ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี – บทที่ 790 ร่ำรวยกว่าประมุขอาคเนย์

‘มงกุฎจันทรา ของสิ่งนี้ไม่ธรรมดาเหมือนกับตราประทับตะวัน…’

มู่จวินทางหนึ่งคิด ทางหนึ่งส่งกระแสเสียงพูดกับหลินฮั่นหัว “สหายน้อยเยี่ยนผู้นี้เป็นคนที่มีโชควาสนาจริงๆ แสงและปราณวิญญาณที่พุ่งขึ้นท้องฟ้าเมื่อครู่ ก็เป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูงเหมือนกันกระมัง? ความยอดเยี่ยมของคุณสมบัติ แม้แต่ในเขตตะวันอาคเนย์ก็ยังหายาก”

“ดูเหมือนจะเกิดจากที่พำนักตรงก้นทะเล กลิ่นอายของพลังเหมือนกับหลุมสีดำขมุกขมัวนั่นไม่ผิดเพี้ยน พลังเป็นไปได้อย่างยิ่งว่าจะมาจากแหล่งเดียวกัน”

มู่จวินกล่าวพร้อมกับหัวเราะ “ประเสริฐยิ่ง ตราประทับตะวัน มงกุฎจันทรา บวกกับอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูงที่เกิดจากที่พำนักตรงก้นทะเล นอกนั้นจากข่าวที่ศิษย์น้องเฉินส่งมา พวกเขายังกำจัดเสวียนอ๋ององค์ปัจจุบัน นำหอกราชาลี้ลับมาครองได้อีก ยิ่งมีของวิเศษที่เหมือนจะเกี่ยวข้องกับดาบราหูอยู่ด้วยอีกชิ้น”

“พูดกันตามตรงนะศิษย์พี่ใหญ่ ข้าคิดฆ่าคนชิงของแล้ว”

หลินฮั่นหัวกล่าวอย่างราบเรียบ “แต่ละคนย่อมมีวาสนาของตัวเอง ต่อให้อิจฉาก็เอามาไม่ได้ จึงไม่จำเป็นต้องอิจฉา”

“ยังไม่พูดถึงหอกราชาลี้ลับและอาวุธศักดิ์สิทธิ์ในที่พำนักก้นทะเล ตราประทับตะวัน มงกุฎจันทรา และดาบราหู ไม่ว่าจะเป็นของชิ้นไหนก็ไม่ใช่ของธรรมดา จะเป็นโชคหรือเป็นคราเคราะห์ ต้องดูต่อจากนี้”

มู่จวินถูมือพร้อมเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ใครบอกไม่ใช่เล่า? ผู้ที่มีโชควาสนายิ่งใหญ่ มักจะต้องประสบมหาเพทภัยด้วย”

“หากผ่านด่านได้ ย่อมเป็นโชควาสนาอันประเสริฐ ถ้าผ่านภัยพิบัติไม่ได้ก็แค่เสียชีวิต”

หลังจากล้อเล่นเสร็จ มู่จวินก็ถอนใจ “เขากับสำนักของเขา แม้แต่จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ในขั้นสะพานเซียนยังไม่มี กลับมีอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูงมากมายขนาดนี้ นี่เกรงว่าจะเป็นขีดจำกัดเท่าที่โลกซ้อนโลกเคยมีมาแล้วกระมัง? หากเทียบคุณสมบัติกันจริงๆ เขาโถงทองของเรายังไม่ร่ำรวยถึงเพียงนี้เลย”

หลินฮั่นหัวได้ยินก็อดยิ้มขึ้นไม่ได้

มู่จวินว่า “ชาวบ้านไร้ความผิด ครอบครองหยกจึงมีความผิด คนผู้นี้มีของวิเศษมากมายถึงเพียงนี้ เกรงว่าจะถูกคนหมายหัวได้ง่ายๆ พวกเราแม้จะไม่เอา ก็ยากจะรับรองว่าคนอื่นจะไม่ต้องการ”

หลินฮั่นหัวกล่าวว่า “การได้กระดูกหงส์เพลิงที่แฝงจิตจริงแท้ของเมฆาคุณธรรมมา เขาถือว่าได้ช่วยพวกเราแล้ว ยามปกติข้าย่อมคุ้มครองเขา แต่ว่าก็ไม่อาจอยู่ข้างตัวเขาตลอดเวลา ยิ่งกว่านั้นยังขึ้นอยู่กับตัวเขาอีกด้วย”

มู่จวินก้มหน้ามองน่านน้ำด้านล่าง “พวกคังผิงจะทำอย่างไร?”

“ดูจากตอนนี้ ตายย่อมไม่ตายแล้ว หลุมสีดำขมุกขมัวนั้นถูกหยุดไว้ ไม่อาจพังทลายอย่างรุนแรงได้อีก แต่จะค่อยๆ ถล่มอย่างต่อเนื่อง”

“อีกหลายปี หลังจากหลุมสีดำขมุกขมัวค่อยๆ ถูกเวลาเคี่ยวกรำทีละน้อย พวกเขาถึงจะออกมาได้อย่างปลอดภัย”

“และไม่จำเป็นต้องห่วงว่าเยี่ยนจ้าวเกอหรือพวกกู้หงจะลงไปสังหาร เพราะความสมดุลของด้านล่างอ่อนแอยิ่ง”

“ก่อนที่หลุมสีดำขมุกขมัวจะหายไปโดยสมบูรณ์ หากสมดุลถูกทำลาย หลุมดำจะถล่ม ต่อให้เป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูงของเยี่ยนจ้าวเกอที่มีจิตพลังมาจากแหล่งเดียวกับหลุมดำชิ้นนั้นก็ไม่มีประโยชน์ ต้องสูญสิ้นไปพร้อมกับหลุมดำ เขาคงไม่โง่เขลาขนาดนั้น”

มู่จวินพูดพร้อมกับมองหลินฮั่นหัว “กลับไม่ทราบว่าจะมีอุบัติเหตุอื่นหรือไม่? พวกเราควรจะช่วยหรือไม่? พวกคังผิงถ้าตายลงที่นี่ เขาโถงทองของเราจะถือว่าผิดคำสัญญาหรือไม่? ถึงเวลาต่อให้ท่านประมุขพบกับคนผู้นั้นก็ไกล่เกลี่ยกันไม่ได้”

หลินฮั่นหัวเอ่ยอย่างเรียบเฉย “ท่านอาจารย์เพียงอนุญาตให้เขาเคลื่อนไหวในทะเลหวงเจียเท่านั้น ต่อให้ไม่ก้าวก่าย พวกเขาจะทำสำเร็จหรือไม่ จะปลอดภัยหรือไม่ พวกเราเขาโถงทองไม่เคยรับประกัน”

“ครั้งนี้เป็นเพราะความแค้นส่วนตัวของพวกเขา ไล่ตามคนของสำนักแสงสว่างมาที่นี่ จึงไปติดอยู่ในหลุมดำ เหตุใดต้องให้พวกเรารับผิดชอบ? คนที่อยู่เบื้องหลังพวกเขาถ้าไม่พอใจ ก็ให้พวกเขาไปแก้ตัวเอง พวกเราไม่ได้มีหน้าที่ช่วยเหลือ”

หลินฮั่นหัวสายตาเย็นชา “เรียกลมเรียกฝนในเขตตะวันอาคเนย์มานานแล้ว วันนี้ให้ตัวเองได้พักสักสองสามปี ข้าเห็นดีด้วย”

มู่จวินพยักหน้าอย่างไม่ใส่ใจ “ถูกต้อง”

เยี่ยนจ้าวเกอมองเบื้องล่าง พวกคังผิงร่วมมือกันกางข่ายกระบี่ข่ายหนึ่ง ยื้อยันกับหลุมสีดำขมุกขมัว อดส่ายหน้าด้วยรอยยิ้มไม่ได้

กระบี่ปีศาจเทาเที่ยที่เขาถือครอง หรือพ่านพ่านที่กินหัวใจของเทาเที่ยไปแล้ว ได้แต่ฝืนต้านทานพลังแห่งการกลืนกินของหลุมสีดำขมุกขมัวเท่านั้น

ตอนที่หลุมดำพินาศ พลังทำลายชนิดทำลายฟ้าดินนั้นกลับไม่อาจทนทานได้

หากลงไปจัดการพวกคังผิงในตอนนี้ ก็เท่ากับส่งตัวเองไปสู่จุดจบ

‘กระนั้น หากพวกเขาจะรอให้หลุมดำสลายไปเอง สมควรใช้เวลาไม่น้อย’ เยี่ยนจ้าวเกอหัวเราะเหอะๆ ‘ทะเลแห้งเหือดเป็นผืนนา ใช้เวลาแค่ฝันตื่นหนึ่งเท่านั้น ผ่านไปอีกหลายปี โลกใบนี้อาจจะไม่เหมือนเดิมโดยสิ้นเชิงแล้วก็ได้’

เห็นเยี่ยนจ้วเกอมองหลุมดำเบื้องล่างอย่างเหม่อลอย ผู้คุมหอกระบี่ทะเลเหนือกู้หงก็อดเอ่ยปากถามไม่ได้ว่า “สหายน้อยเยี่ยน มีอยู่เรื่องหนึ่ง ไม่ทราบว่าท่านรู้หรือไม่?”

เยี่ยนจ้าวเกอได้สติกลับมา “ผู้คุมหอกู้มีอะไรจะชี้แนะหรือ?”

กู้หงเอ่ยอย่างหวั่นวิตก “บนน่านน้ำของดินแดนจิตคุณธรรม ทางเหนือของผาตะวันจันทราซึ่งเป็นที่อยู่ของสำนักแสงสว่าง มีบาดแผลแห่งกำแพงสวรรค์อยู่แห่งหนึ่ง”

“ตามที่เจ้าสำนักหลัวแห่งสำนักแสงสว่างบอก บาดแผลแห่งกำแพงสวรรค์แห่งนี้ได้เชื่อมไปยังโลกแปดพิภพซึ่งท่านจากมา”

“เสวียนมู่อ๋องแห่งราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องไม่ได้มายังดินแดนสุทธทัศน์ เป็นไปได้อย่างยิ่งว่าจะพาคนไปโจมตีโลกแปดพิภพ…”

กงซุนอู่มองเยี่ยนจ้าวเกอ ด้วยไม่ทราบว่าหลังจากเยี่ยนจ้าวเกอรู้ข่าวนี้ จะมีปฏิกิริยาอย่างไร

เสวียนมู่อ๋องเป็นจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นหก ขั้นเทวะสำแดงระยะท้าย มีหอกราชาลี้ลับอยู่ในมือ บัญชายอดฝีมือมากมาย

หากนำพลังเช่นนี้ไปโจมตีโลกเบื้องล่างสักใบ มาตรว่าจะถูกเขตแดนแห่งฟ้าดินกดระดับพลังฝึกปรือไว้ ก็เป็นกระแสน้ำไม่อาจต้านทานอยู่ดี

สำรหับกู้หงและกงซุนอู่ หากต้องเผชิญกับแรงกดดันเช่นนี้ โลกแปดพิภพและสำนักของเยี่ยนจ้าวเกอจะต้องต้านรับไม่ไหวแน่นอน

เวลาผ่านไปนานถึงเพียงนี้ สิ่งที่ควรเกิดก็ควรจะเกิดไปแล้ว ทุกสิ่งจะต้องถูกทลายเป็นฝุ่นผง

เยี่ยนจ้าวเกอเป็นไปได้อย่างยิ่งว่าจะมาดินแดนสุทธทัศน์ทันที ไม่เข้าใจเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นบนดินแดนจิตคุณธรรมเมื่อก่อนหน้า

กู้หงมองเยี่ยนจ้าวเกอด้วยความเป็นห่วงเล็กน้อย ในใจกำลังคิดอยู่ว่าควรจะปลอบประโลมเขาอย่างไร

ถ้าหากเยี่ยนจ้าวเกอรู้สึกโกรธขึ้นมา แล้วคิดไปแก้แค้นเสวียนมู่อ๋อง กู้หงก็คิดว่าควรจะช่วยเหลือเขา

ถึงอย่างไรเสวียนมู่อ๋องก็มีอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูงหอกราชาลี้ลับอยู่ในมือ จึงมีพลังไม่ด้อยกว่าจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสะพานเซียน

ถึงเวลาหากเยี่ยนจ้าวเกอไปตามหาพระองค์ พระองค์ก็ไม่ใช่ไม่มีความสามารถในการโต้กลับเหมือนพวกคังผิงที่ติดอยู่ในหลุมดำ

เยี่ยนจ้าวเกอแม้ว่าจะมีอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูงไม่ต่ำกว่าหนึ่งชิ้น แต่ก็ใช่ว่าจะเอาชนะหอกราชาลี้ลับได้

โดยเฉพาะถ้าเสวียนมู่อ๋องกลับนครหลวง ครองความได้เปรียบด้านชัยภูมิ การจู่โจมของเยี่ยนจ้าวเกอจะยิ่งยากกว่าเดิม

ทว่าเยี่ยนจ้าวเกอได้ยินคำพูดของกู้หงก็หัวเราะขึ้นมา “ขอบคุณผู้คุมหอกู้ที่บอก แต่ข้าทราบตั้งแต่ก่อนจะมายังดินแดนสุทธทัศน์แล้ว ขอไม่ปิดบัง ข้าออกจากดินแดนจิตคุณธรรมมายังดินแดนสุทธทัศน์นี่ด้วยตนเอง”

กู้หงกับกงซุนอู่งงงัน “แล้วดินแดนจิตคุณธรรมตอนนี้เล่า?”

ไม่รอเยี่ยนจ้าวเกอตอบ มู่จวินก็เอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้มว่า “เสวียนอ๋ององค์ปัจจุบัน รวมถึงจอมยุทธ์ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องที่พระองค์บัญชาไปโจมตีโลกแปดพิภพล้วนพินาศหมดสิ้น เสวียนอ๋ององค์ปัจจุบันได้สวรรคตที่น่านน้ำใกล้ๆ บาดแผลแห่งกำแพงสวรรค์บนดินแดนจิตคุณธรรมด้วย

“อาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูงของราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องหอกราชาลี้ลับ ปันจุบันได้อยู่ในมือของสหายน้อยเยี่ยนผู้นี้แล้ว”

กู้หงกับกงซุนอู่ได้ยินต่างตกตะลึง

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

Score 7.9
Status: Ongoing Artist: Native Language: Chinese
อ่านเรื่อง ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพีชายหนุ่มข้ามมิติกาลเวลาครั้งแรกมาสู่ยุคสมัยที่อารยธรรมวรยุทธ์รุ่งเรืองจนถึงที่สุด มุมานะศึกษาและฝึกฝนคัมภีร์สุดยอดวิชาที่เก็บรวบรวมไว้ในวังเทพมากมาย แต่แล้วยุคสมัยอันรุ่งโรจน์ก็ต้องพบพานกับวิกฤติการณ์ครั้งใหญ่ ทุกสิ่งทุกอย่างพังทลายจนหมดสิ้น ทว่าชายหนุ่มผู้นั้นก็พาตนเองและสมองที่เปี่ยมไปด้วยความรู้ของสุดยอดวิชา ข้ามมิติกาลเวลาอีกครั้งไปสู่ยุคสมัยใหม่ ยุคสมัยนี้มีสิ่งที่ทำให้เขารู้สึกขัดใจยิ่งนัก นั่นก็คือทุกอย่างช่างง่ายดายไปเสียหมด จนทำให้เขาได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในสี่คุณชายแห่งยุค เหนือกว่าจอมยุทธ์รุ่นเยาว์ผู้ใดในบรรดาดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดในเวลาชั่วพริบตา กระนั้น แม้เขาจะยอดเยี่ยมอย่างไร เป็นที่น่าเคารพเลื่อมใสต่อศิษย์น้องในสำนักเพียงใด มีชื่อเสียงขจรไกลไปถึงหนแห่งไหน สุดท้ายแล้วก็ยังมีคนปากกล้าและอวดดี กังขาในความสามารถของเขาอยู่ตลอดเวลา ไม่รู้จักเจียมตัวก็แล้วไปเถอะ แต่จะหาเรื่องคนที่มีพลังแก่กล้ากว่าตนอยู่อักโขเช่นนี้ ก็คงต้องประมือกันสักตั้งแล้ว “หากชอบรนหาที่ตายนัก ข้าจะสนองให้พวกเจ้าเอง!”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset