ตอนที่ 805 : วิวาทกลางถนน

ตอนที่ 805 : วิวาทกลางถนน
 
ฉินหยุนทราบ ว่าคนเหล่านี้ย่อมไม่คิดเล่นพนันต่อกันอีก เขามองทางหลงซานเหว่ ยพร้อมกล่าวถามเสียงสงบ “เถ้าแก่ ความเห็นท่านเล่า?”
 
หลงซานเหว่ยสูดลมหายใจเข้าลึกและกล่าว “คนหนุ่ม ข้าพบเห็นบุคคลโชคดีเป็นล้นพ้นมากมายในชีวิต ทว่าคนโชคดีเช่นเจ้านั้น ข้าเพิ่งพบเห็นเป็นครั้งแรก! กระนั้นข้าก็ไม่เชื่อว่าจะเป็นเจ้าที่โชคดีถึงเพียงนั้น!”
 
ฉินหยุนหัวเราะตอบ “พวกเจ้ากล่าวหาว่าข้าเล่นโกง เช่นนั้นไม่กล่าวเล่าว่าข้าใช้กลโกงใด?”
 
ตี้หมิงจีนเผยโทสะ “เจ้าชนะหลายครั้งครา ทั้งยังชนะได้เงินไปมาก! กระทั่งเป็นบุคคลดวงตามืดบอดยังทราบว่าเจ้าโกง!”
 
“เป็นเจ้าที่เสนอการเล่นหยกทองคํา ทายไข่มุกเมื่อครู่ก็เป็นเถ้าแก่เสนอออกมาเอง! หากข้าโกงเช่นนั้นทําอย่างไรจึงไม่ถูกพบเห็น?” ฉินหยุนหัวเราะดังตอบโต้ “พวกเจ้าถังแตกก็จงพูดออกมา!”
 
หากเป็นการเล่นทอยเต๋หรือหยกทองคํา พวกเขาคงกล้ากล่าวว่าฉินหยุนคดโกง ทว่าการทายไข่มุกนั้นเป็นหลงซานเหว่ยเสนอออกมาเอง และฉินหยุนชนะมาได้ พวกเขาไม่กล้ากล่าวว่าอีกฝ่ายคดโกงได้เต็มปาก ฝูงชนที่รับชมต่างคิด ว่าผู้คนของหอบันหลงไม่อาจรับการเดิมพันได้ไหวอีกเป็นพวกเขาสูญเสียหนักหนาเกินไป
 
“พวกเราเวลานี้ไม่มีหลักฐานแน่ชัด แต่เจ้าต้องโกงอย่างแน่นอน!” หลงซานเหว่ ยลุกขึ้นยืนจับจ้องที่ฉินหยุนเขากล่าวเสียงเย็น “หากเจ้าไม่ส่งเหรียญม่วงเหล่านั้นกลับคืน ก็อย่าได้คิดว่าจะไปพ้นจากที่นี่ได้”
 
อย่างไรแล้ว หลงซานเหว่ยก็สูญเสียไปหลายพันล้าน เป็นปกติที่จะเจ็บช้ําจนโกรธแค้น
 
“จงอย่าได้ลืมว่าที่นี่คือนครเซียนยุทธภัณฑ์ ก่อเรื่องขึ้นที่นี่ย่อมได้เห็นว่าผู้ใดกันแน่ที่จะถูกรุมขย้ํา!” ฉินหยุนหัวเราะกล่าว
 
ตี้หมิงจีนแผ่นเสียง “นครเซียนยุทธภัณฑ์แล้วอย่างไร? บิดาข้าคือจักรพรรดิยุทธ์แห่งพระราชวังเซียนยุทธภัณฑ์ หากมีเรื่องเกิดขึ้น ข้าเพียงพาเจ้าไปพบบิดา เพื่อให้ท่านได้จัดการตัวบัดซบคดโกงเช่นเจ้า!”
 
ฉินหยุนค่อยตระหนักได้ ว่าเหตุใดตี้หมิงรุ่นเล่นกลโกงในหอบันหลงโดยไม่ยั้งมือ นั่นก็เพราะบิดาอีกฝ่ายเป็นผู้หนุนหลังหอบันหลง กระนั้น บิดาของตี้หมิงรุ่นเวลานี้สมควรถูกแม่เฒ่าหม่าจับกุมไปเรียบร้อย ดังนั้นฉินหยุนจึงไม่กลัวเกรงแม้เพียงนิด
 
“ข้าเองก็เป็นศิษย์ของพระราชวังเซียนยุทธภัณฑ์ ทั้งยังเป็นถึงราชันยุทธ์!” ตี้หมิงจั่นแค่นเสียงกล่าวเสริมทับถม
 
ได้เห็นตี้หมิงจีนกล่าวเช่นนี้ หลงซานเหว่ยและคณะจากหอบันหลงต่างวางใจ อย่างน้อยหากพวกเขาก่อปัญหาขึ้นที่นี่ นครเซียนยุทธภัณฑ์ก็ยังพร้อมจะหลับลงตาให้ข้างหนึ่ง
 
“อย่างนั้นหรือ? ข้าเองก็เป็นศิษย์ของนครเซียนยุทธภัณฑ์เช่นกัน!” ฉินหยุนเผยยิ้มบา งตอบกลับ
 
“โห? อย่างนั้นเจ้าควรยอมรับและส่งมอบเหรียญม่วงเหล่านั้นกลับคืนมา หากข้าได้ทราบว่าเจ้าเป็นผู้ใด เมื่อนั้นเจ้าจะไม่มีที่ให้ยืนหยัดในพระราชวังเซียนยุทธภัณฑ์อีก!” ตี้หมิงวุ่นหัวเราะดังกล่าววาจาข่มขู่
 
“ในเมื่อเจ้ากล่าวเช่นนี้ หมายความถึงไม่ทราบว่าข้าคือใคร?” ฉินหยุนกล่าวถาม
 
“เหตุใดข้าต้องรู้จักตัวบัดซบต่ําต้อยที่ยังไม่เป็นแม้ราชันยุทธ์? ทว่าเจ้าที่เล่นกลโกงจนกระตุ้นความสงสัยข้า อีกไม่นานข้าย่อมได้ทราบว่าเจ้าเป็นใคร!” ตี้หมิงวุ่นกล่าววาจาข่มขู่
 
ฉินหยุนกล่าว “ในเมื่อข้าเป็นศิษย์ของพระราชวังเซียนยุทธภัณฑ์ เจ้ายังคิดขวางทางข้าอีกอย่างนั้นหรือ?”
 
หลงซานเหว่ยส่งสัญญาณให้ชายวัยกลางคนหลายคน เร่งรีบเข้าปิดกั้นทางออกและบันไดเอาไว้เพื่อไม่ให้ผู้ใดได้ออกไป
 
ตี้หมิงวุ่นหัวเราะชั่วร้ายกล่าวคํา “เดิมข้าคิดปล่อยเจ้าไปเพียงส่งเงินมา ทว่าตอนนี้ เพื่อจัดการกับตัวบัดซบคดโกงเช่นเจ้า พวกเราย่อมต้องใช้วิธีการของพวกเราแล้ว!”
 
ผู้คนที่นี้ทราบกระจ่างชัดในใจ เพราะหลงซานเหว่ยและคณะคิดทุบตีผู้คน หากถูกจับได้ว่ามีการทะเลาะวิวาทในนครเซียนยุทธภัณฑ์ เรื่องราวจะกลายเป็นอันตรายยิ่ง หลายคนเร่งรีบกระจายตัวออก เพราะพวกเขากังวลว่าจะถูกลูกหลงหรือร่างแหจากการต่อสู้ ผู้คนล้วนได้เห็นว่าฉินหยุนอยู่ขอบเขตวรยุทธ์ลึกล้ําระดับสูง มันมีพลังเต่ลึกล้ําที่คมกริบประหนึ่งปลายหอกปรากฏเจือจาง และตีหมิงจีนเป็นราชันยุทธ์
 
“พวกเราคือศิษย์ของนครเซียนยุทธภัณฑ์ ในเมื่อกล้าคดโกงที่นี่ ข้าย่อมต้องสั่งสอนบทเรียนแก่เจ้า!” ตี้หมิงรุ่นดึงแขนเสื้อขึ้น ใบหน้าเวลานี้เผยความเหี้ยมโหด
 
หลงซานเหวยและคณะคนต่างหัวเราะดังคิดรับชมความบันเทิง
 
ฉินหยุนขมวดคิ้วกล่าวถาม “เจ้าคิดอยากสร้างเรื่องวุ่นวายขึ้นอย่างนั้นหรือ?”
 
หลงซานเหว่ยหัวเราะดังตอบคํา “อย่าได้กังวลไป พวกเราย่อมไม่ก่อความวุ่นวายขึ้น! พวกเราเพียงคิดสั่งสอนบทเรียนแก่เจ้า หาได้มีผู้ใดพบเห็นเรื่องนี้! พวกเราสั่งสอนตัวบัดซบคดโกงมานานนับหลายปีไม่ใช่ว่าก็ยังอยู่ดีหรือไร?”
 
ตี้หมิงรุ่นก้าวเดินเชื่องช้าเข้าหาฉินหยุน พลังราชันยุทธ์ของเขามากพอที่จะมองเห ยียดหยันต่อขอบเขตวรยุทธ์ลึกล้ํา ดังนั้น เขาจึงไม่หวาดเกรงบุคคลตรงหน้าแม้เพียงนิด
 
ยามเมื่อเดินเข้าไป ฉินหยุนพลันหายตัว กระทั่งออร่าก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย ผู้คนต่างตระหนกตี้หมิงจีนนิ่งงันไปครู่ ทันใดนี้เอง เสียง “เพี้ยะ” จึงดังขึ้นรุนแรง
 
ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วในพริบตา ผู้คนเหล่านี้ย่อมไม่อ่อนด้อย พวกเขาล้วนได้เห็นฉินหยุนที่ปรากฏตัวอย่างกะทันหันพร้อมตบเข้าที่ใบหน้าที่หมิงรุ่น
ถึง!
 
ร่างตี้หมิงรุ่นกระเด็นลิ่วปะทะผนังกําแพง ตัวกําแพงพังทลายออกสู่ภายนอก ร่างอีกฝ่ายร่วงหล่นจากชั้นที่เก้า
 
หลงซานเหว่ยเองก็เป็นราชันยุทธ์ และเวลานี้ เขาแตกตื่นต่อกําลังที่ฉินหยุนเผยออกอย่างสุดขีด
 
“เจ้า…” หลงซานเหว่ยลงมือ เขาพุ่งทะยานคิดคว้าจับฉินหยุนเอาไว้
 
ขณะร่างทะยานอยู่ ฉินหยุนกลับหายตัวอีกครั้ง หลงซานเหว่ยหยุดฝีเท้า ปลดปล่อยพลังแข็งแกร่งเลิศล้ําสร้างม่านพลังคุ้มกับรอบตัว
 
วูบ!
 
ฉินหยุนพลันปรากฏตัวด้านหลังหลงซานเหว่ยพร้อมกระบี่สีดําในมือ ก่อนจะสับฟันมันลงเข้าใส่ที่หลงซานเหว่ย!
 
“อ๊าก!”
 
หลงซานเหว่ยร้องตะโกนดังอย่างหวาดกลัว ครึ่งร่างของเขาถูกผ่าเผยออก ผู้คนล้วนได้เห็นเรื่องราวต่างตระหนกแตกตื่นราวพบเจอภูตผี ผู้อื่นภายในบ่อนต่างกายแข็งที่อ เถ้าแก่ที่เป็นถึงราชันยุทธ์ พริบตาต้องมีสภาพชวนสังเวชเพียงนี้ และนี่ยังไม่กล่าวถึง ว่าอีกฝ่ายที่ลงมือเป็นเพียงขอบเขตวรยุทธ์ลึกล้ํา
 
ฉินหยุนต่อยหมัดเข้าปะทะร่างหลงซานเหว่ย ส่งร่างอีกฝ่ายกระเด็นออกผ่านผนังกําแพงเกิดเป็นรูปร่างนั้นร่วงหล่นลงสู่ถนนเบื้องล่างหอบันหลง
 
ใบหน้าอี้หมิงวุ่นเขียวคล้ําเพราะฉินหยุนตบที่ใบหน้า ขณะคิดว่าควรตอบโต้อย่างไรดี เขาจึงได้เห็นหลงซานเหว่ยร่วงหล่นลงมาในสภาพโชกเลือด
 
“ราชันยุทธ์ชั้นสวะสองตัวมัวเมาแต่การพนันทุกวี่วัน ดังนั้นจึงไม่มีกําลังแข็งแกร่งอันใด!” ฉินหยุนส่ายศีรษะพร้อมเคลื่อนคล้อยลงมาผ่านรูที่ชั้นเก้า
 
ผู้คนต่างเร่งรีบเข้ามารับชม ถนนเส้นนี้มีผู้คนหลากหลาย แม้เป็นกลางค่ําคืน หอบันหลงก็มักจะครึกครื้นด้วยนักพนัน เวลานี้พวกเขาล้วนออกมารับชมเรื่องราวกันหมดสิ้น
 
“นั่นไม่ใช่เถ้าแก่หลงซานเหว่ยหรือ?”
 
“นั่นหมิงวุ่น!”
 
“ทั้งสองคนถูกทําร้ายหนักยิ่งนัก! ผู้ใดกันถึงขั้นหาญกล้าทําร้ายผู้คนหอบันหลง?”
 
“เรื่องราวช่างน่ารับชมนัก!”
 
“ตี้หมิงจีนเป็นศิษย์พระราชวังเซียนยุทธภัณฑ์ นอกจากนี้ยังเป็นถึงราชันยุทธ์ บิดาเป็นถึงจักรพรรดิยุทธ์แห่งหอพิทักษ์กฎ!”
 
ตี้หมิงรุ่นมองฉินหยุนที่ถือกระบี่โชกเลือดไว้ในมือกําลังยืนเฉยกลางถนน เขาตะ โกนออกด้วยโทสะ “ชะตาเจ้าคือต้องตาย หน่วยลาดตระเวนของพระราชวังเซียนยุทธภัณฑ์กําลังมาที่นี่แล้ว!”
 
ตี้หมิงวุ่นกล่าวคําสุดท้ายออกจากปาก ฉินหยุนพลันมาถึงในพริบตา ก่อนจะสับฟันเข้าใส่หัวไหล่ของตี้หมิงรุ่น ตัดเอาแขนอีกฝ่ายออกจากร่าง!
 
ผู้คนบนถนนแห่งนี้ตื่นตระหนกไม่รู้จบ! เป็นเวลาหลายปีแล้วที่ไม่มีผู้ใดหาญกล้าก่อเรื่องวิวาทกลางถนนเช่นนี้ นอกจากนี้แล้ว ยังเป็นการทําร้ายคนของพระราชวังเซียนยุทธภัณฑ์! กระทั่งตี้หมิงจั่นยังไม่คิด ว่าจะถึงขั้นมีคนหาญกล้าต่อหน้าผู้คนเยอะแยะที่นี้เพราะนี่ถือเป็นการยั่วยุต่อนครเซียนยุทธภัณฑ์!
 
ฟุบ!
 
เสียงกระบี่ฟาดหวดผ่านอากาศ นําพามาซึ่งอากาศเย็นเยียบสับฟันลงอีกครั้งหนึ่ง! ท่วงท่ากระบีเรียบง่ายทว่าดุดัน มันเข้าถึงรวดเร็วและไร้ซึ่งปรานี กระบีเบิกทางออก พลังเหนือล้ําปรากฏองศาที่ฟาดหวดวิจิตรเป็นการสับฟันเอาอีกแขนของหมิงวุ่นออกจากร่าง!
 
ผู้คนที่นี้ต่างระเบิดเสียงอึกทึกร้องตะโกนดังก้องฟากฟ้า!
 
“อ๊าก!” ตี้หมิงรุ่นกรีดร้องจนเป็นผลให้ผู้คนรู้สึกราวกับเลือดในกายเย็นเยียบ
 
หน่วยลาดตระเวนพระราชวังเซียนยุทธภัณฑ์มาถึงรวดเร็ว พวกเขาเป็นชายร่างใหญ่สวมใส่ชุดเกราะสีดํา
 
“ข้า ข้าคือตี้หมิงจั่น เป็นราชันยุทธ์ของพระราชวังเซียนยุทธภัณฑ์! เร่งรีบจับตัวบัดซบตนนี้ไว้” ตี้หมิงวุ่นร้องตะโกนอย่างรวดร้าว
 
หน่วยลาดตระเวนมีกันกว่าห้าสิบคน เหล่านี้เป็นหน่วยเล็ก ผู้นําหน่วยเป็นราชันยุทธ์ ทันทีเมื่อมาถึงพวกเขาจึงเข้าปิดล้อมหลงซานเหว่ย ตี้หมิงจั่น และฉินหยุนเอาไว้
 
“นําคนกลุ่มนี้กลับไปสืบสาวหาความจริง!” หน่วยลาดตระเวนไม่สนว่าอีกฝ่ายเป็นผู้ใด เขาเพียงออกคําสั่งอย่างเคร่งครัด
 
ตี้หมิงวุ่นหัวเราะดังพร้อมกล่าวต่อฉินหยุน “เจ้าต้องตาย!”
 
ฉินหยุนเก็บกระบี่ศักดิ์สิทธิ์วิญญาณปรโลกอย่างนิ่งสงบ
 
ขณะผู้คนยังตื่นตะลึง ก็พบเห็นคนทั้งสามถูกนําตัวไปแล้ว ถึงตอนนี้พวกเขาค่อยได้ทราบ ว่าหลงซานเหว่ยสูญเสียไปหลายพันล้านเหรียญม่วง!
 
กลางดึก โถงใหญ่ของหอพิทักษ์กฎแห่งพระราชวังเซียนยุทธภัณฑ์ ตี้หมิงจีนและหลงซานเหว่ยที่ได้รับบาดเจ็บกําลังนั่งกับพื้นร้องโอดโอยอย่างรวดร้าว ฉินหยุนเพียงนั่งบนเก้าอี้ด้วยอาการสงบ
 
ทันใดนี้เอง ชายชราชุดสีเทาจึงเร่งรีบเข้ามา พบเห็นแขนหมิงรุ่นสองข้างถูกสับฟันออกและยังวางเอาไว้ที่พื้นข้างกาย เขาเร่งร้อนตะโกน “หมิงจั่น ผู้ใดตัดแขนเจ้า?”
 
“อาจารย์… บิดาข้าเล่า? เร่งรีบให้ท่านออกมา!” ตี้หมิงวุ่นร้องโอดโอย “ตัวบัดซบนั่นตัดแขนข้า!”
 
ทันใดนี้เอง กลุ่มชายชราพลันมาถึง เหล่านี้เป็นราชันยุทธ์ ยามได้เห็นชายชราชุดสีเทาพวกเขาต่างทําความเคารพอีกฝ่าย ชายชราชุดสีเทามองทางฉินหยุนอย่างดุร้าย เขาเร่งรีบพุ่งทะยานเข้ามาพร้อมใช้ฝ่ามือคิดตบใบหน้าฉินหยุน!
 
ฉินหยุนหลบเลี่ยง พร้อมนําเอากระบี่ศักดิ์สิทธิ์วิญญาณปรโลกออกมากล่าวเสียงเย็นเยือก “เจ้าเป็นใคร? คิดอยากปกป้องตี้หมิงวุ่นหรือ?”
 
“ฮ่าฮ่าฮ่า นี่เจ้าไม่ทราบ? ท่านผู้นี้คือผู้ที่จะก้าวขึ้นเป็นครึ่งเซียนคนใหม่ของพระราชวังเซียนยุทธภัณฑ์ ตัวนจิงฉิน!” ที่หมิงจั่นหัวเราะดังกล่าวคํา “ตัวบัดซบ โชคดีที่เจ้าเป็นศิษย์ของพระราชวังเซียนยุทธภัณฑ์ ชะตาเจ้าคือต้องตายที่นี่!”
 
ต้วนจิงฉินมองทางฉินหยุนพร้อมกล่าวถามเสียงเย็น “วิชาการเคลื่อนไหวเจ้าไม่เลว ในเมื่อเป็นศิษย์ของพระราชวังเซียนยุทธภัณฑ์ จงเอ่ยนามอาจารย์เจ้าออกมา ข้าจะได้ลงโทษทั้งเจ้าและอาจารย์เจ้า!”
 
“ข้าไม่มีอาจารย์!” ฉินหยุนตอบคํากลับ
 
“เช่นนั้นลงนรก!” ตัวนจิงฉินตะโกนดังพร้อมคิดลงมือโจมตีฉินหยุนอีกครั้งหนึ่ง
 
“หยุด!” เป็นเสียงเปาเฉิงโฉ่ว เสียงนี้ดังขนาดทําตัวนจิงฉินก้าวถอย
 
จ้าวสํานักมาเยือน บรรดาราชันยุทธ์และตัวนจิงฉินต่างเร่งรีบทําความเคารพ
 
ตั้งแต่ที่ฉินหยุนกลับมาที่พระราชวังเซียนยุทธภัณฑ์ เขาจึงแจ้งต่อทั้งเปาเฉิงโจ่วและแม่เฒ่าหม่า
 
“จ้าวสํานัก ขอท่านทวงคืนความยุติธรรมแก่ข้า! ตัวบัดซบนี้ตัดแขนข้า!” ตี้หมิงจีนคุก เข่าร้องขอความเป็นธรรมตะโกนดัง
 
“ฉินหยุน บอกมาว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น” เปาเฉิงโฉ่วหันไปกล่าวกับฉินหยุน
 
ตี้หมิงรุ่น ตัวนจิงฉิน และหลงซานเหว่ยต่างนิ่งค้าง! พวกเขาไม่คิด ว่าอีกฝ่ายคือฉินหยุน!
 
ผู้คนล้วนทราบ ว่าฉินหยุนเป็นที่ชอบพอของผู้อาวุโสสูงสุด ยิ่งไปกว่านั้น เขายังสร้างคุณงามความดีแก่พระราชวังเซียนยุทธภัณฑ์อย่างใหญ่หลวง เขาคือผู้ที่ชนะนําสองต้นกําเนิดเซียนกลับสู่พระราชวังเซียนยุทธภัณฑ์ นอกจากนี้ เขายังเป็นอาจารย์จารึกที่ครอบครองสองจารึกวิญญาณ!
 
ดังนั้นแล้ว แม้เป็นจ้าวสํานักก็ต้องไว้หน้าเขา!
 

Related

Nine Sun God King

Nine Sun God King

Qin Yun, fallen crown prince of Qin Empire. Inherits the martial legacy of nine sun world. The superb martial legacy in his arsenal, insane inscription techniques in his fingertips, surrounded by enemies and beauties abound. But Qin Yun is not satisfied, he wants to go beyond the nine suns into the great astral infinity, to become a GOD.

Options

not work with dark mode
Reset