ตอนที่ 639 สินสอดกับสินเดิมฝ่ายหญิง

บทที่ 639 สินสอดกับสินเดิมฝ่ายหญิง

“โอ้ งั้นผมต้องหาแฟนมาแต่งงานสักคนแล้วล่ะ” โจวกุยหลายพูด

“ได้สิ ตอนนี้ลูกก็เรียนจบแล้ว อยากหาก็หาเถอะจ้ะ เงินย้ายบ้านใหม่ไม่เท่ากับแยกบ้าน ระยะห่างควรจะใกล้ถ้าไม่ทิ้งม้าหรือรำคาญป๊าลูกล่ะก็ สามารถมาอยู่ที่บ้านได้นะ” หลินชิงเหอพูด

คุณแม่เหอกับสะใภ้ใหญ่เหอไม่พูดแทรกแล้ว แต่ไหนเลยสองคนจะไม่รู้ สะใภ้ใหญ่เหอยังมองน้องสาวสามีแวบหนึ่งเลย

หล่อนรู้สึกว่าสายตาน้องสาวสามีมีแววเลือกคนได้ดีจริง ๆ

ไม่ใช่ว่าทางครอบครัวหล่อนจะไม่แนะนำคู่ให้ แต่แนะนำไปหล่อนก็ไม่ชอบเลยสักคน สายตากว้างไกลทีเดียว

แต่เพียงแค่เห็นโจวเฉวี่ยนที่มาส่งเอกสารหล่อนก็ชอบเขาทันทีตั้งแต่แรกเจอ ทั้งยังใจกล้าตามไปจนถึงบ้านฝ่ายชาย

แต่ไม่พูดไม่ได้เลยว่าโจวเฉวี่ยนนั้นไร้ที่ติ ไม่ว่าจะประวัติการศึกษาหรือว่าตัวคน กระทั่งครอบครัว

ยังมีคุณน้าว่าที่แม่สามีคนนี้ หล่อนเป็นคนที่แค่มองก็รู้สึกอยากคบหาด้วย บุคคลที่เป็นปัญญาชนช่างแตกต่างกับคนทั่วไปจริง ๆ

สินสอดที่ต้องให้หรือว่าของอย่างอื่นทั้งหมดล้วนพูดไว้ชัดเจนแล้ว อีกทั้งยังมีมากมายหลายอย่างด้วย

กระทั่งยังมากกว่าตอนหล่อนแต่งเข้าบ้านตระกูลเหอด้วยซ้ำ

เพราะว่าตระกูลเหอไม่ได้ให้เงินไว้ให้พวกเขาย้ายไปอยู่บ้านใหม่ แน่นอนว่าสิ่งของที่ให้อย่างอื่นก็ไม่ได้น้อยเช่นกัน ไม่ทำให้หล่อนรู้สึกคับข้องใจเลย

โดยเฉพาะสามีของหล่อนเป็นคนมีความสามารถ ที่ตอนนี้เปิดโรงงานอุตสาหกรรมหนักแล้ว

แต่ครอบครัวคุณน้าคนนี้ไม่มีจุดที่น่ารังเกียจเลย อีกทั้งยังไม่ใช่การแต่งงานกับครอบครัวที่ต่ำกว่า ถือว่าสมฐานะทั้งฝ่ายหญิงฝ่ายชายแล้ว

เหอเมี่ยนเมี่ยนกับคุณแม่เหอและสะใภ้ใหญ่เหอมาที่นี่ตอน 9 โมงเช้า พอถึง 11 โมงจึงได้กลับไป หลินชิงเหอย่อมชวนให้พวกหล่อนอยู่กินข้าวด้วยกันก่อน แต่เมื่อเห็นว่าผู้เป็นแม่ของว่าที่ลูกสะใภ้อยากกลับแล้ว เธอจึงเดินไปหยิบของฝากที่เตรียมเอาไว้มามอบให้ มีกระเพาะปลา ปลิงทะเล รวมทั้งหอยเป๋าฮื้อกล่องใหญ่ 2-3 กล่อง เรียกว่าเป็นของขวัญชิ้นใหญ่ทีเดียว

ตอนที่ขับรถกลับบ้าน ใบหน้าของคุณแม่เหอประทับรอยยิ้มพึงพอใจยิ่ง

สะใภ้ใหญ่เหอยิ้มแล้วพูด “ตอนนี้คุณแม่ก็ไม่ต้องกังวลแล้วนะคะ ต่อไปฉันก็อยากจะเป็นแม่แบบนี้บ้างจัง”

พวกหล่อนไม่เคยเห็นพ่อของอีกฝ่ายมาก่อน แต่ครอบครัวจะเป็นอย่างไรนั้น เพียงแค่ดูนายหญิงของบ้านว่าเป็นคนอย่างไรก็พอแล้ว

นายหญิงของบ้านก็คือน้ำที่หล่อเลี้ยงของครอบครัว น้ำที่หล่อเลี้ยงครอบครัวดี ครอบครัวก็จะดีตาม

คุณแม่เหอยิ้มแล้วมองลูกสาวของตัวเอง พูดว่า “ถือว่าลูกสายตามีแวว”

ครอบครัวที่ฐานะทางสังคมเป็นแบบนี้ มีคุณธรรมแบบนี้ หล่อนก็ไม่ต้องกังวลใจอีกแล้ว

เหอเมี่ยนเมี่ยนคลี่ยิ้ม “น้าหลินยังให้ของคุณแม่มาซะเยอะขนาดนั้น”

“คนมีอายุก็ดื่มเหมือนกันทุกคนนั่นแหละ แม่เห็นว่าที่แม่สามีลูกรักษารูปร่างหน้าตาเสียจนไม่เหมือนเป็นแม่ของโจวเฉวี่ยนเลย แม่หรือก็นึกว่าหล่อนจะเป็นพี่สาวคนโตของเขาซะอีก” คุณแม่เหอพูด

สะใภ้ใหญ่เหอยิ้มพยักหน้า แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าความประทับใจแรก หล่อนก็คิดแบบนี้เช่นเดียวกัน เพราะอีกฝ่ายดูเด็กมากอย่างเห็นได้ชัด รูปร่างก็ดีมากทั้งยังมีความสง่างามอีกด้วย

“แค่เห็นโจวเฉวี่ยนฉันก็รู้สึกตั้งนานแล้วว่าครอบครัวของเขาต้องไม่ธรรมดา ครอบครัวธรรมดาที่ไหนจะเลี้ยงลูกให้ไม่ดูถูกคนไม่หยิ่งทะนงอย่างนี้ได้” สะใภ้ใหญ่เหอพูด

แต่ไม่ว่าจะพูดอย่างไร การไปบ้านว่าที่ลูกเขยในครั้งนี้ คุณแม่เหอก็วางใจได้ในที่สุด

ตอนกลับมาถึงบ้านก็เที่ยงพอดี คุณพ่อเหอก็อยู่ภายในบ้านด้วยเช่นกัน เขาสวมแว่นตาและกำลังอ่านหนังสือพิมพ์รอพวกหล่อนกลับมากินข้าวด้วยกัน

วันนี้เขาไม่ได้ไปด้วยเนื่องจากงานยุ่ง แต่ภรรยาเขากับลูกสะใภ้ไปทำอะไรนั้นเขาก็ทราบดี

เห็นพวกหล่อนยิ้มแย้มกันกลับมา ทั้งยังหิ้วของมาด้วย คุณพ่อเหอก็ยิ่งมั่นใจ

เขาไม่ได้พูดอะไร เพียงบอกให้แม่บ้านนำอาหารมาตั้งโต๊ะได้แล้ว

หลังจากนั้นครอบครัวก็กินข้าวด้วยกัน รอจนกระทั่งกลับห้องมาพักผ่อนแล้ว คุณพ่อเหอถึงค่อยถามขึ้นมา

“วันนี้คุณไม่ได้ไปด้วยกัน แม่ของเขานี่ไม่ต้องพูดถึงเลย หล่อนอัธยาศัยดีมากและยังดูเด็กมาก เรือนสี่ประสานที่นั่นไม่ได้เล็กไปกว่าบ้านของพวกเราเลย รูปแบบการตกแต่งก็ดีกว่าบ้านพวกเราเสียอีก” คุณแม่เหอพูด

คุณพ่อเหอพอใจให้ตัวของโจวเฉวี่ยนว่าที่ลูกเขยคนนี้มาก ที่จริงขอเพียงครอบครัวของเขาไม่แย่มากขนาดนั้น เขาก็ไม่ปฏิเสธไม่ให้ลูกสาวแต่งงานกับอีกฝ่ายหรอก เพราะเดี๋ยวอยู่ที่นี่เขาก็จะทำให้อีกฝ่ายพัฒนาตัวเองได้เอง ไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องครอบครัวที่อยู่อีกด้านหนึ่งของเขาก็ได้

แต่มาตอนนี้พอเขาเห็นท่าทางเช่นนี้ของภรรยา ก็เห็นชัดว่าหล่อนพึงพอใจครอบครัวของว่าที่ลูกเขยมาก

“ลูกชายสามคนแต่ละคนได้ดีกันทั้งนั้น แค่เห็นก็รู้ว่าพวกเขาได้รับการอบรมสั่งสอนจากคนในครอบครัวเป็นอย่างดี อีกทั้งแม่ของโจวเฉวี่ยนก็พูดเรื่องหมั้นหมายแล้วด้วย” คุณแม่เหอพูด

และเล่าเรื่องที่หลินชิงเหอพูดเรื่องสินสอด และก็เงินไว้ย้ายไปอยู่บ้านใหม่ออกมา

โดยฉพาะเงินไว้สำหรับย้ายไปอยู่บ้านใหม่นั่น คุณพ่อเหอได้ยินก็รู้สึกว่าตระกูลโจวช่างมีเงินจริง ๆ ถึงได้ลงมืออย่างใจกว้างเช่นนี้

หลังจากนั้นคำถามก็ตามมา “สินสอดพวกเขาให้มากขนาดนั้น แล้วสินเดิมฝ่ายหญิงเราจะให้อะไรดีล่ะ? ครอบครัวโจวได้พูดอะไรไหม?”

คุณพ่อเหอได้ฟังก็เข้าใจได้ในทันที ครอบครัวให้เงินหนึ่งแสนไว้สำหรับย้ายไปอยู่บ้านใหม่ แต่ที่แท้มันก็เป็นเงินสินสอดอย่างหนึ่ง

เพราะว่าไม่ได้แยกบ้าน ทั้งหมดนี้ให้ทั้งคู่สองสามีภรรยา

“หล่อนไม่ได้พูดเลยค่ะ น่าจะให้พวกเรามองดูอยู่เฉย ๆ มั้งค่ะ ฉันดูแล้วเหมือนหล่อนจะไม่ใช่คนสนใจเรื่องอะไรพวกนี้” คุณแม่เหอพูด

“พวกเขาไม่สนใจ แล้วสินเดิมของลูกสาวเราจะไม่สนใจเหรอคุณ?” คุณพ่อเหอพูด

“ฉันรู้ค่ะ ไม่ใช่ว่าฉันจะบอกว่าไม่ให้เลยเสียหน่อย เพียงแค่ตอนนี้พวกเขาขาดเหลืออะไรบ้างล่ะคะ? เรื่องบ้านฉันได้ยินมาจากเมี่ยนเมี่ยนแล้วเธอบอกว่าโจวเฉวี่ยนเขามอง ๆ ไว้อยู่แล้ว ตัวเขาเองก็ยังมีเงินเตรียมจะซื้อมาแล้ว พวกเราไม่ต้องซื้อให้ก็ได้ อย่างอื่นฉันคิดว่าจะให้เครื่องประดับทองลูกสาวสองสามเส้น แต่ก็ดูจะยังไม่พอ” คุณแม่เหอพูด

การที่ฝ่ายชายให้สินสอดเยอะเกินไป ฝ่ายหญิงก็ลำบากใจเช่นกัน

เพราะสามารถด้อยกว่าเล็กน้อย แต่ไม่สามารถด้อยกว่ามากเกินไปได้ ไม่อย่างนั้นจะยังรักษาหน้าตาของลูกสาวไว้ได้อยู่หรือ? อีกทั้งบ้านฝ่ายชายก็ไม่ได้หักเงินสินสอดไว้ให้ครอบครัวฝ่ายหญิงด้วย พวกเขายกสินสอดให้ทั้งคู่ไปตั้งตัวใช้ชีวิตของตัวเอง สิ่งสำคัญก็คือพวกเขาดูแล้วจะจัดการอย่างไรนี้แหละ

“ไม่อย่างนั้นคุณไปถามเมี่ยนเมี่ยนสิ ว่าต้องการอะไร?” คุณพ่อเหอมองหล่อนแล้วพูด

“บ้านไหนมีไปถามลูกสาวว่าต้องการสินเดิมอะไรบ้างคะ” คุณแม่เหอมองค้อนเขา “ไม่อย่างนั้นฉันว่าจะซื้อรถยกเป็นสินสอดให้พวกเขาก็เพียงพอแล้ว เมี่ยนเมี่ยนจะได้ไม่ต้องไปยืมรถพี่ชายใหญ่เธออีก อีกทั้งเวลากลับไปบ้านแม่สามีก็จะได้สะดวกด้วย”

“หืม มันตั้งกี่หมื่นหยวนล่ะคุณ?” แม้แต่คุณพ่อเหอก็ยังอดเจ็บปวดใจไม่ได้

“จะกี่หมื่นหยวนก็ให้ลูกสาวกับลูกเขยเหมือนกันแหละค่ะ อีกทั้งต่อไปลูกเขยก็จะอยู่ที่นี่เสียส่วนใหญ่ เขาก็ไม่ต่างอะไรกับลูกชายเราหรอกค่ะ ดังนั้นมันเกี่ยวกันด้วยเหรอคะ? ซื้อเถอะค่ะ!” คุณแม่เหอโบกสะบัดมือพูด

วันนี้เห็นทีว่าหล่อนจะพอใจครอบครัวโจวเฉวี่ยนจริง ๆ อีกอย่างครอบครัวอีกฝ่ายยังลงมือใจกว้างขนาดนั้น ฝ่ายพวกเขาก็ควรใจกว้างหน่อยเช่นกัน แบบนี้จึงจะดูดีทั้งสองฝ่ายไม่ใช่หรือ?

คุณพ่อเหอรู้สึกจนปัญญา แต่ก็ยังพยักหน้า “งั้นก็ได้” เขาก็มีแค่ลูกเขยที่ให้เขาเลี้ยงดูแล้วด้วยเช่นกัน ลูกชายคนโตก็ไปทำธุรกิจ คนรองก็ไปเรียนต่อต่างประเทศ การเลี้ยงดูลูกเขยอย่างดีก็ดีเหมือนกัน เพราะเขาก็เหมือนกับเป็นลูกชายของเขาครึ่งหนึ่ง

นี่ถือว่าเป็นความก้าวหน้าตามความคิดเดิมของโจวชิงไป๋แล้ว

เรื่องที่ครอบครัวเหอจะซื้อรถยนต์เป็นสินเดิมให้นั้น เหอเมี่ยเมี่ยนพอรู้ก็ดีใจมาก หล่อนหลบมาเจอโจวเฉวี่ยนเป็นการส่วนตัว และดึงโจวเฉวี่ยนมากระซิบ “ดูเหมือนว่าแม่ฉันจะถูกน้าหลินกระตุ้นเข้าให้แล้ว ไม่อย่างนั้นแม่กับพ่อคงทำใจซื้อรถให้พวกเราไม่ได้หรอก!”

“คุณคุยกันถึงเรื่องสินสอดแล้วเหรอครับ?” โจวเฉวี่ยนได้ยินก็รู้แล้ว และยิ้มออกมา

“คุณรู้ตั้งนานแล้วเหรอ?” เหอเมี่ยนเมี่ยนมองเขาอย่างตกตะลึง

“พี่ใหญ่กับพี่สะใภ้ใหญ่หมั้นหมายกันไว้นานแล้ว ตอนนั้นก็เป็นแบบนี้ พ่อกับแม่ผมก็เคยพูดกับผมและก็น้องชายสามผมหมดแล้ว” โจวเฉวี่ยนพยักหน้าพูด

………………………………………………………………………………………………………………………….

สารจากผู้แปล

เวลาคนมีเงินแต่งงานกันนี่มันดูอลังการดีนะคะ ส่วนผู้แปลนะเหรอคะ ตอนนี้แต่งงานกับเงินก็พอค่ะ

ไหหม่า(海馬)

ตอนที่ 639 สินสอดกับสินเดิมฝ่ายหญิง

ตอนที่ 639 สินสอดกับสินเดิมฝ่ายหญิง

บทที่ 639 สินสอดกับสินเดิมฝ่ายหญิง

“โอ้ งั้นผมต้องหาแฟนมาแต่งงานสักคนแล้วล่ะ” โจวกุยหลายพูด

“ได้สิ ตอนนี้ลูกก็เรียนจบแล้ว อยากหาก็หาเถอะจ้ะ เงินย้ายบ้านใหม่ไม่เท่ากับแยกบ้าน ระยะห่างควรจะใกล้ถ้าไม่ทิ้งม้าหรือรำคาญป๊าลูกล่ะก็ สามารถมาอยู่ที่บ้านได้นะ” หลินชิงเหอพูด

คุณแม่เหอกับสะใภ้ใหญ่เหอไม่พูดแทรกแล้ว แต่ไหนเลยสองคนจะไม่รู้ สะใภ้ใหญ่เหอยังมองน้องสาวสามีแวบหนึ่งเลย

หล่อนรู้สึกว่าสายตาน้องสาวสามีมีแววเลือกคนได้ดีจริง ๆ

ไม่ใช่ว่าทางครอบครัวหล่อนจะไม่แนะนำคู่ให้ แต่แนะนำไปหล่อนก็ไม่ชอบเลยสักคน สายตากว้างไกลทีเดียว

แต่เพียงแค่เห็นโจวเฉวี่ยนที่มาส่งเอกสารหล่อนก็ชอบเขาทันทีตั้งแต่แรกเจอ ทั้งยังใจกล้าตามไปจนถึงบ้านฝ่ายชาย

แต่ไม่พูดไม่ได้เลยว่าโจวเฉวี่ยนนั้นไร้ที่ติ ไม่ว่าจะประวัติการศึกษาหรือว่าตัวคน กระทั่งครอบครัว

ยังมีคุณน้าว่าที่แม่สามีคนนี้ หล่อนเป็นคนที่แค่มองก็รู้สึกอยากคบหาด้วย บุคคลที่เป็นปัญญาชนช่างแตกต่างกับคนทั่วไปจริง ๆ

สินสอดที่ต้องให้หรือว่าของอย่างอื่นทั้งหมดล้วนพูดไว้ชัดเจนแล้ว อีกทั้งยังมีมากมายหลายอย่างด้วย

กระทั่งยังมากกว่าตอนหล่อนแต่งเข้าบ้านตระกูลเหอด้วยซ้ำ

เพราะว่าตระกูลเหอไม่ได้ให้เงินไว้ให้พวกเขาย้ายไปอยู่บ้านใหม่ แน่นอนว่าสิ่งของที่ให้อย่างอื่นก็ไม่ได้น้อยเช่นกัน ไม่ทำให้หล่อนรู้สึกคับข้องใจเลย

โดยเฉพาะสามีของหล่อนเป็นคนมีความสามารถ ที่ตอนนี้เปิดโรงงานอุตสาหกรรมหนักแล้ว

แต่ครอบครัวคุณน้าคนนี้ไม่มีจุดที่น่ารังเกียจเลย อีกทั้งยังไม่ใช่การแต่งงานกับครอบครัวที่ต่ำกว่า ถือว่าสมฐานะทั้งฝ่ายหญิงฝ่ายชายแล้ว

เหอเมี่ยนเมี่ยนกับคุณแม่เหอและสะใภ้ใหญ่เหอมาที่นี่ตอน 9 โมงเช้า พอถึง 11 โมงจึงได้กลับไป หลินชิงเหอย่อมชวนให้พวกหล่อนอยู่กินข้าวด้วยกันก่อน แต่เมื่อเห็นว่าผู้เป็นแม่ของว่าที่ลูกสะใภ้อยากกลับแล้ว เธอจึงเดินไปหยิบของฝากที่เตรียมเอาไว้มามอบให้ มีกระเพาะปลา ปลิงทะเล รวมทั้งหอยเป๋าฮื้อกล่องใหญ่ 2-3 กล่อง เรียกว่าเป็นของขวัญชิ้นใหญ่ทีเดียว

ตอนที่ขับรถกลับบ้าน ใบหน้าของคุณแม่เหอประทับรอยยิ้มพึงพอใจยิ่ง

สะใภ้ใหญ่เหอยิ้มแล้วพูด “ตอนนี้คุณแม่ก็ไม่ต้องกังวลแล้วนะคะ ต่อไปฉันก็อยากจะเป็นแม่แบบนี้บ้างจัง”

พวกหล่อนไม่เคยเห็นพ่อของอีกฝ่ายมาก่อน แต่ครอบครัวจะเป็นอย่างไรนั้น เพียงแค่ดูนายหญิงของบ้านว่าเป็นคนอย่างไรก็พอแล้ว

นายหญิงของบ้านก็คือน้ำที่หล่อเลี้ยงของครอบครัว น้ำที่หล่อเลี้ยงครอบครัวดี ครอบครัวก็จะดีตาม

คุณแม่เหอยิ้มแล้วมองลูกสาวของตัวเอง พูดว่า “ถือว่าลูกสายตามีแวว”

ครอบครัวที่ฐานะทางสังคมเป็นแบบนี้ มีคุณธรรมแบบนี้ หล่อนก็ไม่ต้องกังวลใจอีกแล้ว

เหอเมี่ยนเมี่ยนคลี่ยิ้ม “น้าหลินยังให้ของคุณแม่มาซะเยอะขนาดนั้น”

“คนมีอายุก็ดื่มเหมือนกันทุกคนนั่นแหละ แม่เห็นว่าที่แม่สามีลูกรักษารูปร่างหน้าตาเสียจนไม่เหมือนเป็นแม่ของโจวเฉวี่ยนเลย แม่หรือก็นึกว่าหล่อนจะเป็นพี่สาวคนโตของเขาซะอีก” คุณแม่เหอพูด

สะใภ้ใหญ่เหอยิ้มพยักหน้า แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าความประทับใจแรก หล่อนก็คิดแบบนี้เช่นเดียวกัน เพราะอีกฝ่ายดูเด็กมากอย่างเห็นได้ชัด รูปร่างก็ดีมากทั้งยังมีความสง่างามอีกด้วย

“แค่เห็นโจวเฉวี่ยนฉันก็รู้สึกตั้งนานแล้วว่าครอบครัวของเขาต้องไม่ธรรมดา ครอบครัวธรรมดาที่ไหนจะเลี้ยงลูกให้ไม่ดูถูกคนไม่หยิ่งทะนงอย่างนี้ได้” สะใภ้ใหญ่เหอพูด

แต่ไม่ว่าจะพูดอย่างไร การไปบ้านว่าที่ลูกเขยในครั้งนี้ คุณแม่เหอก็วางใจได้ในที่สุด

ตอนกลับมาถึงบ้านก็เที่ยงพอดี คุณพ่อเหอก็อยู่ภายในบ้านด้วยเช่นกัน เขาสวมแว่นตาและกำลังอ่านหนังสือพิมพ์รอพวกหล่อนกลับมากินข้าวด้วยกัน

วันนี้เขาไม่ได้ไปด้วยเนื่องจากงานยุ่ง แต่ภรรยาเขากับลูกสะใภ้ไปทำอะไรนั้นเขาก็ทราบดี

เห็นพวกหล่อนยิ้มแย้มกันกลับมา ทั้งยังหิ้วของมาด้วย คุณพ่อเหอก็ยิ่งมั่นใจ

เขาไม่ได้พูดอะไร เพียงบอกให้แม่บ้านนำอาหารมาตั้งโต๊ะได้แล้ว

หลังจากนั้นครอบครัวก็กินข้าวด้วยกัน รอจนกระทั่งกลับห้องมาพักผ่อนแล้ว คุณพ่อเหอถึงค่อยถามขึ้นมา

“วันนี้คุณไม่ได้ไปด้วยกัน แม่ของเขานี่ไม่ต้องพูดถึงเลย หล่อนอัธยาศัยดีมากและยังดูเด็กมาก เรือนสี่ประสานที่นั่นไม่ได้เล็กไปกว่าบ้านของพวกเราเลย รูปแบบการตกแต่งก็ดีกว่าบ้านพวกเราเสียอีก” คุณแม่เหอพูด

คุณพ่อเหอพอใจให้ตัวของโจวเฉวี่ยนว่าที่ลูกเขยคนนี้มาก ที่จริงขอเพียงครอบครัวของเขาไม่แย่มากขนาดนั้น เขาก็ไม่ปฏิเสธไม่ให้ลูกสาวแต่งงานกับอีกฝ่ายหรอก เพราะเดี๋ยวอยู่ที่นี่เขาก็จะทำให้อีกฝ่ายพัฒนาตัวเองได้เอง ไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องครอบครัวที่อยู่อีกด้านหนึ่งของเขาก็ได้

แต่มาตอนนี้พอเขาเห็นท่าทางเช่นนี้ของภรรยา ก็เห็นชัดว่าหล่อนพึงพอใจครอบครัวของว่าที่ลูกเขยมาก

“ลูกชายสามคนแต่ละคนได้ดีกันทั้งนั้น แค่เห็นก็รู้ว่าพวกเขาได้รับการอบรมสั่งสอนจากคนในครอบครัวเป็นอย่างดี อีกทั้งแม่ของโจวเฉวี่ยนก็พูดเรื่องหมั้นหมายแล้วด้วย” คุณแม่เหอพูด

และเล่าเรื่องที่หลินชิงเหอพูดเรื่องสินสอด และก็เงินไว้ย้ายไปอยู่บ้านใหม่ออกมา

โดยฉพาะเงินไว้สำหรับย้ายไปอยู่บ้านใหม่นั่น คุณพ่อเหอได้ยินก็รู้สึกว่าตระกูลโจวช่างมีเงินจริง ๆ ถึงได้ลงมืออย่างใจกว้างเช่นนี้

หลังจากนั้นคำถามก็ตามมา “สินสอดพวกเขาให้มากขนาดนั้น แล้วสินเดิมฝ่ายหญิงเราจะให้อะไรดีล่ะ? ครอบครัวโจวได้พูดอะไรไหม?”

คุณพ่อเหอได้ฟังก็เข้าใจได้ในทันที ครอบครัวให้เงินหนึ่งแสนไว้สำหรับย้ายไปอยู่บ้านใหม่ แต่ที่แท้มันก็เป็นเงินสินสอดอย่างหนึ่ง

เพราะว่าไม่ได้แยกบ้าน ทั้งหมดนี้ให้ทั้งคู่สองสามีภรรยา

“หล่อนไม่ได้พูดเลยค่ะ น่าจะให้พวกเรามองดูอยู่เฉย ๆ มั้งค่ะ ฉันดูแล้วเหมือนหล่อนจะไม่ใช่คนสนใจเรื่องอะไรพวกนี้” คุณแม่เหอพูด

“พวกเขาไม่สนใจ แล้วสินเดิมของลูกสาวเราจะไม่สนใจเหรอคุณ?” คุณพ่อเหอพูด

“ฉันรู้ค่ะ ไม่ใช่ว่าฉันจะบอกว่าไม่ให้เลยเสียหน่อย เพียงแค่ตอนนี้พวกเขาขาดเหลืออะไรบ้างล่ะคะ? เรื่องบ้านฉันได้ยินมาจากเมี่ยนเมี่ยนแล้วเธอบอกว่าโจวเฉวี่ยนเขามอง ๆ ไว้อยู่แล้ว ตัวเขาเองก็ยังมีเงินเตรียมจะซื้อมาแล้ว พวกเราไม่ต้องซื้อให้ก็ได้ อย่างอื่นฉันคิดว่าจะให้เครื่องประดับทองลูกสาวสองสามเส้น แต่ก็ดูจะยังไม่พอ” คุณแม่เหอพูด

การที่ฝ่ายชายให้สินสอดเยอะเกินไป ฝ่ายหญิงก็ลำบากใจเช่นกัน

เพราะสามารถด้อยกว่าเล็กน้อย แต่ไม่สามารถด้อยกว่ามากเกินไปได้ ไม่อย่างนั้นจะยังรักษาหน้าตาของลูกสาวไว้ได้อยู่หรือ? อีกทั้งบ้านฝ่ายชายก็ไม่ได้หักเงินสินสอดไว้ให้ครอบครัวฝ่ายหญิงด้วย พวกเขายกสินสอดให้ทั้งคู่ไปตั้งตัวใช้ชีวิตของตัวเอง สิ่งสำคัญก็คือพวกเขาดูแล้วจะจัดการอย่างไรนี้แหละ

“ไม่อย่างนั้นคุณไปถามเมี่ยนเมี่ยนสิ ว่าต้องการอะไร?” คุณพ่อเหอมองหล่อนแล้วพูด

“บ้านไหนมีไปถามลูกสาวว่าต้องการสินเดิมอะไรบ้างคะ” คุณแม่เหอมองค้อนเขา “ไม่อย่างนั้นฉันว่าจะซื้อรถยกเป็นสินสอดให้พวกเขาก็เพียงพอแล้ว เมี่ยนเมี่ยนจะได้ไม่ต้องไปยืมรถพี่ชายใหญ่เธออีก อีกทั้งเวลากลับไปบ้านแม่สามีก็จะได้สะดวกด้วย”

“หืม มันตั้งกี่หมื่นหยวนล่ะคุณ?” แม้แต่คุณพ่อเหอก็ยังอดเจ็บปวดใจไม่ได้

“จะกี่หมื่นหยวนก็ให้ลูกสาวกับลูกเขยเหมือนกันแหละค่ะ อีกทั้งต่อไปลูกเขยก็จะอยู่ที่นี่เสียส่วนใหญ่ เขาก็ไม่ต่างอะไรกับลูกชายเราหรอกค่ะ ดังนั้นมันเกี่ยวกันด้วยเหรอคะ? ซื้อเถอะค่ะ!” คุณแม่เหอโบกสะบัดมือพูด

วันนี้เห็นทีว่าหล่อนจะพอใจครอบครัวโจวเฉวี่ยนจริง ๆ อีกอย่างครอบครัวอีกฝ่ายยังลงมือใจกว้างขนาดนั้น ฝ่ายพวกเขาก็ควรใจกว้างหน่อยเช่นกัน แบบนี้จึงจะดูดีทั้งสองฝ่ายไม่ใช่หรือ?

คุณพ่อเหอรู้สึกจนปัญญา แต่ก็ยังพยักหน้า “งั้นก็ได้” เขาก็มีแค่ลูกเขยที่ให้เขาเลี้ยงดูแล้วด้วยเช่นกัน ลูกชายคนโตก็ไปทำธุรกิจ คนรองก็ไปเรียนต่อต่างประเทศ การเลี้ยงดูลูกเขยอย่างดีก็ดีเหมือนกัน เพราะเขาก็เหมือนกับเป็นลูกชายของเขาครึ่งหนึ่ง

นี่ถือว่าเป็นความก้าวหน้าตามความคิดเดิมของโจวชิงไป๋แล้ว

เรื่องที่ครอบครัวเหอจะซื้อรถยนต์เป็นสินเดิมให้นั้น เหอเมี่ยเมี่ยนพอรู้ก็ดีใจมาก หล่อนหลบมาเจอโจวเฉวี่ยนเป็นการส่วนตัว และดึงโจวเฉวี่ยนมากระซิบ “ดูเหมือนว่าแม่ฉันจะถูกน้าหลินกระตุ้นเข้าให้แล้ว ไม่อย่างนั้นแม่กับพ่อคงทำใจซื้อรถให้พวกเราไม่ได้หรอก!”

“คุณคุยกันถึงเรื่องสินสอดแล้วเหรอครับ?” โจวเฉวี่ยนได้ยินก็รู้แล้ว และยิ้มออกมา

“คุณรู้ตั้งนานแล้วเหรอ?” เหอเมี่ยนเมี่ยนมองเขาอย่างตกตะลึง

“พี่ใหญ่กับพี่สะใภ้ใหญ่หมั้นหมายกันไว้นานแล้ว ตอนนั้นก็เป็นแบบนี้ พ่อกับแม่ผมก็เคยพูดกับผมและก็น้องชายสามผมหมดแล้ว” โจวเฉวี่ยนพยักหน้าพูด

………………………………………………………………………………………………………………………….

สารจากผู้แปล

เวลาคนมีเงินแต่งงานกันนี่มันดูอลังการดีนะคะ ส่วนผู้แปลนะเหรอคะ ตอนนี้แต่งงานกับเงินก็พอค่ะ

ไหหม่า(海馬)

Comment

Options

not work with dark mode
Reset