เยี่ยนจ้าวเกอรับกระบี่สั้นมาเก็บไว้ จากนั้นก็จัดตำแหน่งอิ๋งอวี่เจินในน้ำพุทะเลเผาไหม้ ก่อนจะผละไปพร้อมกับสวีเฟย
สวีเฟยไปรวมตัวกับเขาหงส์วิเศษและสำนักมังกรโลหิต เยี่ยนจ้าวเกอตามหาตัวไป๋จิ่งคัง บอกว่า “อาจารย์ป้าฟู่ของข้ากำลังเข้าฌานรักษาอาการบาดเจ็บ อย่าเพิ่งไปรบกวนนาง หลังจากนางออกฌานแล้ว โปรดเชิญนางไปที่น้ำพุทะเลเผาไหม้ด้วย”
ไป๋จิ่งคังพยักหน้ารับคำ เยี่ยนจ้าวเกอกล่าวอีกว่า “ช่วยบอกรายละเอียดทางด้านทะเลตาข่ายดาวให้ข้าฟังได้หรือไม่”
“ข้าจะตามคนมาให้ท่าน” ไป๋จิ่งคังพูดจบ ก็หาจอมยุทธ์เขาหงส์วิเศษที่ค่อนข้างรู้เรื่องของทะเลตาข่ายดาวมาคนหนึ่ง
หลังจากเยี่ยนจ้าวเกอตั้งใจฟังอีกฝ่ายบอกเล่าสถานการณ์แล้ว ก็กล่าวขอบคุณ ก่อนจะบอกลาเพื่อออกเดินทาง
ทะเลตาข่ายดาวตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของโลกผืนสมุทร ด้านในมีน้ำพุแสงดาวตกกระจายตัวอยู่มากมาย
น้ำพุแสงดาวตกเป็นทัศนียภาพพิเศษชนิดหนึ่ง ตาน้ำพุอยู่ที่ก้นทะเล มีลำแสงที่เหมือนกับแสงของดวงดาวรวมตัวกันอยู่ และพุ่งออกมาเหมือนกับน้ำพุเป็นช่วงๆ
ในตอนที่รวมตัวกันจนมีขนาดใหญ่มหึมา จะพุ่งออกจากผิวทะเล ส่องสว่างไปทั่วทั้งฟากฟ้า
แต่ว่าธารแสงชนิดนี้ไม่มีประโยชน์อันใด เนื่องจากทะเลตาข่ายดาวมีน้ำพุแสงดาวตกอยู่มากเกินไป จึงก่อให้เกิดการระเบิดสลับกัน ดังนั้นปกติแล้วจะอยู่ในอาณาเขตที่ธารแสงครอบบคลุมอยู่
ด้านในทะเลตาข่ายดาว จอมยุทธ์มนุษย์ยากจะฝึกปรือ ดังนั้นที่นี่จึงเป็นแดนต้องห้ามสำหรับจอมยุทธ์ส่วนใหญ่
แต่ว่าด้านในก็มีของล้ำค่าจำนวนมากซึ่งที่อื่นไม่มี ดึงดูดให้ผู้คนเข้ามาตามหาด้านในเป็นบางครั้ง
ก่อนที่สือจวินจะออกสำนัก เขามายังที่นี่ ด้านหนึ่งเพื่อฝึกฝน อีกด้านหนึ่งเพื่อตามหาวิธีที่จะช่วยรักษาอิ๋งอวี่เจินผู้เป็นมารดา
หลังจากเข้ามาในทะเลตาข่ายดาวแล้ว อาณาเขตที่ธารแสงครอบคลุมอยู่จะส่งผลกระทบต่อความสามารถในการรับรู้ของจอมยุทธ์อย่างรุนแรง ขณะเดียวกันการติดต่อสื่อสารก็ไม่สะดวกเช่นกัน
ตามข่าวที่สำนักมังกรโลหิตส่งมา เฉินอิ๋งบุตรสาวของเจ้าสำนักเฉินซื่อเฉิงเข้ามาฝึกปรือในทะเลตาข่ายดาวพร้อมกับศิษย์ในสำนัก มิคาดกลับเกิดเรื่องขึ้น
สือจวินกับเฉินอิ๋งกระโดดลงไปในน้ำวน จอมยุทธ์สำนักมังกรโลหิตลงไปเสาะหา สุดท้ายพบว่าน้ำวนแห่งนั้นเชื่อมต่อกับสายน้ำพุแสงดาวตก ไม่มีใมใครทราบว่าสองคนนั้นออกไปจากตาน้ำพุตาไหน ร่องรอยจึงหายไป มิอาจตามหา
‘ถ้าหากเชื่อมต่อกับน้ำพุแสงดาวตกบ่อหนึ่งจริงๆ เช่นนั้นพวกสือจวินก็สมควรสลัดคนของสำนักมังกรโลหิตได้’
เยี่ยนจ้าวเกอมาถึงทะเลตาข่ายดาว หลังจากพิจารณาจุดเด่นของน้ำพุแสงดาวตกแล้ว ก็ครุ่นคิดในใจ ‘แต่ว่าต่อจากนั้นพวกเขาไปอยู่ที่ไหน’
ถ้าหากสือจวินมิได้ตกอยู่ในมือของสำนักมังกรโลหิต แต่ยังปลอดภัยไร้เรื่องราวจริงๆ เช่นนั้นการคาดการณ์ของสำนักมังกรโลหิตก็ถือว่าถูกต้อง ไม่ว่าสือจวินจะมีเหตุผลอะไร จะต้องหาวิธีกลับไปยังเขาหงส์วิเศษที่ทะเลไร้ขอบเขต ตามหาสวีเฟยผู้เป็นอาจารย์กับคนในเขาหงส์วิเศษเพื่อคิดแผนการ
อย่างน้อยก็ควรติดต่อกับสวีเฟยเพื่ออธิบายสถานการณ์เสียก่อน
ตอนนี้ข่าวคราวหายไป เช่นนั้นก็หมายความว่าสถานการณ์ก่อนหน้านี้ไม่เอื้ออำนวยให้สือจวินทำเช่นนั้น
ชายหนุ่มไตร่ตรอง สายตามองมหาสมุทรที่มีละอองแสงมากมายครอบคลุมอยู่ ก่อนจะสาวเท้าเข้าไปด้านใน
ระหว่างที่เคลื่อนตัวอยู่ด้านใน มักจะมีแสงดวงดาวสว่างขึ้นมาจากผิวทะเลด้านล่างที่อยู่ใกล้ๆ
คล้ายกับว่าก้นทะเลเหมือนกับดวงดาวในจักรวาล มีดาวตกวาดผ่านเป็นระยะๆ จากนั้นแสงดาวก็ฝ่าผิวน้ำ พุ่งขึ้นท้องฟ้าพร้อมกับประกายแสงและคลื่นน้ำสูง
ทะเลตาข่ายดาวไม่มีแบ่งเวลากลางวันและกลางคืน ปกติจะอยู่ในสภาพแวดล้อมเช่นนี้
เยี่ยนจ้าวเกอเคลื่อนไหวอยู่ด้านในทะเลตาข่ายดาว พยายามปกปิดร่องรอยของตัวเอง ในขณะเดียวกันก็สังเกตสถานการณ์รอบๆ อย่างต่อเนื่อง
เขาพบจอมยุทธ์คนอื่นด้านในทะเลตาข่ายดาวเป็นครั้งคราว มีทั้งจอมยุทธ์พเนจรที่เข้ามาหาโชควาสนา และลูกศิษย์จากสำนักใหญ่ๆ ของทั้งฝ่ายธรรมะและฝ่ายมาร
เพื่อของวิเศษจำนวนมาก มักจะเกิดการต่อสู้ระหว่างกันขึ้น โดยเฉพาะจอมยุทธ์ที่อยู่ในฝ่ายธรรมะและฝ่ายมาร สถานที่ที่ปั่นป่วนเช่นนี้คือแนวหน้าในการปะทะกันโดยแท้
สิ่งที่ทำให้เยี่ยนจ้าวเกอสนใจก็คือ จอมยุทธ์สำนักมังกรโลหิตที่เจอระหว่างทางมีจำนวนมากกว่าสำนักอื่น
พวกเขาแยกกันเป็นกลุ่ม กระจายกำลังกัน ท่าทางเหมือนกำลังค้นหาอะไรสักอย่าง
เยี่ยนจ้าวเกอเห็นดังนั้นก็พยักหน้าเงียบๆ ‘ดูเหมือนจวินเอ๋อร์จะไม่ได้อยู่ในมือพวกเขาจริงๆ’
ด้วยเหตุนี้ จิตใจที่เคร่งเครียดของชายหนุ่มก็พลันผ่อนคลายลงครึ่งหนึ่ง
ขอแค่สือจวินไม่ได้ตกอยู่ในมือของอีกฝ่าย เขาก็ไม่จำเป็นต้องกลัวว่าจะลูบหน้าปะจมูก สามารถจัดการเรื่องต่างๆ ได้อย่างสบายใจมากขึ้น
เขาพลิกดูกระบี่สั้นทำจากหยกซึ่งสวีเฟยมอบให้ ‘เช่นนั้นตอนนี้จวินเอ๋อร์อยู่ที่ใด ที่ไม่ติดต่อกับคนในสำนักเป็นเพราะถูกขังอยู่ที่ไหนสักแห่งหรือ’
ตามคำพูดของสวีเฟย สือจวินมีกระบี่สั้นอยู่ในมือเล่มหนึ่งเช่นกัน
หลังจากที่กระบี่สั้นสองเล่มอยู่ห่างกันระยะหนึ่ง จะรับรู้ถึงกันและกันได้ ยิ่งอยู่ใกล้กันเท่าไร การรับรู้ก็จะรุนแรงเท่านั้น
เยี่ยนจ้าวเกอถือกระบี่สั้น มุ่งหน้าเข้าไปในทะเลตาข่ายดาว ไปยังสถานที่ที่พวกสือจวินหายตัวไปเป็นครั้งสุดท้าย โดยเลียบตามเส้นทางที่สำนักมังกรโลหิตบอก
ที่นั่นเป็นเกาะเล็กๆ เกาะหนึ่ง หลังจากเข้าใกล้ตัวเกาะแล้ว เยี่ยนจ้าวเกอก็รู้สึกได้อย่างชัดเจนว่า จอมยุทธ์สำนักมังกรโลหิตที่อยู่บริเวณใกล้เคียงมีจำนวนมากขึ้นกว่าเดิม
มีทั้งยอดฝีมืออาวุโสในสำนัก และมีลูกศิษย์อายุเยาว์ซึ่งมีพลังฝึกปรือค่อนข้างต่ำ กำลังตามหาร่องรอยที่หายไปของสือจวินและเฉินอิ๋งจากด้านในออกมาด้านนอกอย่างต่อเนื่อง
หลังจากเยี่ยนจ้าวเกอสำรวจอยู่สักพัก ก็ไม่พบอันใด
พื้นที่ของเกาะไม่ได้ใหญ่มากนัก ว่ากันว่าในวันที่เกิดเหตุ สือจวินกับคนในสำนักมังกรโลหิตหยุดพักบนเกาะแห่งนี้ อีกทั้งทั้งสองฝ่ายยังมีการพูดคุยกันด้วย
เนื่องจากเขาหงส์วิเศษและสำนักมังกรโลหิตไม่ถูกกันนัก ทั้งสองฝ่ายจึงเกือบจะลงมือ สุดท้ายเฉิงอิ๋งออกหน้า หยุดลูกศิษย์ในสำนักไว้ ทั้งสองฝ่ายเลิกรากันด้วยความไม่พอใจ
ขณะเดียวกัน บนเกาะยังมีคนของสำนักอื่นคอยดูเหตุการณ์อยู่ด้านข้าง ต่างก็ชมเชยเฉิงอิ๋งที่ใจกว้างอ่อนโยน
ไม่มีใครคาดคิด ว่าในคืนวันนั้นจะเกิดเรื่องขึ้น สือจวินลักพาตัวเฉินอิ๋ง สังหารลูกศิษย์สำนักมังกรโลหิตสามคน เผชิญหน้ากับการกลุ้มรุมจากลูกศิษย์สำนักมังกรโลหิตจำนวนมาก แล้วพาเฉิงอิ๋งกระโดดลงน้ำวนเพื่อหนีเอาชีวิตรอด
เรื่องราวเผยแพร่ออกไป คนในสำนักธรรมะอื่นๆ ล้วนไม่พอใจสือจวิน
ต่อให้ทั้งสองฝ่ายไม่ปรองดองกันนัก ยั่วยุท้าตีท้าต่อยกันยังพอว่า แต่การลักพาตัวสตรียังทำให้คนส่วนใหญ่ไม่ชอบใจนัก
คนในฝ่ายมารสมน้ำหน้าอยู่ด้านข้าง บ้างก็กระพือไฟให้รุนแรงขึ้น ชมเชยสือจวินเหมือนเป็นคนประเภทเดียวกัน
เยี่ยนจ้าวเกอไม่เจอร่องรอยบนเกาะ จึงดำเข้าไปในน้ำวน ปล่อยให้กระแสน้ำพัดพาตนให้ลอยอยู่ในก้นทะเลด้วยความเร็วโดยไม่ต้านทาน
สุดท้ายด้านหน้ามีแสงส่องสว่างขึ้น เขาหยุดเคลื่อนไหวอยู่กลางน้ำ เพราะรู้ว่าตรงหน้าเป็นการเคลื่อนไหวของน้ำพุแสงดาวตก
ชายหนุ่มหยิบกระบี่สั้นทำจากหยกออกมา งอนิ้วดีดใส่คมกระบี่เบาๆ แล้วจมลงสู่ห้วงคิด
ครู่ต่อมา ญาณจริงแท้ของเขาก็หมุนบนคมกระบี่ จากนั้นก็วาดบนนิ้วของตนเบาๆ พลันมีหยดเลือดหยดหนึ่งติดบนนั้น
กล้ามเนื้อบนนิ้วของเยี่ยนจ้าวเกอสั่นไหวครั้งหนึ่ง เขาห้ามเลือดในพริบตา แม้แต่รอยแผลยังหายไปด้วย
หยดเลือดที่กลิ้งอยู่บนคมกระบี่กลายเป็นเส้นเลือด กระจายไปทั่วคมกระบี่
อึดใจต่อมา แสงสว่างที่แดงฉานก็ครอบคลุมกระบี่สั้นไว้ทั้งหมด เยี่ยนจ้าวเกอยกมือขึ้น พาให้กระบี่สั้นหล่นเข้าไปในแสงดาวอันเจิดจ้าเบื้องหน้า จากนั้นตนจึงตามเข้าไป
ด้านในแสงสว่างเห็นแสงสีเลือดสายหนึ่งกะพริบขึ้น ไม่ทราบว่าเคลื่อนไหวตามแสงดาวไปไกลเท่าไร มันพลันสั่นสะเทือนครั้งหนึ่ง จากนั้นก็พุ่งออกมาจากตาน้ำตาหนึ่ง
เยี่ยนจ้าวเกอไล่ตามแสงสีเลือด แล้วออกมาจากตาน้ำพุแห่งนั้น เขาเก็บกระบี่สั้นทำจากหยก พลางกวาดตามองน่านน้ำบริเวณรอบๆ ‘สมควรอยู่ใกล้ๆ นี้’