เหนือศีรษะมีอาคมของญาณวรยุทธ์อีกส่วนหนึ่งรวมตัวกันอย่างช้าๆ
เยี่ยนจ้าวเกอมีสีหน้าสงบ ในการหายใจเข้าออกแฝงหลักการแห่งฟ้า ขณะที่หายใจคล้ายมีพลังที่ยิ่งใหญ่กำลังรวมตัวกัน
การหายใจทั่วไปในทุกช่วงเวลาและทุกสถานที่ของผู้คน ความจริงสอดล้องกับหลักการพลิกกลับสองขั้ว หนึ่งรับหนึ่งปล่อย เป็นหลักการที่เรียบง่าย แต่แฝงความอัศจรรย์อันไร้สิ้นสุดไว้
ชายหนุ่มฝึกฝนคัมภีร์พลิกฟ้าสำเร็จไปแล้วส่วนหนึ่ง ยามปกติต่อให้ไม่ใช้วิชา การหายใจก็มีการสั่งสมพลังไว้อยู่แล้ว บัลดาลให้วิชายิ่งมายิ่งล้ำลึก
เป็นเหตุให้พลังฝึกปรือของตนแข็งแกร่งขึ้นในทุกช่วงเวลา ราวกับเขาได้ฝึกฝนอยู่ทุกวินาที
นี่ส่งผลดีต่อการเพิ่มระดับพลังฝึกปรือของเขาอย่างมหาศาล ทำให้เขาฝึกฝนได้เร็วกว่าจอมยุทธ์คนอื่น ประหยัดเวลาได้นับไม่ถ้วน
ในสถานการณ์ปกติ ยิ่งมีพลังฝึกปรือสูงเท่าไร หากคิดจะเลื่อนระดับก็ยิ่งยากเท่านั้น เวลาและพลังที่ต้องใช้ย่อมมากขึ้นตาม
แต่ว่าเยี่ยนจ้าวเกอที่ฝึกฝนคัมภีร์พลิกฟ้าสำเร็จแล้ว กลับทำลายกฎเกณฑ์เหมือนว่ายทวนน้ำ
วิชาเต๋าสูงส่ง สามเทพถ่ายทอดวิชา ไม่ว่าจะเป็นคัมภีร์นภาไร้ขีดจำกัดหรือคัมภีร์พลิกฟ้า ล้วนมีประโยชน์เหลือประมาณ
เยี่ยนจ้าวเกอทางหนึ่งฝึกฝน ทางหนึ่งข้ามทะเลจิตประสาน มุ่งหน้าไปยังทะเลไร้ขอบเขต โดยมีร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกเป็นผู้พาไป
ในขณะเดียวกัน เยี่ยนจ้าวเกอก็นำไม้ไผ่สีเขียวของตนมาขบคิดอย่างละเอียด
ตอนนี้สมควรเรียกว่ากระบองไม้ไผ่น่าจะเหมาะกว่า ปล้องไม้ไผ่เพิ่มเป็นสี่ปล้อง ทุกปล้องยาวหนึ่งคืบ กระบองไม้ไผ่ยาวสี่คืบ ทั้งยังหนาขึ้นกว่าตอนแรกเล็กน้อย
แม้แต่อาวุธวิญญาณชั้นสูงยังรับกระบองไม้ไผ่นี้ไม่ไหว จำเป็นต้องหลบหลีกให้ไกล
ตอนนี้หากฟาดโดนอาวุธวิญญาณชั้นกลาง ก็สามารถทำลายอีกฝ่ายให้แหลกได้ในทันที
ชายหนุ่มใช้นิ้วลูบผ่านกระบองไม้ไผ่สีเขียวเบาๆ มองดูแสงสีม่วงจางที่สว่างอยู่บนตัวมัน
หลังจากครุ่นคิดครู่หนึ่ง เขาก็เปิดเตาผลึกหินชั้นใน โยนกระบอกงไม้ไผ่เข้าไปอีกครั้ง
อาวุธวิญญาณชั้นกลางหลายชิ้นที่เยี่ยนจ้าวเกอได้มาก่อนหน้านี้ ส่วนใหญ่แล้วเขาไม่ได้เก็บไว้ ล้วนโยนใส่ในเตาผลึกหินชั้นใน หลอมพร้อมกับกระบองไม้ไผ่
ในตอนนี้ เยี่ยนจ้าวเกอคิดโยนอาวุธวิญญาณชั้นสูงเข้าไป
ไม่ว่าจะเป็นโลกแปดพิภพหรือโลกผืนสมุทร อาวุธวิญญาณชั้นสูงล้วนเป็นของล้ำค่าถึงขีดสุด
ในสำนักระดับแดนศักดิ์สิทธิ์เช่นเขากว่างเฉิง สำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์ ตำหนักอัสนีสวรรค์ หรือวังผลึกวารี สำนักสังหารมังกร เกาะจิตประสาน สำนักปราชญ์ปีศาจ เขาหงส์วิเศษ ต่อให้เป็นมหาปรมาจารย์ที่อยู่ในขั้นรูปญาณเท่ากันหรือสูงกว่า ก็มีอาวุธวิญญาณชั้นสูงเพียงคนละชิ้น ไม่ได้มีเหลือให้ผู้อื่น
มีมหาปรมาจารย์ขั้นรูปญาณระยะต้นที่เพิ่งเลื่อนระดับได้ไม่นานบางคน ถ้าหากตนไม่ถนัดหลอมอาวุธ ยังจำเป็นต้องใช้อาวุธวิญญาณชั้นกลางแก้ขัดไปสักพัก
แต่ถ้าเป็นมหาปรมาจารย์ขั้นรูปญาณในหมู่จอมยุทธ์พเนจร นับว่าหาคนที่มีอาวุธวิญญาณชั้นสูงได้ยากมาก
ที่เยี่ยนจ้าวเกอมีกระบี่บึงมรกตซึ่งเป็นอาวุธวิญญาณชั้นสูงตอนอยู่ในขั้นกำเนิดญาณ นับว่าเป็นกรณีพิเศษในกรณีพิเศษ
เยี่ยนจ้าวเกอกับเยี่ยนตี๋สองพ่อลูกศึกษาและเพิ่มความแข็งแกร่งให้เตาผลึกหินชั้นในอย่างต่อเนื่อง ตอนนี้ยังไม่อาจหลอมสร้างอาวุธวิญญาณชั้นสูงเป็นจำนวนมากได้
เยี่ยนจ้าวเกอเคยคิดมาก่อนว่า ควรจะเก็บอาวุธวิญญาณชั้นสูงที่มีอยู่ไว้ดีหรือไม่
ต่อให้ตนไม่ใช้ก็ยังแบ่งให้ผู้อื่นได้
ทว่าหลังจากคิดครู่หนึ่ง เขาก็ตัดสินใจหลอมพวกมันกับกระบอกไม้ไผ่สีเขียวของตนเอง
ชายหนุ่มโยนไข่มุกจิตประสานเม็ดหนึ่ง กระจกแสงหยกบานหนึ่งเข้าไปในเตาผลึกหินชั้นในทั้งสิ้น
กระจกแสงหยกยังพอทำเนา ไข่มุกจิตประสานที่เป็นของวิเศษคุ้มครองสำนักของเกาะจิตประสาน สุดท้ายกลับตกมาอยู่ในมือของเยี่ยนจ้าวเกอหลังจากฟางข่านตาย
ไม่เพียงแต่ความตายของผู้ปกครองเกาะฟางข่านเท่านั้น อาวุธวิญญาณชั้นสูงนี้ยังหายไปด้วย ทั้งยังเป็นเหตุผลที่ทั่วทั้งเกาะจิตประสานวิตกกังวล ไม่ยอมเลิกราง่ายๆ
แต่เยี่ยนจ้าวเกอไม่ได้สนใจพวกเขา ส่งไข่มุกจิตประสานไปในเตาผลึกหินชั้นในด้วยความยินดี
‘ถ้าพวกผู้อาวุโสรู้เข้าคงด่าข้าเป็นศิษย์ล้างผลาญ ใช้อาวุธวิญญาณชั้นสูงต่างฟืน เหอะๆ’
อาวุธวิญญาณชั้นสูงมีพลังชีวิตแข็งแกร่งสุดขีด ทั้งยังมีอานุภาพยิ่งใหญ่ ทำให้เตาผลึกหินชั้นในที่อยู่ตรงหน้าแทบรับไม่ไหว จำเป็นต้องให้ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกลงมือช่วยเหลือ ถึงจะทำงานต่อได้
เขาฝึกวรยุทธ์ไปพลาง หลอมของวิเศษไปพลาง พร้อมกันนั้นยังให้ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกพาบินอยู่บนท้องฟ้า
เนื่องจากต้องแยกสมาธิ ความเร็วของร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกจึงช้าลง แต่ว่าผู้เป็นจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์มีความเร็วในการเคลื่อนที่สูงขนาดไหน แม้จะเดินทางอย่างเชื่องช้า แต่ก็ข้ามทะเลจิตประสานมาถึงทะเลไร้ขอบเขตอย่างรวดเร็ว
เมื่อเข้าใกล้จุดตัดระหว่างทะเลไร้ขอบเขตและทะเลจิตประสานแล้ว ดวงตาของเยี่ยนจ้าวเกอก็เปล่งประกายเล็กน้อย
เบื้องหน้าปรากฏเงาคนเลือนราง หนึ่งในนั้นคือจอมยุทธ์เขาหงส์วิเศษที่เคยมีวาสนาพบกัน ไป๋จิ่งคัง
นกเผิงหุบปีก ปรากฏร่างของเยี่ยนจ้าวเกอและฟู่เอินซู หลังจากนั้นร่างแยกก็ยืนอยู่ด้านหลังชายหนุ่มอย่างเงียบๆ
เมื่อไป๋จิ่งคังมองเห็นหน้าตาของเยี่ยนจ้าวเกอแล้ว เขาก็ระบายลมหายใจ ก่อนจะคำนับครั้งหนึ่ง “คุณชายเยี่ยน สบายดีหรือ”
เยี่ยนจ้าวเกอพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม “สบายดี”
จอมยุทธ์เขาหงส์วิเศษที่อยู่ข้างไป๋จิ่งคัง เห็นดังนั้นล้วนผ่อนคลายลง
หลังจากเห็นหน้าตาของเยี่ยนจ้าวเกอที่ส่งมาจากช่องทางต่างๆ ไป๋จิ่งคังก็จำชายหนุ่มได้ทันที
ด้วยเหตุนี้ เขาจึงยืนยันได้ก่อนว่าเยี่ยนจ้าวเกอไม่ใช่คนในพรรคมาร กอปรกับยังมีความสัมพันธ์ก่อนหน้าอยู่ด้วย เขาหงส์วิเศษจึงคุยกับชายหนุ่มได้อย่างสะดวกใจ
ยังมิต้องพูดถึงว่าวันหน้าจะเป็นอย่างไร อย่างน้อยพลังที่เยี่ยนจ้าวเกอแสดงออกมาวในตอนนี้ ก็คุ้มค่าให้ทั่วทั้งเขาหงส์วิเศษแสดงเจตนาดี
สำหรับปัญหาทางด้านเกาะจิตประสาน มิใช่การต่อสู้ระหว่างธรรมะและมาร เกาะจิตประสานได้รับความเสียหาย เขาหงส์วิเศษไม่อาจออกหน้าแทนพวกเขา
ยามปกติแล้วความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองฝ่ายก็ไม่ได้ปรองดองกันเท่าไรนัก ทั้งยังมีการกระทบกระทั่งกันตลอดเลา
เกาะจิตประสานได้รับความเสียหาย ฟางข่านสิ้นชีวิต ไม่ส่งผลดีต่อจอมยุทธ์ฝ่ายธรรมะในการต่อสู้กับจอมยุทธ์ฝ่ายมาร ทว่าถ้าหากเยี่ยนจ้าวเกอยอมลงมือช่วยเหลือ ย่อมแข็งแกร่งกว่าฟางข่านมาก
ดังนั้นทั่วทั้งเขาหงส์วิเศษจึงคลายใจ และทำตัวเป็นมิตร จอมยุทธ์เขาหงส์วิเศษคนอื่นคำนับพวกเยี่ยนจ้าวเกอทันที
เยี่ยนจ้าวเกอแนะนำฟู่เอินซูให้ทุกคนรู้จักก่อน
ครั้นฟู่เอินซูได้ยินว่าสวีเฟยและสือจวินสองศิษย์อาจารย์อยู่ที่เขาหงส์วิเศษอย่างสะดวกสบาย ในตอนนี้เมื่ออยู่ต่อหน้าจอมยุทธ์เขาหงส์วิเศษ จึงมีความรู้สึกใกล้ชิดอยู่หลายส่วน
“จริงสิ ผู้อาวุโสไป๋ ไม่ทราบว่าศิษย์น้องและศิษย์หลานของข้าตอนนี้อยู่ที่เขาหงส์วิเศษหรือไม่” เยี่ยนจ้าวเกอเป็นห่วงสถานการณ์ของพวกสวีเฟยเช่นกัน
ไป๋จิ่งคังตอบ “ตอนนี้ท่านสวีอยู่บนเขา คอยคุ้มครองมารดาของหลานสือจวิน”
“ส่วนหลานสือจวิน ก่อนที่จะได้รับข่าวของพวกท่าน เขาออกไปด้านนอก ข้าได้วานให้คนติดต่อเขาแล้ว”
“จะว่าไปครั้งนี้คุณชายเยี่ยนท่านแสดงความน่าเกรงขามยิ่งใหญ่ถึงเพียงนี้ ทุกคนในโลกผืนสมุทรล้วนรู้จัก หลานสือจวินย่อมต้องทราบเช่นกัน เชื่อว่าอีกสักพักเขาจะกลับสำนักเอง”
เยี่ยนจ้าวเกอหัวเราะ “ผู้อาวุโสไป๋ชมกันเกินไป ถ้าไม่ใช่เพราะเกาะจิตประสานหาเรื่องข้า ข้าคงไม่เตรียมลงมือ เพราะข้าหวังอยู่ตลอดว่าจะมาหาพวกท่านโดยเร็วที่สุด”
ทุกคนพูดพลางมุ่งหน้ากลับเขาหงส์วิเศษ
ดูจากท่าทีของอีกฝ่ายแล้ว เยี่ยนจ้าวเกอทราบว่าหลังจากยืนยันสถานะของตนได้ เขาหงส์วิเศษย่อมรีบติดต่อกับวังผลึกวารีและสำนักคืนวิญญาณอย่างรวดเร็ว
ด้วยเหตุนี้ย่อมนับเป็นเรื่องประเสริฐ ถอดหม้อก้นดำที่ฟางข่านกับลิ่นเชียนเฉิงร่วมกันครอบไว้บนศีรษะตัวเองได้ ก่อนหน้านี้มาตรว่าจะไม่ได้มีอันใดเสียหาย แต่การถูกคนครอบหม้อก้นทำใส่ยังเป็นเรื่องที่ทำให้รู้สึกไม่พอใจอยู่ดี
เป็นอย่างที่คาด หลังจากมาถึงเกาะไร้ขอบเขตที่สำนักเขาหงส์วิเศษอยู่แล้ว ก็เห็นบุรุษผู้หนึ่งยืนรอพวกเขาอย่างเคร่งขรึม
บนใบหน้าของบุรุษปรากฏรอยยิ้มยินดี เป็นสวีเฟยนั่นเอง