินชิงเหอจึงคิดว่าหรือนี่พวกเธอควรจะกลับไปได้แล้ว?

“กลับไปก็ไม่อะไรให้ทำหรอก ตอนนี้หล่อนยังเล็กอยู่เหมือนกัน อยู่อีกสักพักก็ได้” โจวชิงไป๋พูด

ตอนนี้ลูกสาวของเขาเพิ่งจะคลอดออกมาเอง โจวชิงไป๋ทำใจไม่ลงหรอกที่จะให้ลูกนั่งรถกลับปักกิ่งไปตอนนี้ รอให้โตกว่านี้แล้วค่อยว่ากันดีกว่า

หลินชิงเหอไม่ได้ว่าอะไรเช่นกัน เนื่องจากกลับปักกิ่งกับอยู่ที่นี่ไม่ได้แตกต่างกันมากมายอะไร มีเงินอยู่ที่ไหนก็สบาย ไม่มีเงินอยู่ที่ไหนก็ลำบาก

ตอนนี้เงินของพวกเขาไม่ได้ขาดแคลน อยู่อย่างนี้ไปก็ไม่มีปัญหาอะไร

พอออกจากอยู่ไฟหลังคลอดแล้ว หลินชิงเหอก็ชวนโจวซื่อนีไปซื้อเสื้อผ้า เดิมทีเธอจะไม่ให้โจวชิงไป๋ไปด้วย แต่โจวชิงไป๋ยืนกรานว่าจะพาลูกสาวออกมาด้วย โดยเขาจะเป็นคนอุ้มเธอเอง เพื่อที่ลูกของเขาจะได้ไม่หิวมีนมกิน

หลินชิงเหอซื้อเสื้อขนเป็ด 1 ตัว และก็ซื้อให้โจวซื่อนีด้วย 1 ตัวเช่นกัน ตัวหนึ่งราคา 100 กว่าหยวน เรียกว่าไม่แพงแล้ว แต่ก็คุ้มค่ากับของที่ได้ เธอขายเสื้อขนเป็ดที่นั่นก็ขายไม่ถูกเช่นกัน แต่คุณภาพดีทุกตัว

อย่างอื่นก็เช่นชุดชั้นใน รองเท้าต่าง ๆ แน่นอนว่าเธอซื้อชุดนอนให้โจวชิงไป๋ด้วย 2 ชุด

และลูกสาวของเธอก็ร้องหิวนมขึ้นมากลางห้างสรรพสินค้าจริง ๆ หลินชิงเหอล่ะยอมรับเลย

ตอนแรกทำไมเธอไม่นึกถึงนมผงสำหรับเด็กกันนะ?

ดังนั้นพวกเธอทุกคนจึงพากันกลับบ้าน

เซวียเหม่ยลี่พาเจียงเกิงและเจียงอวี๋มาหา แต่พวกเขาไม่อยู่บ้าน จึงมารอที่บ้านของยายเฒ่าเจียง

พอได้ยินเสียงรถพวกเขาจึงเดินมาหา

“มากันกี่โมงคะเนี่ย?” หลินชิงเหอลงมาจากที่นั่งคนขับแล้วถามยิ้ม ๆ

โจวชิงไป๋อุ้มลูก ส่วนเธอเป็นคนขับรถกลับมา โจวซื่อนีทักทายแล้วก็ถือของเดินไปเปิดประตู

“ด้านนอกหนาวครับ เข้ามาพูดข้างในดีกว่า” โจวชิงไป๋พูด

“พ่อบุญธรรมครับ มี่มี่หลับอยู่เหรอครับ?” เจียงเกิงตามเข้ามาข้างในแล้วถามขึ้น

“เพิ่งหลับน่ะ” โจวชิงไป๋พยักหน้าพูด

“ทำไมหลับตลอดเลยล่ะคะ พวกเรามาทีไรหล่อนก็หลับตลอดเลย” เด็กน้อยเจียงอวี๋พูด หล่อนก็อยากจะเห็นน้องสาวเหมือนกันนะ แต่เห็นได้ชัดเลยว่าน้องสาวไม่ให้ความร่วมมือ พวกหล่อนมาที่นี่ทีไรก็ไม่เคยเห็นตอนที่หล่อนตื่นเลย

“น้องสาวของหนูยังเล็กอยู่ค่ะ เด็กเล็กขนาดนี้นอกจากกินก็คือนอน ไม่อย่างนั้นจะโตเร็วได้ยังไงคะ? ลูกดูตอนนี้น้องสวยและก็ขาวมากเลยเห็นไหม” เซวียเหม่ยลี่พูด

เจียงอวี๋ไม่ได้คัดค้าน ตอนนี้น้องสาวน่ารักน่ามองมาก ก่อนหน้านี้ตัวยังแดง ๆ อยู่ มาตอนนี้ผิวขาวจั๊วะทั้งตัวเลย

แม้ว่าจะยังหลับอยู่ แต่หล่อนเคยมาดูแล้ว 2-3 ครั้ง ในใจก็รู้สึกพอใจมาก

เจียงเกิงพูด “ยิ่งโตยิ่งเหมือนแม่บุญธรรมนะครับ”

“ลูกสาวเหมือนแม่ จะเหมือนกับแม่บุญธรรมก็เป็นเรื่องธรรมดา แต่จมูกนี่เหมือนพ่อบุญธรรมมากกว่านะ” เซวียเหม่ยลี่ยิ้มพูด

“งั้นจมูกจะไม่ใหญ่ไปเหรอคะ?” เจียงอวี๋มองจมูกของโจวชิงไป๋แล้วก็อดพูดออกมาไม่ได้

โจวชิงไป๋มีจมูกทั้งโด่งทั้งเป็นสัน เรียกว่าจมูกสูงเป็นสันเลยก็ว่าได้ ผู้ชายแบบนี้ดูมาดแมนมาก ลูกชายทั้งสามของเขาก็ได้รับถ่ายทอดจมูกโด่ง ๆ นี้ของเขาเช่นกัน คิดไม่ถึงว่าลูกสาวก็จะได้รับการถ่ายทอดไปด้วยแบบนี้

“ต่อให้ลูกสาวได้รับถ่ายทอดมาก็ไม่ถือว่าโตมากขนาดนั้นหรอกจ้ะ แล้วคนจมูกโด่งส่วนมากจะโชคดีนะ” เซวียเหม่ยลี่พูด

“แม่คะ จมูกหนูโด่งไหมคะ?” เด็กน้อยเจียงอวี๋พูด

“ลูกก็เหมือนพ่อของลูก เหมือนกับมี่มี่นั้นแหละจ้ะ มีโชคดีทั้งพี่ทั้งน้อง” เซวียเหม่ยลี่ยิ้มพูด

เจียงอวี๋รู้สึกพอใจมาก หลินชิงเหอพาพวกเขาออกมานั่งห้องรับแขกด้านนอก โจวชิงไป๋ดูแลลูกสาวของเขาให้ดีก่อนจึงจะออกมา

“คะแนนสอบของเดือนนี้ออกมาแล้วสินะ เป็นยังไงบ้าง?” หลินชิงเหอเปิดทีวี แล้วถามเจียงเกิง

“ได้ที่ 70 ของระดับชั้นครับ” เจียงเกิงพูดอย่างรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย เขาขยันมาก ๆ แล้ว แต่ความห่างชั้นก็ยังมากเกินไป หากอยากจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยปักกิ่ง คะแนนของเขาในตอนนี้ยังห่างไกลและไม่เพียงพอ อย่างไรเขาก็ต้องได้อันดับที่ 30 ของระดับชั้นขึ้นไปจึงจะได้

คะแนนนี้เขาไม่สามารถเข้ามหาวิทยาลัยของพี่รองและพี่สามได้ หากได้มหาวิยาลัยอื่น ก็ขอเพียงแค่ได้อยู่ที่เมืองปักกิ่งก็พอ

“ก้าวหน้าไม่น้อยเลยนะ ก่อนหน้านี้ยังอยู่ที่อันดับร้อยอยู่เลย” เซวียเหม่ยลี่พูดปลอบใจ

หลินชิงเหอพยักหน้าพูด “ไม่ต้องเศร้าไปจ้ะ ปีนี้เพิ่งจะขึ้นมอปลายปี 5 เอง ยังมีเวลาอยู่”

ปี 82 ถึง ปี 83 ก็จะเป็นการปฏิรูปประเทศแล้ว อย่างตอนนี้ก็มีอยู่ทั่วไปแล้วคือมัธยมศึกษาตอนปลายต้องเรียน 3 ปี ไม่ใช่ 2 ปีเหมือนเมื่อก่อน

ปีนี้เขาขึ้นชั้นมัธยมปลายปีที่ 5 ยังมีโอกาสอยู่อีกเยอะ

เจียงเกิงพยักหน้าพูด “ผมจะตั้งใจสอบแล้วไปเมืองปักกิ่งให้ได้ครับ!”

ตอนนี้เซวียเหม่ยลี่ทำใจรับได้มากขึ้นแล้ว พูดกับหลินชิงเหอว่า “เจ้าเด็กนี้ไม่อาลัยอาวรณ์อยากอยู่บ้านตัวเองบ้างเลยน่ะค่ะ”

“ไม่ใช่ว่าเขาไม่คิดถึงบ้านหรอกนะคะ เพียงแต่เด็กที่โตแล้วก็ควรจะออกไปดูโลกกว้างบ้าง” หลินชิงเหอพูด

เซวียเหม่ยลี่พูด “ถ้าเขาไปปักกิ่งแล้ว คงต้องรบกวนพวกพี่ชิงเหอแล้วนะคะ”

“คุณไม่ต้องคิดมากเลยค่ะ มีเด็กมากมายที่ออกไปเรียนไกลบ้านเหมือนกัน” หลินชิงเหอพูด

“ใช่แล้วครับ ผมแค่ไปไกลเพื่อเรียนหนังสือเองแต่แม่ทำเหมือนฟ้าจะถล่มอย่างนั้นแหละ อย่างนี้ต่อไปถ้าผมแต่งงานย้ายออกไปอยู่ข้างนอกแล้ว แม่จะทำยังไง?” เจียงเกิงพูด

เซวียเหม่ยลี่อึ้งไปแล้ว “เจ้าเด็กดื้อ ลูกจะทิ้งแม่แล้วใช่ไหม?”

“ผมไม่ได้ทิ้ง เพียงแค่อยากให้แม่ชินเอาไว้ เมื่อผมโตขึ้นผมก็ต้องออกไปข้างนอก ไม่ได้อยู่ที่บ้านบ่อย ๆ แล้ว” เจียงเกิงพูด

“เสียแรงที่เลี้ยงเด็กดื้ออย่างลูกจริง ๆ อยากไปไหนก็ไหนเถอะ แม่จะไม่สนลูกแล้ว!” เซวียเหม่ยลี่ส่งเสียงฮึขึ้นจมูกแล้วพูด

……………………………………………………………………………………………………………………………..

สารจากผู้แปล

น้องโตมาต้องน่ารักมากแน่ๆ ค่ะ ผิวขาว จมูกโด่ง อยากได้ดั้งโด่ง ๆ แบบน้องมั่ง

เจียงเกิงโตแล้ว คุณแม่เซวียไม่ต้องเป็นห่วงแล้วนะคะ ที่ปักกิ่งมีคนบ้านโจวอยู่เยอะแยะเลยค่ะ

ไหหม่า(海馬)

Comment

Options

not work with dark mode
Reset