ประมุขปฐวีหวังเจิ้งเฉิงพอสัมผัสได้ถึงจิตสังหารอันเด็ดขาด และปราณความตายที่กระจายไปทั่วมิติ ดวงตาก็ฉายแววตื่นตระหนก
เขามองเขตแดนที่เริ่มสมานตัวของโลกซ้อนโลก ก่อนจะมองประกายดาบที่ค่อยๆ สลายไป แล้วสัมผัสชีวิตอันเสื่อมโทรมนั้นเนิ่นเนินโดยไม่กล่าววาจา
หวังเจิ้งเฉิงทราบดีว่าคำพูดของเยี่ยนจ้าวเกอไม่ใช่การเขียนเสือให้วัวกลัว
ต่อจากประมุขทักษิณจวงเซิน มีจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นประมุขอีกคนหนึ่งถูกเยี่ยนตี๋สังหารทิ้ง!
หวังเจิ้งเฉิงที่เพิ่งสู้กับเยี่ยนตี๋เมื่อครู่ ไม่มีทางจำประกายดาบที่ทั้งยิ่งใหญ่และเกรี้ยวกราดนั้นผิด
ดาบนั้นเป็นการประกาศว่า เรื่องราวในวันนี้ปิดฉากลงแล้ว
เพียงแต่แผนการของพวกเขาสุดท้ายสำเร็จหรือไม่สำเร็จกันแน่
เยี่ยนตี๋ลงมือฆ่าคน ช่วยเหลือภรรยาของตัวเองไว้ได้ก่อนที่นางจะตาย หรือว่าสายไปก้าวหนึ่ง จึงสังหารคนระบายความแค้น
“ที่แท้เป็นนักพรตเทียนอี้ ประมุขบูรพา” เยี่ยนจ้าวเกอเอ่ยอย่างราบเรียบ “หลังจวงเซินตาย ยังมีพลังชีวิตที่เข้มข้นเช่นนี้ นอกจากประมุขทิศบนกับประมุขปฐวีท่านแล้ว ก็มีแต่นักพรตเทียนอี้ที่ฝึกฝนคัมภีร์อายุวัฒนะ”
เขามองหวังเจิ้งเฉิง “อาจารย์ของท่านแม่ตายเพราะนักพรตเทียนอี้กระมัง”
หวังเจิ้งเฉิงนิ่งเงียบ สายตาของเขาเคลื่อนไปมาระหว่างเยี่ยนจ้าวเกอกับโลกซ้อนโลกที่อยู่ไกลออกไป ครู่ต่อมาค่อยส่ายหน้า
ในเมื่อผลลัพธ์ได้ถูกกำหนดแล้ว เขาก็ไม่มีความจำเป็นต้องสู้กับเยี่ยนจ้าวเกอต่อไป
นักพรตเทียนอี้ตกตาย เสวี่ยชูฉิงไม่ว่าจะเป็นหรือตาย ตอนนี้เยี่ยนตี๋ก็ไปถึงแล้ว
แม้หวังเจิ้งเฉิงจะตามไปเผชิญคมดาบของเยี่ยนตี๋ ก็ไม่มีความมั่นใจว่าจะทำอะไรได้
ที่ขอให้จักรพรรดิแพรอาภรณ์ดำลงมือได้ นอกจากการแลกเปลี่ยนแล้ว เป็นเพราะว่าจักรพรรดิแพรอาภรณ์ดำหวังว่าจะได้ศึกษาหมัดแปลงกำเนิดผ่านการต่อสู้กับเยี่ยนจ้าวเกอ
ดังนั้นที่จักรพรรดิแพรอาภรณ์ดำเข้าร่วมในครั้งนี้ ก็สู้กับเยี่ยนจ้าวเกอเท่านั้น แต่หากต้องลงมือกับคนอื่น เขาย่อมไม่ร่วมมือ
ขณะนี้ความเสียดายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของหวังเจิ้งเฉิงก็คือ เมื่อครู่ตนระวังตัวเกินไป
เขาพะว้าะวงในการขัดขวางเยี่ยนตี๋เมื่อก่อนหน้ามากเกินไป
เบิกนภาสะกดแปลงกำเนิด เทียบกับเฉินเฉียนหัวที่ไม่ใช้อาวุธเซียนตั้งแต่ต้นจนจบ ภายใต้การเสริมพลังโดยรูปภูผาธาราโบ่วกี้ หมัดโบ่วกี้ทำลายฟ้าของหวังเจิ้งเฉิงกลับส่งผลคุกคามเยี่ยนตี๋ได้
ยามสู้กันลำพัง ทางเขาด้านหนึ่งขอแค่พัวพันอีกฝ่ายไว้ได้ ด้านหนึ่งก็มีโอกาสรุกที่หายาก
หลังจากที่ประมุขทิศบนเฉินเฉียนหัวมาถึง ความจริงแล้ววิธีการที่เหมาะสมที่สุดความจริงคือให้หวังเจิ้งเฉิงกลายเป็นฝ่ายบุกจู่โจม ส่วนเฉินเฉียนหัวเป็นฝ่ายป้องกัน สองคนร่วมมือกันรับมือเยี่ยนตี๋
แม้ฐานโลกของเฉินเฉียนหัวจะต้านทานคมดาบของเยี่ยนตี๋ไม่ง่าย แต่ว่าวรยุทธ์การป้องกันมากมายในสถานการณ์ที่ใช้ไปกับการป้องกันเพียงอย่างเดียว ก็มีความสามารถแก้ไขอยู่หลายส่วน หวังเจิ้งเฉิงสามารถฉวยโอกาสหาช่องโหว่โจมตีได้
น่าเสียดายที่หวังเจิ้งเฉิงระวังตัวมากไป
มิหนำซ้ำเขายังไม่รู้จักเฉินเฉียนหัวมากพอ คิดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะไม่ยอมใช้บรรทัดจิตนภาตั้งแต่ต้นจนจบ สุดท้ายก็สะบัดก้นจากไป
หวังเจิ้งเฉิงรู้สึกได้ผ่านการสังเกตการต่อสู้ครั้งนี้ ว่าเฉินเฉียนหัวไม่ถือสาถ้าตนจะเข้าร่วมกลุ้มรุมเยี่ยนตี๋
พอเข้าใจเรื่องทั้งหมด หวังเจิ้งเฉิงก็เสียใจหลังที่เรื่องราวได้ผ่านไปแล้ว
เรื่องราวมาถึงตอนนี้ แม้ว่าเขาจะมีความคิดอื่นๆ อีก แต่ก็ทำอะไรไม่ได้
จักรพรรดิแพรอาภรณ์ดำความคิดทำงานอย่างรวดเร็ว เข้าใจสถานการณ์ และเดาความคิดของหวังเจิ้งเฉิงออก
ชั่วขณะนั้น เขาตกอยู่ในความลำบากใจ เรียบเรียงถ้อยคำอย่างต่อเนื่อง
ในตอนนั้นเอง พลันมีแสงเจิดจ้าสว่างขึ้นบนโลกซ้อนโลกที่อยู่ห่างออกไป!
กำลังเข้าใกล้สถานที่ที่สามคนสู้กันอยู่ ปราณกระบี่บนโลกซ้อนโลกทะลวงหมู่เมฆ ทำลายเขตแดน บรรลุถึงมิติต่างแดนที่พวกเขาอยู่
พอสัมผัสได้ถึงจิตกระบี่เทียมฟ้านั้น จักรพรรดิแพรอาภรณ์ดำกับหวังเจิ้งเฉิงดวงตาก็ฉายแววตื่นตระหนก
ประกายกระบี่ที่เหมือนกับบุกเบิกโลกใบใหม่พุ่งออกมาจากโลกซ้อนโลก ฟันทำลายมิติ
ประกายกระบี่กระจายไปทั่ว มิติที่ว่างเปล่าถึงกับให้กำเนิดโลกใบแล้วใบเล่า
มิติต่างแดนขนาดเล็กที่เหมือนกับฟองอากาศมิติแล้วมิติเล่า ปรากฏขึ้นในความว่างเปล่าเช่นนี้ เชื่อมต่อกันเป็นเส้นเดียว ก่อนจะมาถึงตรงหน้าคนสามคน
มิติต่างแดนเหล่านั้นไม่ใช่หยาบกระด้าง แต่ว่าได้กลายเป็นรูปเป็นร่างในขั้นแรก
ถ้าหากว่าเวลาผ่านไปนาน ก็จะมีแบบแผนเฉพาะตัว ให้กำเนิดชีวิตรวมถึงขุนเขาแม่น้ำ
เยี่ยนจ้าวเกอมองกระบี่นี้ แม้ว่าจะเพิ่งได้เห็นเป็นครั้งแรก แต่ก็ทราบถึงความเป็นมาของมัน เป็นกระบี่เปิดกำเนิด อาวุธเซียนระดับไร้ช่องโหว่ กระบี่ในอดีตของกษัตริย์กระบี่เยว่เจิ้นเป่ย!
หวังผู่ส่งกระบี่เล่มนี้ให้แก่เยี่ยนจ้าวเกอจริงๆ
จักรพรรดิแพรอาภรณ์ดำร่างจมลงด้านล่างอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกันก็ต้านประกายกระบี่ คิดขัดขวางประกายกระบี่ให้หยุดกลางทาง
ไม่จำเป็นต้องบอกกล่าวแก่กัน ประมุขปฐวีหวังเจิ้งเฉิงก็ขวางเยี่ยนจ้าวเกอไว้พร้อมกันแล้ว
พลังวิญญาณของรูปภูผาธาราโบ่วกี้ถูกหวังเจิ้งเฉิงกระตุ้นถึงขอบเขตมากสุดที่ตนสามารถควบคุมได้ ดินวิญญาณโบ่วกี้หลายชั้นรวมตัวกัน เชื่อมกันเป็นเขาบรรพต
เพียงมองดูเท่านั้น แต่กลับเหมือนเขาคุนหลุนทั้งลูกถูกย้ายมาอยู่ในมิติเบื้องหน้านอกโลกซ้อนโลก
การต่อสู้เมื่อก่อนหน้าทำให้เขาได้เห็นพลังของเยี่ยนจ้าวเกออย่างชัดเจน
ตอนนี้ถ้าหากให้กระบี่เปิดกำเนิดตกไปอยู่ในมือของเยี่ยนจ้าวเกอ เช่นนั้นจะได้รับการยกระดับขึ้นถึงขั้นที่น่ากลัวเหลือประมาณ
ต่อให้เยี่ยนจ้าวเกอจะไม่ได้มาจากเขานครหยก และวันนี้เพิ่งได้สัมผัสกระบี่เปิดกำเนิดเป็นครั้งแรก ทว่าด้วยระดับมรรคากระบี่และพลังฝึกปรือของเขา หลังจากได้รับกระบี่เปิดกำเนิด จักรพรรดิแพรอาภรณ์ดำกับหวังเจิ้งเฉิงไม่ว่าผู้ใดก็อย่าคิดว่าจะมีจุดจบที่ดี
จำเป็นต้องหยุดกระบี่เปิดกำเนิด!
ถ้าพวกเขาแย่งกระบี่เปิดกำเนิดมาได้ชั่วคราว ต่อให้ตนใช้ไม่ได้ แต่ก็ยังดีกว่าให้ตกไปอยู่ในมือของเยี่ยนจ้าวเกอ
ตอนที่เห็นประกายกระบี่ของกระบี่เปิดกำเนิด ร่างของเยี่ยนจ้าวเกอก็จมลงด้านล่าง พุ่งไปหาประกายกระบี่ทันที
แม้เผชิญหน้ากับการขัดขวางของหวังเจิ้งเฉิง เขาก็ไม่หลบหลีก
ในม่านตาสองข้างกลับสาดแสงสายฟ้าสีม่วงละลานตาออกมา
สายฟ้าชั่วพริบตา!
เส้นแสงทั้งหมดในมิติพลันมืดดับลงไปในชั่วอึดใจ มีเพียงสายฟ้าสะท้านโลการะเบิดกึกก้องขึ้นในชั่วพริบตานี้!
เยี่ยนจ้าวเกอร่างอยู่ในการห้อมล้อมของสายฟ้า กลายเป็นแสงสายฟ้าสายหนึ่งพุ่งลงด้านล่าง เจาะฟ้าดินขุนเขาที่ขวางเขาไว้!
แสงสว่างมีสภาวะไม่ขาดช่วง ติดตามจักรพรรดิแพรอาภรณ์ดำ
จักรพรรดิแพรอาภรณ์ดำไม่ได้หยุดลง ใช้ร่างกาลอวกาศจุดกำเนิด เคลื่อนย้ายมิติ บรรลุถึงด้านข้างกระบี่เปิดกำเนิดก่อน
เขาอาศัยร่างเซียนจริงแท้ไร้ช่องโหว่ของตัวเอง หมายจะฝืนปะทะกับเยี่ยนจ้าวเกอ ยังคงเอื้อมมือเข้าหากระบี่เปิดกำเนิดอย่างแน่วแน่
ทว่าในดวงตาสองข้างของเยี่ยนจ้าวเกอมีแสงสีแดงกะพริบ ลอบโคจรความลี้ลับของคัมภีร์กระบี่ลวงเซียน ไล่ตามถึงด้านข้างจักรพรรดิแพรอาภรณ์ดำในชั่วพริบตาเดียว
จากนั้นเขาก็ฟาดรอยตราพลิกนภาลงไปอย่างหนักหน่วง กระแทกจักรพรรดิแพรอาภรณ์ดำกระเด็นลงไปด้านล่าง!
เยี่ยนจ้าวเกอหยุดยั้งท่าร่าง ยืนตระหง่านอยู่กลางมิติ เอื้อมมือไปคว้าจับอากาศ
กระบี่โบราณเล่มยาวสีขาวปลอดเปล่งประกายสีทองจางๆ เล่มหนึ่งพุ่งเข้ามาอยู่ในฝ่ามือของเยี่ยนจ้าวเกอ
จักรพรรดิแพรอาภรณ์ดำเห็นกระบี่เปิดกำเนิดตกไปอยู่ในมือของเยี่ยนจ้าเวกอ ก็วูบไหวท่าร่างอย่างไม่ลังเล หนีไปในทันที!
เยี่ยนจ้าวเกอสะบัดกระบี่อย่างเนิบนาบ ประกายกระบี่กระจัดกระจาย มิติตรงหน้าถูกแยกออกเป็นสองส่วน
“จักรพรรดิแพรอาภรณ์ดำ ตอนนี้ท่านรับกระบี่ข้าอีกหนึ่งกระบี่”
มังกรเขียวที่ยิ่งใหญ่อย่างไม่เคยมีมาก่อนพาดขวางอยู่ในมิติต่างแดน ไล่ตามจักรพรรดิแพรอาภรณ์ดำ
ไล่ตามไปได้ถึงครึ่งทาง ในร่างของมังกรเขียวก็มีโลหิตพุ่งกระฉูด ประกายโลหิตสีแดงฉานหลายสายโหดเหี้ยมน่าสะพรึงกลัว กลายเป็นประกายโลหิตไร้สิ้นสุด กระจายไปทั่วอากาศ!
………………..