แม่น้ำเฉาเหอ เป็นแม่น้ำสายน้ำใหญ่สายหนึ่งที่มีชื่อเสียงบนโลกซ้อนโลก
มันไหลจากภูเขาหิมะมู่หวงที่อยู่ในเขตมหานภากลางไปยังทิศตะวันออกเฉียงใต้ ข้ามผ่านเขตเพลิงทักษิณและเขตมหานภากลาง ทอดตัวยาวออกไปนับล้านล้านลี้
ที่เยี่ยนจ้าวเกอสั่นสะเทือนใต้หล้าได้ในสงครามบนเขารอบวง เป็นเพราะใช้แม่น้ำเฉาเหอกางค่ายกลแม่น้ำเหลืองเก้าโค้ง สังหารยอดฝีมือระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสะพานเซียนสามคน
หลังจากสงครามครั้งนั้น แม้เยี่ยนจ้าวเกอจะกลับตะวันออกเฉียงใต้ และไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในเขตเพลิงทักษิณอีกเลยก็ตาม แต่ก่อนที่ประมุขทักษิณจะกลับมา จอมยุทธ์เนินต้นจักรพรรดิแห่งเขาลีลาหงส์ก็ไม่กล้ามาเหยียบเขารอบวงนานหลายปี
ไม่เพียงแต่เขารอบวงเท่านั้น จอมยุทธ์เนินต้นจักรพรรดิที่อยู่ในบริเวณซึ่งแม่น้ำเฉาเหอในเขตเพลิงทักษิณไหลผ่านต่างก็ล่าถอย บริเวณตะวันออกของเขตเพลิงทักษิณแทบจะกลายเป็นดินแดนที่ถูกยอมรับอย่างเงียบๆ ของเยี่ยนจ้าวเกอ
แม้จะไม่มีค่ายกลแม่น้ำเหลืองเก้าโค้ง แม่น้ำเฉาเหอก็เป็นร่องน้ำทางธรรมชาติสำหรับคนจำนวนมากอยู่แล้ว
มันมีพื้นที่กว้างดุจมหาสมุทร คลื่นน้ำรุนแรง แม้จะเป็นจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสะพานเซียนก็ยากจะยืนหยัดอยู่ด้านในได้
คิดจะตัดให้ขาด แม้จะเป็นจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ระดับประมุขซึ่งมีร่างของเซียนมนุษย์ก็ยากจะทำได้
ทว่าในวันนี้กลับมีคนผู้หนึ่งทำได้…เป็นจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์คนหนึ่ง
หลังจากที่แม่น้ำเฉาเหอออกจากภูเขาหิมะมู่หวง เส้นทางน้ำจะขยายออก ความเร็วจะลดลง ไม่ได้เชี่ยวกรากเช่นบริเวณต้นน้ำ หงส์อมตะเพลิงตัวหนึ่งกระพือปีกอยู่ระหว่างฟ้าดิน พาให้ท้องฟ้าทั้งใบถูกสะท้อนเป็นสีแดงเพลิงบริเวณหนึ่ง
หงส์อมตะเพลิงเหมือนกับเงาแสงโปร่งใส ใจกลางเงาแสงนั้น คนผู้หนึ่งทั่วทั้งร่างถูกคลุมอยู่ในแสงอัสดง
บุรุษผมคิ้วขาวโพลน หล่อเหลาไม่ธรรมดาผู้หนึ่ง เป็นประมุขทักษิณจวงเซิน
เขาก้มหน้ามองแม่น้ำเฉาเหอที่ซัดสาดเบื้องล่าง
จางซู่เหรินกับเผิงเฮ่อสองผู้อาวุโส หยวนเสี่ยนเฉิงผู้สืบทอดที่โดดเด่นที่สุดในหมู่คนหนุ่มสาวของแห่งเนินต้นจักรพรรดิ ตกตายเพราะสายน้ำสายนี้
จวงเซินเงยหน้ามองตามแม่น้ำไป สายตาคล้ายกับทะลุระยะห่างอันไกลแสนไกล เพ่งมองอยู่บนเขารอบวง
เขาไม่กล่าววาจา พลางหยิบกล่องหยกใบหนึ่งขึ้นมา จากนั้นก็เปิดฝาออก
ทรายสีเหลืองด้านในกล่องหยก หล่นลงไปด้านล่างตามการเคลื่อนไหวของจวงเซิน
ดินพบน้ำกลับไม่กระจาย แต่ก่อเกิดและขยายขึ้นอย่างต่อเนื่อง มองไปเหมือนกับเมฆสีเหลืองกลุ่มหนึ่ง
ดินยิ่งมายิ่งมาก ไม่ได้ลดน้อยลงแม้จะกินพื้นที่เพิ่ม กลับจับตัวกันแน่นหนา ไม่อาจทำลาย
ถึงตอนสุดท้าย เห็นดินเหลืองถมแม่น้ำเฉาเหอทั้งหมด เหมือนกับถมทะเลสร้างทวีป ตัดขาดและอุดกั้นแม่น้ำเฉาเหอที่กว้างใหญ่ไพศาล!
น้ำในแม่น้ำเฉาเหอเชี่ยวกรากรุนแรงขนาดไหน ที่นี่ยังใกล้กับต้นน้ำบริเวณภูเขาหิมะมู่หวง สภาวะน้ำเต็มเปี่ยมกว่าที่ใด
แม่น้ำเฉาเหอที่ถูกอุดพลันบ้าคลั่ง โถมพุ่งไปด้านหน้า พร้อมทั้งกระจายขึ้นฝั่งสองข้าง เกิดเป็นสภาวะเขื่อนแตกทลาย
ทว่าดินสีเหลืองขุ่นรุกคืบใส่ ถึงกับกั้นน้ำในแม่น้ำไว้ ทะลักเข้าไปหาต้นน้ำบริเวณภูเขาหิมะมู่หวง
แม่น้ำที่เพิ่มระดับตามรายทางถูกดินเหลืองที่เหยียดออกมาเหมือนทรายห่อหุ้มขัดขวาง
ไม่ว่าน้ำจะโผล่มาขนาดไหน ดินนี้ก็เกิดขึ้นมากกว่า ตามติดไม่ลดละ ไม่ปล่อยให้น้ำไหลออกไปแม้แต่น้อย
มาถึงตอนท้าย มันถึงกับอุดต้นน้ำของแม่น้ำเฉาเหอบริเวณภูเขาหิมะมู่หวง
แม่น้ำใหญ่ที่ทอดขวางโลกซ้อนโลกถูกอุดต้นน้ำจนไหลออกมาไม่ได้
ภูเขาหิมะมู่หวงและเทือกเขายาวเหยียดสั่นไหวเล็กน้อย มีสภาวะแผ่นดินสะเทือนภูเขาสะท้าน
ทว่าดินนั้นในที่สุดก็ผนึกปากแม่น้ำไว้ได้
ประมุขทักษิณจวงเซินที่อยู่ใต้เงาแสงหงส์อมตะเพลิงกลางอาอากาศ มองเหตุการณ์นี้พร้อมกับระบายลมหายใจอย่างช้าๆ
เขา หรือบางทีอาจบอกว่าพวกเขา บัดนี้มีเวลาจำกัด
หากเสียเวลามากเกินไป ดินจะสามารถอุดปากแม่น้ำได้อย่างเป็นปกติ ทว่าการเคลื่อนไหวของปราณวิญญาณและชีพจรดินบริเวณภูเขามู่หวงในเขตมหานภากลางจะเกิดสภาวะปั่นป่วน ถึงตอนนั้นจะนำผลเสียมาสู่เขตมหานภากลาง ผลลัพธ์เช่นนั้นไม่ใช่เรื่องที่ประมุขปฐวีซึ่งมอบกล่องหยกให้แก่จวงเซินต้องการเห็น
‘สำเร็จล้มเหลวขึ้นอยู่กับวันนี้’ จวงเซินเก็บกล่องหยกที่ว่างเปล่า ไม่มองภูเขาหิมะมู่หวงที่กำลังสั่นไหวอยู่ ก่อนจะหมุนกายเหาะไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้
เดินทางไปได้ไม่นาน ก็เห็นคนผู้หนึ่งยืนรอเขาอยู่กลางอากาศ
หลางชิง ประมุขประจิม
พอเห็นจวงเซิน หลางชิงก็เอ่ยว่า “คนอื่นๆ ออกเดินทางแล้ว เหลือเพียงพวกเรา”
“ดินซีอุดแม่น้ำเฉาเหอได้สำเร็จ แม่น้ำเฉาเหอทางเขตเพลิงทักษิณจะแห้งเหือดอย่างรวดเร็ว” จวงเซินเอ่ย “โจรน้อยตระกูลเยี่ยนผู้นั้นไม่มีทางวางค่ายกลแม่น้ำเหลืองเก้าโค้งได้อีก”
ดินที่อยู่ในกล่องหยกเป็นดินวิเศษชนิดหนึ่ง มีชื่อว่าดินซี สามารถเพิ่มจำนวนได้เอง ไม่มีวันหมด
ในยุคบรรพกาลก่อนวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่มีของล้ำค่า ชื่อว่าดินซีแห่งสวรรค์ หรือดินซีก่อนกำเนิด มีพลังป้องกันน่าทึ่ง สามารถป้องกันการโจมตีจากของวิเศษและวรยุทธ์ทั่วไปได้ มีความสามารถและการเปลี่ยนแปลงไร้สิ้นสุด
หลังวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ ของชิ้นนี้สูญหาย เหลือแต่ดินซีหลังกำเนิดที่ยังเหลืออยู่
ถึงแม้การเปลี่ยนแปลงและความสามารถน่าอัศจรรย์ไร้สิ้นสุดจะหายไป แต่ก็สามารถสะกดสายน้ำได้ทั่วหล้า
หลังจากจวงเซินใช้ดินซีนี้ตัดขาดแม่น้ำเฉาเหอแล้ว เขาก็เดินทางไปยังทิศใต้พร้อมกับประมุขประจิมชิงหลาง
เป้าหมายก็คือทะเลหวงเจียในเขตตะวันอาคเนย์!
…
พร้อมกับที่เวลาล่วงเลย แม่เฒ่ากระบี่อาคเนย์ที่ตอนแรกเฝ้าอยู่ระหว่างอาณาเขตบริเวณเขตเพลิงทักษิณและเขตตะวันอาคเนย์ ก็รู้สึกได้ว่าแม่น้ำเฉาเหอเกิดความผิดปกติ
แม่น้ำที่โหมกระหน่ำมีความเร็วลดลงอย่างต่อเนื่อง จากนั้นระดับน้ำก็ลดลงไม่หยุด
หากเป็นเช่นนี้ต่อไป แม่น้ำอาจจะขาดลง
แม่เฒ่ากระบี่อาคเนย์สัมผัสได้ในทันที ว่านี่ไม่ใช่ฝีมือของธรรมชาติ แต่เป็นการกระทำของมนุษย์
ในตอนนี้ บริเวณนี้ สถานการณ์เช่นนี้ เป้าหมายที่อีกฝ่ายเพ่งเล็งจะต้องเป็นเยี่ยนจ้าวเกอและเขากว่างเฉิงอย่างไม่ต้องสงสัยแม้แต่น้อย
ขณะเดียวกันยังรวมถึงประมุขอาคเนย์เฉาเจี๋ย และคนในเขาโถงทองเช่นพวกนางที่คอยช่วยเหลือเขากว่างเฉิง
แม่เฒ่ากระบี่อาคเนย์ตัดสินใจมุ่งหน้ามายังเขากว่างเฉิงบนทะเลหวงเจียด้วยความเร็วสูง
หลังจากเยี่ยนจ้าวเกอกับเฉาเจี๋ยได้ฟังคำเตือนของแม่เฒ่ากระบี่อาคเนย์ ทั้งคู่ก็สบตากันวูบหนึ่ง เฉาเจี๋ยว่า “สมควรเป็นการกระทำของพวกประมุขทักษิณ”
“หาเป็นไรไม่” เยี่ยนจ้าวเกอสั่นศีรษะ “เพียงแต่เสียทางถอยไปทางหนึ่ง สำนักข้าในเมื่อจัดพิธีเปิดสำนักบนทะเลหวงเจีย เมื่อเกิดเรื่องขึ้น ที่นี่ย่อมเป็นสนามรบหลัก”
เนื่องจากเหตุนี้ ก่อนจะถึงวันนี้ เขากว่างเฉิงได้กระตุ้นให้สำนักขนาดกลางเล็กจำนวนมากบนทะเลหวงเจียพากันถอยไปซ่อนตัวชั่วคราว เพื่อไม่ให้เป็นบ่อปลาถูกไฟลาม
“ดูแล้ววันนี้จะต้องมีแขกที่ไม่ประสงค์ดีมาจริงๆ” เยี่ยนจ้าวเกอสงบนิ่ง
หลังจากทั่วทั้งเขากว่างเฉิงเกิดความโกลาหลสั้นๆ เพราะได้รับข่าว ก็สงบลงเช่นเดิม ทุกอย่างดำเนินไปอย่างมีระเบียบแบบแผน
เวลาผ่านไป แขกเหรื่อก็มากันคับคั่ง ใกล้ถึงฤกษ์ที่เลือกไว้
พิธีเปิดสำนักอย่างเป็นทางการของเขากว่างเฉิงบนโลกซ้อนโลกกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว
เพียงแต่พร้อมกับที่เวลาผ่านไป เทียบกับที่แม่น้ำเฉาเหอขาดลง ปัญหาที่สาหัสอีกอย่างหนึ่งก็ปรากฏขึ้น
จักรพรรดิแพรงาม หนึ่งในห้าจักรพรรดิบนโลกซ้อนโลกที่ก่อนหน้านี้สัญญาว่าจะรับคำเชิญมาร่วมพิธีที่เขากว่างเฉิงบนทะเลหวงเจียด้วยตัวเอง ยังคงไม่ปรากฏตัว
ความกังวลเริ่มปรากฏในใจของจอมยุทธ์เขากว่างเฉิงจำนวนมาก
แม้แต่จอมยุทธ์เขาโถงทองก็หวั่นวิตก
เยี่ยนจ้าวเกอมองไปยังตัวแทนจากยอดเขาอัศจรรย์บนที่นั่ง เห็นอีกฝ่ายก็กำลังสับสนกระวนกระวาย กระอักกระอ่วนร้อนใจอยู่เช่นกัน
เยี่ยนตี๋ผู้เป็นบิดากวาดมองมา สองพ่อลูกสบตากันวูบ สีหน้าแปลกพิกลอยู่บ้าง
ตนคล้ายกับถูกผู้ทรงอำนาจท่านนี้ผิดสัญญา เหมือนตอนที่ไปยังที่บำเพ็ญหลีเฮิ่นน้อยในตอนนั้นไม่มีผิด
