ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี – บทที่ 920 ศิษย์พี่ใหญ่แต่งกับศิษย์น้องเล็ก ศิษย์น้องเล็กแต่งกับศิษย์พี่ใหญ่

เกาฉิงหัวเราะ รู้สึกสนใจเพราะคำพูดเมื่อครู่ของผุ้อาวุโส

เกาเสวี่ยโพที่อยู่ด้านข้างบนใบหน้ามีสีหน้าจนปัญญา

เขามีนิสัยเรียบร้อย เคร่งมายาท ด้วยระดับพลังฝึกปรือของเขา การทำให้รูปโฉมภายนอกเปลี่ยนจากชราเป็นหนุ่มไม่ใช่เรื่องยากเย็น แต่เขาคิดว่าตัวเองเป็นปู่แล้ว ดังนั้นจึงปล่อยให้รูปลักษณ์ภายนอกมีลักษณะเป็นคนแก่ต่อ

น่าเสียดายที่บิดาของเขา จักรพรรดิน้ำพุหลง นอกจากจะรักษาลักษณะตอนยังเป็นหนุ่มไว้แล้ว ยังกล่าววาจาหยอกล้อกับหลานสาวอย่างไม่เกรงอกเกรงใจ

“ในตอนนั้น ความสัมพันธ์ระหว่างโลกซ้อนโลกกับมรกตท่องฟ้าของเราไม่ได้ตึงเครียดเท่าตอนนี้” เกาเสวี่ยโพอธิบายให้หลานสาวฟังอย่างจนปัญญา “มีการคบหาและการติดต่อกันอยู่บ่อยครั้ง ขอแค่ทั้งสองฝ่ายยินยอม ก็ไม่ห้ามให้เกิดการแต่งงาน”

เกาฉิงถึงแม้จะค่อนข้างไร้เดียงสาในเรื่องนี้ แต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่ทราบอะไรเลย

พอผู้เป็นปู่พูดขึ้น นางก็เริ่มเข้าใจขึ้นมา

ในยุคนนั้น การเกี่ยวดองกันระหว่างท่านปู่ทวดและท่านย่าทวดของตน ก็มีลักษณะเป็นการผูกสัมพันธ์กันระหว่างโลกซ้อนโลกและมรกตท่องฟ้าอยู่บ้าง

เพียงแต่ว่าจักรพรรดิน้ำพุหลงกับกษัตริย์ลี้ลับผูกพันธ์กันอย่างล้ำลึก หลังแต่งงานกัน จักรพรรดิน้ำพุหลงก็รั้งอยู่ในมรกตท่องฟ้า แม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างโลกซ้อนโลกและมรกตท่องฟ้าจะเปลี่ยนเป็นตึงเครียดถึงขีดสุดแล้วก็ตาม

จักรพรรดิน้ำพุหลงเอ่ยกลั้วหัวเราะว่า “ข้าไม่มีปัญญา คิดจะแต่งกับท่านย่าทวดของเจ้า ได้แต่รั้งอยู่คอยรบเร้าพัวพัน”

“ไม่เหมือนกับศิษย์พี่ใหญ่ที่แต่งศิษย์น้องเล็กของท่านย่าทวดของเจ้า แล้วออกจากมรกตท่องฟ้าไป”

เกาฉิงเบิกตาโพลงอีกครั้ง “ท่านอาจารย์ปู่ทวดแต่งให้แก่ราชันพระศุกร์หรือ?!”

จักรพรรดิน้ำพุหลงพยักหน้าพร้อมกับยิ้มกว้าง มีสีหน้ายินดี

เกาฉิงหันไปมองปู่ของตัวเอง เกาเสวี่ยโพกล่าวอย่างสงบนิ่งว่า “เป็นเช่นนี้มิผิด”

หลงฮั่นหัวหันไปมองหลงเสวี่ยจี้ เห็นฝ่ายหลังพยักหน้าเช่นกัน

เกาฉิงงงงันเล็กน้อย คิดถึงเหตุการณ์ที่ในตอนที่ราชันพระศุกร์พกนึ่งกระบี่มาจากโลกภายนอก เอาชนะมรกตท่องฟ้า ทั้งยังแต่งผู้สืบทอดที่โดดเด่นที่สุดของมรกตท่องฟ้าออกไป ก็อดเหม่อลอยซึมเซาไม่ได้

“ฮิๆ ศิษย์พี่ใหญ่แต่งศิษย์น้องเล็ก…” เกาฉิงหัวเราะขึ้น มองจักรพรรดิน้ำพุหลง “ศิษย์น้องเล็กแต่งศิษย์พี่ใหญ่หรือ”

จักรพรรดิน้ำพุหลงหัวเราะฮิฮะ “เป็นเช่นนั้น”

เกาฉิงปรบมือไม่หยุด “นี่นับว่าเป็นเกร็ดที่น่าสนใจยิ่ง”

ปู่ของนางเห็นท่าทางไม่มีมารยาทของหลานสาว ก็อดถลึงตาไม่ได้ แต่พอเห็นจักรพรรดิน้ำพุหลงหัวเราะอย่างเริงร่า เกาเสวี่ยโพก็หัวเราะไม่ออกร้องไห้ไม่ได้ ได้แต่ถอนใจอย่างอับจน

หลงเสวี่ยจี้ หลงฮั่นหัวสองพ่อลูกก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้เช่นกัน

“จริงด้วยท่านปู่ทวด เช่นนั้นศิษย์พี่ใหญ่ของท่าน และพวกท่านอาจารย์ปู่ทวด ตอนนี้อยู่ที่ไหนแล้ว”

เกาฉิงพลันนึกออกในอันใด อดมีสีหน้าสงสัยไม่ได้ “ในโลกซ้อนโลกมีแต่เรื่องเล่าที่เกี่ยวข้องกับท่านอาจารย์ปู่ทวด ทางโลกซ้อนโลกก็ไม่มีข่าวคราวของนาง พวกนางไปอยู่ที่ใดกัน”

ด้านในห้องเงียบลงในชั่วพริบตา

รอยยิ้มสลายไปจากใบหน้าของจักรพรรดิน้ำพุหลง ดวงตาของเขาเปลี่ยนเป็นล้ำลึก เงยหน้ามองเพดานห้องอย่างซึมเซา ครู่ต่อมาค่อยปิดตาลง

เกาฉิงเห็นดังนั้นก็งงงัน

เกาเสวี่ยโพ ปู่ของนางที่อยู่ด้านข้างลดเสียงกล่าวว่า “ท่านผู้อาวุโสทั้งสองไม่อยู่แล้ว”

ดรุณีน้อยพลันใจสั่น มองจักรพรรดิน้ำพุหลง

จักรพรรดิน้ำพุหลงลืมตา ยิ้มเล็กน้อย บรรยากาศที่ผนึกแข็งในห้องคลายตัวลง “ไม่อยู่ตั้งแต่สองพันปีก่อนแล้ว”

“เพราะวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ สำนักเต๋าจึงเหลืออยู่น้อยนิด อีกทั้งได้รับความเสียหายอย่างนัก คิดจะผงาดขึ้นมาอีกครั้งย่อมมีอุปสรรคอยู่มากมาย และต้องมีการเสียสละอีกมาก”

“ขอโทษเจ้าค่ะ ท่านปู่ทวด…” เกาฉิงกล่าวเสียงอ่อย

จักรพรรดิน้ำพุหลงหัวเราะพลางส่ายหน้า “ไม่เป็นไร”

“น่าเสียดายด้วยอายุและพลังฝึกปรือของราชันพระศุกร์กับอาจารย์ปู่อาน้อย สองสามีภรรยาในตอนนั้น เรียกได้ว่าตายก่อนวัยอันควร” เกาเสวี่ยโพส่ายหน้าถอนใจว่า “ไม่อย่างนั้นความสำเร็จในวันหน้า เกรงว่าจะเทียบเคียงได้กับเทวกษัตริย์วิเศษคณานับ หยกโปหยิน และจักรพรรดิจื่อเวย สร้างความรุ่งเรืองให้แก่มรรคากระบี่อีกครั้ง”

เกาฉิงกับหลงฮั่นหัวได้ยินดังนั้นต่างกระจ่าง

หลงเสวี่ยจี้เอ่ยอย่างสงบนิ่ง “คนรุ่นก่อนปลูกต้นไม้ ฟืนไฟย่อมมีไม่ขาด คนรุ่นหลังตามมาเสมอ”

จักรพรรดิน้ำพุหลงมองบุตรของตัวเอง ยิ้มเล็กน้อย “ถูกต้อง”

“จากที่นี่ พวกเราน่าจะมีหวังในการกลับไปยังอีกด้านหนึ่งของ ‘กำแพง’ กลับไปยังอาณาเขตที่โลกซ้อนโลกปกครองแล้ว”

เยี่ยนจ้าวเกอทางหนึ่งแยกแยะกระแสปั่นป่วนของมิติตรงหน้า ทางหนึ่งกล่าวด้วยรอยยิ้ม

ฟูถิงพยักหน้า “มิผิด อย่างน้อยก็มีโอกาสสำเร็จมากกว่าแปดส่วน”

หลังจากสองคนจัดการเผยหัว ประมุขอาทิตย์ไร้ประมาณแล้ว ก็หนีไปยังมิติที่ห่างออกไป

พวกเขารู้สึกได้ว่าใกล้ๆ กับโลกสูงเลิศของแดนเซียนปลดปลง มีกลิ่นอายที่แข็งแกร่งมาถึงอีกครั้ง

ซ่างจวินในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นแปด ขั้นสะพานเซียนระยะกลางถูกสังหาร ยังก่อให้เกิดความปั่นป่วน มิพักเอ่ยถึงเผยหัวที่อยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสิบ ขั้นประมุขในหมู่คน

อีกทั้งก่อนหน้านี้หลงเสวี่ยจี้ยังได้สังหารจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นประมุขจากโถงเซียนอีกคนหนึ่งด้วย

จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ระดับประมุขสองคนตายบนตำแหน่งเดิมติดต่อกัน ไม่ต้องการให้คนสนใจยังยาก

แต่ว่าการเสียชีวิตพร้อมกันของจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ระดับประมุขสองคนในแดนเซียนปลดปลง ก็ทำให้ยอดฝีมือระดับสุดยอดของโถงเซียนที่คุมสถานการณ์การอยู่ใกล้ๆ ปรากฏตัวขึ้นในเวลาอันสั้น

ยอดฝีมือระดับจักรพรรดิคนหนึ่งถูกหลงเสวี่ยจี้ล่อไป โถงเซียนยังต้องสู้กับศาสนาพุทธคิดแบ่งยอดฝีมือมา ก็นับวาสมีความยากเย็นเช่นกัน

เยี่ยนจ้าวเกอกับฟู่ถิงได้ฉวยโอกาสนี้ หนีเข้าไปในมิติ

ชายหนุ่มครอบครองคัมภีร์นภาไร้ขอบเขต หลังจากสังหารคนจากโถงเซียน ย่อมไม่มีทางทิ้งเบาะแสให้อีกฝ่าย และทำให้ยอดฝีมือระดับสุดยอดของอีกฝ่ายไม่สามารถมาสนับสนุนได้ในพริบตา

ถ้าไม่ได้ถูกจับคาที่ หรือไม่มีผู้พบเห็น เบาะแสของอีกฝ่ายก็จะขาดสะบั้น

เยี่ยนจ้าวเกอยกมือขึ้นเขียดลวดลายอาคมสายแล้วสายเล่าใส่อากาศ ลวดลายอาคมผนึกรวมกันไม่หยุด เปล่งแสงสว่างไหสว เหมือนกับท้องทะเลแสง

ฟู่ถิงมองดูอยู่ด้านข้าง หลังจากจ้องมองท้องทะเลแสงที่เกิดจากลวดลายอาคมตรงหน้า ก็ยื่นมือออกมาเขียนลวดลายอาคมใส่อากาศหลายสาย แล้วส่งเข้าไปในทะเลแสง ช่วยเหลือเยี่ยนจ้าวเกออีกแรง

เขามองดูเหตุการณ์นี้อย่างสนอกสนใจ อดพยักหน้าถอนใจชมเชยไม่ได้ “แม่นางฟู่เป็นอัจฉริยะฟ้าประทานจริงๆ”

สามารถมองเบื้องหลังได้เร็วขนาดนี้ อีกทั้งยังช่วยเหลือในการปฏิบัติจริงได้ ไม่ใช่เรื่องที่อาศัยแค่แหล่งความรู้เพียงอย่างเดียวแล้วจะทำได้

ว่ากันว่าฟู่ถิงมากความสามารถ และนั่นไม่ใช่การกล่าวชมที่เกินเลย

คำว่ามากความสามารถของคนหลายคน เป็นการยกยอตัวเอง มากความสามารถที่แท้คือทำได้ทุกอย่าง แต่ไม่เชี่ยวชาญสักอย่าง เหมือนกับทำอะไรไม่เป็น

แต่ฟูถิงเชี่ยวชาญในทุกอย่าง เป็นผู้มากความสามารถจริงๆ

นางว่า “คุณชายเยี่ยนชมเกินไป ท่านต่างหากที่ทำให้ข้ารู้สึกตกตะลึง ถึงกับเปิดทางเชื่อมที่เชื่อมระหว่างโถงเซียนเต๋านอกรีต กับโลกสามพิสุทธิ์สำนักเต๋าสายหลักของพวกเราได้”

นางในฐานะบุตรีของจักรพรรดิแพร ทราบถึงการดำรงอยู่ของศาสนาพุทธมานานแล้ว อีกทั้งยังรู้ว่า การข้าม ‘กำแพง’ นี้ มีแต่ต้องเป็นยอดฝีมือระดับเซียนจึงจะสามารถทำได้

ข้อยกเว้นน้อยนิดก็อย่างเช่นพวกประมุขประจิม ที่ฝึกฝนวรยุทธ์ระดับสุดยอดประเภทคัมภีร์นภาความว่างเปล่า แต่ว่านั่นเป็นยอดฝีมือผู้ยิ่งใหญ่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสิบ ขั้นประมุขในหมู่คน

พลังฝึกปรือระดับเยี่ยนจ้าวเกอ อีกทั้งยังไม่อาศัยสิ่งของ ไม่เพียงปกติไม่มีให้เห็น แม้แต่ได้ยินยังไม่เคยได้ยินมาก่อน

“ไม่กล้าเทียบกับพวกจักรพรรดิแพรบิดาของท่านหรอก” เยี่ยนจ้าวเกอเอ่ยกลั้วหัวเราะ “พวกของบิดาท่านเปิดประตูบน ‘กำแพง’ ข้ามไปมาระหว่างโลกสองใบได้ในชั่วพริบตา วิธีของข้าคือสร้างทางเชื่อมเส้นหนึ่ง พวกเราคิดกลับไป ยังต้องเดินทางอยู่ในทางเชื่อมอีกหลายวัน”

“อัตราความสำเร็จห่างกันราวฟ้ากับเหว ยิ่งอย่าว่าแต่ตอนนี้ข้าต้องการเปิดทางเชื่อม ต้องเปลืองเวลามากโข ไหนเลยจะทำได้ตามใจนึกเช่นพวกบิดาท่าน”

ฟู่ถิงส่ายหน้า “แบบนั้นก็ยากเกินไป”

ขณะสองคนคุยกัน ใจกลางทะเลแสงตรงหน้าก็ปรากฏวังวนยักษ์กลุ่มหนึ่ง

มิติที่ก้นวังวนบิดเบี้ยว ทั้งยังสาดแสงที่ละลานตายากบรรยาย พร่างพราวยิ่งกว่าทะเลแสงที่อยู่รอบๆ

………………..

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

Score 7.9
Status: Ongoing Artist: Native Language: Chinese
อ่านเรื่อง ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพีชายหนุ่มข้ามมิติกาลเวลาครั้งแรกมาสู่ยุคสมัยที่อารยธรรมวรยุทธ์รุ่งเรืองจนถึงที่สุด มุมานะศึกษาและฝึกฝนคัมภีร์สุดยอดวิชาที่เก็บรวบรวมไว้ในวังเทพมากมาย แต่แล้วยุคสมัยอันรุ่งโรจน์ก็ต้องพบพานกับวิกฤติการณ์ครั้งใหญ่ ทุกสิ่งทุกอย่างพังทลายจนหมดสิ้น ทว่าชายหนุ่มผู้นั้นก็พาตนเองและสมองที่เปี่ยมไปด้วยความรู้ของสุดยอดวิชา ข้ามมิติกาลเวลาอีกครั้งไปสู่ยุคสมัยใหม่ ยุคสมัยนี้มีสิ่งที่ทำให้เขารู้สึกขัดใจยิ่งนัก นั่นก็คือทุกอย่างช่างง่ายดายไปเสียหมด จนทำให้เขาได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในสี่คุณชายแห่งยุค เหนือกว่าจอมยุทธ์รุ่นเยาว์ผู้ใดในบรรดาดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดในเวลาชั่วพริบตา กระนั้น แม้เขาจะยอดเยี่ยมอย่างไร เป็นที่น่าเคารพเลื่อมใสต่อศิษย์น้องในสำนักเพียงใด มีชื่อเสียงขจรไกลไปถึงหนแห่งไหน สุดท้ายแล้วก็ยังมีคนปากกล้าและอวดดี กังขาในความสามารถของเขาอยู่ตลอดเวลา ไม่รู้จักเจียมตัวก็แล้วไปเถอะ แต่จะหาเรื่องคนที่มีพลังแก่กล้ากว่าตนอยู่อักโขเช่นนี้ ก็คงต้องประมือกันสักตั้งแล้ว “หากชอบรนหาที่ตายนัก ข้าจะสนองให้พวกเจ้าเอง!”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset