ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี – บทที่ 980 ไร้ข้อกริ่งเกรงใด

“ถูกต้อง” สุดท้ายแล้วก็ยังเป็นประมุขพรรค ชายชราแซ่หวังผู้นั้นยืดกายขึ้น “หยวนเจิ้งเฟิงเป็นศัตรูของพรรคเขาปริศนาของข้า ข้าเพียงเสียดายที่ครั้งนี้คนที่มาไม่ใช่เขา…”

แม้ว่าผิวหน้าจะกล่าวอย่างผ่าเผย แต่ฝีเท้าของประมุขพรรคหวังผู้นี้กลับถอยหลัง

แต่เสียงเขายังไม่ทันขาดลง เยี่ยนจ้าวเกอก็บรรลุถึงด้านหน้าเขาแล้วเรียบร้อย “ผู้อาวุโสมีภาระใด ผู้เป็นศิษย์ย่อมคอยช่วยเหลือ บุญคุณความแค้นที่อาจารย์ปู่ได้เพาะไว้ ข้าซึ่งเป็นศิษย์หลานจะแบกรับแทนเอง”

ว่าแล้วชายหนุ่มก็ตบฝ่ามือลง บดขยี้ศีรษะของประมุขพรรคหวังจนแหลกเป็นผุยผง!

จอมยุทธ์ทิศใต้ทั้งหมดที่อยู่รอบๆ พลันหน้าเปลี่ยนสี

เทือกเขาสันติภาพมีสภาพแวดล้อมเลวร้าย จอมยุทธ์ล้วนดุร้าย

คนที่อยู่รอบๆ ล้วนเป็นบุคคลร้ายกาจที่กระทำทุกอย่างตามใจ ไม่ยอมศิโรราบต่อผู้ใดในถิ่นของตัวเอง

ทว่าในตอนนี้ ทุกคนกลับบังเกิดความหวาดกลัวในจิตใจ เพราะคนที่อยู่เบื้องหน้าคือผู้ที่ดุร้ายยิ่งกว่ารวมพวกเขาไว้ด้วยกันเสียอีก!

พวกเขามาที่นี่ก็เพราะห็นแก่หน้าเนินต้นจักรพรรดิเท่านั้น

แต่ในเมื่อพวกเขารู้แล้วว่าต้องตายแน่ และยังจะให้เข้าไปหาที่ตายด้วยตัวเองอีก หน้าของเนินต้นจักรพรรดิก็ใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้แล้ว

เพราะเขามหาวิญญาณที่เป็นเจ้าของที่นี่กำลังจะถูกล้างสำนักอยู่รอมร่อ!

เยี่ยนจ้าวเกอขยับท่าร่าง ทำให้คนยากจะแยกแยะร่องรอย หลังจากสังหารประมุขพรรคเขาปริศนาด้วยฝ่ามือเดียว ร่างของเขสก็พุ่งไปอีกทางทันที

คมกระบี่ของกระบี่ประกายฟ้าเมฆาเคลื่อนบรรลุถึงด้านหน้าจ้าวเจิน ประมุขพรรคกระบี่คลื่นม่วง

กระบี่สังหารมังกรเขียวที่น่าประหวั่นพรั่นพรึงทำลายปราณกระบี่ทะเลสีม่วงอย่างหักโหม

จ้าวเจินถอยจนไม่อาจถอย กระบี่ทะเลม่วงกลางฝ่ามือวาดเป็นวงกลมติดต่อกันกลางอากาศ ในวงกลมซ้อนด้วยวงกลม

ปราณกระบี่สีม่วงที่ยิ่งใหญ่ยามนี้ทับซ้อนกัน เหมือนกับโลกจำนวนมาก

โลกทุกใบมีแต่มหาสมุทรไร้สิ้นสุด ทะเลสีมรกตซัดสาด เหมือนกับฟ้าดินในโลกผืนสมุทร

เขาหมายจะใช้สภาวะป้องกันบดขยี้คมกระบี่ของเยี่ยนจ้าวเกอ ถ่วงฝีเท้าของอีกฝ่ายเอาไว้

ทว่ากระบี่สังหารมังกรเขียวของเยี่ยนจ้าวเกอไม่ได้ตรงไปตรงมาเพียงอย่างเดียว การเปลี่ยนแปลงที่แยบยลยังสูงส่งกว่าวิชากระบี่ของจ้าวเจินเสียอีก

ประกายกระบี่สีม่วงช้ำที่น่าหวั่นเกรงเหมือนกับแสงอัสดงที่พร่างพราวสดใส แต่กลับเต็มไปด้วยกลิ่นอายทำลายล้าง

ประกายกระบี่ทะลุโลกทั้งหลาย แทงใส่จ้าวเจิน

จ้าวเจินขวางกระบี่ป้องกัน คมกระบี่ทะเลม่วงพลันถูกกระบี่ประกายฟ้าเมฆาเคลื่อนของเยี่ยนจ้าวเกอฟันเป็นรอยสายหนึ่ง!

จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสะพานเซียนเมื่อกระตุ้นอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูง จะสามารถแสดงพลังที่อยู่ด้านในออกมาได้อย่างครบถ้วน เกิดวรยุทธ์ประสานกับอาวุธได้อย่างลงตัว จะสามารถส่งเสริมอานุภาพของกันและกันได้

กระบี่ทะเลม่วงในฐานะที่เป็นของวิเศษคุ้มครองสำนักของพรรคกระบี่คลื่นม่วง ย่อมประสานกับวิชากระบี่ทะเลม่วงของจ้าวเจินได้อย่างลงตัว

ส่วนเยี่ยนจ้าวเกอที่อยู่ในขั้นเทวะสำแดง อย่าเพิ่งไปสนใจว่าเขามีพลังเหี้ยมหาญขนาดไหน แค่ในการกระตุ้นอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูงก็ยังยากจะใช้พลังทั้งหมดอยู่ดี

ทว่าในตอนนี้ กระบี่ทะเลม่วงของจ้าวเจินเกือบถูกกระบี่ประกายฟ้าเมฆาเคลื่อนฟันหัก!

คุณสมบัติของกระบี่ทะเลม่วงกับกระบี่ประกายฟ้าเมฆาเคลื่อนใกล้เคียงกัน

ไม่ใช่เพราะกระบี่ประกายฟ้าเมฆาเคลื่อนแข็งแกร่งยิ่งกว่ากระบี่ทะเลม่วง แต่เป็นเยี่ยนจ้าวเกอต่างหากที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าจ้าวเจิน!

เยี่ยนจ้าวเกอหยุดหยินหยางทวิลักษณ์ ก้าวเท้าเป็นยันต์แปดทิศเชื่อมต่อกัน ร่างกายหมุนวนไม่หยุด หลังจากใช้หนึ่งกระบี่เอาชนะจ้าวเจินได้ก็ไม่ได้ไล่ตาม แต่ว่าบรรลุถึงด้านหน้าหยวนเสี่ยนเฉิงอีกครั้ง

หยวนเสี่ยนเฉิงเห็นดังนั้นก็ไขว้สองฝ่ามือ กลายเป็นหงส์เพลิงพุ่งขึ้นสู่ฟากฟ้า หลบสภาวะกระบี่ของเยี่ยนจ้าวเกอ

ยอดฝีมือที่เป็นผู้สืบทอดของเนินต้นจักรพรรดิ เป็นศิษย์เอกของเนินต้นจักรพรรดิ และเป็นจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นแปด ขั้นสะพานเซียนระยะกลางผู้นี้ เผชิญหน้ากับเยี่ยนจ้าวเกอที่อยู่ในขั้นเทวะสำแดง ถึงกับใช้ยุทธวิธีแบบกองโจร

‘หือ?’ เยี่ยนจ้าวเกอตาเป็นประกาย ตั้งกระบี่แทงออกอีกครั้ง

ในขณะเดียวกัน ดวงอาทิตย์บนศีรษะเขาก็สาดแสง ตราประทับตะวันที่แข็งกร้าวกลายเป็นดวงอาทิตย์ของจริงที่ลุกโชน พุ่งใส่หยวนเสี่ยนเฉิงเช่นกัน

ภายใต้การโจมตีขนาบข้าง หยวนเสี่ยนเฉิงจนปัญญา ในมือเพิ่มพัดขนนกมาเล่มหนึ่ง

พัดขนนกที่สานจากขนหงส์เพลิงห้าสีเปล่งแสง ขอบเหมือนกับคมดาบ โบกสะบัดตามหยวนเสี่ยนเฉิง ขัดขวางการโจมตีของเยี่ยนจ้าวเกอ

นี่คืออาวุธประจำตัวของหยวนเสี่ยนเฉิง อาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูง พัดห้าหงส์เพลิง

หลังจากได้เห็นความแปลกประหลาดของกระบองไม้ไผ่สีเขียวขี้ม้าท่อนนั้นของเยี่ยนจ้าวเกอด้วยตาตัวเอง หยวนเสี่ยนเฉิงไม่คิดจะใช้ของวิเศษชิ้นนี้

ทว่าเยี่ยนจ้าวเกอตรงหน้านี้เหี้ยมหาญเหนือจินตนาการ หยวนเสี่ยนเฉิงตอนนี้ไม่สนใจเรื่องอื่นอีก

กระนั้นเหตุการณ์ต่อมากลับทำให้เขาคับข้องกว่าเดิม

เขาไม่นำพัดห้าหงส์เพลิงออกมายังพอว่า เพราะพัดห้าหงส์เพลิงครั้นถูกหยิบออกมา ในมือเยี่ยนจ้าวเกอก็มีกระบองไม้ไผ่สีเขียวขี้ม้าเพิ่มมาทันที

เสียงเปรี้ยงดังขึ้น แสงบนผิวของพัดขนนกพลันริบหรี่

หลังจากถูกฟาดอีกหลายหน พัดขนนกที่สานจากขนหงส์เพลิงก็เกือบหลุดออก กลายเป็นขนนกร่วงเต็มพื้น

ไร้ริมฝีปากฟันย่อมเย็นเยือก จ้าวเจินเดิมทีคิดช่วยเหลือ พอเห็นเหตุการณ์นี้เข้า การเคลื่อนไหวก็พลันเชื่องช้าลงอย่างไม่อาจควบคุม

เขามองดูกระบี่ทะเลม่วงในมือของตัวเองโดยสัญชาตญาณ มองรอยบิ่นบนกระบี่ทะเลม่วง จิตใจเกิดความรู้สึกลังเล

ดูจากความน่าอัศจรรย์ของกระบองไม้ไผ่ท่อนนั้น และสภาพที่กระบี่ทะเลม่วงได้รับความเสียหาย จ้าวเจินสงสัยว่าหากกระบี่กระทบถูกไม้ไผ่ กระบี่ทะเลม่วงเป็นไปได้อย่างยิ่งว่าจะถูกฟาดหัก

กระบี่ทะเลม่วงไม่เพียงแต่เป็นกระบี่ส่วนตัวของจ้าวเจินเท่านั้น ยังเป็นของมีค่าของพรรคกระบี่คลื่นม่วง แค่เสียหายก็ทำให้เขาปวดใจเหลือแสนแล้ว ถ้าหากว่าถูกฟาดหัก เช่นนั้นจะทำอย่างไร

“พี่หยวน โจรเยี่ยนโหดเหี้ยม ไม่อาจสู้ได้ ถอยไปตั้งหลักที่เขารอบวงเถอะ ขอแค่ขังเขาไว้ในเขตเพลิงทักษิณ สุดท้ายเขาจะมีวันที่ถูกสังหารเอง”

จ้าวเจินถอยใจยาว ทางหนึ่งส่งกระแสเสียงกับหยวนเสียนเฉิง ทางหนึ่งเก็บกระบี่ทะเลม่วง

เขาทิ่มนิ้วเบาๆ ใช้ดัชนีต่างกระบี่ กระตุ้นปราณกระบี่ทะเลม่วงให้พุ่งไปที่ท้ายทอยของเยี่ยนจ้าวเกอ คิดจะแก้ไขวงล้อมให้แก่หยวนเสี่ยนเฉิง

เยี่ยนจ้าวเกอหมุนกายชักกระบี่กลับ เหมือนต้องการจะป้องกันการโจมตีของจ้าวเจินก่อน

ผู้ใดหาทราบไม่ว่าเขาสูดหายใจอย่างรุนแรง จุดลมปราณทั่วทั้งร่างเปิดออก แสงขมุกขมัวพรั่งพรู

พอถูกแสงสว่างนั้นปกคลุม การไหลของเวลาในมิติรอบๆ ก็คล้ายกับเชื่องช้าลง

แม้แต่การเคลื่อนไหวของจ้าวเจินและหยวนเสี่ยนเฉิงก็เปลี่ยนเป็นเนิบนาบลงไปด้วย

แต่ความเร็วของเยี่ยนจ้าวเกอกลับเพิ่มขึ้น!

แสงสว่างขมุกขมัวพอปรากฏ หยวนเสี่ยนเฉิงก็ร้องในใจว่าแย่แล้ว ก่อนจะรีบร้อนถอยหลัง

แต่ว่าขณะที่หนึ่งช้าหนึ่งเร็ว เยี่ยนจ้าวเกอก็บรรลุถึงใกล้ๆ แล้ว

กระบองไม้ไผ่ฟาดลง พัดห้าหงส์เพลิงยากจะต้านทาน

ตราประทับตะวันร่วงหล่นอย่างสะเทือนเลือนลั่น หยวนเสี่ยนเฉิงใช้สี่จริยะหนุนนำร่างปกป้องตัวเอง ฝืนต้านทานการโจมตีทำลายฟ้าดินนี้

แต่ว่าในตอนนั้นเอง เยี่ยนจ้าวเกอใช้กระบี่ประกายฟ้าเมฆาเคลื่อนในมือกระตุ้นท่าสังหารมังกรเขียว พร้อมกับฟันลงทันที!

หยวนเสี่ยนเฉิงครางหนักๆ คำหนึ่ง เลือดกระเด็นไปรอบๆ!

ต่อให้เขามีพลังป้องกันแข็งแกร่งกว่านี้ ก็ป้องกันการโจมตีร่วมกันจากกระบี่สังหารมังกรเขียวที่เยี่ยนจ้าวเกอใช้อาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูงในมือกระตุ้น และตราประทับตะวันไม่ไหว

หากเป็นการโจมตีทั่วไป เขาอาศัยพลังชีวิตที่แข็งแกร่งของร่างหงส์เพลิง ต่อให้ถูกทำลายญาณจริงแท้คุ้มครองร่าง โดนกระบี่ก็ใช่ว่าจะต้องตาย

เพียงแต่กระบี่สังหารมังกรเขียวของเยี่ยนจ้าวเกอทำลายล้างทุกสรรพสิ่ง ฟันพลังชีวิตทั้งหมดให้ขาดสะบั้น สังหารหยวนเสี่ยนเฉิงอีกครา!

พอถึงตอนนี้ ปราณกระบี่ของจ้าวเจินค่อยบรรลุถึงด้านหลังเยี่ยนจ้าวเกอ

“ฮ่า!” เยี่ยนจ้าวเกอตวาดเสียงเบา ยังคงหันหลังให้จ้าวเจิน พลังของคมกระบี่ในมือทำลายพลังชีวิตของหยวนเสี่ยนเฉิงอย่างต่อเนื่องไม่ขาดสาย

แกนกลางร่างของเขาเปล่งประกายแสงห้าสีสัน

อวัยวะภายในทั้งห้าเหมือนกับเทพห้าพระองค์ตื่นขึ้น ทอง ไม้ น้ำ ไฟ และดิน ห้าธาตุโคจร พลังชีวิตและพลังป้องกันที่แข็งแกร่งปรากฏขึ้น

เยี่ยนจ้าวเกอใช้ร่างมหาเซียนปัญจธาตุป้องกันกระบี่ของจ้าวเจิน!

หลังจากสังหารหยวนเสี่ยนเฉิงแล้ว เยี่ยนจ้าวเกอค่อยชักกระบี่หมุนตัว จากนั้นร่างของเขาก็กลายเป็นลำแสง พุ่งใส่จ้าวเจิน

จ้าวเจินเห็นดังนั้นก็เงยหน้าถอนใจ บ่ายหน้าหนีทันที

มือกระบี่ผู้ยิ่งใหญ่ที่อยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นแปดผู้นี้ ไม่กล้าสู้กับเยี่ยนจ้วเกออีกต่อไป!

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

Score 7.9
Status: Ongoing Artist: Native Language: Chinese
อ่านเรื่อง ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพีชายหนุ่มข้ามมิติกาลเวลาครั้งแรกมาสู่ยุคสมัยที่อารยธรรมวรยุทธ์รุ่งเรืองจนถึงที่สุด มุมานะศึกษาและฝึกฝนคัมภีร์สุดยอดวิชาที่เก็บรวบรวมไว้ในวังเทพมากมาย แต่แล้วยุคสมัยอันรุ่งโรจน์ก็ต้องพบพานกับวิกฤติการณ์ครั้งใหญ่ ทุกสิ่งทุกอย่างพังทลายจนหมดสิ้น ทว่าชายหนุ่มผู้นั้นก็พาตนเองและสมองที่เปี่ยมไปด้วยความรู้ของสุดยอดวิชา ข้ามมิติกาลเวลาอีกครั้งไปสู่ยุคสมัยใหม่ ยุคสมัยนี้มีสิ่งที่ทำให้เขารู้สึกขัดใจยิ่งนัก นั่นก็คือทุกอย่างช่างง่ายดายไปเสียหมด จนทำให้เขาได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในสี่คุณชายแห่งยุค เหนือกว่าจอมยุทธ์รุ่นเยาว์ผู้ใดในบรรดาดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดในเวลาชั่วพริบตา กระนั้น แม้เขาจะยอดเยี่ยมอย่างไร เป็นที่น่าเคารพเลื่อมใสต่อศิษย์น้องในสำนักเพียงใด มีชื่อเสียงขจรไกลไปถึงหนแห่งไหน สุดท้ายแล้วก็ยังมีคนปากกล้าและอวดดี กังขาในความสามารถของเขาอยู่ตลอดเวลา ไม่รู้จักเจียมตัวก็แล้วไปเถอะ แต่จะหาเรื่องคนที่มีพลังแก่กล้ากว่าตนอยู่อักโขเช่นนี้ ก็คงต้องประมือกันสักตั้งแล้ว “หากชอบรนหาที่ตายนัก ข้าจะสนองให้พวกเจ้าเอง!”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset