ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี – ตอนที่ 524 ลักพาตัวธิดาคนอื่นแล้วหายตัวไป?

สวีเฟยคำนับฟู่เอินซู จากนั้นก็สวมกอดเยี่ยนจ้าวเกอด้วยรอยยิ้ม

เขาพิจารณาเยี่ยนจ้าวเกอขึ้นลง “อืม อายุของเจ้า…”

เยี่ยนจ้าวเกอยิ้มพลางพยักหน้า “ทางนั้นผ่านไปเพียงปีเดียว”

ได้ยินดังนั้นแล้วสวีเฟยก็ส่ายหน้า อดยิ้มขึ้นไม่ได้ ฝ่ายฟู่เอินซูเป็นคนถามว่า “อวี่เจินเป็นอย่างไรบ้าง”

“จ้าวเกอคาดการณ์ได้แม่นยำนัก แกนหยกแสงรุ้งมีส่วนช่วยอาการบาดเจ็บของพี่สะใภ้อวี่เจินจริงๆ” สวีเฟยหุบยิ้ม พูดด้วยสีหน้าจริงจัง “สถานการณ์ในตอนนี้ดีกว่าก่อนหน้าไม่น้อย แต่ว่าตอนนี้นางยังไม่ฟื้น”

สีหน้าของสวีเฟยค่อนข้างผ่อนคลาย เยี่ยนจ้าวเกอกับฟู่เอินซูเห็นดังนั้นจึงวางใจลง

“บนเกาะไร้ขอบเขตแห่งนี้ ข้าค้นพบน้ำพุวิญญาณบ่อหนึ่งอย่างคาดไม่ถึง มันมีผลต่อพี่สะใภ้อวี่เจินเช่นกัน ทว่าก็แห้งเหือดไปตั้งแต่เมื่อหลายสิบปีก่อนแล้ว ทุกวันนี้มีน้ำพุวิญญาณเกิดขึ้นน้อยมาก”

สวีเฟยเดินไปพลาง กล่าวไปพลาง “ตอนนี้ข้าผนึกโลงศพน้ำแข็งที่บรรจุร่างของพี่สะใภ้อวี่เจินไว้ใต้ตาน้ำพุ เพียงแต่ไม่รู้ว่าต้องใช้เวลานานเท่าไร”

“ต้องขอบคุณสหายทุกท่านในเขาหงส์วิเศษ ที่ให้พวกข้ายืมใช้น้ำพุวิญญาณ”

พวกไป๋จิ่งคังรีบร้อนกล่าวว่าไม่ต้อง ทว่าเยี่ยนจ้าวเกอกับฟู่เอินซูก็กล่าวขอบคุณอีกครั้ง

หลังจากคำนับเจ้าสำนักเขาหงส์วิเศษเสร็จ อีกฝ่ายก็เอาใจใส่ ไม่ได้รั้งตัวพวกเยี่ยนจ้าวเกอไว้ ให้พวกเขาไปที่น้ำพุวิญญาณหลังเขาเพื่อดูสถานการณ์ของอิ๋งอวี่เจิน

เมื่อเยี่ยนจ้าวเกอศึกษาน้ำพุเสร็จ เขาก็พยักหน้าเล็กน้อย “น้ำพุทะเลเผาไหม้ คิดไม่ถึงเลยว่าจะเจอที่โลกผืนสมุทร มันส่งผลต่อพี่สะใภ้อวี่เจินจริงๆ เสียดายที่น้ำพุนี้เแห้งเกือบหมดแล้ว ตอนนี้ได้แต่ต้องเคี่ยวกรำอย่างช้าๆ”

เขาถอนใจเสียงหนึ่ง “นี่เกรงว่าจำเป็นต้องใช้เวลาอีกไม่น้อย น้ำพุทะเลเผาไหม้ไม่อาจนำไปด้วยได้ จำเป็นต้องชุบชีวิตน้ำพุแห่งนี้อีกครั้งถึงจะแสดงผลลัพธ์ได้”

เยี่ยนจ้าวเกอมองสวีเฟยด้วยความกังวลเล็กน้อย “ตอนแรกข้าคิดจะพาพวกท่านกลับบ้าน และกลับแปดพิภพพร้อมกัน”

สวีเฟยยิ้มพร้อมกับส่ายหน้า “ไม่เป็นไร ข้ากับจวินเอ๋อร์อยู่ที่นี่ต่อได้ ไม่จำเป็นต้องห่วงพวกข้า”

“เห็นสถานการณ์ในตอนนี้ของพวกท่านไม่มีเรื่องราวใด พวกเราในที่สุดก็วางใจแล้ว” เยี่ยนจ้าวเกอกล่าว

สวีเฟยถาม “สถานการณ์ในปัจจุบันของแปดพิภพเป็นอย่างไรแล้ว”

ครั้นพูดถึงเรื่องนี้ เยี่ยนจ้าวเกอกับฟู่เอินซูมองหน้ากันเอง สีหน้ามืดครึ้มลงเล็กน้อย

เยี่ยนจ้าวเกอเลือกเฉพาะข้อมูลสำคัญ เล่าให้สวีเฟยฟังคร่าวๆ

สิ่งที่ชายหนุ่มเล่ามีทั้งดีทั้งแย่ ข่าวการรุกรานของนพยมโลกที่ปฐพีพิภพถูกโต้กลับ ปีศาจอัคคีถูกผนึกที่ทะเลตะวันออก ไม่อาจก่อความวุ่นวายได้ในอีกนาน เยี่ยนตี๋เลื่อนจากระดับบรรลุธรรมเป็นศักดิ์สิทธิ์ สยบใต้หล้า ไม่เห็นผู้ใดในแปดพิภพอยู่ในสาย ล้วนทำให้สวีเฟยฮึกเหิม เลือดลมพลุ่งพล่าน

ข่าวร้ายเช่นหยวนเจิ้งเฟิงหายสาปสูญ ฟางจุ่นได้รับบาดเจ็บสาหัส สถานการณ์ของเฟิงอวิ๋นเซิงกับอิ่นหลิวหัวไม่ชัดเจน ไม่ทราบว่าเป็นหรือตาย ทำให้สวีเฟยขมวดคิ้วด้วยความกังวล

“ปัญหาของอาจารย์ปู่คือติดอยู่ในกระแสปั่นป่วนของมิติ ไม่ทราบว่าไปยังที่ใด คิดตามหากลับยากเย็นนัก” เยี่ยนจ้าวเกอลดเสียงลงกล่าว “แต่ว่าไม่จำเป็นต้องกังวลความปลอดภัยของเขามากเกินไป ถึงแม้จะแขนขาดไปข้างหนึ่ง แต่เขาก็อยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ อีกทั้งยังเป็นผู้มากประสบการณ์ อาจจะเปลี่ยนวิกฤติกลายเป็นความปลอดภัยได้”

“ทางด้านอาจารย์ลุงสอง ขอแค่พักผ่อนก็ใช้ได้แล้ว การจัดการก่อนที่ข้าจะจากมายืนยันได้ว่าเขาไม่มีอันตรายถึงชีวิต”

“กลับเป็นพวกศิษย์น้องเฟิง ที่พวกข้าไม่ทราบสถานการณ์ของพวกนาง อาจจะเจอกับอุปสรรคร้ายแรง ต่อให้คนจากสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้ลงมือ แต่หากถูกม้วนเข้าไปในพลังแห่งผนึก ก็มีแต่ความตายรออยู่เท่านั้น” เยี่ยนจ้าวเกอกล่าวพลางนวดขมับ

เนิ่นนานให้หลัง สวีเฟยถอนใจยาว “หวังว่าจะเปลี่ยนร้ายให้กลายเป็นดีได้”

เยี่ยนจ้าวเกอจมสู่ความเงียบงัน

เขารู้สึกว่าความกังวลที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนักแผ่กระจายไปทั่วก้นบึ้งหัวใจ ตนจะต้องควบคุมและเตือนตัวเองตลอดเวลาว่าให้รักษาความสุขุมเอาไว้

ฟู่เอินซูมองเยี่ยนจ้าวเกอ คล้ายกับรู้สึกอะไรบางอย่าง แต่ว่าสุดท้ายก็ไม่ได้เอ่ยปาก เพียงแต่ถอนใจอย่างไม่อาจอธิบาย

สวีเฟยเปลี่ยนหัวข้อ “อาจารย์ปู่หายตัวไปแล้ว อาจารย์ลุงเจ้าสำนักผนึกปีศาจอัคคีอยู่ที่ทะเลตะวันออก อาจารย์ลุงฟางได้รับบาดเจ็บ สลบไสลไม่ยังไม่ฟื้น เช่นนั้นทางสำนักตอนนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดสองท่านควบคุมสถานการณ์ใช่หรือไม่”

เยี่ยนจ้าวเกอสงบสติอารมณ์ กล่าวว่า “ผู้อาวุโสจางคอยคุ้มครองสำนัก หลังจากส่งอาจารย์ลุงสองกลับสำนักแล้ว เขาน่าจะช่วยดูและรักษาอาการบาดเจ็บ”

“ผู้อาวุโสเหอมุ่งหน้าไปทางทะเลตะวันออกพร้อมกับบิดาของข้า…”

ชายหนุ่มหันไปมองฟู่เอินซู นางพูดต่อว่า “อาจารย์ป้าเหอสู้กับจ้าวปีศาจอัคคีจำนวนมากด้วยตัวคนเดียว ในจำนวนนี้มีตัวที่ใกล้เคียงกับราชันปีศาจอัคคี ไม่ด้อยกว่ามหาปรมาจารย์ขั้นบรรลุธรรมเผ่ามนุษย์อยู่ด้วย อาจารย์ป้าเหอสังหารมันได้ แต่ตัวเองได้รับบาดเจ็บ กระนั้นก็ไม่จำเป็นต้องกังวลว่าจะเสียชีวิต”

“หากไม่มีเรื่องเหนือความคาดหมาย สำนักในตอนนี้สมควรเป็นผู้อาวุโสสูงสุดสองท่านคอยควบคุมสถานการณ์ ศิษย์พี่ฉางประสานจัดการภารกิจประจำวันแทน”

ศิษย์พี่ฉางที่ฟู่เอินซูพูดถึง ก็คือผู้อาวุโสระดับหนึ่งแห่งทะเลตะวันออกรุ่นก่อนหน้านาง ฉางเจิ้น

ในภัยพิบัติเขากว่างเฉิง ผู้อาวุโสระดับหนึ่งวิหารอาญาสือเถี่ยสิ้นชีวิต ฉางเจิ้นจึงกลับมาจากทะเลตะวันออก รับตำแหน่งผู้อาวุโสระดับหนึ่งวิหารอาญา เขาคือยอดฝีมือด้านวรยุทธ์ซึ่งเป็นมหาปรมาจารย์ขั้นที่เก้า ขั้นรูปญาณระยะท้าย ลูกศิษย์คนแรกของผู้อาวุโสสูงสุดจางคุน

เทียบกับสือเถี่ย ฟางจุ่น และฟู่เอินซูแล้ว เยี่ยนจ้าวเกอไม่ค่อยสนิทกับฉางเจิ้นที่ปกติมิได้อยู่ในเขากว่างเฉิงเท่าไรนัก หลังจากฉางเจิ้นกลับสำนัก ก็ถึงตาเยี่ยนจ้าวเกออกไปด้านนอก ทั้งสองฝ่ายจึงไม่ได้พบปะกันตรงๆ

แต่ว่าตามสถานการณ์ที่ทราบ อาจารย์ลุงฉางท่านนี้เป็นบุคคลระดับสุดยอดที่มีจำนวนน้อยในหมู่ยอดฝีมือแห่งยุคของเขากว่างเฉิงเช่นกัน กอปรกับยังเลื่อนเป็นขั้นรูปญาณระยะท้ายเร็วกว่าฟู่เอินซู ในหมู่คนรุ่นราวคราวเดียวกันมีแค่เยี่ยนตี๋ ฟางจุ่น และสือเถี่ยที่อยู่เหนือกว่าเขา

ในอดีตเขาเคยดำรงตำแหน่งผู้อาวุโสระดับหนึ่งของเกาะนภาตะวันตก ผู้อาวุโสระดับหนึ่งของทะเลตะวันออก จนกระทั่งเป็นหัวหน้าวิหารอาญาในตอนนี้

เยี่ยนจ้าวเกอถามว่า “ข้าจำได้ว่าอาจารย์ลุงฉางไปทะเลตะวันออกเช่นกัน?”

ฟู่เอินซูพยักหน้า “ถูกต้อง แต่ศิษย์พี่ฉางน่าจะไม่เป็นอะไร ไม่ได้รับบาดเจ็บ”

สวีเฟยกล่าว “การป้องกันการรุกรานพร้อมกันของปีศาจอัคคีและนพยมโลกในครั้งนี้ สำนักเราเสียสละไปไม่น้อย แต่ขอแค่ผ่านด่านนี้ไปได้ ก็จะเป็นช่วงต้นร้ายปลายดี อย่างอื่นไม่ต้องพูดถึง เมื่อผนึกทะเลตะวันออกสมบูรณ์แล้ว อาจารย์ลุงเจ้าสำนักจะเป็นอิสระ ย่อมไม่มีใครขัดขวางได้อีก”

เยี่ยนจ้าวเกอพยักหน้า “ขออย่าให้มีอุบัติเหตุก็พอ”

เขาถอนใจเบาๆ “เอาเป็นว่าพวกเราควรรีบกลับไปให้เร็วที่สุด”

ฟู่เอินซูเอ่ย “ถูกต้อง ตอนนี้เจ้าหลอมร่างแยกจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ได้แล้ว เมื่อกลับไปยังแปดพิภพ มันจะกลายเป็นขุมพลังที่ไม่อาจมองข้าม โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่ศิษย์น้องเยี่ยน ผู้อาวุโสม่อ หวงบูรพา และซ่งอู๋เลี่ยงไม่อาจออกจากทะเลตะวันออกได้ สำนักเราจะมีจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์เพิ่มขึ้นอีกคน ต้องมีประโยชน์อย่างใหญ่หลวงแน่”

“มีเสื้อคลุมนภา มีเจ้า เราจะผ่านไปได้อย่างปลอดภัยจนกว่าศิษย์น้องเยี่ยนจะปลีกตัวจากทะเลตะวันออกได้”

สวีเฟยยิ้มเล็กน้อย “ถ้าหากฟ้าคุ้มครองพวกศิษย์น้องเฟิง พวกเรายังมีโอกาสแย่งชิงมงกุฎจันทรา”

เยี่ยนจ้าวเกอพยักหน้าเงียบๆ “หวังว่าพวกนางจะปลอดภัย”

ต่อจากนั้นเยี่ยนจ้าวเกอกับฟู่เอินซูก็รั้งอยู่บนเกาะไร้ขอบเขต ฟู่เอินซูรักษาอาการบาดเจ็บ ส่วนเยี่ยนจ้าวเกอศึกษาวรยุทธ์ไปพลาง รอคอยให้กระจกยุงสูงส่งกลับมาใช้ได้อีกครั้ง

พร้อมกันนั้นก็รอสือจวินกลับเขาหงส์วิเศษ เยี่ยนจ้าวเกอยากจะเห็นสือจวินที่เติบโตเป็นผู้ใหญ่

แต่สิ่งที่อยู่เหนือความคาดหมายก็คือ สือจวินมิได้กลับมา แต่เป็นข่าวที่เกี่ยวกับเขาแทน

“ว่าอะไรนะ?” เยี่ยนจ้าวเกอกับสวีเฟยมองไป๋จิ่งคังด้วยความประหลาดใจ “เสี่ยวจวินเอ๋อร์ลักพาตัวธิดาคนอื่น ตอนนี้ไม่รู้ว่าทั้งสองคนไปอยู่ที่ไหนอย่างนั้นหรือ?”

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

Score 7.9
Status: Ongoing Artist: Native Language: Chinese
อ่านเรื่อง ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพีชายหนุ่มข้ามมิติกาลเวลาครั้งแรกมาสู่ยุคสมัยที่อารยธรรมวรยุทธ์รุ่งเรืองจนถึงที่สุด มุมานะศึกษาและฝึกฝนคัมภีร์สุดยอดวิชาที่เก็บรวบรวมไว้ในวังเทพมากมาย แต่แล้วยุคสมัยอันรุ่งโรจน์ก็ต้องพบพานกับวิกฤติการณ์ครั้งใหญ่ ทุกสิ่งทุกอย่างพังทลายจนหมดสิ้น ทว่าชายหนุ่มผู้นั้นก็พาตนเองและสมองที่เปี่ยมไปด้วยความรู้ของสุดยอดวิชา ข้ามมิติกาลเวลาอีกครั้งไปสู่ยุคสมัยใหม่ ยุคสมัยนี้มีสิ่งที่ทำให้เขารู้สึกขัดใจยิ่งนัก นั่นก็คือทุกอย่างช่างง่ายดายไปเสียหมด จนทำให้เขาได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในสี่คุณชายแห่งยุค เหนือกว่าจอมยุทธ์รุ่นเยาว์ผู้ใดในบรรดาดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดในเวลาชั่วพริบตา กระนั้น แม้เขาจะยอดเยี่ยมอย่างไร เป็นที่น่าเคารพเลื่อมใสต่อศิษย์น้องในสำนักเพียงใด มีชื่อเสียงขจรไกลไปถึงหนแห่งไหน สุดท้ายแล้วก็ยังมีคนปากกล้าและอวดดี กังขาในความสามารถของเขาอยู่ตลอดเวลา ไม่รู้จักเจียมตัวก็แล้วไปเถอะ แต่จะหาเรื่องคนที่มีพลังแก่กล้ากว่าตนอยู่อักโขเช่นนี้ ก็คงต้องประมือกันสักตั้งแล้ว “หากชอบรนหาที่ตายนัก ข้าจะสนองให้พวกเจ้าเอง!”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset