ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี – บทที่ 696 มีพวกเราก็ไม่เหมือนเดิมแล้ว

เยี่ยนจ้าวเกอไม่ได้มองทิศทางที่ค่ายกลบูชาฟ้าอยู่อีก เขาหันมาพูดว่า “เอาล่ะ อย่าเพิ่งไปคิด พวกเราเดินทางเถอะ”

อาหู่ถาม “คุณชาย ตอนนี้พวกเราจะไปที่ใดหรือขอรับ ยังต้องไปทางเหนือของทะเลหวงเจียหรือไม่? หรือจะกลับเกาะจิ่งชิง?”

“ทวีปจิ่งชิงยังไม่ต้องไป พายุแม่เหล็กไร้สิ้นสุดของที่นั่นตอนนี้กำลังรุนแรง เหวินลั่วเสียแม้จะลงไปในทะเล แต่ดูท่าทางแล้ว ยังไม่ได้เก็บของซึ่งซ่อนอยู่ที่ก้นทะเลขึ้นมา” เยี่ยนจ้าวเกอตอบ

“ส่วนทางเหนือของทะเลหวงเจีย ตอนนี้ก็ไม่จำเป็นต้องกลับไปเช่นกัน”

ตอนแรกราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องทิ้งหอกระบี่ทะเลเหนือไม่โจมตี หันหัวหอกไปที่สำนักแสงสว่างแทน

แต่ว่ากองทัพต่อต้านต้าเสวียนออกมาจากอาณาเขตของทะเลเหนือ สะกดรอยจู่โจมราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องตลอดทาง ทั้งสองฝ่ายเดี๋ยวสู้เดี๋ยวหยุด เกาะติดกันอย่างต่อเนื่อง

พวกเขาต้องเดินทางอีกไกลกว่าจะถึงที่อยู่ของสำนักแสงสว่าง

เยี่ยนจ้าวเกอประเมินว่า ความคิดของราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องคือล้อมเมืองตีทัพเสริม ฉวยโอกาสตอนที่โจมตีที่อยู่ของสำนักแสงสว่าง กดดันให้กองทัพต่อต้านต้าเสวียนทิ้งชัยภูมิที่ทะเลเหนือ

หลังจากล่อกองทัพออกมาจากข่ายกระบี่บนเกาะเพิงหินโม่แล้ว ในสถานการณ์ที่ระยะห่างค่อนข้างใกล้ กองทัพต่อต้าต้าเสวียนไม่อาจถอยกลับไปได้ตามใจชอบอีก

หลังจากถูกลวงออกมาไกลมากพอ ด้านหน้าไร้หมู่บ้าน ด้านหลังไร้ที่พัก ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องพลันวกกลับมาตอบโต้ กองทัพพันธมิตรของขุมกำลังต่อต้านต้าเสวียนไม่อาจถอยกลับข่ายกระบี่บนเกาะเพิงหินโม่ได้ทัน

ด้วยเหตุนี้ ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องที่กดดันให้อีกฝ่ายออกมาสู้ด้านนอก และมีพลังแข็งแกร่งกว่า จึงได้เปรียบกว่าอย่างไม่ต้องสงสัย

นี่คือแผนเปิดเผย กองทัพต่อต้านต้าเสวียนแม้จะรู้ถึงแผนการของราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋อง ก็ได้แต่ปล่อยให้ถูกจูงจมูกไป

ไม่อย่างนั้นถ้าราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องถล่มที่อยู่ของสำนักแสงสว่าง จะสู้อย่างไรก็ไม่มีทางเสียเปรียบ

ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องในฐานะที่เป็นฝ่ายกุมการตัดสินใจหลักบนสนามรบ ความได้เปรียบอยู่ตรงนี้นี่เอง

กองทัพพันธมิตรของกองกำลังต่อต้านต้าเสวียนได้แต่ชดเชยจากด้านอื่นอย่างเต็มที่ พยายามสร้างเงื่อนไขที่ได้เปรียบขึ้นมาในสภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้ออำนวย

“ตอนนี้เป็นเพราะประมุขอาคเนย์ ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องต้องลดธง หยุดตีกลองรบชั่วคราว แม้แต่แผนแสร้งแพ้เพื่อซุ่มจู่โจมอย่างการหันหันม้ากลับแทงหอก หรือรั้งดาบกลับก็ใช่ไม่ได้เช่นกัน การถอยก็จำเป็นต้องถอยอย่างว่าง่ายจริงๆ ห้ามเล่นตุกติก” เยี่ยนจ้าวเกอเอ่ย “ดังนั้นเพื่อไม่ให้โดนกองทัพพันธมิตรต่อต้านต้าเสวียนฉวยโอกาสไล่สังหาร ในเมื่อพวกเขาต้องถอย ก็ต้องถอยจริงๆ”

“ถอยแล้วถอยเลย จากนั้นก็หลีกเลี่ยงการปะทะ รักษาการป้องกัน”

เยี่ยนจ้าวเกอลูบคางของตัวเอง “พลังของพวกเขาแข็งแกร่งกว่า หากรักษาการป้องกัน กองทัพต่อต้านต้าเสวียนไม่สามารถเริ่มสงครามได้ง่ายๆ ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องเพียงแค่ไม่อยากจะสะกิดโทสะของประมุขอาคเนย์ในสถานการณ์ที่เกิดเรื่องขึ้นแล้ว ไม่ใช่เพราะไม่อยากโต้ตอบ”

อาหู่ทำท่าเลียนแบบเยี่ยนจ้าวเกอ “พวกเขาจะต้องปิดข่าวแน่นอน ไม่มีทางประกาศเรื่องที่ตัวเองได้ล่วงเกินประมุขอาคเนย์”

“เช่นนั้นคุณชาย พวกเราจะไปตามหาพวกกำลังหลักของกองทัพพันธมิตรต่อต้านต้าเสวียนเพื่อรายงานข่าวให้พวกเขาหรือขอรับ”

“การฉวยโอกาสบุกจู่โจมในตอนที่ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องถอยทัพของกองทัพพันธมิตรต่อต้านต้าเสวียน อาจจะเป็นโอกาสสุดท้ายที่จะสร้างความเสียหายให้แก่ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องแล้ว”

เยี่ยนจ้าวเกอกล่าวด้วยรอยยิ้ม “สมควรเป็นเช่นนั้น แต่ก็ใช่ว่าจะสำเร็จได้อย่างที่หวัง ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องน่าจะรักษาความเป็นระเบียบได้”

ครั้นพูดจบ พวกเขาก็เดินทางกันต่อ

ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องกับกองทัพพันธมิตรต่อต้านต้าเสวียน ปัจจุบันต่อสู้กันอย่างดุเดือดเลือดพล่าน อยู่ในสภาวะยื้อยัน ไม่มีฝ่ายไหนได้เปรียบเสียเปรียบ

พวกเยี่ยนจ้าวเกอที่สืบหาข่าวตามทาง และได้มาถึงเกาะทางเหนือเกาะหนึ่งบนทะเลหวงเจีย ถึงขั้นที่รู้สึกได้ถึงการกระเพื่อมของปราณวิญญาณที่อยู่ไกลออกไป

นั่นเป็นเพราะการปะทะกันของยอดฝีมือจำนวนมาก ทำให้การหมุนเวียนของปราณวิญญาณที่อยู่ในสภาพแวดล้อมรอบๆ ได้รับการรบกวน

เยี่ยนจ้าวเกอมองดู เห็นขอบฟ้าที่อยู่ห่างออกไปมีลำแสงและแสงไฟกะพริบอยู่

ทั้งสองฝ่ายกำลังต่อสู้กันอย่างชัดเจน

คลื่นปราณซัดสาดม้วนคลุมสี่ทิศ แค่พริบตาเดียวก็กวาดไปทั่วมหาสมุทร เกิดเป็นคลื่นยักษ์หลายระลอก เข้าใกล้สถานที่ที่พวกเยี่ยนจ้าวเกออยู่

ชายหนุ่มหรี่ตา ‘เป็นการโจมตีที่รุนแรงยิ่ง’

การประมือครั้งนี้เริ่มอย่างฉับพลัน และจบอย่างรวดเร็วเช่นกัน

แทบจะเป็นในชั่วอึดใจเดียว หนึ่งในฝ่ายที่ปะทะกันเลือกถอนกำลัง เหมือนไม่คิดจะต่อสู้ตัดสินกับอีกฝ่าย

ทว่าพวกเขากลับไม่สับสนปั่นป่วน ถอนกำลังอย่างเป็นระเบียบ เหมือนเตรียมตัวไว้ตั้งแต่แรก ไม่ให้อีกฝ่ายพัวพันไว้

ฝ่ายโจมตีมีสภาวะดุดันยิ่ง เกิดเป็นสภาวะไล่ล่า หมายจะสังหารอีกฝ่าย ไม่จบไม่เลิกรา

อาหู่ถามด้วยความลังเล “คุณชาย พวกเรามาช้าไปหรือไม่”

เยี่ยนจ้าวเกอว่า “ไม่ช้า สิ่งที่ดึงดูดความสนใจมากที่สุดของฝ่ายโจมตี คือประกายกระบี่สายหนึ่งกับแสงอัคคีสายหนึ่ง”

ดึงดูดความสนใจจริงๆ เนื่องจากคนที่ลงมือแข็งแกร่งเกินไป ขนาดเยี่ยนจ้าวเกออยู่ไกลยังสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของพลังที่อยู่ด้านใน

เฟิงอวิ๋นเซิงกับอาหู่ในตอนนี้มีความแตกต่างด้านระดับพลังฝึกปรือมากเกินไป ในสายตาของพวกเขา คือแสงอันโชติช่วงแถบหนึ่ง สั่นสะท้านจิตใจจนยากจะทำให้สงบลง ไม่อาจแยกแยะได้

ทว่าระดับพลังฝึกปรือในตอนนี้ของเยี่ยนจ้าวเกอ กลับสามารถแบ่งแยกได้

ประกายกระบี่นั้นล้ำลึกห่างไกลดุจกระแสเวลา ส่วนแสงไฟนั้นดุดันน่าสะพรึง ด้านในแสงไฟยังสามารถเห็นเงาแสงของวิหคเจ็ดตัวที่กระพือปีกบินสูงได้อย่างรางๆ

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า อย่างแรกคือกระบี่กาลเคลื่อนคล้อย ความสามารถของยอดฝีมือซึ่งเป็นผู้สืบทอดของผู้วิเศษเซิง ส่วนอย่างหลังคือผลลัพธ์จากการใช้วิชาห้าอัคคีกระตุ้นหอกเจ็ดวิหค กระบวนท่าของเหล่าเชื้อพระวงศ์ในราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋อง

เยี่ยนจ้าวเกอพูดขึ้น “ถ้าหากข้าอยู่ฝ่ายราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋อง แล้วเป็นคนสั่งบุกสั่งถอย และจังหวะในการสั่งถอนทัพอยู่ในมือข้า จะต้องจู่โจมอีกฝ่ายอย่างรุนแรงเช่นนี้ ถึงอย่างไรข้าก็มีพลังได้เปรียบกว่า ไม่มีทางเสียท่า”

กองทัพพันธมิตรต่อต้านต้าเสวียนเดิมทีไม่คิดจะเปิดสงครามกับราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องกลางสถานที่ที่อยู่นอกถิ่นเช่นนี้อยู่แล้ว เพียงแค่อยากจะถ่วงเวลาการรุกคืบของราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องไว้เท่านั้น

ปกติละครศัตรูบุกข้าถอย ศัตรูถอยข้าบุกคล้ายๆ กันนี้ ใช้มาหลายครั้งแล้ว

ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องไม่ลงมือ กองทัพพันธมิตรต่อต้านต้าเสวียนจะหาเรื่องเอง จากนั้นก็จะถอยทันที ตอนที่ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องหยุดตอบโต้ พวกเขาก็จะบุกต่อ

ตอนนี้ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องเหมือนกับถูกสะกิดโทสะโดยสิ้นเชิง ไม่ได้มุ่งหน้าไปที่ที่อยู่ของสำนักแสงสว่างอีก แต่ย้อนกลับมาจู่โจมแทน กองทัพพันธมิตรต่อต้านต้าเสวียนไม่ต้องการ และไม่อยากจะต่อสู้ตัดสินกับราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องที่นี่ ย่อมเลือกถอยอย่างรวดเร็วและแน่วแน่กว่าเดิม

เยี่ยนจ้าวเกอเบะปาก “เพียงแต่ ครั้งนี้ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องมีแผนการ รอจนกองทัพต่อต้านต้าเสวียนหนีไป ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องก็จะหันหน้าหนีไปทันทีเหมือนกับพวกเขา”

“รอกองทัพพันธมิตรต่อต้านต้าเสวียนรู้สึกตัว หมายจะไล่ตาม ก็ไม่ทันกาลเสียแล้ว”

อาหู่ถาม “ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องก่อนหน้านี้ก็สามารถใช้วิธีนี้ได้เหมือนกันกระมัง?”

“ก่อนหน้านี้ เป้าหมายหลักของราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋อง ไม่ใช่ที่อยู่ของสำนักแสงสว่าง แต่คิดจะกดดันให้ขุมกำลังหลักของกองทัพต่อต้านต้าเสวียนสู้กับพวกเขานอกสถานที่ วิธีการนี้สามารถจัดการหรือทำลายอีกฝ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด” เยี่ยนจ้าวเกอตอบ

ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องไม่ได้อะไรจากการทำลายที่อยู่ของสำนักแสงสว่างเพียงอย่างเดียวมากนัก กองทัพต่อต้านต้าเสวียนแค่ตัดใจ จากนั้นก็ถอยไปที่ข่ายกระบี่บนเกาะเพิงหินโม่ซึ่งอยู่ในน่านน้ำทางเหนือก็พอ

กองทัพพันธมิตรไม่ใช่ไม่พยายาม แต่ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องครองความได้เปรียบในการตัดสินใจที่เบ็ดเสร็จ

สำนักแสงสว่างเองก็ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่ช่วยปกป้องหอกระบี่ทะเลเหนืออย่างสุดกำลัง

ยอดฝีมือส่วนใหญ่ของสำนักยังอยู่ ไม่ถึงขั้นถูกตัดการสืบทอด

“ดังนั้นราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องในตอนนี้จึงไม่อยากจะสลัดคู่ต่อสู้ ด้านกองทัพพันธมิตรต่อต้านต้าเสวียนก็ทราบเรื่องนี้ดีอยู่แล้ว พูดอีกมุมหนึ่งก็คือ ทั้งสองฝ่ายรู้กันอยู่แล้ว เพียงแค่ยื้อกันไปยื้อกันมาเท่านั้น” เยี่ยนจ้าวเกอพูดด้วยรอยยิ้ม “ทว่าตอนนี้ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องใช้แผนการ กองทัพต่อต้านต้าเสวียนกลับไม่รู้เรื่อง”

อาหู่หัวเราะเสียงซื่อ “มีพวกเราอยู่ก็เป็นคนละเรื่องแล้ว”

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

Score 7.9
Status: Ongoing Artist: Native Language: Chinese
อ่านเรื่อง ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพีชายหนุ่มข้ามมิติกาลเวลาครั้งแรกมาสู่ยุคสมัยที่อารยธรรมวรยุทธ์รุ่งเรืองจนถึงที่สุด มุมานะศึกษาและฝึกฝนคัมภีร์สุดยอดวิชาที่เก็บรวบรวมไว้ในวังเทพมากมาย แต่แล้วยุคสมัยอันรุ่งโรจน์ก็ต้องพบพานกับวิกฤติการณ์ครั้งใหญ่ ทุกสิ่งทุกอย่างพังทลายจนหมดสิ้น ทว่าชายหนุ่มผู้นั้นก็พาตนเองและสมองที่เปี่ยมไปด้วยความรู้ของสุดยอดวิชา ข้ามมิติกาลเวลาอีกครั้งไปสู่ยุคสมัยใหม่ ยุคสมัยนี้มีสิ่งที่ทำให้เขารู้สึกขัดใจยิ่งนัก นั่นก็คือทุกอย่างช่างง่ายดายไปเสียหมด จนทำให้เขาได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในสี่คุณชายแห่งยุค เหนือกว่าจอมยุทธ์รุ่นเยาว์ผู้ใดในบรรดาดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดในเวลาชั่วพริบตา กระนั้น แม้เขาจะยอดเยี่ยมอย่างไร เป็นที่น่าเคารพเลื่อมใสต่อศิษย์น้องในสำนักเพียงใด มีชื่อเสียงขจรไกลไปถึงหนแห่งไหน สุดท้ายแล้วก็ยังมีคนปากกล้าและอวดดี กังขาในความสามารถของเขาอยู่ตลอดเวลา ไม่รู้จักเจียมตัวก็แล้วไปเถอะ แต่จะหาเรื่องคนที่มีพลังแก่กล้ากว่าตนอยู่อักโขเช่นนี้ ก็คงต้องประมือกันสักตั้งแล้ว “หากชอบรนหาที่ตายนัก ข้าจะสนองให้พวกเจ้าเอง!”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset