ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี – บทที่ 927 เขาทุ่งวิจิตร บรรพตประจิม

เยี่ยนจ้าวเกอลูบคาง “เทพธิดาสสารกำเนิดอย่างไรก็เป็นผู้อาวุโส สมควรไม่สร้างความลำบากให้กับพวกเรากระมัง”

ก่อนหน้านี้ตอนที่พูดคุยกับจอมยุทธ์จากยอดเขาอัศจรรย์ รวมถึงฟู่ถิงซึ่งเป็นบุตรีของจักรพรรดิแพร ไม่อาจบอกว่าพวกนางยโสโอหัง

มู่จวินมองเรือยักษ์ที่มีรูปไท่จี๋ลอยค้างอยู่เหนือบัวแดง “ว่ากันว่าตอนที่เทพธิดาสสารกำเนิดยังสาวก็หยิ่งทะนงจนเคยชิน ความสัมพันธ์ระหว่างนางกับจักรพรรดิแพรยากจะอธิบาย”

“แต่ว่าที่นางกับท่านอาจารย์มีความสัมพันธ์ย่ำแย่ เป็นเรื่องแน่นอน”

มู่จวินหัวเราะด้วยความหนักใจ “ท่านสนิทกับพรรคเรา ทั้งยังสนิทกับศิษย์น้องฟู่ ย่อมถูกระบายโทสะได้โดยง่าย”

คนไม่น้อยคิดว่า ยอดฝีมือจะต้องมีจิตใจกว้างขวาง ไม่อย่างนั้นนิสัยก็มีปัญหา

แต่ว่าในความจริงแล้ว ทั้งสองเรื่องไม่ได้มีความเกี่ยวข้องโดยสิ้นเชิง

ยอดฝีมือระดับสุดยอดบางคนเวลากระทำอะไรสักอย่างดูมีสภาวะยิ่งใหญ่ แต่ว่ากลับเจ้าคิดเจ้าแค้น ผู้ที่มีนิสัยวิตถารก็มีอยู่ไม่น้อย

เรื่องที่เห็นได้บ่อยที่สุดก็คือ ชอบทำตามใจและตามอารมณ์

ถ้าหากอารมณ์ดีย่อมเห็นอกเห็นใจผู้อื่น ถ้าหากอารมณ์ไม่ดี การฆ่าคนล้างสำนักก็เป็นแค่เรื่องธรรมดาเท่านั้น

สิ่งที่ทุกคนได้เห็น ส่วนใหญ่แล้วเป็นด้านหนึ่งของใครสักคนเท่านั้น

เยี่ยนจ้าวเกอเข้าใจเรื่องนี้อย่างแจ่มแจ้ง

ในเขากว่างเฉิงของตน มีอาจารย์ป้าฟู่เอินซูอยู่ด้วย

ตอนนี้นางค่อยๆ เหลือแค่ความชื่นชมและความปลาบปลื้มของผู้อาวุโสในสำนักต่อเยี่ยนจ้าวเกอเท่านั้น

แต่ว่าสำหรับเสวี่ยชูฉิง จนกระทั่งถึงวันนี้ นางก็ยังมีความคาใจมาตลอด

อย่าเห็นว่าที่แล้วมานางไม่พูดถึง แต่เยี่ยนจ้าวเกอก็ทราบว่าฟู่เอินซูใส่ใจในเรื่องเสวี่ยชูฉิงยิ่ง ไม่น้อยกว่าเยี่ยนตี๋และเขาสองพ่อลูกเลย

“ในเมื่อมาแล้ว ก็ควรต้องขึ้นไปทักทายตามมารยาท” เยี่ยนจ้าวเกอเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ถึงอย่างไรจักรพรรดิแพรก็ใกล้จะต่อสู้กับทวนพระอังคารแล้ว เทพธิดาสสารกำเนิดท่านนี้คงจะไม่จุดไฟเผาสวนหลังบ้านตอนนี้กระมัง”

มู่จวินครุ่นคิดเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยว่า “ท่านควรจะขึ้นเรือไปคนเดียว ไม่อย่างนั้นรอศิษย์น้องฟู่มา เกิดขึ้นเรือไปด้วยกัน เกรงว่าผู้อาวุโสเถาจะสร้างความลำบากให้”

“ไม่ว่าจะกล่าวอย่างไร จักรพรรดิแพรก็เคยเชิญท่านกับบิดาท่านไปเป็นแขกที่สถานบำเพ็ญหลีเฮิ่นน้อย”

เยี่ยนจ้าวเกอยักไหล่ “ท่านมู่รอสักครู่ ข้าไปไม่นานก็กลับมาแล้ว”

พูดจบ เขาก็เดินไปยังเรือนภาบัวแดง

เพิ่งจะเข้าใกล้รูปไท่จี๋ ก็เห็นเรือนภาบัวแดงมีแสงสายหนึ่งสาดลงมา ส่งคนกลุ่มหนึ่งลงเรือ

เยี่ยนจ้าวเกอมองไปไกล คนกลุ่มหนึ่งในนี้ คือพวกเฉิงโม่และกวนอวี่ลั่วที่ขึ้นไปเมื่อครู่

นอกจากคนที่มาจากอารามคงมายาในเขตราตรีอุดรอย่างพวกเขาแล้ว ยังมีคนอีกส่วนหนึ่งที่ลงเรือมาด้วย

กระนั้น กวนอวี่ลั่วคล้ายกับกำลังโต้เถียงกับคนเหล่านั้นอยู่

เสียงแว่วมาในหูของเยี่ยนจ้าวเกอ “เยี่ยนจ้าวเกอนั่นก็แค่พบเจอวาสนา ได้ของวิเศษมากมาย จึงได้มีวันนี้ ที่แม่นางกวนพูดดูเกินจริงเกินไป”

กวนอวี่ลั่วหยุดฝีเท้า กล่าวอย่างไม่พอใจ “พวกศิษย์พี่จากเขาทุ่งวิจิตร คำกล่าวนี้ลำเอียงไปบ้างกระมัง”

“หากเจ้าชายพระอาทิตย์ไร้ความสามารถจริงๆ ไหนเลยจะได้รับความชื่นชมจากจักรพรรดิแพรและประมุขอาคเนย์”

ในช่วงเวลาก่อนวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ไกลแสนไกล เขาทุ่งวิจิตรคือบรรพตประจิมสำนักเต๋าในตำนาน ได้รับการขนานนามเป็นห้าบรรพตเหมือนเขาคุนหลุนบรรพตกลาง และเขากว่างเฉิงบรรพตบูรพา

ในปัจจุบันหลังจากวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ กลับมีคนใช้ชื่อนี้สร้างสำนักบนโลกซ้อนโลก

เขาทุ่งวิจิตรในเขตกระฟ้าประจิม เป็นที่อยู่ของประมุขประจิม

พอได้ยินคำถามของกวนอวี่ลั่ว จอมยุทธ์เขาทุ่งวิจิตรผู้นั้นก็ไม่รีบร้อน “จักรพรรดิแพรเห็นเขาเป็นอย่างไรยังบอกไม่ได้ ประมุขอาคเนย์เกรงว่าจะเห็นแก่ตราประทับตะวันและมงกุฎจันทรา เห็นแก่หน้ายอดฝีมือผู้ยิ่งใหญ่อย่างราชันพระอาทิตย์และราชันพระจันทร์มากกว่ากระมัง”

คนผู้นั้นส่ายหน้ากล่าวว่า “แต่บุคคลที่ยิ่งใหญ่สองคนนี้ มีความเกี่ยวข้องกับเยี่ยนจ้าวเกอผู้นั้นหรือไม่ ก็เป็นเรื่องที่ยืนยันไม่ได้เช่นกันไม่ใชหรือ”

“บุคคลในตำนานที่ยิ่งใหญ่สองคนนี้ไม่ปรากฏตัวมามากกว่าพันปีแล้ว”

“ชื่อเจ้าชายพระอาทิตย์ เป็นการเชื่อมโยงของคนจำนวนหนึ่งเท่านั้น ไฉนเอามาเป็นจริงเป็นจังได้”

เห็นกวนอวี่ลั่วมีสีหน้าไม่พอใจ อีกฝ่ายก็กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “มิพักเอ่ยถึงเรื่องอื่น แม้แต่ประมุขอาคเนย์ก็ไม่ได้ยอมรับฉายานี้ใช่หรือไม่”

“แม่นางกวนได้โปรดระวังคำพูดด้วย ไม่อย่างนั้นยากจะไม่ทำให้ผู้อื่นเข้าใจผิดว่านี่เป็นความคิดของประมุขอุดร เกรงว่าประมุขอุดรจะไม่ได้พูดเช่นนี้ใช่หรือไม่”

กวนอวี่ลั่วกลั้นหายใจ

ประมุขอุดรปู่ของนาง ไม่เคยยอมรับฉายาเจ้าชายพระอาทิตย์ของเยี่ยนจ้าวเกอมาก่อนจริงๆ

ฟู่ถิงแค่นเสียง “พวกท่านเองก็ไม่ได้เจอเยี่ยนเซียนเซิงตัวจริง อาศัยแค่การคาดเดาเท่านั้น”

กวนอวี่ลั่วกับเยี่ยนจ้าวเกอไม่ได้มีความรู้สึกพิเศษใดต่อกัน เมื่อครู่แค่เจอหน้ากันครั้งหนึ่งเท่านั้น ทว่าเยี่ยนจ้าวเกอกับเฟิงอวิ๋นเซิงเป็นสหายร่วมสำนัก กวนอวี่ลั่วจึงปกป้องโดยสัญชาตญาณ

“จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นหก ขั้นเทวะสำแดงระยะท้ายที่อายุไม่ถึงสี่สิบปี ตั้งแต่อดีตถึงตอนนี้ มีสักกี่คนที่ทำได้”

จอมยุทธ์เขาทุ่งวิจิตรได้ยิน ก็อดหัวเราะขึ้นไม่ได้ “ยังเร็วกว่าบัวแดงสูงส่งแห่งยอดเขาอัศจรรย์อีกหรือ เขาจะต้องปลอมแปลงอายุอย่างไม่ต้องสงสัย”

กวนอวี่ลั่วมองเฉิงโม่ “อาจารย์ลุงใหญ่ ท่านว่าอายุของท่านเยี่ยนน่าจะไม่มีปัญหากระมัง”

เฉิงโม่ส่ายหน้าเล็กน้อย กล่าวอย่างราบเรียบว่า “อย่างน้อยข้าก็มองปัญหาไม่ออก”

เสียงหัวเราะของจอมยุทธ์เขาทุ่งวิจิตรเหล่านั้นล้วนหยุดลง

พวกเขาไม่สงสัยเฉิงโม่ที่เป็นจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นแปด ซึ่งโด่งดังมานาน

แต่ว่าคนผู้หนึ่งในนี้กล่าวอย่างรวดเร็ว “เฉิงฟ้าอุดร ท่านคงยังไม่ได้ประมือกับเขาด้วยตัวเองกระมัง”

เฉิงโม่ตอบอย่างตรงไปตรงมา “เพียงมีวาสนาพบเจอโดยบังเอิญเท่านั้น ย่อมไม่เคยลงมือ”

จอมยุทธ์เขาทุ่งวิจิตรผู้นั้นปรบมือ “แบบนี้ย่อมแน่นอนแล้ว ที่เยี่ยนจ้าวเกอผู้นี้กับสำนักของเขาก่อเกิดความเคลื่อนไหวใหญ่โตได้ ล้วนอาศัยสิ่งอื่นทั้งสิ้น ไม่แน่ว่าจะมีความสามารถพิเศษนอกรีต อำพรางตนเองก็เป็นได้”

“สำนักเล็กพรรคน้อยจากโลกเบื้องล่างที่ร่ำรวยขึ้นมาของเขา จะให้กำเนิดบุคคลที่สะเทือนฟ้าสะท้านดินแบบนั้นได้อย่างไร แม้จะมีพรสวรรค์ล้ำเลิศจริงๆ แต่ก็ต้องถูกสภาพแวดล้อมของโลกเบื้องล่างกลบฝังไว้อยู่ดี”

“เมื่อมาถึงโลกซ้อนโลก กลับมีของวิเศษมากมายติดตัว คิดจะอยู่อย่างปลอดภัย ก็ได้แต่ต้องวางมาดตบตาผู้อื่น”

“ก่อนอื่นก็อ้างชื่อบรรพตบูรพาสำนักเต๋า จากนั้นก็กุเรื่องหลอกลวง ต้มตุ๋นไปทั่ว ต่างมีเป้าหมายเดียวกัน”

จอมยุทธ์เขาทุ่งวิจิตรผู้นั้นยิ้มขึ้น “โชคดีที่พวกเขามีอุบายเช่นนี้ ไม่อย่างนั้นจะได้รับความเชื่อใจจากเขาโถงทองมาได้ และก่อให้เกิดความวุ่นวายมากมายบนโลกซ้อนโลกได้อย่างไร”

กวนอวี่ลั่วเอ่ยอย่างไม่พอใจ “พรรคท่านไม่พอใจที่เขากว่างเฉิงก็ใช้ชื่อของห้าบรรพตสำนักเต๋าก่อนวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่กระมัง”

จอมยุทธ์เขาทุ่งวิจิตรที่อยู่ด้านตรงข้ามได้ยินก็ไม่ได้ขุ่นเคือง กลับกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “นั่นย่อมแน่นอนอยู่แล้ว มีผู้ใดต้องการมีชื่อเสียงเคียงคู่คนที่สร้างชื่อเสียงจอมปลอมแบบนี้บ้าง แม้แต่จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสะพานเซียนสักคนยังไม่มี พวกเขาคู่ควรหรือ”

เฉิงโม่มองอีกฝ่ายอย่างเงียบเชียบ

ตามที่เขาทราบ เกรงว่าจะไม่ได้มีแค่สาเหตุนี้

เพราะความสัมพันธ์ระหว่างประมุขประจิมกับประมุขอาคเนย์เฉาเจี๋ยย่ำแย่ยิ่ง

นอกจากนี้แล้ว แม้ว่าจะมีความสัมพันธ์กับจักรพรรดิแพรไม่ดีเช่นกัน แต่ว่าประมุขประจิมกับจักรพรรดิเอกภพกำเนิดมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกัน ไปมาหาสู่กันอยู่บ่อยๆ

กวนอวี่ลั่วว่า “ยอดฝีมือระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเก้า ฆราวาสเด็ดดาวแห่งเขตตะวันอาคเนย์ เสียชีวิตใต้ตีนเขากว่างเฉิง”

“อาศัยเพียงสิ่งของทั้งนั้น” จอมยุทธ์เขาทุ่งวิจิตรผู้นั้นเอ่ยอย่างเฉยชา “แต่ความสามารถของพวกเขาทำอะไรประมุขในหมู่คนไม่ได้”

เสียงแว่วมาในหูของเยี่ยนจ้าวเกอ ชายหนุ่มยิ้ม เดินไปด้านหน้าอย่างไม่รีบไม่ร้อน

………………..

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

Score 7.9
Status: Ongoing Artist: Native Language: Chinese
อ่านเรื่อง ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพีชายหนุ่มข้ามมิติกาลเวลาครั้งแรกมาสู่ยุคสมัยที่อารยธรรมวรยุทธ์รุ่งเรืองจนถึงที่สุด มุมานะศึกษาและฝึกฝนคัมภีร์สุดยอดวิชาที่เก็บรวบรวมไว้ในวังเทพมากมาย แต่แล้วยุคสมัยอันรุ่งโรจน์ก็ต้องพบพานกับวิกฤติการณ์ครั้งใหญ่ ทุกสิ่งทุกอย่างพังทลายจนหมดสิ้น ทว่าชายหนุ่มผู้นั้นก็พาตนเองและสมองที่เปี่ยมไปด้วยความรู้ของสุดยอดวิชา ข้ามมิติกาลเวลาอีกครั้งไปสู่ยุคสมัยใหม่ ยุคสมัยนี้มีสิ่งที่ทำให้เขารู้สึกขัดใจยิ่งนัก นั่นก็คือทุกอย่างช่างง่ายดายไปเสียหมด จนทำให้เขาได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในสี่คุณชายแห่งยุค เหนือกว่าจอมยุทธ์รุ่นเยาว์ผู้ใดในบรรดาดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดในเวลาชั่วพริบตา กระนั้น แม้เขาจะยอดเยี่ยมอย่างไร เป็นที่น่าเคารพเลื่อมใสต่อศิษย์น้องในสำนักเพียงใด มีชื่อเสียงขจรไกลไปถึงหนแห่งไหน สุดท้ายแล้วก็ยังมีคนปากกล้าและอวดดี กังขาในความสามารถของเขาอยู่ตลอดเวลา ไม่รู้จักเจียมตัวก็แล้วไปเถอะ แต่จะหาเรื่องคนที่มีพลังแก่กล้ากว่าตนอยู่อักโขเช่นนี้ ก็คงต้องประมือกันสักตั้งแล้ว “หากชอบรนหาที่ตายนัก ข้าจะสนองให้พวกเจ้าเอง!”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset