ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี – บทที่ 1104 บรรทัดจิตนภา อาวุธเซียน!

คุณชายดินเฉินคุนหัวมองพี่ชายตัวเองด้วยความรู้สึกประหลาดใจ คิดไม่ออกว่าเรื่องอะไรถึงทำให้เขาหงุดหงิดได้ขนาดนี้

เฉินเฉียนหัวไม่อธิบาย เพียงปรบมือเบาๆ

ยอดเขาเฉียนหัวพลันสั่นไหว

แสงอัสดงและเมฆที่กว้างใหญ่ปรากฏขึ้นจากใต้ยาวเขา สาดส่องไปทั่วฟ้าดินรอบๆ สภาวะที่ยิ่งใหญ่และไร้เทียมทานบังเกิดขึ้น

เฉินคุนหัวประหลาดใจกว่าเดิม “พี่ใหญ่ ท่านจะใช้บรรทัดจิตนภาหรือ?”

บนโลกซ้อนโลก ประมุขทิศบนเฉินเฉียนหัวเป็นอันดับหนึ่งในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์อย่างไม่ต้องสงสัย

ตั้งแต่เขาได้ตำแหน่งประมุขทิศบนเป็นต้นมา ก็ไม่เคยต้องอาศัยสิ่งของภายนอก แค่ดูพลังฝึกปรือส่วนตัวเขาก็รู้ว่าเขาสามารถสู้กับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดบนโลกซ้อนโลกได้ด้วยตัวคนเดียว

แม้ว่าจักรพรรดิเซียนจริงแท้ที่ได้ผลักเปิดประตูเซียนจะลงมือ ก็ยังคงไม่มั่นใจว่าจะเอาชนะเขาได้

หากไม่มีสาเหตุพิเศษ สามกษัตริย์ห้าจักรพรรดิก็จะไม่ลงมือสร้างความลำบากให้แก่เขา

ดังนั้นผ่านไปหลายปี คนบนโลกซ้อนโลกต่างก็ทราบว่าประมุขทิศบนแข็งแกร่งมาก แต่ไม่มีผู้ใดรู้ว่าเขาแข็งแกร่งเพียงใด

สามกษัตริย์ห้าจักรพรรดิไม่ลงมือ บนโลกซ้อนโลกก็ไม่มีคนที่ทำให้เขาเอาจริงได้

ด้วยเหตุนี้ย่อมไม่มีใครทราบว่า ประมุขทิศบนผู้นี้ครอบครองอาวุธเซียนด้วยร่างระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์!

บรรทัดยาวทำจากสำริดชิ้นหนึ่งลอยจากก้นยอดเขาเฉียนหัวขึ้นมา ก่อนที่มันจะหยุดลงตรงหน้าเฉินเฉียนหัว ภายใต้การครอบคลุมของแสงอัสดง

บรรทัดจิตนภา อาวุธเซียน!

ของวิเศษที่แม้แต่จักรพรรดิเซียนจริงแท้บางคนยังไม่มี แต่กลับปรากฏอยู่ในมือของจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์คนหนึ่ง

เฉินเฉียนหัวสะบัดแขนเสื้อ จับบรรทัดยาวทำจากสำริดชิ้นนั้นไว้ “ธงจตุกำเนิดเป็นอุปสรรคอยู่บ้าง ถ้าไม่ใช่เพราะมัน ข้าคงจะได้เห็นด้วยตาตัวเองว่าเยี่ยนจ้าวเกอนั่นทำให้จักรพรรดิแพรแยกจากหนึ่งเป็นสองได้อย่างไร”

เขาคล้ายกับไม่ได้ใส่ใจอาวุธเซียนที่มีค่าเหมือนกับชีวิต แต่ไม่อาจนำมาครอบครองได้สำหรับจอมยุทธ์คนอื่นมากนัก

ครั้งนี้ถ้าหากไม่ใช่เพราะถูกทำลายอารมณ์สนุกสนาน เขาอาจจะนึกไม่ออกว่าตนยังมีศาสตราเทพอาวุธวิเศษชิ้นนี้ด้วยซ้ำไป

ที่นำมันมาไว้กับตัวไม่ใช่เพราะต้องการไปแก้แค้น แต่เขาคิดว่ากันไว้ดีกว่าแก้ เผื่อว่าครั้งหน้าเจอสถานการณ์ที่คล้ายกันอีก จะได้ไม่ต้องถูกคนส่งออกไปก่อน จนพลาดเรื่องราวสนุกสนานในสายตาของเขาไป

เฉินคุนหัวมองบรรทัดทำจากสำริดที่ถูกพี่ชายของตนเก็บไว้ด้วยความสับสนอยู่บ้าง

เขาสามารถอยู่ที่นิวาสสถานของเฉินเฉียนหัวได้ สามารถใช้ของวิเศษอื่นๆ ของเฉินเฉียนหัวได้ สามารถใช้อิทธิพลและเส้นสายของเฉินเฉียนหัวได้ แต่ว่ามีของบางอย่างที่สุดท้ายแล้วเขาก็ไม่อาจครอบครอง

พลังส่วนตัวเป็นเพียงหนึ่งในนี้ บรรทัดยาวทำจากสำริดที่เหมือนกับจักรวาลและฟ้าดินอันกว้างใหญ่เป็นอีกกรณีหนึ่ง

กลับไม่ใช่เพราะเฉินเฉียนหัวห้ามไม่ให้เขาใช้ ทว่าพลังฝึกปรือของเขาไม่อาจกระตุ้นบรรทัดจิตนภาได้

นั่นเป็นอาวุธเซียนที่แท้จริงชิ้นหนึ่ง ในโลกมนุษย์จะมีสักกี่คนที่ควบคุมได้

เฉินคุนหัวลอบถอนใจ สลัดความคิด ใคร่ครวญคำกล่าวที่พี่ชายของตนเพิ่งเอ่ยเมื่อครู่ อดฉงนขึ้นมาไม่ได้ “จักรพรรดิแพรแยกจากหนึ่งเป็นสองหรือ”

“ถูกต้อง” เฉินเฉียนหัวตาเป็นประกาย “สมควรเป็นฝีมือของเยี่ยนจ้าวเกอนั่น ทำให้จิตใจของจักรพรรดิแพรแยกออกจากกันโดยสิ้นเชิง จากนั้นก็หลอมเปลี่ยนปราณมารในนพยมโลก แยกร่างออกจากกัน ตอนนี้จึงมีจักรพรรดิแพรสองคน คนหนึ่งเดินบนเส้นทางไร้รัก คนหนึ่งเดินบนเส้นทางมีรัก ถือว่านี่เป็นการเปลี่ยนแปลงที่ข้าคาดคิดไม่ถึง เยี่ยนจ้าวเกอเป็นคนที่น่าสนใจอย่างแท้จริง จักรพรรดิแพรแม้จะเสียสติไปแล้วแต่ก็ยังสู้เขาไม่ได้”

ขณะที่พูด ประมุขทิศบนผู้นี้ก็หงุดหงิดขึ้นมาอีก “เชอะ น่าเสียดายที่ข้าไม่เห็นด้วยตาตัวเอง ได้แต่อนุมานหลังเรื่องเกิด ยิ่งคิดยิ่งหงุดหงิดนัก”

“เยี่ยนจ้าวเกอนั่นร้ายกาจจริงๆ” คุณชายดินเฉินคุนหัวกล่าว “พี่ใหญ่ท่านมองรากฐานของเขาไม่ออกหรือ”

เฉินเฉียนหัวตอบตรงไปตรงมา “มองไม่ออกเลย”

น้องชายของเขาได้ยินก็งงงัน ระดับความประหลาดใจสูงกว่าตอนที่ได้ยินเรื่องของจักรพรรดิแพรเมื่อก่อนหน้านี้อีก

เมื่อได้สติกลับมา เฉินคุนหัวก็มีสีหน้าเคร่งขรึมอย่างไม่เคยมีมาก่อน พร้อมกับจ้องมองพี่ชายของตัวเอง ถามทีละคำ “เป็นท่านไม่อยากมองเขาให้ออกเร็วๆ หรือว่ามองเบื้องลึกของเขาไม่ออกจริงๆ”

“ก็บอกแล้วว่ามองไม่ออก” เฉินเฉียนหัวแม้จะแสดงท่าทีเกียจคร้าน แต่ว่าดวงตาสาดประกายกระปรี้กระเปร่าเต็มเปี่ยม “เพราะเช่นนี้ เยี่ยนจ้าวเกอผู้นี้จึงค่อยเป็นคนอัศจรรย์อย่างแท้จริง เจ้ารู้หรือไม่ว่าข้ารู้สึกยินดีอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน!”

เฉินคุนหัวได้ยินก็ตื่นตระหนก

คนหนุ่มอาภรณ์ม่วงที่เป็นพี่น้องร่วมมารดาเดียวกับเขา ซึ่งดูเซื่องซึมและมีนิสัยประหลาดตรงหน้าผู้นี้น่ากลัวขนาดไหน เขาเฉินคุนหัวเกรงว่าจะเป็นหนึ่งในคนที่รู้ดีมากที่สุดบนโลก

ในหลายๆ ครั้ง แม้แต่คำว่า ‘หนึ่ง’ ยังสามารถตัดทิ้งได้

คนหนุ่มอาภรณ์ม่วงผู้นี้ไม่ใส่ใจเรื่องราวมากมาย เป็นเพราะว่าเรื่องราวเหล่านี้ แค่เขามองดูแวบเดียว ก็สามารถทราบถึงผลลัพธ์คร่าวๆ ได้แล้ว

ในตอนที่เฉินเฉียนหัวยังมีพลังฝึกปรือต่ำ ถ้าหากบอกว่าเรื่องราวในอนาคตอาจมีข้อผิดพลาด เช่นนั้นเรื่องที่ได้เกิดขึ้นไปแล้วส่วนใหญ่เหมือนดั่งมองลายมือ มีต้นสายปลายเหตุชัดเจนในสายตาของเขา

สำหรับเขาแล้ว คนที่เกี่ยวข้องหากมีระดับพลังฝึกปรือไม่เหนือกว่าเขามากเกินไป เรื่องราวต่างๆ ที่ได้ทำลงไปมักไม่มีความลับอะไรให้กล่าวถึง

แน่นอนว่านี่จำเป็นต้องให้เขาสืบเสาะและเลือกข่าวสารด้วยตัวเองอย่างมีเป้าหมาย ไม่ใช่ได้รับมาเพราะถูกกระตุ้น

ที่ประมุขทิศบนเชี่ยวชาญศาสตร์มากมายตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน มีของล้ำค่านับไม่ถ้วน เก็บคัมภีร์ลับไว้มหาศาล ทั้งยังมีบรรทัดจิตนภาอันเป็นอาวุธเซียนอยู่กับตัว ย่อมไม่ใช่ไม่มีเหตุผล

เป็นเพราะว่าเขาใช้ข้อมูลที่คนส่วนใหญ่ไม่รู้ ไปตามหาของที่ตัวเองสนใจได้

ในนี้อาจมีเรื่องเหนือความคาดหมาย แต่ก็เกิดขึ้นน้อยนิดยิ่ง

ประมุขทิศบนมักจะออกท่องโลก มีร่องรอยไม่แน่นอน นี่เป็นเหตุผลแล้ว

พร้อมกับที่ระดับพลังฝึกปรือของเฉินเฉียนหัวยิ่งมายิ่งสูง ระดับที่เขาสามารถแตะต้องได้ก็ยิ่งมายิ่งสูงตามไปด้วย

พลังของเยี่ยนจ้าวเกอ เฉินคุนหัวที่ได้สัมผัสด้วยตัวเองในพิธีเปิดสำนักของเขากว่างเฉิง ไม่มีข้อสงสัยใดๆ แต่ว่าถึงอย่างไรระดับพลังฝึกปรือก็ต่ำกว่าเฉินเฉียนหัวมาก

ตอนนี้เฉินเฉียนหัวยอมรับตรงๆ ว่าตนมองเยี่ยนจ้าวเกอไม่ออก เฉินคุนหัวจะไม่รู้สึกตื่นตระหนกได้อย่างไร

จักรพรรดิแพรงาม เซียนจริงแท้ผู้ยิ่งใหญ่ซึ่งได้ผลักเปิดประตูเซียน ต้นสายปลายเหตุของเรื่องราวมากมาย เฉินเฉียนหัวล้วนมองทะลุได้ แต่จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสะพานเซียนคนหนึ่งกลับมองไม่ออกหรือ

“ก่อนหน้านี้ตอนที่ข้าเข้าร่วมพิธีเปิดสำนักของเขากว่างเฉิง เยี่ยนจ้าวเกอนั่นทำให้ข้ากริ่งเกรงอยู่บ้าง เยี่ยนตี๋มีเมฆแปลงกำเนิด ดังนั้นข้าจึงไม่ได้เลือกลงมือกับพวกเขา” เฉินคุนหัวสงบจิตใจ กล่าวเสียงแผ่วเบาว่า “ข้าเลือกหยวนเจิ้งเฟิง อาจารย์ของเยี่ยนตี๋ และได้บางอย่างมาจากตราจิตทันใจ”

ถึงแม้ว่าจะไม่ได้รอบรู้เท่าประมุขทิศบน แต่ว่าคุณชายดินเฉินคุนหัวก็ขึ้นชื่อเพราะเชี่ยวชาญวรยุทธ์มากมายเช่นกัน

ที่เขาบรรลุวรยุทธ์มากมายได้ขนาดนั้น ย่อมเป็นความดีความชอบของพี่ชายเขา

แต่ว่ามีน้อยคนที่จะรู้ว่าวรยุทธ์ที่คุณชายดินเฉินคุนหัวเชี่ยวชาญที่สุด ก็คือคัมภีร์นภาทันใจ หนึ่งในหกคัมภีร์หลังกำเนิด ในบรรดาคัมภีร์นภาแรกเริ่มสายหยกพิสุทธิ์

ตามความคิดเห็นของเฉินคุนหัว คัมภีร์นภาทันใจเป็นตัวตนที่แข็งแกร่งที่สุดในหกคัมภีร์หลังกำเนิด ดังนั้นจึงตั้งใจฝึกฝน ใช้ความพยายามไปมากมาย เขาสามารถตรวจจับความปรวนแปรทางจิตใจของอีกฝ่ายได้ผ่านตราจิตทันใจ ถึงแม้จะไม่อาจอ่านความรงจำได้ แต่ว่าตราบใดที่ใช้กับคนที่มีพลังฝึกปรือเท่ากับหรือต่ำกกว่าตัวเอง และอีกฝ่ายไม่ได้ป้องกันแม้แต่น้อย ก็แทบมีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับวิชาอ่านใจ ทดลองกี่ครั้งก็ประสบความสำเร็จ เกิดข้อผิดพลาดน้อยครั้ง

เฉินเฉียนหัวกล่าว “ในนี้มีข้อมูลหนึ่ง ในสำนักของพวกเขาคล้ายมีลูกศิษย์หญิงคนหนึ่งที่มีความพิเศษยิ่ง มีคนที่ละม้ายคล้ายนางอยู่มากมาย แม้ไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือด แต่หน้าตาเหมือนกันไม่ผิดเพี้ยน พลังสวรรค์ก็ไม่ธรรมดา…”

เขาเพิ่งพูดได้ครึ่งหนึ่ง ก็ถูกเฉินเฉียนหัวตัดบทด้วยสีหน้ารังเกียจ “เจ้าควรทราบว่าข้ารังเกียจสิ่งที่เกิดซ้ำกันและคล้ายกัน”

เฉินคุนหัวพยักหน้า ไม่กล่าวอะไรต่ออีก

“เจ้าอยากทำอะไรก็ทำด้วยตัวเอง” เฉินเฉียนหัวเดินไปด้านนอกนิวาสสถาน

เฉินคุนหัวถามทันที “พี่ใหญ่ตอนนี้ท่านจะไปที่ใด”

คนหนุ่มอาภรณ์ม่วงหยุดเดิน ยิ้มอย่างเกียจคร้าน “ชีวิตอุตส่าห์น่าสนใจขึ้น ข้าย่อมต้องไปหาความสำราญอยู่แล้ว”

………………..

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

Score 7.9
Status: Ongoing Artist: Native Language: Chinese
อ่านเรื่อง ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพีชายหนุ่มข้ามมิติกาลเวลาครั้งแรกมาสู่ยุคสมัยที่อารยธรรมวรยุทธ์รุ่งเรืองจนถึงที่สุด มุมานะศึกษาและฝึกฝนคัมภีร์สุดยอดวิชาที่เก็บรวบรวมไว้ในวังเทพมากมาย แต่แล้วยุคสมัยอันรุ่งโรจน์ก็ต้องพบพานกับวิกฤติการณ์ครั้งใหญ่ ทุกสิ่งทุกอย่างพังทลายจนหมดสิ้น ทว่าชายหนุ่มผู้นั้นก็พาตนเองและสมองที่เปี่ยมไปด้วยความรู้ของสุดยอดวิชา ข้ามมิติกาลเวลาอีกครั้งไปสู่ยุคสมัยใหม่ ยุคสมัยนี้มีสิ่งที่ทำให้เขารู้สึกขัดใจยิ่งนัก นั่นก็คือทุกอย่างช่างง่ายดายไปเสียหมด จนทำให้เขาได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในสี่คุณชายแห่งยุค เหนือกว่าจอมยุทธ์รุ่นเยาว์ผู้ใดในบรรดาดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดในเวลาชั่วพริบตา กระนั้น แม้เขาจะยอดเยี่ยมอย่างไร เป็นที่น่าเคารพเลื่อมใสต่อศิษย์น้องในสำนักเพียงใด มีชื่อเสียงขจรไกลไปถึงหนแห่งไหน สุดท้ายแล้วก็ยังมีคนปากกล้าและอวดดี กังขาในความสามารถของเขาอยู่ตลอดเวลา ไม่รู้จักเจียมตัวก็แล้วไปเถอะ แต่จะหาเรื่องคนที่มีพลังแก่กล้ากว่าตนอยู่อักโขเช่นนี้ ก็คงต้องประมือกันสักตั้งแล้ว “หากชอบรนหาที่ตายนัก ข้าจะสนองให้พวกเจ้าเอง!”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset