ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี – บทที่ 911 เด็กน้อยนี่เป็นมนุษย์หรือ?!

ซ่างจวินฟาดฝ่ามือลง กลุ่มปราณสิบกลุ่มทั่วร่างต่างร่ำร้องเคลื่อนไหว

คล้ายกับเทพเจ้าทั้งสิบองค์ตวาดขึ้นพร้อมกัน อยู่เหนือกว่าสวรรค์ชั้นฟ้า

พอเขาออกฝ่ามือ สภาวะฝ่ามือก็พลิกคว่ำเปลี่ยนแปลง คล้ายกับแฝงความน่าอัศจรรย์ไร้สิ้นสุด

พริบตาเดียวคล้ายกับแฝงการเปลี่ยนแปลงสิบชนิด

พลังฟ้าพลิกผันเมฆ เคล็ดวิชาหลอมปราณ ซึ่งอยู่ในสองเคล็ดวิชาสูงส่งของสำนักเมฆเลือนดาว

วรยุทธ์ที่ได้รับการขนานนามเคียงคู่พลังฟ้าพลิกผันเมฆ คือท่าฝ่ามือที่มีชื่อว่า หัตถ์ค้ำดินคว่ำพิรุณ

สองวิชารวมเป็นหนึ่ง มหัศจรรย์ไร้สิ้นสุด แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของเอกภพ

มิติด้านหน้าเยี่ยนจ้าวเกอกับฟู่ถิงคล้ายกับพลิกคว่ำเพราะฝ่ามือของซ่างจวิน

แต่เยี่ยนจ้าวเกอกลับไม่นำพา เขาวูบไหวร่างครั้งหนึ่ง กลายเป็นลำแสง พุ่งออกจากขอบเขตฝ่ามือของซ่างจวิน

เขามองซ่างจวินอย่างสนอกสนใจ “พลังฟ้าพลิกผันเมฆ หัตถ์ค้ำดินคว่ำพิรุณ ต้องเปลี่ยนแปลงคู่ลำดับเอกชวดได้ จึงจะนับว่าบรรลุถึงแก่นแท้ที่อยู่ข้างในอย่างแท้จริง”

“ไม่เพียงแต่หลบฝ่ามือข้าได้ ถึงกับยังรู้จักการเปลี่ยนแปลงเอกชวดด้วยหรือนี่” ซ่างจวินพิจารณาเยี่ยนจ้าวเกอตั้งแต่หัวจรดเท้า “อายุยังน้อยแท้ๆ แต่กลับมีความรู้ไม่น้อยทีเดียว”

เขาส่ายหน้า “ข้าทราบว่าลูกศิษย์เต๋านอกรีตอย่างพวกเจ้า หลังจากตกไปอยู่ในวิถีของเต๋านอกรีตแล้วจะได้รับประโยชน์ชั่วขณะ หากต่อสู้กับจอมยุทธ์ในระดับเดียวกัน บางทีจะมีความคมกล้ากว่าผู้สืบทอดสำนักเต๋าสายหลักอยางพวกเราจริงๆ”

“แต่ก็เป็นแค่การดื่มยาพิษดับกระหาย พวกเจ้าจะค้นพบอย่างรวดเร็วว่า เส้นทางของพวกเจ้ายิ่งมายิ่งแคบ ยิ่งมายิ่งยากลำบาก”

ซ่างจวินเอ่ยเสียงเนิบ “พอถึงเวลานั้น เมื่อเจ้าหันกลับไปมองเมื่อวาน ก็จะทราบว่าทุกสิ่งในวันนี้หายไปดุจควันเมฆ”

“ยิ่งไปกว่านั้น พวกเจ้ายังอยู่แค่ขั้นเทวะสำแดง แม้จะมีความสามารถอยู่บ้าง แต่ก็ไม่อาจหนีรอดจากฝ่ามือของข้าไปได้หรอก!”

ครั้นซ่างจวินพูดจบ สภาวะฝ่ามือของเขาก็เปลี่ยนแปลงอีก

เขาผลักสองมือออก เหมือนกับพลิกฟ้าดิน คว่ำพายุ

เยี่ยนจ้าวเกอกล่าวด้วยรอยยิ้ม “หลอกตัวเอง”

ชายหนุ่มไม่เหลือบแลสองฝ่ามือนั้น เพียงยกฝ่ามือของตัวเองขึ้น

ครั้นมือข้างนี้ยกขึ้น ทิวทัศน์ในมิติก็พลันเปลี่ยนแปลงไป

ซ่างจวินรู้สึกแค่ว่ามิติที่ไม่อาจแยกแยะทิศทาง และยากจะแบ่งบนล่างตรงหน้า จู่ๆ ก็มีทิศทางและเค้าโครงขึ้นมา

เขาที่เดิมทีอยู่ในมิติ เหมือนได้กลับไปอยู่ในโลกที่มีฟ้ามีแผ่นดินใบหนึ่ง

ฟ้าดินไร้รูปร่าง แต่ว่าในการรับรู้ของซ่างจวิน เขาศีรษะชี้ฟ้า เท้าเหยียบพื้นอีกครั้ง

ทว่าหลังจากฝ่ามือที่เยี่ยนจ้าวเกอยกขึ้นถูกกดลง ท้องฟ้าที่อยู่ด้านบนศีรษะเขาก็พังทลาย!

ฟ้าร่วงตกใส่ศีรษะเขาอย่างหักโหม ฟ้าดินที่อยู่พลันพลิกเปลี่ยน!

วิชาฝ่ามือของซ่างจวินก็พลิกเปลี่ยนฟ้าดินและพายุเช่นกัน

ทว่าในวินาทีนี้ พายุเหล่านี้คล้ายกับถูกฟ้าดินตรงหน้าครอบไว้ และเกิดการเปลี่ยนแปลงพลิกคว่ำขึ้นเช่นกัน!

“จอมยุทธ์ที่มาจากเต๋าสายโถงเซียนเช่นท่าน ข้าสงสัยนักว่าจะฝึกฝนการเปลี่ยนแปลงเอกชวดสำเร็จหรือไม่”

เยี่ยนจ้าวเกอไพล่มือซ้ายไว้ด้านหลัง ยกมือขวาขึ้น ใช้วิชารอยตราพลิกนภาฟาดลง

ซ่างจวินยกมือต้านฝ่ามือนี้ เจ้าสำนักเมฆเลือนดาวผู้นี้สีหน้าพลันเกิดการเปลี่ยนแปลง

หลังจากหัวเราะอย่างเย็นชาแล้ว เยี่ยนจ้าวเกอก็กล่าวว่า “จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นแปด ขั้นสะพานเซียนระยะกลางจากสำนักเต๋าสายหลัก ข้าผู้แซ่เยี่ยนยังกล้าต่อกร ยิ่งไปต้องพูดถึงเศษสวะเช่นท่าน”

ซ่างจวินเบิกตาถลน ตวาดขึ้นเสียงหนึ่ง!

กลุ่มปราณสิบกลุ่มรอบกายเขาพลันเปลี่ยนเป็นกระจ่างชัดพร้อมกัน

แสงสว่างสลาย เหลือเพียงลวดลายอาคมสิบสาย

แต่ว่าลวดลายอาคมทุกสายต่างคล้ายแฝงพลังอันยิ่งใหญ่ของการเปลี่ยนแปลงของฟ้าดินไว้

ลวดลายอาคมสิบสายรวมตัวกันที่ฝ่ามือของซ่างจวิน

แก่นแท้ของหัตถ์ค้ำดินคว่ำพิรุณสิบสองวิถีถูกแสดงออกมาจนหมดสิ้น ประสานกับยันต์อาคมสิบใบที่ได้จากการฝึกฝนราศีบนคว่ำกระแสเมฆ พุ่งใส่เยี่ยนจ้าวเกอพร้อมกัน

ยันต์อาคมกับวิชาฝ่ามือประสานกัน ก่อเกิดการเปลี่ยนแปลงสามสิบหกชนิดอย่างรวดเร็ว

ทุกการเปลี่ยนแปลงรวมกันเป็นแสงสว่างสายหนึ่ง

แสงสว่างกระจายทั่วบริเวณ พายุสลาย ฟ้าดินเปลี่ยนสี

ซ่างจวินโบกสองฝ่ามือเอียงๆ พร้อมกัน คล้ายกับกำขวานยักษ์เล่มหนึ่งไว้ หมายจะฟันใส่เสาค้ำฟ้า

ฟู่ถิงพลันมีสีหน้าหนักใจ เมื่อเห็นการโจมตีนี้

นางมีพลังเหนือธรรมดา อยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นห้า ขั้นเทวะสำแดงระยะกลาง ปีนขึ้นขั้นสะพานเซียนจากสายสืบทอดของโถงเซียน จอมยุทธ์ในระดับเดียวกันมีอยู่น้อยคนที่เทียบได้

แต่ยามเผชิญหน้ากับการโจมตีสุดกำลังของซ่างจวินที่อยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นแปด ฟู่ถิงเองก็รู้สึกว่ายังคงไม่มั่นใจ หากจะแค่อาศัยแค่พลังฝึกปรือของตน

แม้จะสู้สำนักเต๋าสายหลักไม่ได้ แต่นั่นก็เป็นยอดฝีมือระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นแปดตัวจริงเสียงจริง!

แต่ว่าพอเยี่ยนจ้าวเกอเห็น หนังตาของเขากลับไม่กระตุกแม้แต่น้อย

“ยังไม่ต้องพูดถึงฝึกฝนเอกชวดหกสิบเปลี่ยนแปลงไม่สำเร็จ สุดท้ายยังมีแค่สามสิบหกเปลี่ยนแปลงหรือ”

ไม่เพียงไม่ถอย เยี่ยนจ้าวเกอกลับสืบเท้าขึ้นด้านหน้า เข้าปะทะกับกระบวนท่านี้ของซ่างจวิน!

รอยตราพลิกนภาฟาดลงเหมือนอย่างเคย ฟาดจนสองฝ่ามือของซ่างจวินสั่นไหว

ฝ่ามือของเยี่ยนจ้าวเกอกั้นไม่ให้สองฝ่ามือของซ่างจวินพุ่งลงด้านล่าง จากนั้นเขาก็ใช้ฝ่ามืออีกข้างของตัวเองฟาดใส่ใบหน้าของซ่างจวิน!

ฟ้าดินเบื้องหน้าซ่างจวินเกิดความผิดปกติขึ้นอีกครั้ง ท้องฟ้าอยู่ล่าง ผืนดินอยู่บน

ฟ้าดินพลิกคว่ำ คล้ายกับรวมกันกลายเป็นร่องแยกสายหนึ่ง จากนั้นฝ่ามือข้างหนึ่งก็เบียดออกมาจากในร่องแยกสายนี้ แล้วพุ่งบรรลุถึงเบื้องหน้าเขา!

พายุสลายไปแต่แรก ในวินาทีนี้ตะวันจันทราไร้แสง แม้แต่ฟ้าดินก็เหมือนกับเดินทางมาถึงจุดจบ!

มีแต่ฝ่ามือที่สร้างทุกสิ่งทุกอย่าง พลิกคว่ำและทำลายฟ้าดินนี้เท่านั้นที่ปรากฏขึ้นในสายตา!

ซ่างจวินมองเยี่ยนจ้าวเกอด้วยความเหลือเชื่ออยู่บ้าง

นี่เป็นพลังที่จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นห้า ขั้นเทวะสำแดงระยะกลางมีได้หรือ

จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสะพานเซียนผู้ยิ่งใหญ่อย่างเขา ตอนแรกไม่คิดจะกระตุ้นอาวุธศักดิ์สิทธิ์

อีกฝ่ายเป็นแค่คนรุ่นหลังที่อยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นห้าสองคนเท่านั้น เขาไม่อาจทำตัวขายหน้าได้

ซ่างจวินก่อนหน้านี้ได้มีการเตรียมตัว หากเยี่ยนจ้าวเกอกับฟู่ถิงมีของวิเศษอยู่ ถึงเวลานั้นเขาค่อยแสดงความสามารถ จับทั้งคนทั้งของ

แต่ว่าเยี่ยนจ้าวเกอดุดันเกินไปจริงๆ ซ่างจวินตอนนี้ไม่อาจมัวแต่รักษาหน้าได้อีก

แสงสายหนึ่งพลันสว่างขึ้น ขวานยักษ์หยกขาวของจริงเล่มหนึ่งลอยออกมาจากบนตัวเขา

ขวานหยกเล่มนั้นขยายใหญ่ขึ้น เปลี่ยนจากเล็กเท่าเข็มเป็นยาวกว่าหนึ่งร้อยสิบจั้งในพริบตา!

ขวานเดียวทำลายมิติ จามใส่เยี่ยนจ้าวเกออย่างหักโหม

เป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูงชิ้นหนึ่ง!

แต่ต่อให้อาวุธศักดิ์สิทธิ์ชิ้นนี้จะดุดัน เยี่ยนจ้าวเกอกลับดุดันกว่า!

เมื่อเผชิญกับขวานที่จามลงมา เขากลับไม่หลบหลีก และไม่เปลี่ยนแปลงกระบวนท่า ยังคงฟาดฝ่ามืออกไป

ร่างมหาเซียนปัญจธาตุส่งผลต่อเลือดเนื้อ รอยตราพลิกนภาแฝงการโคจรฝ่ามือหยินหยางขั้วกำเนิด

ความน่าอัศจรรย์ของวรยุทธ์มากมายเริ่มมีสภาวะหลอมรวมกัน ผสมผสานเป็นหนึ่งเดียว

เยี่ยนจ้าวเกอฟาดฝ่ามือใส่ด้านข้างขวานยักษ์ กระแทกขวานเล่มนั้นหมุนออกไปด้านข้าง

อีกฝ่ายขนลุกชูชัน มองชายหนุ่มใช้ฝ่ามือหนึ่งแล้วก็ตามด้วยอีกฝ่ามือหนึ่ง

ขวานยักษ์หยกขาวถูกเยี่ยนจ้าวเกอกระแทกหมุนกลับไป จามใส่ตัวซ่างจวินเอง!

ซ่างจวินแตกตื่น ในที่สุดก็ถูกกดดันให้เก็บกระบวนท่าถอยหลัง

เขาชักฝ่ามือสองข้างกลับ แล้วยื่นออกมารับอาวุธของตัวเอง

แต่ว่าเยี่ยนจ้าวเกอสืบเท้าตามมาอีกก้าว ออกสองฝ่ามือพร้อมกัน ฟาดวิชารอยตราพลิกนภาออกไป

พลังอันบ้าคลั่งเกือบกระแทกให้ขวานยักษ์หยกขาวในมือซ่างจวินหลุดออกไป!

เขากระเด็นถอยหลังอีกรอบ เกือบกระอักเลือดออกมา

ซ่างจวินยามนี้มองเยี่ยนจ้าวเกอด้วยความตื่นตระหนก

เขาตอนแรกคิดอาศัยอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูงของตัวเองโจมตีอย่างหักโหม กดดันให้เยี่ยนจ้าวเกอเก็บกระบวนท่าหลบเลี่ยง จากนั้นเขาค่อยฉวยโอกาสในตอนที่ชายหนุ่มหลบหลีก โจมตีขวาง พลิกจากแพ้เป็นชนะ ยึดครองความได้เปรียบ ไม่ให้โอกาสอีกฝ่ายตอบสนอง ใช้สภาวะอัสนีหมื่นสายสังหารบุรุษหนุ่มผู้นี้ทิ้งเสีย

แต่เขาคิดไม่ไม่ถึงเลยว่า เยี่ยนจ้าวเกอจะดุดันถึงขนาดนี้!

ซ่างจวินเคยได้ยินมาก่อน ว่าจอมยุทธ์เต๋านอกรีตต้องจ่ายข้อแลกเปลี่ยนที่การฝึกฝนในวันหน้ายิ่งมายิ่งยากลำบาก เพื่อแลกกับพลังที่แข็งแกร่งกว่าคนในระดับเดียวกัน

กระนั้นคนหนุ่มตรงหน้านี้แข็งแกร่งเกินไปหน่อยกระมัง

แม้ว่าจะรู้สึกเหลวไหลเหลือเกิน แต่ห้วงสมองของซ่างจวินในยามนี้มีความคิดอย่างหนึ่งลอยขึ้นมาอย่างอดไม่ได้

เด็กน้อยนี่เป็นมนุษย์หรือ?!

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

Score 7.9
Status: Ongoing Artist: Native Language: Chinese
อ่านเรื่อง ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพีชายหนุ่มข้ามมิติกาลเวลาครั้งแรกมาสู่ยุคสมัยที่อารยธรรมวรยุทธ์รุ่งเรืองจนถึงที่สุด มุมานะศึกษาและฝึกฝนคัมภีร์สุดยอดวิชาที่เก็บรวบรวมไว้ในวังเทพมากมาย แต่แล้วยุคสมัยอันรุ่งโรจน์ก็ต้องพบพานกับวิกฤติการณ์ครั้งใหญ่ ทุกสิ่งทุกอย่างพังทลายจนหมดสิ้น ทว่าชายหนุ่มผู้นั้นก็พาตนเองและสมองที่เปี่ยมไปด้วยความรู้ของสุดยอดวิชา ข้ามมิติกาลเวลาอีกครั้งไปสู่ยุคสมัยใหม่ ยุคสมัยนี้มีสิ่งที่ทำให้เขารู้สึกขัดใจยิ่งนัก นั่นก็คือทุกอย่างช่างง่ายดายไปเสียหมด จนทำให้เขาได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในสี่คุณชายแห่งยุค เหนือกว่าจอมยุทธ์รุ่นเยาว์ผู้ใดในบรรดาดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดในเวลาชั่วพริบตา กระนั้น แม้เขาจะยอดเยี่ยมอย่างไร เป็นที่น่าเคารพเลื่อมใสต่อศิษย์น้องในสำนักเพียงใด มีชื่อเสียงขจรไกลไปถึงหนแห่งไหน สุดท้ายแล้วก็ยังมีคนปากกล้าและอวดดี กังขาในความสามารถของเขาอยู่ตลอดเวลา ไม่รู้จักเจียมตัวก็แล้วไปเถอะ แต่จะหาเรื่องคนที่มีพลังแก่กล้ากว่าตนอยู่อักโขเช่นนี้ ก็คงต้องประมือกันสักตั้งแล้ว “หากชอบรนหาที่ตายนัก ข้าจะสนองให้พวกเจ้าเอง!”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset