ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี – บทที่ 615 เยี่ยนจ้าวเกอ ตำนานที่ยังมีชีวิต

เมื่อได้ยินคำพูดของหลูเฟิง เยี่ยนจ้าวเกอพยักหน้าอย่างเรียบเฉย “เจ้าสำนักหลูกระตือรือร้นเช่นนี้ ข้าย่อมไม่คัดค้าน”

หลูเฟิงกล่าวอย่างจริงจัง “เชิญ”

ทุกคนเดินทางต่ออีกครั้ง แต่ว่าคนของสำนักคืนวิญญาณในยามนี้จิตใจกลับแตกต่างจากก่อนหน้านี้โดยสิ้นเชิง

ลูกศิษย์อายุน้อยในตอนนี้ทั้งฮึกเหิมทั้งกังวล ดวงตาที่มองเยี่ยนจ้าวเกอเต็มไปด้วยความเร่าร้อน ส่วนผู้ที่อายุมากซึ่งมีวัยวุฒิค่อนข้างสูงต่างนิ่งไตร่ตรอง รีบส่งกระแสเสียงกับเจ้าสำนักของตนเพื่อสนทนาขอความเห็น

ส่วนลูกศิษย์เขากว่างเฉิงส่วนใหญ่แล้วเพียงฟังกับมองดู ไม่เคลื่อนไหวและไม่กล่าววาจา เพียงติดตามเยี่ยนจ้าวเกอเงียบๆ

ทว่าจิตใจของพวกเขายามนี้มีอความคิดมากมายเกิดขึ้น

คนที่พูดขึ้นเป็นคนแรกคือซือคงจิง หญิงสาวที่แต่ไหนแต่ไรมาพูดจาน้อย

เห็นนางคิดจะเอ่ยวาจา บนตัวร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกของเยี่ยนจ้าวเกอก็มีกระแสปราณเปิดออก ประกอบกันเป็นม่านสิ่งกีดขวางไร้รูปร่าง กั้นระหว่างคนของตนกับคนของสำนักคืนวิญญาณ ทำให้เสียงไม่อาจหลุดออกมา

ตอนแรกซือคงจิงคิดจะใช้ปราณจิตราส่งกระแสเสียง เมื่อเห็นดังนั้นก็ถามตรงๆ “ศิษย์พี่เยี่ยน วรยุทธ์ที่ท่านใช้เมื่อครู่?”

เยี่ยนจ้าวเกอสีหน้าไม่แปรเปลี่ยน “กระบวนท่าสายวรยุทธ์แท้ ชื่อคัมภีร์หมัดวรยุทธ์แท้”

“การขุดค้นโบราณสถานมากมายในอดีต ทำให้ได้รับคัมภีร์ชำรุดมา แต่พัฒนาไม่สำเร็จ กลับเป็นเพราะการฆ่าจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์สำนักแสงสว่างในครั้งนี้ จึงได้วิชาที่ค่อนข้างสมบูรณ์มาจากคนคนหนึ่ง”

“นับเป็นหนึ่งในวรยุทธ์สายตรงของสายวรยุทธ์แท้ ค่อนข้างมีประโยชน์”

ซือคงจิงพยักหน้า “ลึกล้ำจริงๆ วรยุทธ์ของสำนักคืนวิญญาณและเกาะงูเขียวของโลกผืนสมุทรเมื่อครู่มองเห็นเพียงน้อยนิด ก็รู้แล้วว่าไม่ธรรมดา ทว่าคัมภีร์หมัดวรยุทธ์แท้ของศิษย์พี่เยี่ยนท่านเหนือกว่าอย่างไม่ต้องสงสัย”

ฟู่เอินซูมองพวกหลูเฟิงแวบหนึ่ง จากนั้นก็มองไปยังเยี่ยนจ้าวเกอ ถามว่า “เจ้าคิดจะใช้วรยุทธ์นี้ดึงพวกเขามาเป็นพวกหรือ?”

เยี่ยนจ้าวเกอยิ้ม “ตอนนี้สำนักเราไม่คิดจะยกทัพเข้าโลกผืนสมุทร ข้าเองก็ไม่มีความคิดจะก่อปัญหาที่นี่ ยิ่งไปกว่านั้น ครั้งนี้ยังพาศิษย์ร่วมสำนักจำนวนหนึ่งมาด้วย เนื่องจากแปดพิภพปลอดภัยเกินไป หวังว่าจะรับการเคี่ยวกรำในโลกผืนสมุทรได้มากๆ”

“แต่ว่าอีกไม่นานข้าจะต้องไปยังโลกซ้อนโลก เมื่ออยู่ที่นี่สำนักเราไม่มีจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์หรืออาวุธศักดิ์สิทธิ์คอยปกป้อง เขาหงส์วิเศษถึงอย่างไรก็เป็นคนนอก ช่วยผู้คนไม่สู้ช่วยตัวเอง มีการเตรียมการบางอย่างที่ต้องทำเพื่อป้องกันเรื่องที่จะเกิดขึ้น”

“ความคิดของท่านถูกต้องยิ่ง” ฟู่เอินซูพยักหน้าเล็กน้อย

คนของเขากว่างเฉิง บางคนมีสีหน้าเข้าใจ มีบางคนยังคงสับสน

ฟู่เอินซูมองพวกเขาแวบหนึ่ง “จ้าวเกอมอบบทเรียนให้แก่คนของสำนักคืนวิญญาณ เหตุไฉนจะไม่มอบให้พวกเจ้า?”

ทุกคนครุ่นคิดพร้อมกัน ฟู่เอินซูอธิบายต่อ “ก่อนจะมาที่นี่ ก็เคยบอกพวกเจ้าถึงสถานการณ์ในอดีตของโลกผืนสมุทรแล้ว แต่ว่าหลังจากผ่านการเปลี่ยนแปลงติดต่อกัน สถานการณ์ก่อนหน้านี้ก็แตกต่างไปจากเดิมมาก”

“ในอดีต เจ็ดกลุ่มฝ่ายธรรมะอย่างเขาหงส์วิเศษ สำนักคืนวิญญาณ ต่างก็ปรองดองกับวังผลึกวารี ทั้งสามสำนักรวมพลังกัน คอยคุมเชิงกับสำนักมังกรโลหิต บึงหมื่นกระบี่ เกาะจิตประสาน และสำนักพายุโหม”

“ในปัจจุบัน สำนักมังกรโลหิตถูกทำลาย เกาะจิตประสานไม่อาจฟื้นขึ้นมา พลังของเขาหงส์วิเศษกลับเพิ่มขึ้นอย่างใหญ่หลวง เจ้าสำนักเกาเทียนจงยิ่งเลื่อนจากขั้นบรรลุธรรมสู่ระดับศักดิ์สิทธิ์ กลายเป็นจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่ด้อยไปกว่าราชาวังผลึกวารีหลินซื่อ ทั้งไม่เกรงกลัวกระบี่ล่องลอยอันเป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์ของบึงหมื่นกระบี่ด้วย”

ฟู่เอินซูพูดจาฉะฉาน “ความสัมพันธ์ระหว่างสำนักใหญ่ไม่เหมือนในอดีตอีกแล้ว”

คนของเขากว่างเฉิงเข้าใจ “ความสัมพันธ์ระหว่างเขาหงส์วิเศษและวังผลึกวารีจะต้องเปลี่ยนจากร่วมมือเป็นยืนตรงข้าม พวกเราคบหากับเขาหงส์วิเศษ การกระทำของศิษย์พี่เยี่ยนเท่ากับดึงสำนักคืนวิญญาณจากวังผลึกวารีไปฝั่งเขาหงส์วิเศษ”

อาจารย์หญิงพยักหน้า “ถูกต้อง เป็นเพราะเหตุนี้เอง การไว้ชีวิตเกาะงูเขียวเป็นเพราะต้องทิ้งความรู้สึกอันตรายให้แก่สำนักคืนวิญญาณ ในขณะเดียวกันก็ทิ้งความคิดว่าจะฆ่าล้างศัตรูด้วยตัวเองไว้ส่วนหนึ่งไว้ด้วย”

“ในตอนแรกเริ่มทั้งสองฝั่งอาจจะต่อสู้เพราะระบบสำนัก แต่ว่าหลายปีมานี้ แต่ละฝ่ายฆ่าคนของอีกฝ่ายไปนับไม่ถ้วน จึงเพาะเป็นความแค้นลึกล้ำดั่งมหาสมุทรมานาน”

อาหู่กะพริบตาปริบๆ “แต่ว่าถ้าหากวังผลึกวารีกับบึงหมื่นกระบี่ร่วมมือกันเล่า?”

ฟู่เอินซูตอบ “ในสุสานมังกร บึงหมื่นกระบี่ได้ประโยชน์ไปน้อย ส่วนวังผลึกวารีถึงแม้จะได้ประโยชน์ไม่เท่าเขาหงส์วิเศษ แต่หากมองตามความเป็นจริง การเพิ่มขึ้นของพลังของพวกเขาก็สามารถคาดการณ์ได้”

“แปดปีของโลกผืนสมุทรแม้ว่าจะไม่มีข่าวของวังผลึกวารี แต่ก็อธิบายได้ดีว่าอีกฝ่ายกำลังสั่งสมพลัง รอการลอกคราบ”

“บางทีราชาหลินซื่ออาจจะพัฒนาขึ้นอีกขั้น หรือไม่ก็อาจจะหลอมสร้างอาวุธศักดิ์สิทธิ์เป็นของตัวเอง”

ทุกคนได้ยินก็พยักหน้าพร้อมกัน “ด้วยเหตุนี้ พลังของวังผลึกวารีจะเพิ่มขึ้นก้าวกระโดด ครองบัลลังก์สำนักอันดับหนึ่งแห่งโลกผืนสมุทรอย่างมั่นคง บึงหมื่นกระบี่ไม่อาจร่วมมือกับพวกเขา ความเป็นไปได้ในการร่วมมือกับเขาหงส์วิเศษมีมากกว่า”

“การดึงสำนักคืนวิญญาณเป็นพวก ลดทอนพลังของวังผลึกวารี ถือเป็นเรื่องจำเป็น”

คนของเขากว่างเฉิงมองไปยังเยี่ยนจ้าวเกอ ต่างทอดถอนใจ “ถึงแม้จะกล่าวเช่นนี้ แต่พูดย่อมง่ายกว่าทำ หากไม่ใช่ศิษย์พี่เยี่ยน จะมีสักกี่คนที่เปลี่ยนแปลงสถานการณ์ใหญ่ของใต้หล้าได้ง่ายเช่นนี้ ศิษย์พี่เยี่ยนบอกว่าจะไม่ลงแรงอีกแล้ว แต่เพียงกระบวนท่าเดียวก็ทำให้เกิดความปั่นป่วนขึ้นได้”

ฟู่เอินซูมองไปยังซือคงจิง “พลังเด็ดขาดอยู่ตรงหน้า ต่อให้ภูติผีดลใจก็ไม่มีประโยชน์ คำพูดนี้ไม่แปลกปลอม แต่ว่าจะมีสักกี่คนที่เกิดมาพร้อมกับพลังอันแข็งแกร่งเด็ดขาด? ขณะที่ปีนป่ายไปยังจุดสูงสุดอย่างต่อเนื่อง มีเรื่องบางเรื่องที่ต้องระวังไว้”

“ตัวเจ้าอาจไม่จำเป็น แต่อย่างน้อยก็ต้องทำความเข้าใจไว้ เตรียมการรับมือศัตรูที่หมายเล่นงานเจ้า มีวาจากล่าวไว้ว่ายืมดาบฆ่าคน ระวังไม่ให้ความสามารถที่ตนเองพยายามเคี่ยวกรำกลายเป็นดาบในมือของผู้อื่น”

ซือคงจิงเงียบลง พยักหน้าไม่กล่าวคำ

เยี่ยนจ้าวเกอพูดด้วยรอยยิ้ม “อาจารย์ป้าฟู่กล่าวหนักไปแล้ว ข้าไม่ได้เก่งกาจอย่างที่ท่านชม ครั้งนี้ข้าตกเต่า พวกเขายินยอมมาติดเบ็ด สำนักคืนวิญญาณถึงแม้ว่าจะมีประโยชน์ต่อพวกเรา แต่พวกเขาก็ได้ผลประโยชน์เช่นกัน จะเสียเปรียบหรือได้เปรียบยังไม่แน่นัก”

“เพียงแต่ว่า ผลประโยชน์ของพวกเรา จะให้พวกเขาเมื่อไหร่ ขึ้นอยู่กับข้า”

เยี่ยนจ้าวเกอพูดพลางส่งหยกอู้ปี้ [1]ให้กับฟู่เอินซู “หยกอู้ปี้นี้อาจารย์ป้าฟู่ท่านเก็บไว้ ด้านในบันทึกเนื้อหาบทที่หนึ่งของคัมภีร์หมัดวรยุทธ์แท้มากพอจะใช้งานได้แล้ว ส่วนจะทำให้เต่ายักษ์ตัวนี้อยู่บนเบ็ดของพวกเราตั้งแต่ต้นจนจบได้อย่างไร ท่านลองใคร่ครวญดู”

ฟู่เอินซูรับหยกอู้ปี้มา พยักหน้ากล่าวว่า “วางใจเถอะ ข้ารู้จักลำดับความสำคัญ”

ทุกคนมาถึงเขาหงส์วิเศษ จอมยุทธ์เขาหงส์วิเศษที่ได้รับข่าวก่อนหน้านี้มีคนมารอต้อนรับที่เขตทะเลไร้ขอบเขตแล้ว

แต่ในตอนที่ทราบว่าเจ้าสำนักคืนวิญญาณหลูเฟิงมาเยี่ยมเยียนเขาหงส์วิเศษด้วยเช่นกัน จอมยุทธ์เขาหงส์วิเศษก็ประหลาดใจขึ้นมา

ข่าวนี้ถูกส่งออกไป ยิ่งดึงดูดความสนใจของขุมพลังทั้งฝ่ายธรรมะและฝ่ายมาร โดยเฉพาะความสนใจของวังผลึกวารี

ในขณะที่แต่ละขุมกำลังใหญ่สงสัย ต่างส่งคนไปสืบเสาะเรื่องราว สุดท้ายข่าวที่ได้มาทำให้ทุกคนตกตะลึงอยู่ชั่วขณะ

เยี่ยนจ้าวเกอ ครอบครองเคล็ดวิชาวรยุทธ์แท้

การสืบทอดวรยุทธ์ของสำนักคืนวิญญาณมีความหวังว่าจะพัฒนาได้อีกขั้น

ข่าวเมื่อส่งออกไป ผืนสมุทรพลันสั่นสะเทือน

พลังของสำนักคืนวิญญาณแม้จะสู้ขุมพลังอย่างวังผลึกวารีและสำนักสังหารมังกรไม่ได้ แต่ก็เป็นสำนักที่แข็งแกร่งในโลกผืนสมุทรที่มีอยู่จำนวนน้อยนิดมาโดยตลอด สามารถถูกโจมตีพ่ายแพ้ได้ แต่เคยถูกคนเกลี้ยกล่อมให้ยอมจำนนในเรื่องการถ่ายทอดวรยุทธ์เมื่อไรกัน?

ทว่าในขณะนี้ กลับมีคนทำได้แล้ว

เป็นตำนานที่ยังมีชีวิตอยู่นโลกผืนสมุทร

……………………………………….

[1] หยกอู้ปี้ เป็นหยกทรงกลมที่มีรูอยู่ตรงกลาง

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

Score 7.9
Status: Ongoing Artist: Native Language: Chinese
อ่านเรื่อง ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพีชายหนุ่มข้ามมิติกาลเวลาครั้งแรกมาสู่ยุคสมัยที่อารยธรรมวรยุทธ์รุ่งเรืองจนถึงที่สุด มุมานะศึกษาและฝึกฝนคัมภีร์สุดยอดวิชาที่เก็บรวบรวมไว้ในวังเทพมากมาย แต่แล้วยุคสมัยอันรุ่งโรจน์ก็ต้องพบพานกับวิกฤติการณ์ครั้งใหญ่ ทุกสิ่งทุกอย่างพังทลายจนหมดสิ้น ทว่าชายหนุ่มผู้นั้นก็พาตนเองและสมองที่เปี่ยมไปด้วยความรู้ของสุดยอดวิชา ข้ามมิติกาลเวลาอีกครั้งไปสู่ยุคสมัยใหม่ ยุคสมัยนี้มีสิ่งที่ทำให้เขารู้สึกขัดใจยิ่งนัก นั่นก็คือทุกอย่างช่างง่ายดายไปเสียหมด จนทำให้เขาได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในสี่คุณชายแห่งยุค เหนือกว่าจอมยุทธ์รุ่นเยาว์ผู้ใดในบรรดาดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดในเวลาชั่วพริบตา กระนั้น แม้เขาจะยอดเยี่ยมอย่างไร เป็นที่น่าเคารพเลื่อมใสต่อศิษย์น้องในสำนักเพียงใด มีชื่อเสียงขจรไกลไปถึงหนแห่งไหน สุดท้ายแล้วก็ยังมีคนปากกล้าและอวดดี กังขาในความสามารถของเขาอยู่ตลอดเวลา ไม่รู้จักเจียมตัวก็แล้วไปเถอะ แต่จะหาเรื่องคนที่มีพลังแก่กล้ากว่าตนอยู่อักโขเช่นนี้ ก็คงต้องประมือกันสักตั้งแล้ว “หากชอบรนหาที่ตายนัก ข้าจะสนองให้พวกเจ้าเอง!”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset