ตอนที่ 816 : บ้านน้อยลึกล้ำโบยบิน

ตอนที่ 816 : บ้านน้อยลึกล้ำโบยบิน
 
ฉินหยุนเร่งรีบดึงนางลุกขึ้นพร้อมยิ้มกล่าว “พี่สาวหลิงหลง ประตูจารึกของข้าไม่มีพิธีการอันใด ท่านเพียงซื่อสัตย์ต่อประตูจารึกของเราก็พอแล้ว”
 
เจี้ยนหลิงหลงพยักหน้ารับ “เสี่ยวหยุน ข้าสามารถนําอักขระทั้งหมดที่เชี่ยวชาญออกมาแบ่งปันแก่เจ้าได้!”
 
ฉินหยุนกล่าว “อย่าได้รีบร้อนไป อนาคตยังอีกยาวไกล ภายหน้าข้าจะส่งต่ออักขระจํานวนมากแก่ท่านด้วย ว่าไปแล้ว จึงเหมิงเองก็น่าจะเชื่อฟังท่าน ดังนั้นน่าจะลักลอบชวนให้นางเข้าร่วมสํานัก ข้าขอฝากเรื่องนี้ให้แก่ท่านแล้ว หากนางตกลงเข้าร่วม เช่นนั้นนางก็จะเป็นหนึ่งในคนของประตูจารึก”
 
“เข้าใจแล้ว!” เจี้ยนหลิงหลงคิดอยู่ครู่ก่อนจะเอ่ยถามอีกครั้งหนึ่ง “จ้าวสํานัก เป้าหมายของประตูจารึกคืออันใดกัน?”
 
“เป้าหมายหรือ? ไม่ใช่ใหญ่โตอะไร เป็นการรวบรวมอักขระให้ได้มากที่สุด เพื่อที่จะได้เป็นสํานักที่เชี่ยวชาญอักขระจํานวนมากแห่งเก้าแดนอ้างว้าง!” ฉินหยุนกล่าวสิ่งที่ตนเองคิดออกไป
 
“เป้าหมายอันยิ่งใหญ่!” ใบหน้าเจี้ยนหลิงหลงเผยอาการตื่นตะลึง นางถอนหายใจกล่าว
 
เจี้ยนหลิงหลงเป็นสตรีดุร้ายร้อนแรง กระนั้น โฉมงามที่ร้อนแรงผู้นี้กลับมากมารยาทกับฉินหยุน และคนทั้งสองยังเข้ากันได้ดี ด้วยเหตุนี้ ฉินหยุนจึงส่งมอบอักขระดวงดาวและจันทราจํานวนหนึ่งให้แก่นาง
 
เจี้ยนหลิงหลงมีศักยภาพมากล้ำแต่เดิม แม้ไม่มีจารึกวิญญาณจ้าวเต๋า พรสวรรค์ของนางก็สูงล้ำ
 
ฉินหยุนภายหน้ายังต้องหาตัวอาจารย์จารึกมากพรสวรรค์มาเข้าร่วม เพื่อที่จะได้บุกฝ่าเข้าไปยังสุสานเซียนร่วมกัน ยังไม่ต้องกล่าวถึงสุสานเซียน คลายความลับอันลึกล้ำของแผนที่หลุมฝังเซียนคือสิ่งที่ต้องกระทําก่อน
 
จนกระทั่งถึงตอนนี้ ทั้งเขาและโมโมยังไม่อาจมองเห็นอักขระที่ภายใน ความลับที่ซุกซ่อนไว้ในแผนที่หลุมฝังเซียน มันสมควรเป็นแผนที่ซึ่งนําพาไปยังสถานที่ผนึกร่างศักดิ์สิทธิ์เซียนอสูรของเซี่ยฉีโหรว
 
หลายวันต่อมา ฉินหยุนและเจี้ยนหลิงหลงร่วมกันแกะสลักอักขระอยู่ตลอดทั้งวันและคืน พวกเขาเพียงพักผ่อนน้อยนิด เจี้ยนหลิงหลงยังได้ทราบ ว่าฉินหยุนครอบครองจารึกวิญญาณจ้าวเต๋าและจารึกวิญญาณนายหญิงจันทรา
 
ในเวลาเดียวกัน นางทั้งรู้สึกถึงและยินดี เพราะในภายหน้า เป็นไปได้มากว่านางจะสามารถได้รับจารึกวิญญาณที่มากขึ้น!
 
หากฉินหยุนต้องการขัดเกลาจารึกวิญญาณ เขาจําเป็นต้องใช้วิญญาณยุทธ์จํานวนมหาศาลล่าสุดครั้งที่ร่วมมือกับเชี่ยวเย่ว์เหม่ยขัดเกลาจารึกวิญญาณ ทั้งสองแทบใช้ที่เก็บสะสมไว้จนหมดสิ้น โชคดีที่ยังมีวิญญาณมังกรจึงสามารถทําได้สําเร็จ อันดับถัดไปที่ฉินหยุนต้องการขัดเกลา ย่อมต้องเป็นจารึกวิญญาณโทเทม
 
เจี้ยนหลิงหลงและฉินหยุนแกะสลักอักขระตะวันเก้าควบแน่น รวมถึงอักขระเต๋าทะยานกล้ำอยู่หลายชุด รวมถึงอักขระจันทราและดวงดาวลงบนกล่องสี่เหลี่ยม ทั้งหมดนี้ก็เพื่อช่วยเหลือการฝึกฝนและควบแน่นพลังงานขึ้นมา
 
“สิ่งนี้ช่างเป็นอุปกรณ์เต๋าที่ชวนสะพรึงนัก!” เจี้ยนหลิงหลงที่ลงแรงอยู่หลายวัน เวลานี้มองที่บ้านน้อยลูกบาศก์ตรงหน้า ยังอดไม่ได้ที่จะชื่นชมและนึกถึง
 
“สงสัยนักว่ามันจะใช้งานได้ดีเพียงใด!” ฉินหยุนกล่าว
 
“นครเซียนยุทธภัณฑ์ครอบครองต้นกําเนิดเซียนจํานวนมาก สิ่งนี้จะช่วยดูดกลืนพลังงานเซียนที่ปลดปล่อยออกจากต้นกําเนิดเซียน แปรเปลี่ยนพวกมันสู่พลังงานแข็งแกร่ง ที่จะช่วยให้เจ้าได้ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว!” เจี้ยนหลิงหลงเผยยิ้มกล่าวคํา
 
ไม่นานนัก เจี้ยนหลิงหลงจึงตั้งชื่อให้แก่อุปกรณ์วิเศษชิ้นนี้ นามคือบ้านน้อยลึกล้ำโบยบิน ฉินหยุนรู้สึกว่านามนี้ประหลาดไปบ้าง ทว่านามไม่ใช่สิ่งสําคัญ ที่สําคัญคือมันสามารถใช้ประโยชน์ ด้เพียงใดต่างหาก
 
“เสี่ยวหยุน ใช้สิ่งนี้ร่วมกับพี่สาวปิงชิง ได้ยินว่านางเชี่ยวชาญพระสูตรหัวใจตะวันจันทรา!” เจี้ยนหลิงหลงกล่าว
 
“ได้ ข้าคิดไปทดสอบกับนางเสียเดี๋ยวนี้ ท่านคิดไปด้วยหรือไม่?” ฉินหยุนเอ่ยถาม
 
“ยังไม่ไป ข้ายังต้องทําความคุ้นเคยกับอักขระจันทราและดวงดาวที่เจ้ามอบให้ก่อน” เจี้ยนหลิงหลงยึดเส้นร่างกายพลางกล่าว “ข้าคิดไปพักผ่อนด้วย”
 
“ พี่สาวหลิงหลง ลําบากท่านแล้ว!” ฉินหยุนยิ้มกล่าว
 
“จ้าวสํานักน้อยของข้า เหตุใดจึงต้องมากมารยาทกับข้าด้วย?” เจี้ยนหลิงหลงยิ้มอ่อนโยนกล่าวคํา
 
ฉินหยุนออกจากหอพิทักษ์กฎ กลับไปยังตําหนักพระราชวังเซียนยุทธภัณฑ์ ระหว่างทาง เขาได้เรียกหาเหยาเฟิง สอบถามนางว่าคิดอยากออกมาร่วมทดสอบของที่เพิ่งสร้างขึ้นมาด้วยกันหรือ
 
เหยาเฟิงคิดอยากพบเห็น ว่าอุปกรณ์ใหม่ที่ฉินหยุนสร้างขึ้นดีเยี่ยมเพียงใด ดังนั้นจึงตกลงภายในตําหนักพระราชวังเซียนยุทธภัณฑ์ ฉินหยุนยืนที่ริมสระเซียน นําเอาบ้านน้อยลึกล้ำโบยบินออกมา
 
เวลานี้ เหยาเพิ่งออกจากไข่มุกเม็ดที่สามของวิญญาณเทวะเก้าตะวัน นางสวมใส่หน้ากาก แม้ปิงชิงและฉินหยุนไม่ใส่ใจรูปลักษณ์เหยาเฟิง ทว่าตัวนางรู้สึกว่าการปิดบังใบหน้าต่อหน้าปิงชิงคือสิ่งจําเป็น ไม่อย่างนั้น ใจนางจะยิ่งเทียบเปรียบจนไม่อาจสงบใจลงได้
 
เหยาเฟิงมีเข็มผนึกวิญญาณเก้าสมบูรณ์ในครอบครอง ทว่าพวกมันไม่อาจใช้งานต่อเนื่อง ไม่อย่างนั้นแล้ว ฉินหยุนคงไม่จําเป็นต้องสร้างบ้านน้อยหลังนี้ขึ้นมา
 
ก็ตามชื่อของมัน บ้านน้อยหลังนี้ขนาดไม่ใหญ่ ด้วยฉินหยุน เหยาเฟิง และปิงชิงเข้าไปด้านในก็กล่าวได้ว่าแน่นแล้ว เหยาเฟิงคือผู้มาจากพระราชวังกวงหาน ดังนั้นย่อมทราบพระสูตรหัวใจตะวันจันทรา
 
ยิ่งไปกว่านั้น นางยังตอบสนองการฝึกฝนร่วมกับฉินหยุนได้ไม่แย่ แม้นางเกลียดชังฉินหยุนไม่ใช่น้อย กระนั้นตอนนี้ก็เริ่มยอมรับเขาขึ้นมาระดับหนึ่งแล้ว
 
เพราะหลังโดนคําสาปของจอมจักรพรรดิอสูรเซียน มันไม่ใช่ว่านางต้องชอกช้ำเพียงอย่างเดียว แต่กลับได้รับผลประโยชน์อันยิ่งใหญ่ นางยังสงสัย ว่าชาติภพก่อนของฉินหยุน คือผู้จงใจจัดฉากให้เกิดเรื่องราวขึ้น เพื่อให้นางต้องถูกคําสาปหาทางคว้าเอาพระสูตรโลกาวินาศเก้าสุริยันมาครอบครอง
 
บ่อยครั้งปิงชิงจะฝึกฝนร่วมกับฉินหยุน ดังนั้นนางจึงมีประสบการณ์ด้านนี้เป็นอย่างดีเยี่ยม ด้วยเหตุนี้ ปิงชิงจึงเป็นผู้นําการฝึกฝนร่วมในครั้งนี้
 
หลังจากที่ฉินหยุนเปิดการทํางานของบ้านน้อยลึกล้ำโบยบิน พลังงานประหลาดจึงเริ่มไหลทะลักเข้าหา พลังงานเซียนเก้าสี่กําลังไหลเวียนเป็นเส้นสายเห็นชัดที่ภายนอกบ้านน้อย กระนั้นที่ภายใน หยดน้ำเก้าสีจํานวนมากเริ่มหยาดหยดลงมา หลังจากหยดน้ำเก้าสร่วงหล่น พวกมันจึงถูกตะวันทมิฬของฉินหยุนดูดกลืนเข้าไป
 
ไม่นานจากนั้น เขาจึงเริ่มดูดกลืนพลังงานมหาศาลภายในร่างกาย ก่อนจะส่งถ่ายต่อไปยังปิงชิง และปิงชิงค่อยขัดเกลาพลังงานนี้ ทําให้แข็งแกร่งขึ้น ก่อนจะส่งถ่ายอีกครั้งไปยังเหยาเฟิง
 
หลังจากที่เหยาเพิ่งได้รับพลังงานดังกล่าวมา นางจึงโคจรภายในร่างด้วยพระสูตรหัวใจตะวันจันทรา หลังมันเพิ่มพูนแข็งแกร่งเพียงพอแล้ว นางจะส่งถ่ายกลับไปยังฉินหยุน ปิงชิงและเหยาเฟิง กล่าวได้ว่าเก่งกาจทัดเทียมราชันเซียน ด้วยพวกนางช่วยเหลือฉินหยุนฝึกฝน ทุกสิ่งอย่างจึงราบลื่นง่ายดาย
 
ฉินหยุนสัมผัสได้ถึงพลังงานที่ไหลเวียนมาจากเหยาเฟิง เขาอดไม่อยู่จนแทบตัวสั่น ร่างกายเวลานี้รู้สึกราวกับจะฉีกออกเป็นชิ้นโดยมวลพลังงาน มันแข็งแกร่งและดุดันอย่างมหาศาล
 
ก่อนหน้า เขาเคยฝึกฝนร่วมกับสตรีหลายคนมาก่อน กระนั้น แข็งแกร่งที่สุดตอนนั้นก็เป็นจักรพรรดิยุทธ์เช่นเจี้ยนหลิงหลง ทว่าตอนนี้ ทั้งปิงชิงและเหยาเฟิงต่างอยู่ระดับราชันเซียน
 
“เสี่ยวหยุน สตรีสองนางนี้เดิมเกลียดชังเจ้าเป็นล้นพ้น ครานี้เชื่อใจเจ้ามากมายเพียงนี้ และยังร่วมฝึกฝนกับเจ้า เห็นได้ชัดว่าพวกนางมีความรู้สึกต่อเจ้าฝังลึกอยู่ในใจ!” หลิงหยุนเอ๋อกล่าวพลางหัวเราะคิกคัก “ข้าต้องกล่าวเลยว่า ชาติภพก่อนหน้าของเจ้ามีพรสวรรค์อย่างแท้จริง ถึงขั้นละเล่นกับเซียนหญิงที่เก่งกาจมากมายเหล่านี้ได้ครั้งแล้วครั้งเล่า!”
 
แม้ฉินหยุนเกลียดชังตัวตนลวงโลกของตนเองในชาติภพก่อน แต่เมื่อคิดให้ดีก็พบว่าชาติภพก่อนของตนมีความสามารถจริง เขาถึงขั้นสามารถครอบครองกลุ่มสตรีที่ชื่นชอบและเกลียดชังไปในเวลาเดียวกันได้
 
ภายในเวลาครึ่งชั่วยาม ฉินหยุนปรับตัวรับพลังงานประหลาดอันแข็งแกร่ง ตะวันทมิฬของเขา รวมถึงร่างเซียนอสูร ต่างหิวกระหายดูดกลืนพลังงานพร้อมวิวัฒนาการตนเองอย่างคลุ้มคลัง
 
“พี่สาวเหยาเฟิง ท่านและข้าในชาติภพก่อนเคยฝึกฝนร่วมกันหรือ?” ฉินหยุนพลันเอ่ยถาม
 
“พวกเราฝึกฝนร่วมกันหลายครั้งครา!” เหยาเพิ่งตอบกลับมาตามตรง “ชาติภพก่อนของเจ้ามักละเล่นกับสตรีทั้งหลายจากพระราชวังกวงหาน ล่อลวงให้พวกนางฝึกฝนร่วมด้วย ทําให้ตัวเจ้ามีความคืบหน้าก้าวทะยานมหาศาลจนแข็งแกร่งขึ้นมา!”
 
“ชาติภพนี้ข้าไม่ได้ล่อลวงท่าน กระนั้นท่านก็ยังยินดีฝึกฝนร่วมกับข้า!” ฉินหยุนหัวเราะกล่าว
 
“หากเจ้ายังกล้ากล่าว เชื่อหรือไม่ว่าข้าจะทุบตีเจ้าจนตายตก!” เหยาเฟิงแค่นเสียงเย็นชากล่าวคําออก เห็นได้ชัด นางเป็นกังวลว่าฉินหยุนจะคิดถึงเรื่องนี้มากจนเกินไป
 
“ฉินหยุน ชาติภพนี้เจ้าต้องรับผิดชอบหนักหนายิ่งนัก เจ้าต้องช่วยเหลือพี่ฉีโหรวหลบหนีออกมาจากผนึก ช่วยเหลือพี่เหยาเฟิงจากคําสาป ยิ่งไปกว่านั้น ยังต้องสร้างพระราชวังกวงหานกลับคืนขึ้นมาใหม่! และยังมีที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น คือการจบเรื่องราวกับจอมจักรพรรดิเซียนอ้างว้าง!” ปิงชิงกล่าว
 
“พี่สาวปิงชิง ด้วยคําพูดของท่านเช่นนี้ กลับกลายเป็นแรงกดดันแก่ข้าหนักหนายิ่งนัก!” ฉินหยุนยิ้มขึ้นขมตอบรับ
 
“ด้วยเหตุนั้น พวกเราจึงจะช่วยเหลือเจ้า!” ปิงชิงแค่นเสียงเบา “ชาติภพนี้ เจ้าสามารถได้รับความไว้เนื้อเชื่อใจของพวกเรากลับคืน เพราะเจ้าคือความหวังเดียวของพวกเรา!”
 
ฉินหยุนคิดถึงเรื่องนี้ รู้สึกว่าตนเองได้รับความช่วยเหลือจากปิงชิงและคณะอย่างใหญ่หลวงแท้จริง และสิ่งที่เขาห่วงหามากที่สุด คือการสืบหาว่าตัวเขาในชาติภพก่อนไปสร้างเรื่องอันใดเอาไว้
 
เซี่ยฉีโหรวทราบเรื่องราวเหล่านี้มากมาย ทว่าไม่คิดกล่าวถึง ฉินหยุนหลับตาหลง เริ่มเข้าสู่กระบวนการฝึกฝน มือที่เกาะกุมปิงชิงและเหยาเพิ่งไว้กระชับแน่น ด้วยเหตุผลอันใดไม่ทราบ อย่างกะทันหัน เขาพลันรับรู้ถึงความรู้สึกอันคุ้นเคย
 
เมื่อเขาเกิดความรู้สึกคุ้นเคยเช่นนี้ขึ้น หลิงหยุนเอ๋อจึงกล่าวคํา “เสี่ยวหยุน ความทรงจําในชาติภพก่อนของเจ้า กําลังเผยสัญญาณการตื่นรู้ขึ้นมา!”
 
“จริงหรือ?” ฉินหยุนกลายเป็นกังวล “หากข้าตื่นรู้ความทรงจําพวกนั้นขึ้นมาตอนนี้จะเกิดอันใดขึ้น?”
 
“เป็นเพียงการส่งสัญญาณแจ้งบอก เป็นที่ชัดเจนนัก ว่าเจ้าและสตรีทั้งสองคนนี้ในชาติภพก่อนเกี่ยวข้องกันอย่างลึกล้ำ เพราะอย่างนั้นมันถึงทําให้เจ้าเกิดความรู้สึกอันคุ้นเคยเช่นนี้ขึ้นมา!” หลิงหยุนเอ๋อถอนหายใจกล่าว
 
“เจ้ากําลังจะบอก ว่าชาติภพก่อนของข้าไม่ใช่ตัวบัดซบไร้หัวใจอย่างนั้นหรือ?” ฉินหยุนยิ้มถาม
 
“ความทรงจําชาติภพก่อนของเจ้าซุกซ่อนในจิตวิญญาณ ไม่ช้าก็เร็วมันต้องตื่นขึ้น ถึงตอนนั้นทุกเรื่องราวจะกระจ่างชัดเอง!” หลิงหยุนเอ๋อตอบกลับ
 
ปิงชิงและเหยาเฟิงต่างอดทนร่วมฝึกฝนกับฉินหยุน ผลลัพธ์ที่บ้านน้อยลึกล้ำโบยบินนําพาถือว่าดีเยี่ยม มันเหนือล้ำยิ่งกว่าที่ฉินหยุนคาดหวังไว้ด้วยซ้ำ
 
ที่ขอบเขตวรยุทธ์ลึกล้ำระดับสูงสุด พลังเต๋าอันแหลมคมจะไหลเวียนสู่ภายนอก เกิดขึ้นเป็นพลังเต๋าอันแกร่งกล้า ทั้งยังสามารถทําให้พลังเต๋าอันแหลมคมที่แข็งแกร่ง แปรเปลี่ยนเป็นร่างจําแลงขึ้นมา
 
เมื่อใดขอบเขตวรยุทธ์ลึกล้ำระดับสูงสุดปลดปล่อยพลังเตําลึกล้ำออกอย่างเต็มกําลัง ปลายหอกอันแหลมคมที่เผยออกจะเปรียบดังลูกธนูจํานวนนับไม่ถ้วนถูกยิงออก พวกมันคือพลังอันชวนสะพรึง
 
พลังเต่ลึกล้ำ มันคือการผสานรวมกันของพลังงานอันแข็งแกร่งนานาชนิด ก่อนจะปลดปล่อยออกมาโดยอาศัยพลังจิตและพลังในแก่นเต๋า โดยเฉพาะเมื่อใดก้าวถึงขอบเขตวรยุทธ์ลึกล้ำระดับสูงสุด พลังเต่ลึกล้ำจะพุ่งทะยานขึ้นถึงขีดสุด
 
ฉินหยุนเวลานี้สัมผัสได้ ว่าพลังเตําลึกล้ำภายในร่างเริ่มรุนแรงและดุดันมากขึ้น มันกําลังทะลักออกจากตะวันทมิฬและไหลเวียนไปทั่ว
 
ตึก ตึก ตึก!
 
ร่างกายฉินหยุนพลันตอบสนอง พลังเต่ลึกล้ำน่าเกรงขามทะลักออกเกิดขึ้นเป็นปลายหอกแหลมคม มันห้อตะบึงออกมาราวกับฝีเท้าม้านับหมื่นเหยียบย่ำ
 
“เจ้าก้าวสู่อีกขั้นแล้ว!” ปิงชิงกล่าว
 
“ขอบเขตวรยุทธ์ลึกล้ำระดับสูงสุด พลังเต่ลึกล้ำปลายหอกอันแหลมคมที่ปล่อยออกมา มันมาพร้อมกับการเคลื่อนไหวรุนแรง!” เหยาเชิงกล่าว
 
ฉินหยุนใช้เวลากว่าสิบวันจึงก้าวหน้า รวมเข้ากับเวลาที่ใช้สร้างบ้านน้อยลึกล้ำโบยบิน แทบหนึ่งเดือนได้ผ่านพ้น กระนั้น ก็ยังกล่าวได้ว่าความคืบหน้าของเขานี้รวดเร็วมหาศาล!
 
เหยาเพิ่งกลับสู่ไข่มุกเม็ดที่สามของวิญญาณเทวะเก้าตะวัน ปิงชิงเองก็ออกจากบ้านน้อยลึกล้ำโบยบิน
 
“ข้าจะไปดูเฉียวเฟิงเสียหน่อย” ปิงชิงกล่าว
 
“ข้าขอไปเดินเล่นสูดอากาศ” ฉินหยุนเก็บบ้านน้อยลึกล้ำโบยบิน ก่อนจะเดินออกจากตําหนักพระราชวังเซียนยุทธภัณฑ์ มุ่งหน้าไปยังหอพิทักษ์กฎ
 
ขณะถึงที่หอพิทักษ์กฏ เขาจึงได้เห็นศิษย์ผู้หนึ่งถูกแบกหามกลับมาโดยกลุ่มคนของแม่เฒ่าหม่า
 
“ท่านยายหม่า นี่เกิดเรื่องอันใดขึ้น? พระราชวังเซียนยุทธภัณฑ์ของเรามีงานประลองยุทธ์หรือ?” ฉินหยุนพลันเอ่ยถาม
 
“ไม่ใช่ แต่เป็นแขกมาเยือน พวกเขาตั้งใจมาท้าประลองยุทธ์ต่อศิษย์ของเราแลกเปลี่ยนฝีมือชี้แนะ ผู้ใดทราบว่าอีกฝ่ายถึงขั้นลงมือหนักหนาเพียงนี้!” กล่าวถึงเรื่องนี้ แม่เฒ่าหม่ายิ่งมีโทสะ
 
“เป็นเช่นนั้น? ให้ข้าไปสะสางหนี้ครั้งนี้ให้เอง!” ฉินหยุนลูบหมัดตนเองอย่างคันไม้คันมือเผยยิ้มกล่าวคํา
 

Related

Nine Sun God King

Nine Sun God King

Nsgk, 九阳神王
Score 5.8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2015 Native Language: Chinese
Qin Yun, fallen crown prince of Qin Empire. Inherits the martial legacy of nine sun world. The superb martial legacy in his arsenal, insane inscription techniques in his fingertips, surrounded by enemies and beauties abound. But Qin Yun is not satisfied, he wants to go beyond the nine suns into the great astral infinity, to become a GOD.

Options

not work with dark mode
Reset