ตอนที่104 พ่อตีแม่ตั้งแต่เมื่อไหร่?

บทที่ 104 พ่อตีแม่ตั้งแต่เมื่อไหร่?

หลินชิงเหอตัดสินใจอย่างเด็ดขาดว่าจะไปโรงพยาบาลด้วยตัวเองในตอนที่เธอเดินทางเข้าอำเภอเพื่อไปขายเนื้อหมู!

ในตอนนี้เธอเชื่อว่ามันไม่น่าจะมีปัญหา เธอไม่มีวี่แววว่าจะตั้งครรภ์มานานแล้วถูกไหม?

หรือครั้งหน้าเธอควรจะไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจร่างกายว่ามีปัญหาหรือไม่ดี?

เช้าวันต่อมาหลินชิงเหอก็หลับเป็นตาย ทั้งหมดเป็นเพราะหมาป่าโจวชิงไป๋นั่นนอนทับร่างเธอไว้และเริ่มทำอีกครั้ง

ที่เขาบอกว่าแค่กอดน่ะมันก็ข้อแก้ตัวเท่านั้นแหละ

อีกอย่างเธอไม่ได้บอกว่าจะไม่คลอดลูกนี่ เธอจะทำอย่างไรล่ะถ้าตัวเองท้องไม่ได้?

พลังจากเส้นเรื่องเดิมยังคงอยู่ หรือว่าเป็นเพราะเรื่องนี้กันนะ? เรื่องที่ว่าในนิยายเรื่องนี้ ลูกชายวายร้ายทั้งสามไม่มีน้องสาว

หลายวันต่อมาในเดือนแรกของปีใหม่ช่างน่าพอใจไม่น้อย

เมื่อหลินชิงเหอไม่มีอะไรจะทำ เธอก็ทำของกินอร่อย ๆ ให้เด็กชายทั้งสาม อย่างเช่นหมั่นโถวถั่วแดง

เธอแช่ถั่วแดงไว้ในน้ำให้นิ่ม จากนั้นก็นึ่งกับน้ำตาลกรวดและบดจนมันเป็นเนื้อเนียนละเอียดเหมือนโคลน จากนั้นก็ใส่ถั่วแดงบดไว้เป็นไส้ในหมั่นโถว กลายเป็นหมั่นโถวถั่วแดงอันแสนอร่อย

มันให้ความรู้สึกเหมือนกับจีต้านเกา(1)ถั่วแดง ซึ่งหลินชิงเหอรู้สึกชอบไม่น้อย

ในวันที่สิบห้าของเดือนแรกทางจันทรคติ พวกเขาจะได้ทานเกี๊ยวสำหรับเทศกาลโคมไฟ แล้วเธอก็จะทำขนมบัวลอยแบบจีนตอนใต้ด้วย

ขนมบัวลอยสอดไส้งาดำถือว่าเป็นยอดขนมหวานอันเลิศรส

หลังเทศกาลโคมไฟผ่านไป หลินชิงเหอก็เดินทางเข้าอำเภอในวันนี้เพื่อระบายขายเนื้อหมู เธอบอกโจวชิงไป๋ว่าจะไปเยี่ยมโจวเสี่ยวเม่ย ซึ่งเขาก็ไม่ได้ห้ามเธอ หญิงสาวจึงเดินทางมาคนเดียว โดยให้ผู้เป็นสามีอยู่ดูแลลูก ๆ ที่บ้าน

หลังเธอขายเนื้อหมูแล้ว หญิงสาวก็มุ่งหน้าไปที่โรงพยาบาล

เธอมาเพื่อซื้อเครื่องป้องกันกับมาตรวจร่างกาย

“คุณมาแล้วเหรอคะ ทำไมคุณถึงไม่มาตรวจซ้ำในตอนที่ฉันบอกให้คุณมาล่ะคะ?” เมื่อเธอมาหาหัวหน้าหมอสูตินรีเวช หล่อนก็ถามเธอในทันที

หลินชิงเหอนิ่งไปครู่หนึ่ง เมื่อมองหัวหน้าหมอสูตินรีเวชแล้ว ภาพใบหน้าอันคุ้นเคยของหล่อนก็ปรากฏในความทรงจำ

เธอจำหัวหน้าหมอคนนี้ได้

“ฉันยุ่งมากน่ะค่ะเลยไม่มีเวลาได้มาตรวจ” หลินชิงเหอวางท่าทางเป็นปกติพลางพยักหน้า

“ตอนนี้ไม่จำเป็นต้องตรวจร่างกายซ้ำแล้วล่ะ คุณน่าจะฟื้นตัวดีแล้ว” หัวหน้าหมอสูตินรีเวชวินิจฉัยจากรูปลักษณ์ของเธอแล้วก็พยักหน้า

“ฉันเกือบลืมคุณไปแล้วค่ะคุณหมอ ตอนที่ฉันมาก็ต้องสอบถามหาคุณจากคนอื่นอยู่เรื่อย แต่ไม่คิดเลยว่าในโรงพยาบาลที่มีคนเข้าออกพลุกพล่านแบบนี้คุณหมอจะยังจำฉันได้อยู่”หลินชิงเหอกลั้วหัวเราะ

“ฉันทำงานมานานหลายปีและจำได้ว่ามีแค่คุณคนเดียวเท่านั้นแหละค่ะที่มาทำหมัน ยิ่งกว่านั้นคนสวยอย่างคุณทำไมฉันจะจำไม่ได้ล่ะคะ?” หัวหน้าหมอสูตินรีเวชหัวเราะ

คำพูดนี้ฟังราวกับฟ้าผ่าอันน่ากลัวได้ผ่าลงในใจของเธอ ส่งผลให้หญิงสาวอึ้งไป

หลังจากนั้นไม่นานนัก ความทรงจำที่เก็บไว้ในส่วนลึกของเจ้าของร่างเดิมก็ปรากฏ มันไม่มีเรื่องกระตุ้นใด ๆ มาก่อน เธอเลยไม่รู้ว่าเจ้าของร่างเดิมผ่านการทำหมันมา!

แต่หลินชิงเหอก็จำเส้นเรื่องของเรื่องเดิมได้เหมือนกัน หลังจากที่เจ้าของร่างเดิมหนีตามชายชั่วเฉินซานนั่นไปแล้ว เธอก็ถูกเขาปฏิเสธและทอดทิ้งเพราะว่ามีลูกให้เขาไม่ได้

ตอนนั้นเธอไม่ได้คิดอะไรมาก เลยไม่เคยคิดว่าเจ้าของร่างเดิมไปทำหมันมา!

เมื่อถูกหัวหน้าหมอสูตินรีเวชเอ่ยกระตุ้น ความทรงจำในเรื่องนี้ของเธอก็ผุดขึ้น

เพราะเจ้าของร่างเดิมให้กำเนิดลูกชายสามคนกับตระกูลโจวแล้ว เธอจึงรู้สึกมั่นคงและไม่จำเป็นต้องมีลูกเพิ่มอีก กล่าวก็คือเธอเป็นคนหัวก้าวหน้าทีเดียวที่ตัดสินใจไปทำหมัน แล้วก็ทำสำเร็จเสียด้วย

แต่เธอเลือกเดินทางผิดและจบลงด้วยการมีจุดจบเช่นนั้น

ทว่าเรื่องสำคัญก็คือตอนนี้เจ้าของร่างเดิมทำหมันไปแล้ว เธอจะบอกเรื่องนี้กับโจวชิงไป๋อย่างไรดีล่ะ? เขาอยากได้ลูกสาวมากนะ

เมื่อรู้ว่าร่างนี้ทำหมันไปแล้วเธอก็ใจเย็นลง ตอนนี้เธอไม่ต้องใช้ถุงยางอนามัยอีกแล้ว เพราะชั่วชีวิตนี้เธอจะไม่ตั้งครรภ์อีกเลย

หลินชิงเหอไม่ได้อยู่นานนักก่อนที่เธอจะกลับบ้าน และแน่นอนว่าเธอซื้อผ้ามาบางส่วนก่อนกลับด้วย ซึ่งผ้าพับนี้เธอตั้งใจว่าจะตัดชุดให้ตัวเอง แล้วก็ต้องตัดเสื้อผ้าอีกชุดให้โจวชิงไป๋ด้วย ส่วนเด็ก ๆ นั้นไม่ต้องตัดเพิ่มแล้ว ในเมื่อเสื้อผ้าชุดเดิมที่ตัดให้มีขนาดใหญ่กว่าขนาดตัวนั้นยังใส่ได้อยู่

ในเย็นวันนั้นเองโจวชิงไป๋ก็อยากทำการบ้านอีกครั้ง แต่ครั้งนี้หลินชิงเหอปล่อยให้เขาทำตามชอบ ความจริงแล้วเธอชอบทำการบ้านแบบนี้มาก โดยเฉพาะสามีของเธอช่างสมชายชาตรีนัก ทำให้เธอรู้สึกถึงความเป็นหญิงสาวอย่างเต็มตัว

โจวชิงไป๋ถึงกับประหลาดใจเล็กน้อย หลังทำการบ้านเสร็จเขาก็ถามเธอ “คุณไม่ได้ไปซื้อของนั้นมาเหรอ?”

“ของนั่นคืออะไรคะ?” หลินชิงเหอยังนึกไม่ออก

“ของที่คุณตั้งใจไปรับในโรงพยาบาลน่ะ” โจวชิงไป๋บอก

หลินชิงเหอได้สติในทันทีและยิ้มตอบ “ฉันไม่ได้บอกคุณเหรอคะว่าไปเยี่ยมเสี่ยวเม่ย? ฉันบอกว่าจะไม่ซื้อแล้วก็คือไม่ซื้อไงล่ะคะ” เธอไม่ต้องการของสิ่งนั้นอีกแล้ว ถ้าเขามีความสามารถทำให้เธอท้องได้ เธอก็จะคลอดลูกให้ เธอเป็นคนรักษาสัญญานะ!

เห็นหญิงสาวกล่าวแบบนี้แล้ว โจวชิงไป๋ก็เดาว่าเธอเห็นด้วยแล้ว เขาจึงมีท่าทางยินดีอย่างเห็นได้ชัด พอรู้สึกยินดีขึ้นมา เขาก็ทำการบ้านกับเธออีกรอบ

วันต่อมาหลังจากที่เขาทำการบ้านไป หลินชิงเหอก็มีรอบเดือนพอดี

สีหน้าของชายหนุ่มทำให้หญิงสาวอยากจะหัวเราะ

“ไม่เป็นไรนะคะ ฉันสัญญาค่ะว่าจะคลอดลูกให้ถ้าเกิดท้องแล้ว อย่าทำหน้าแบบนั้นใส่ฉันสิคะ” หลินชิงเหอลูบใบหน้าของเขาพลางเอ่ยปลอบ

โจวชิงไป๋ไม่เข้าใจเลย คราวที่ผ่านมาเขาก็ทำให้เธอท้องได้อย่างง่ายดาย หลายปีในช่วงนั้นที่เขากลับมาแทบจะไม่ถึงเดือน เธอก็คลอดลูกชายให้เขาถึงสามคน

ตอนนี้เขาอยู่บ้านและขยันทำการบ้านทุกคืน แต่เธอกลับไม่ตั้งท้อง

หลินชิงเหอปล่อยให้เขาอยู่ตามลำพัง และในที่สุดก็พักผ่อนได้ ตั้งแต่เริ่มเก็บตัวในช่วงฤดูหนาวมา ดูเหมือนว่าเธอจะสามารถหลับสนิทได้แค่สองสามวันในทันทีที่รอบเดือนของเธอมาสินะ?

ส่วนวันที่เหลือเธอต้องทำการบ้านตลอด

หลินชิงเหอรู้สึกเขินขึ้นมาหน่อย ๆ ในชีวิตชาติก่อนเธอไม่มีประสบการณ์ในเรื่องแบบนี้เลย มันยิ่งกว่าพรจากสวรรค์เสียอีกที่ได้มาเจอผู้ชายแบบนี้ในชีวิตนี้!

หรือมันเป็นการชดเชยที่ชีวิตชาติก่อนของเธอไม่มีผู้ชายเข้ามากันนะ?

หลินชิงเหอที่ตกอยู่ในความอิ่มเอมใจพับเรื่องนี้ไว้และกลับเข้าไปในห้องเพื่อตัดเสื้อผ้าชุดใหม่

เจ้าใหญ่เห็นแล้วก็มาห้อมล้อมรอบ ๆ “แม่จะตัดชุดใหม่ให้ผมเหรอครับ?”

“แม่ ผมอยากได้ด้วย” เจ้ารองแทรกขึ้นมา

“เสื้อใหม่” เจ้าสามเข้ามาร่วมวงด้วย

หลินชิงเหอบอกปัดอย่างไม่ใยดี “หยุดเลยนะ ลูกมีเสื้อผ้าแล้วทำไมแม่ต้องตัดให้ใหม่ล่ะ? แม่จะตัดเสื้อให้ตัวเอง พ่อของลูกก็จะได้อีกชุดหนึ่งด้วย”

“แม่ลำเอียง พ่อได้เสื้อใหม่แต่เราไม่ได้ เราเองก็อยากได้เหมือนกันนะครับ!” เจ้ารองงอแง

“ผมด้วย” เจ้าสามเกาะแน่นขึ้นและยืนกราน

“อยากได้อะไร? กังเถี่ยมีเสื้อผ้าแค่ชุดเดียว ไม่เหมือนลูกที่มีเสื้อผ้าใส่สองชุดนี่ไม่ใช่เหรอ?” หลินชิงเหอพูด

กังเถี่ยที่ว่าคนนี้ก็คือเพื่อนของเจ้ารอง

เจ้ารองได้ยินก็น้อยใจ เช่นเดียวกับเจ้าสาม

“พ่อตีแม่นะครับ แล้วแม่ยังต้องตัดชุดให้พ่ออีกเหรอ?” เจ้าใหญ่ที่เงียบไปนานก็เอ่ยคำพูดน่าตกใจออกมา

หลินชิงเหออึ้งไปครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยถาม “พ่อตีแม่ตั้งแต่เมื่อไหร่น่ะ?”

“แม่อย่าปิดบังผมเลย ผมได้ยินพ่อตีแม่เมื่อคืนนี้ แล้วแม่ก็ไม่กล้าส่งเสียงเรียก ผมง่วงนอนเกินไป ผมอยากจะตื่นแต่ก็ตื่นไม่ได้” เจ้าใหญ่พูด

ทันใดนั้นเองหลินชิงเหอก็หน้าแดง ประจวบเหมาะกับโจวชิงไป๋เข้ามาในห้องพอดี

เจ้ารองกวาดสายตาแข็งกร้าวใส่เขาในทันที “พ่อตีแม่ผมทำไม!”

โจวชิงไป๋อึ้งไป “พ่อไปตีแม่ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?”

“พ่อยังจะโกหกอีกเหรอ พี่ใหญ่ได้ยินหมดเลยว่าพ่อตีแม่เมื่อคืนนี้ แล้วแม่ก็ไม่กล้าส่งเสียงร้อง!” เจ้ารองเอ่ยเป็นเหตุเป็นผลอย่างชาญฉลาด

…………………………………………………………………………………

(1)- สปันจ์เค้กของจีน แต่ใช้วิธีการนึ่งให้สุกแทนการอบ (ภาพจาก https://whattocooktoday.com/traditional-ji-dan-gao.html)

สารจากผู้แปล

โถๆๆ ตอนนี้พ่อคงสะเทือนใจหนักเลยค่ะ นึกว่าตัวเองไร้น้ำยา แต่ที่ไหนได้แม่ทำหมันมาแล้ว คงต้องรอปาฏิหาริย์แล้วล่ะค่ะ

เด็ก ๆ จ๊ะ พ่อไม่ได้ตีแม่หรอกจ้ะ พ่อกำลังจะทำน้องสาวให้พวกหนูต่างหาก

พ่อไม่เบาเลยค่ะ ทุกคืนคือทุกคืน พ่อจะได้ลูกสาวตอนไหน หรือไตพ่อจะพังก่อน มาลุ้นกันในตอนต่อ ๆ ไปนะคะ

ไหหม่า (海馬)

Comment

Options

not work with dark mode
Reset