ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี – บทที่ 642 ความสามารถของท่านยังไม่พอ

ทะเลน้ำแข็งมังกรทะยาน สภาวะพลังสะท้านฟ้า

หนงอวี่ซวนเห็นดังนั้น ก็พลันมีสีหน้างงงัน ‘ยังไม่ได้เลื่อนเป็นจอมยุทธ์ระดับศักดิ์สิทธิ์ กลับมีพลังขนาดนี้แล้ว?’

เขาสลับสองมือ เท้าเหยียบอากาศ ยืนในท่าออกหมัด

สองมือของเขาเหมือนกับโอบกอดจันทร์เพ็ญ มือเล่นเครื่องผีผา

ดวงอาทิตย์สีทองจมลงด้านล่าง จันทร์เพ็ญสีเงินลอยขึ้นด้านบน!

วิชาลับของสำนักแสงสว่าง อาทิตย์เวียน จันทร์เพ็ญวน!

“ถึงแม้พลังของเจ้าจะทำให้ข้ารู้สึกเหนือความคาดหมายมาก แต่เจ้ากล้ามายังโลกซ้อนโลก เป็นการรนหาที่ตายแท้ๆ” หนงอวี่ซวนกล่าวอย่างเย็นชา “เจ้าเอาตราประทับตะวันมาด้วยหรือไม่? ถ้าไม่ได้เอามา วันนี้ก็เป็นวันตายของเจ้า”

เขาสืบเท้า เหมือนกับดวงอาทิตย์ตกทางทิศตะวันตก สภาวะไม่อาจต้านทาน สยบทั้งใต้หล้า ถีบใส่หางมังกรที่เกิดขึ้นจากรูปญาณวรยุทธ์ของเยี่ยนจ้าวเกอ

ขณะเดียวกันก็ชูมือขึ้นสูง ฟาดใส่ศีรษะมังกร สันมือประดุจดาบ มีแสงของจันทร์เต็มดวงติดอยู่ หมายฟันศีรษะมังกรทิ้ง

หนงอวี่ซวนมองเยี่ยนจ้าวเกอเขม็ง “ข้าเคยบอกไปแล้วว่า ในตอนที่เจอกันอีก ข้าจะเอาชีวิตของเจ้า!”

เยี่ยนจ้าวเกอมองหนงอวี่ซวน หัวเราะเล็กน้อย “ท่านเนี่ยนะ?”

เสียงยังไม่ทันขาด หนงอวี่ซวนสีหน้าพลันเปลี่ยนแปลง มองไปยังวังฝูงมังกรเหนือศีรษะของเยี่ยนจ้าวเกอ มันสั่นสะเทือนไม่หยุด เหมือนกับกำลังพังทลายลงมาเอง

แสงของดวงอาทิตย์และดวงจันทร์อันยิ่งใหญ่รอบๆ ตัวเขา พลันเปลี่ยนเป็นริบหรี่ กลิ่นอายมารแสงทมิฬสีดำปริมาณมากไม่อาจควบคุมแผ่ซ่านออกมาจากตัวเขา

พลังอันดุร้ายกัดกร่อนกดข่ม กลืนกินและทำลายแสงของดวงอาทิตย์อันยิ่งใหญ่บนตัวหนงอวี่ซวนในพริบตา

แม้แต่แสงจันทร์ที่เย็นเยียบและอ่อนโยน ยังได้รับผลกระทบจากพลังกัดกร่อนอันดุร้ายนี้ไปด้วย

หนงอวี่ซวนตื่นตระหนก คิดจะควบคุมพลังกัดกร่อนนี้ กลับรับมือไม่ไหว

เยี่ยนจ้าวเกอเอ่ยด้วยรอยยิ้มเรียบเฉย “ไม่ได้เจอกันพักหนึ่ง ท่านกลับได้รับพลังกัดกร่อนมามากกว่าเดิม

“จำเป็นต้องชื่นชมว่าท่านมีพรสวรรค์ด้านวรยุทธ์ล้ำเลิศ ถึงขั้นเรียกได้ว่าเป็นอัจฉริยะในหมู่อัจฉริยะ เพียงช่วงเวลาสั้นๆ กลับเปลี่ยนพลังกัดกร่อนของพระราหูให้กลายเป็นวรยุทธ์ในสำนักแสงสว่างของตัวเองได้บางส่วน เกิดเป็นการกดข่มแสงและความมืดเพิ่มอีกขั้น พลังไม่ธรรมดาทีเดียว”

“ในหมู่จอมยุทธ์ระดับเดียวกัน พลังของท่านเดิมทีก็โดดเด่นอยู่แล้ว ตอนนี้ยังใช้การกัดกร่อนแสงควบคู่ พลังยิ่งแข็งแกร่งกว่าเดิม”

หนงอวี๋ซวนจับจ้องเยี่ยนจ้าวเกอเขม็ง ทว่าเยี่ยนจ้าวเกอมีสีหน้าเรียบเฉย “แต่น่าเสียดาย ในปัจจุบันพลังของท่านยังมีไม่พอ เป็นเพียงน้ำที่ยังไม่เต็มขวด เป็นน้ำครึ่งขวดที่กระเพื่อมอยู่”

ตอนนี้เอง ในวังฝูงมังกรที่ดูเงียบสงบกลับมีลมและเมฆก่อตัวขึ้น

เฟิงอวิ๋นเซิงยืนอยู่เบื้องหน้าพลังอาทิตย์ย้อนจันทร์ย้อนกำลังจะระเบิด ในมือชูเศษโลหะครึ่งขาวครึ่งดำก้อนหนึ่งขึ้นสูง

เศษชิ้นส่วนนั้น ก็คือมรดกแปลกประหลาดจากสำนักประกายกาฬในวันวาน ซึ่งเยี่ยนจ้าวเกอได้มาจากผู้อาวุโสโม่ตอนที่ยังอยู่ในโลกแปดพิภพ

แสงอาทิตย์สีฟ้ากับแสงจันทร์สีดำสนิทเบื้องหน้าส่องสว่างอย่างต่อเนื่อง ย้อมด้านในวังฝูงมังกรกลายเป็นสีฟ้าน้ำเงิน

พลังอันน่าสะพรึงกระเพื่อมขึ้น หากระเบิดออกมา แม้แต่จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ก็ต้องตายโดยไร้ที่กลบฝัง

เมื่อเผชิญหน้ากับภาพอันน่ากลัวที่เพียงคลื่นหลงเหลือแม้แต่นิดเดียวก็ทำให้ตนป่นเป็นผุยผงได้ เฟิงอวิ๋นเซิกลับมีงสีหน้าไม่หวาดหวั่น สายตาแน่วแน่

นางคิดถึงคำกำชับก่อนหน้านี้ของเยี่ยนจ้าวเกอ จากนั้นก็โบกมือ เศษโลหะชิ้นนั้นลอยไปกลางอากาศ หล่นลงระหว่างอาทิตย์ยะเยือกและจันทร์ดำ

เศษโลหะที่ดูไม่สะดุดตาในตอนแรก ขณะนี้พลันระเบิดแสงสีดำขาวที่สับสนและพร่าเลือนออกมา ก่อนจะเชื่อมต่อกับดวงอาทิตย์สีฟ้าและจันทร์เพ็ญสีดำขลับ

อาทิตย์ยะเยือกกับจันทร์ดำ พลันหยุดนิ่งกลางอากาศ

วินาทีถัดมา ประกายดาบพุ่งขึ้น ลมเมฆก่อกำเนิด

ดาบสีดำออกจากฝัก กลายเป็นลำแสงเส้นหนึ่ง ฟันใส่ดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ที่แปลกประหลาดและบิดเบี้ยวอย่างเหี้ยมหาญ ด้วยสภาวะตัดสินเป็นตาย!

ท่ามกลางเสียงระเบิด วังฝูงมังกรสั่นสะเทือน มิติด้านในปั่นป่วนชนิดฟ้าพลิกแผ่นดินคว่ำ

ลำแสงหลายสายกลายเป็นพิรุณแสง กระจายไปทั่วทั้งสี่ทิศแปดทาง

กลางพื้นที่หนาหนักในมิติเวลาลวงตาด้านในวังฝูงมังกร ถึงขั้นปรากฏภาพเดียวกัน

ฟ้าดินพลิกกลับ จักรวาลแตกสลาย ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และดวงดาวต่างมลาย

อาหู่กับพ่านพ่านมองภาพตรงหน้าอย่างตึงเครียด พิรุณแสงตกลงต้องร่างพวกเขา ถึงแม้จิตพลังจะล้ำลึกยิ่งใหญ่ แต่กลับไม่ก่อเกิดอาการบาดเจ็บ กลับทำให้พวกเขาเกิดความรู้สึกสดชื่นราวผลัดเอ็นเปลี่ยนกระดูก

‘ผลลัพธ์เหมือนที่คุณชายคาดไว้!’ อาหู่ยินดียิ่ง มองไปที่ใจกลางแหล่งแสง

ณ ที่ตรงนั้น แสงจันทร์สีดำสนิทหมุนวนปกคลุม ตรงใจกลางมีแสงอาทิตย์สีฟ้ากระเพื่อมขึ้นอย่างต่อเนื่อง

กลางดวงอาทิตย์ที่เปล่งประกายสลัว เงาร่างเงาหนึ่งถือดาบปรากฏตัว เป็นเฟิงอวิ๋นเซิงนั่นเอง

ผิวดาบสีดำในมือเฟิงอวิ๋นเซิงยามนี้ปรากฏตัวอักขระสีฟ้ามากมาย กระจายอยู่ถี่ยิบ

พลังอาทิตย์ย้อนอันรุนแรง ยังคงเติมเติมดาบอย่างต่อเนื่องไม่ขาดสาย

คมดาบที่ยาวแค่สามคืบในตอนแรก ขณะนี้ยืดหดเปลี่ยนแปลงไม่หยุดยั้ง บางครั้งตระหง่านดุจขุนเขา บางครั้งเล็กจ้อยดุจฝุ่นผง

บนฝ่ามือที่เฟิงอวิ๋นเซิงใช้ถือดาบ ปรากฏลวดลายอาคมสีฟ้าหลายสายเช่นกัน พลังอันบ้าคลั่งส่งมาจากในดาบ เข้าไปในร่างของนาง ทำให้นางรู้สึกไม่อาจทานทนอยู่ชั่วขณะ

ม่านตาทั้งสองข้างของนางในตอนนี้ต่างกลายเป็นสีฟ้า เหมือนกับอาทิตย์ยะเยือกสองดวงลอยอยู่กลางหาว

แสงของจันทร์ดำที่ดำสนิท ในตอนนี้ถูกพลังแห่งอาทิตย์ยะเยือกดึงดูด รวมตัวกันในร่างเฟิงอวิ๋นเซิงเป็นจำนวนมาก

แต่ว่าแสงจันทร์สีดำเข้มกว่าเดิมกับแสงอาทิตย์สีฟ้าน้อยนิดที่เหลืออยู่ ยังคงหมุนวนอยู่ในวังฝูงมังกร

อาหู่กับพ่านพ่านต่างพึ่งพาการชี้แนะก่อนหน้าของเยี่ยนจ้าวเกอ อาศัยการช่วยเหลือของวังฝูงมังกร รับการชำระล้างของพลังแห่งอาทิตย์ย้อนจันทร์ย้อนพร้อมกับเฟิงอวิ๋นเซิง

วังฝูงมังกรกลืนกินปราณวิญญาณ ดูดซับพลังแห่งอาทิตย์ย้อนจันทร์ย้อนที่เหลืออยู่

สายตาของเฟิงอวิ๋นเซิง คล้ายกับทะลุกาลเวลา ทะลุการขัดขวางของวังฝูงมังกร รู้สึกได้ว่าด้านนอกมีกลิ่นอายที่ทั้งเหมือนคุ้นเคยเหมือนแปลกหน้า ทั้งเร้นลับและดุร้าย

นางรู้ว่านั่นน่าจะเป็นพลังของพระราหูที่หนงอวี่ซวนได้หลอมเปลี่ยน ซึ่งเยี่ยนจ้าวเกอเคยพูดถึงก่อนหน้านี้

ดาบยาวในมือรับรู้ได้ถึงพลังงานนั้น มันสั่นสะเทือนไม่หยุด

เฟิงอวิ๋นเซิงรู้สึกได้ จึงชูดาบขึ้น

หลังจากคมดาบถูกยกขึ้นแล้ว ตราอาคมอันเป็นลายอักขระสีฟ้าบนตัวดาบก็กลายเป็นสีดำหมดสิ้น เปลี่ยนเป็นกลิ่นอายที่ทั้งมืดครึ้มและน่าสะพรึง

บนปลายดาบคล้ายกับมีภาพมายากลุ่มหนึ่งสานตัวขึ้นมา

ในภาพนั้น ดวงอาทิตย์ลอยสูงส่องสว่างฟ้าดิน แต่ว่าในวินาทีถัดมา แสงสีดำออกฟ้าก็ม้วนพัด กลืนกินแสงอาทิตย์ในชั่วอึดใจ ทำให้ดวงอาทิตย์หายไปไร้ร่องรอย โลกตกสู่ความมืดอนันตกาล

ในพริบตาที่เฟิงอวิ๋นเซิงชูดาบขึ้น ญาณจริงแท้ในร่างของหนงอวี่เซินก็สูญเสียการควบคุมอย่างฉับพลัน!

กลิ่นอายมารของพระราหูที่หลอมเปลี่ยนในขั้นแรกก่อนหน้า ตอนนี้เกิดความขัดแย้งอย่างรุนแรงกับวิชาตะวันจันทราผสมผสานของเขา

นี่กลับไม่ใช่เขาควบคุม หมายจะใช้แสงกัดกร่อนกดข่ม เพื่อก่อให้เกิดพลังงานมหาศาล แล้วเปลี่ยนมาให้ตัวเองใช้ เหมือนตอนที่สู้กับพวกคังจิ่นหยวนก่อนหน้านี้

แต่เป็นความขัดแย้งที่ตัวหนงอวี่ซวนไม่อาจบังคับและไม่อาจหยุดยั้ง!

พลังงานที่สูญเสียการควบคุมอาละวาดในร่างหนงอวี่ซวน ทำให้เขากระอักเลือดออกมา ธาตุไฟเข้าแทรก

รอบๆ ร่างกายของเขา ดวงอาทิตย์สีทองดับแสง แสงจันทร์สีเงินโรยรา

หนงอวี่ซวนตื่นตระหนกเหลือประมาณ รู้สึกได้ว่าอากาศรอบๆ แข็งตัว ฟ้าดินเย็นเยียบเงียบงัน

ภายใต้การกระตุ้นจากกระบวนท่าเกล็ดย้อนเหมันต์ของเยี่ยนจ้าวเกอ มังกรออกจากทะเลน้ำแข็ง พลังงานอันบ้าคลั่งพุ่งใส่ทรวงอกของหนงอวี่ซวน!

หนงอวี่ซวนใบหน้าเขียวคล้ำ ประกายแสงของหมวกเกราะดาราเรืองรองสว่างขึ้น ขัดขวางการโจมตีของเยี่ยนจ้าวเกอ

เยี่ยนจ้าวเกอแค่นเสียงยกมือ ในมือปรากฏกระบองไม้ไผ่ห้าคืบแท่งหนึ่ง ฟาดใส่หนงอวี่ซวน

แสงสว่างไร้สิ้นสุดที่หมวกเกราะดาราเรืองรองปล่อยออกมา พลันถูกกระบองไม้ไผ่ฟาดจนดับลง!

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

Score 7.9
Status: Ongoing Artist: Native Language: Chinese
อ่านเรื่อง ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพีชายหนุ่มข้ามมิติกาลเวลาครั้งแรกมาสู่ยุคสมัยที่อารยธรรมวรยุทธ์รุ่งเรืองจนถึงที่สุด มุมานะศึกษาและฝึกฝนคัมภีร์สุดยอดวิชาที่เก็บรวบรวมไว้ในวังเทพมากมาย แต่แล้วยุคสมัยอันรุ่งโรจน์ก็ต้องพบพานกับวิกฤติการณ์ครั้งใหญ่ ทุกสิ่งทุกอย่างพังทลายจนหมดสิ้น ทว่าชายหนุ่มผู้นั้นก็พาตนเองและสมองที่เปี่ยมไปด้วยความรู้ของสุดยอดวิชา ข้ามมิติกาลเวลาอีกครั้งไปสู่ยุคสมัยใหม่ ยุคสมัยนี้มีสิ่งที่ทำให้เขารู้สึกขัดใจยิ่งนัก นั่นก็คือทุกอย่างช่างง่ายดายไปเสียหมด จนทำให้เขาได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในสี่คุณชายแห่งยุค เหนือกว่าจอมยุทธ์รุ่นเยาว์ผู้ใดในบรรดาดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดในเวลาชั่วพริบตา กระนั้น แม้เขาจะยอดเยี่ยมอย่างไร เป็นที่น่าเคารพเลื่อมใสต่อศิษย์น้องในสำนักเพียงใด มีชื่อเสียงขจรไกลไปถึงหนแห่งไหน สุดท้ายแล้วก็ยังมีคนปากกล้าและอวดดี กังขาในความสามารถของเขาอยู่ตลอดเวลา ไม่รู้จักเจียมตัวก็แล้วไปเถอะ แต่จะหาเรื่องคนที่มีพลังแก่กล้ากว่าตนอยู่อักโขเช่นนี้ ก็คงต้องประมือกันสักตั้งแล้ว “หากชอบรนหาที่ตายนัก ข้าจะสนองให้พวกเจ้าเอง!”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset